ความคิดเห็นที่ 1 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) ต้องบอกว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ (แต่จะ double dip แบบที่นักเศรษฐกิจชื่อดัง Nouriel Roubini ทำนายไว้ก็คงพิสูจน์ในวันนี้ไม่ได้) เมื่อปรับฤดูกาลแล้ว หดตัวร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน  หรือ 10% YoY เห็นเป็นกราฟหักหัวลงอย่างชัดเจน  ในเดือนนี้จะมีตัวชี้วัดหลายตัวที่กลับหัวแบบนี้ หมวดที่ทำให้ MPI ติดลบมากขึ้นคือ อิเล็กทรอนิกส์ หลังจากเป็นพระเอกมาหลายเดือน ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม จริงๆแล้วปิโตรก็โตน้อยลงด้วย แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 08:36:20 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:04:28

ความคิดเห็นที่ 2 (ตัวเลขในการประกาศของ BOT ไม่มีการ forecast นะครับ p=เบื้องต้น) แน่นอนว่า Capacity Utilization  ก็จะไปด้วยกัน   การใช้กำลังการผลิตที่ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 60 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:06:32

ความคิดเห็นที่ 3 ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (PCI) หดตัวร้อยละ 4.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน และหดตัวร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ตามการลดลงของการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่เร่งตัวมากในเดือนกรกฎาคม พูดง่ายๆคือ BOT บอกว่าเดือนก่อนบริโภคไปเยอะ เลยมากินส่วนของเดือนนี้ไปเล็กน้อย ตัวนี้สำคัญมาก เดือนหน้าไม่ขึ้นล่ะเสียวจริงๆ เพราะการบริโภคเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของ GDP แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 08:38:33 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:08:48

ความคิดเห็นที่ 4 ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ที่ผมเฝ้ารอคอย ตอนนี้ขยายตัวเป็นบวก 1.6% MoM แล้วนะครับ ต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 1.9% MoM แต่ยังหดอยู่ 13.3% YoY  แต่ศาลปกครองประกาศคุ้มครอง (ชาวบ้าน) ชั่วคราวไปแล้ววานนี้ และรัฐบาลกำลังเร่งอุทรณ์ เป็นที่น่าสังเกตว่าการลงทุน (I) จะ lag การบริโภค (C) เงินที่จะลงไปในไทยเข้มแข็ง  2553-255 (ซึ่งเป็น G) จะเน้นสร้าง I เป็นหลักครับ ดูจากกราฟกลุ่มนิคมก็ยังดูมีแนวโน้มที่ดีอยู่ต่อไป แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 08:42:19 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:13:54

ความคิดเห็นที่ 5 การคลังข้ามไปนะครับ ผมเป็นนักเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ไม่ชอบวิชาการคลัง ภาคต่างประเทศดูตาราง Balance of Payment ตารางเดียวพอครับ ในเดือนสิงหาคมเราก็เกินดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดตามเคย ถึงแม้ดุลบริการจะยังขาดดุลอยู่จากนักท่องเที่ยวที่หายไป แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 09:37:44 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:19:49

ความคิดเห็นที่ 6 Net Capital Flow - น่ายินดีที่เรามีการลงทุนโดยตรงจากประเทศ (FDI) กลับมาบ้างแล้ว น่ายินดีอีกเช่นเดียวกันที่เราขนเงินไปลงทุนต่างประเทศมากเช่นกัน ^^ สงสัย FIF จะเฟื่อง แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 09:33:30 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:21:48

ความคิดเห็นที่ 7 ลืมตารางจำนวนนักท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวเป็นอะไรที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 2.6% จากเดือนก่อน แต่ยังติดลบ 5.3% จากปีก่อน เป็นการติดลบที่ลดลง  สนามบิน สายการบิน โรงแรม น่าจะได้รับผลจากตรงนี้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 09:11:49 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:22:23

ความคิดเห็นที่ 8 External Stability เสถียรภาพนอกประเทศ เราดูทีอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสำคัญนะครับ ในเชิงของ Baht/US$ เงินเราแข็งขึ้นพอสมควร เนื่องจาก US$ อ่อนค่าลงไปเองนะครับ แต่ในเชิงดัชนีค่าเงินบาท NEER เงินเราอ่อนลงเล็กน้อยด้วยซ้ำ ดัชนีค่าเงินบาทจะคิดเทียบกับคู่ค้าสำคัญซึ่งไม่ได้มีแค่สหรัฐเท่านั้น คล้ายๆกับ US Dollar Index ที่เราชอบดูกัน หนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับทรงตัว เรามี reserve ที่จ่ายหนี้ระยะสั้นได้ 5.5 เดือน ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดก็เกินดุลติดต่อกันมา 9 เดือนแล้ว เกิดจากการเกินดุลการค้าเป็นหลัก แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 09:20:20 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:24:06

ความคิดเห็นที่ 9 Internal Stability - เสถียรถาพในประเทศดูที่เงินเฟ้อและอัตราการว่างงานเป็นหลัก ขอให้สังเกต Headline CPI ที่ลดลงเพียง 1.0% หมายถึงสภาวะเงินฝืดใกล้จะยุติลงแล้ว ดูจากความชันของกราฟแล้วเงินเฟ้อจะกลับมาในไม่ช้า ตัวเลข CPI น่าจะเป็นตัวเลขที่ประกาศเร็วที่สุดแล้ว ของเดือนกันยายนคงจะออกมาไม่เกินสัปดาห์หน้า อัตราการว่างงาน ดูกราฟสีฟ้านะครับจากเดิมