ความคิดเห็นที่ 1 8. ชำระเงินตามกำหนด  มีหลายคนเป็นโรคไม่ชอบจ่ายเงินตาม กำหนด เวลามีค่าน้ำค่าไฟมา ต้องรอจนถึงวินาทีสุดท้ายที่เขาจะตัด นั่นแหละ ถึงจะยอมไปจ่าย เนื่องด้วยเสียดายเงินก้อนจะมลายหายไป การกระทำเช่นนี้รู้หรือไม่ว่าเป็นการสร้างความฟุ้มเฟือยโดยไม่รู้ตัว เพราะการที่มีเงินนอนอยู่ในกระเป๋าทำให้เรารู้สึกว่ายังสามารถใช้เงิน ได้อีกโดยที่ไม่เดือดร้อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เงินอาจจะเหลือ ไม่เท่าไหร่เมื่อนำไปจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ        9. ลดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน  เพราะยิ่งเราใช้มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น หากเราประหยัดตรงนี้ได้ ก็ควรประหยัด       10. ประหยัดน้ำกันดีกว่า  บางคนละเลยค่าน้ำเพราะคิดว่า ค่าน้ำไม่แพงเท่ากับค่าไฟ       11. ค่าโทรศัพท์ลดก็ดีนะ  ปัจจุบันนี้โทรศัพท์บ้านและมือถือ กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว การเลือกโปรโมชั่น มือถือควรเลือกที่เหมาะกับการใช้จ่ายของเรามากที่สุด ลองเปรียบเทียบหลาย ๆ โปรโมชั่นของหลาย ๆ ค่าย ประกอบกันก่อนตัดสินใจ       12. หยุดคิดก่อนซื้อ  เราต้องตอบคำถาม 3 ข้อให้ได้คือ       1. ซื้อไปทำอะไร       2. มีประโยชน์แค่ไหน       3. ราคาเหมาะกับคุณภาพและประโยชน์ใช้สอยหรือไม่       สิ่งที่เป็นอันตราย คือ เราซื้อของโดยที่ไม่คิดอะไรเพราะเห็นว่า มันสวยถูกตาสะดุดใจ แล้วคิดว่า “เผื่อในอนาคนจะได้ใช้” ดังนั้น หยุดคิดซักนิดก่อนซื้อ       13. เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ  วิธีนี้ค่อนข้างจะยุ่งยาก ในระยะแรก ๆ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าของแบบนี้ที่ไหนถูก ซึ่งหากว่าเราเสียเวลาหาแหล่งที่ขายของถูกได้แล้วก็ควรจะยึด แหล่งนั้นไว้ บางทีเราอาจจะมองข้ามว่าของราคาต่างกันไม่กี่บาท จะทำให้เราเสียเวลาแต่ลองคิดว่าถ้าเราจำเป็นต้องใช้บ่อย ๆ เงินไม่กี่บาทพอรวมกันนาน ๆ เข้าก็กลายเป็นร้อยเป็นพันได้เหมือนกัน        14. เก็บออมเงินเท่าไหร่ดี  คำถามที่พบบ่อย ๆ คือเราจะ ออมเงินเท่าไหร่ของรายได้ดี ในความเป็นจริงเราไม่สามารถ จะบอกได้หรอก เพราะแต่ละคนก็มีความจำเป็นในการใช้เงิน ไม่เท่ากัน แต่ในอัตราส่วนที่เหมาะสมสำหรับการออมคือ 30% ของรายได้ เช่นเรามีเงินเดือน 10,000 บาท ก็ให้ออมไว้ 3,000 บาท แต่หากเรามีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินมากกว่า 70% ของรายได้ เราก็ไม่ควรไปเขม็ดแขม่ ใช้ตามความจำเป็นจะดีกว่า แต่อย่างไรเราก็ควรจะมีเงินออมไว้ด้วย       15. เงินออมก็โดนแบ่งนะ  เทคนิคการออมเงินที่ดี ไม่ใช่เก็บ เงินออมเอาไว้เป็นก้อนเดียว แต่ควรจะเก็บเงินออมไว้เป็น 3 ส่วน ได้แก่        1. เงินออมเพื่อเก็บไว้ตอนเกษียณ ควรจะเก็บไว้จนลืม ห้ามนำมาใช้เด็ดขาด เพื่อไว้ยามที่เราแก่เฒ่าจนทำงานการไม่ได้นั่นเอง       2. เงินออมฉุกเฉิน  เอาไว้ใช้ในกรณีเร่งด่วนจำเป็น เช่น การรักษาพยาบาล หรือเกิดอุบัติเหตุ หรือเวลาเร่งด่วนซึ่งสามารถ นำเงินส่วนนี้มาหมุนได้ในกรณีจำเป็น       3. เงินออมสำหรับลงทุน  ที่เราเก็บเอาไว้เพื่อให้มันออกดอกออกผล เมื่อเราเก็บเงินส่วนนี้ได้ 3- 5 ปีค่อยนำมาคิดว่าควรใช้เงินจำนวนนี้ ลงทุนทำอะไรดี เพื่อให้เป็นประโยชน์ หรือมีกำไรงอกเงยขึ้นมา จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 17:27:01

ความคิดเห็นที่ 2 16. ฝากประจำ 1 เทคนิคการออม  เป็นการฝากโดยที่เรา ต้องนำเงินไปฝากทุกเดือน ห้ามไม่ให้มีการถอน ดังนั้นจึงเหมือนกับ การบังคับตัวเองให้เอาเงินไปฝากประจำทุกเดือน และยังได้ดอกเบี้ย มากกว่าการฝากแบบธรรมดาอีกด้วย           17. ตั้งเป้าหมายในการออม   จะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการ ออมมากขึ้น เช่นต้องการนำเงินไปซื้อของที่อยากได้ ตั้งแต่ของเล็ก ๆ อย่างมือถือ กล้องถ่ายรูป จนถึงของใหญ่ ๆ อย่างบ้าน รถยนต์           18.  ออมด้วยเลขสิบ  หรือการออม 10% นี้มีอยู่สองวิธี คือเพิ่มสิบกับลบสิบ            ลบสิบ เป็นวิธีที่เราดึงเงินออกจากรายได้ของเรา ไม่ว่าจะ ได้มาจากไหนต้องหักออก 10% เสมอ อย่างเราได้เงินเดือน 10,000 บาท เราก็ดึงออกมา 1,000 บาท เพื่อเป็นเงินออม หรือเราได้เงินจากรายได้พิเศษมา 3,000 บาท เราก็หักออกมา 300 บาท ซึ่งเราจะต้องทำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีเงินออม เหลือเก็บอย่างแท้จริง           เพิ่มสิบ วิธีนี้ตรงกันข้ามกับวิธีที่แล้วกล่าวคือเพิ่มสิบเป็นวิธี ออมเงินจากการใช้จ่ายของเรา เช่น เวลาเราไปซื้อของอะไรก็ตาม ให้บวกเงินไปอีก 10% เพื่อนำ 10% นั้นมาเป็นเงินออม อย่างเช่น เราซื้อเสื้อ 200 บาท ก็ให้เพิ่มเอาไว้เป็นเงินออมอีก 20 บาท จ่ายค่าโทรศัพท์ 1,000 บาท ก็ให้เพิ่มเงิน 100 บาทเป็นเงินออม วิธีเพิ่มสินบอกจากจะช่วยเพิ่มการออมเงินแล้ว ยังช่วยทำให้รู้จัก ยับยั้งชั่งใจก่อนที่จะใช้เงินด้วย          19. สุขภาพร่างกาย เราต้องดูแลสุขภาพของเราให้ดีพร้อม อยู่เสมอ การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สุขภาพเราแข็งแรง ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่เป็นประจำ บางคนอาจจะ คิดว่าการที่จะรวยนั้นสุขภาพไม่สำคัญ ความจริงไม่ใช่เลย เพราะการที่เรามีสุขภาพดีก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินไปกับค่ารักษา พยาบาลต่าง ๆ ซึ่งบางทีอาจทำให้หมดตัวได้เลยทีเดียว   การทำประกันสุขภาพก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ        20. ความร่ำรวยเป็นของดี  ทำไมถึงต้องคิดเช่นนั้น ความร่ำรวย ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเงินทองเท่านั้น แต่หมายถึงความร่ำรวย ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เกียรติยศ หรือว่าความสุข ซึ่งความร่ำรวยนั้นเราต้องมองว่ามันเป็นของดีที่ควรจะใฝ่หา มาครอบครอง เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วเราก็จะมีทัศนคติที่ดี ต่อความร่ำรวย เมื่อมีทัศนคติที่ดีเราก็จะไขว่คว้ามาให้ได้ จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 17:31:12

ความคิดเห็นที่ 3 21. คิดว่าตัวเองต้องทำได้ มีหลายคนที่คิดดูถูกตัวเอง ไม่คิดว่าตัวเองจะรวยได้ เพราะเราไม่มีความสามารถพอทำอย่างไร ก็จนเท่าเดิม ดังนั้นเราจึงควรปรับทัศนคติเสียใหม่ อย่าคิดดูถูกตัวเอง เพราะนั่นเหมือนเป็นการหั่นหนทางความสำเร็จของเรา   ความสำเร็จเกิดขึ้นได้จากพลังในตัวเราซึ่งจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อเรา เชื่อมั่นว่าเราทำได้ อย่างที่เขาบอกไว้ว่า “ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ”          22. อย่าดูถูกเงินน้อยนิด  เป็นคำสอนของคนจีนมานาน และเป็นคำสอนที่ใช้ได้อยู่ในปัจจุบัน เพราะหากเราดูถูกเงินแล้ว เงินก็จะบินหนีไปจากเราทีละน้อย ๆ จนกระทั่งเราไม่เหลือเงิน คนที่เขาร่ำรวยจะเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นอย่างดี ไม่ให้หล่นหายเด็ดขาด อย่าไปอายว่าเรางกแต่จงภูมิใจ ว่าเราเป็นคนเห็นค่าของเงิน รู้ว่าเงินมีคุณค่าเพียงใด          23. ประทับเอาไว้ในจิตสำนึกว่าเรารวยได้  วิธีนี้ก็เหมือนกับการ สะกดจิตตัวเอง มีคนบอกไว้ว่าให้เราท่องเอาไว้ก่อนนอนว่า “เรารวย เรามั่งคั่ง เราสามารถทำได้”  บางคนคิดว่าวิธีนี้ไร้สาระแต่หากว่า เราลองทำดูจะรู้เลยว่าคำพูดเหล่านี้ฝังอยู่ในจิตสำนึกของเรา และมันจะกระตุ้นเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงผลักดันที่ดีทำให้เรา ประสบความสำเร็จได้         24. ออมอย่างเดียวไม่ทำให้รวยได้  จริงอยู่ว่าคนที่เก็บเงินเก่ง มักจะเป็นคนที่ร่ำรวย แต่คนที่เก็บเงินเก่งอย่างเดียวไม่ได้หาเงินเพิ่ม สักเท่าไหร่ ก็อาจจะรวยได้แต่ช้า ฉะนั้น กุญแจของความสำเร็จ อย่างหนึ่งก็คือ การหารายได้เพิ่มขึ้น เพื่อที่เราจะได้มีความมั่งคั่ง ได้อย่างรวดเร็ว        25. ความรวยเกิดขึ้นได้วันนี้  ไม่ว่าวันนี้เราจะมีหนี้สินมากมาย เพียงใด หากแต่เราต้องเชื่ออย่างหนึ่งว่าเราสามารถรวยได้ ไม่ใช่ในอนาคตอันไกลแต่เป็นอนาคนอันใกล้นี้ต่างหาก ฉะนั้นเราต้องเชื่อมั่นว่าแม้เราจะมีหนี้แค่ไหนเราก็สามารถ ทำให้มันหายไปได้ และมีแต่ทรัพย์สินเงินทองมาแทนที่   การคิดในเชิงลบว่าเรามีหนี้สินเยอะแยะมากมาย แค่ใช้หนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะหมดเมื่อไร จงจำเอาไว้ว่า ความเชื่อนี้แหละ ที่ทำให้เรายังเป็นหนี้ และไม่ร่ำรวยสักที เปลี่ยนความคิดใหม่ แล้วเราจะรวยได้ในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 17:34:31

ความคิดเห็นที่ 4 อ๋อ เข้าใจแล้ว หัวข้อกระทู้บอกว่า เทคนิค(ที่จะ)รวยเร็ว แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 52 17:44:08 จากคุณ : นู๋นัน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 17:43:58

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ใช่ค่ะ พิมพ์ไม่ผิดนะ แต่ทำไมหัวข้อเป็นอย่างนั้นก็ไม่รู้ ^^' จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 17:54:46

ความคิดเห็นที่ 6 VOTE จะได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ (เก็บไว้อ่านนานๆ สำหรับคนที่พลาดตกกระทู้) จากคุณ : superman2007 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 18:10:35

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ ขอบคุณค่ะคุณ superman2007 จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 18:27:54

ความคิดเห็นที่ 8 มันเป็นคำหยาบ ค่ะ  ค ควาย ร เรือ ว แหวน ย ยัก ไงละ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 52 18:55:40 จากคุณ : นู๋นัน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 18:55:30

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ  เดือนหน้านี้ป้าจะเริ่มจดบัญชีค่าใช้จ่ายแล้ว ได้ความรู้ไปเต็ม ๆ เลย จากคุณ : biebie999 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 19:37:22

ความคิดเห็นที่ 10 ดีครับ จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 23:38:55

ความคิดเห็นที่ 11 อ่อ  ขอบคุณ ๆ นู๋นันมากนะคะ เข้าใจละ >_< จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 08:53:09

ความคิดเห็นที่ 12 โหวตด้วยครับ ผมว่าดีกว่ากระทู้ที่มาถามอายุ และ เงินเดือนกันนะครับ จากคุณ : ต้นคับ9999 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 00:09:42

ความคิดเห็นที่ 13 เรามีแบบฟอร์มการออมเงินเป็นตารางexcel  มีเขียนรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดเลยคะ รู้ึสึกว่าจะเป็นของกระทรวงการคลังนะถ้าจำไม่ผิด ได้มาจากฝ่ายบุคคลของบริษัทจ้า ทุกวันนี้ก็จดทุกวันเลย ได้รู้เยอะเลยว่าใช้จ่ายไรไปบ้าง เก็บบิลทุกบิลที่ใช้จ่ายในแต่ละวัน แล้วมาจดลงใน excel ทุกวัน กลายเป็นนิสัยไปแล้ววันไหนไม่ได้ทำ นอนไม่หลับเลยแหะ เพื่อนๆคนไหนอยากได้ ส่งอีเมล์ขอมาหลังไมล์ได้เลยนะคะ เดี่ยวเราเอาแบบฟอร์มส่งไปให้ เราว่ามันมีประโยชน์มากๆเลย^^ จากคุณ : ThaiCute เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 11:01:14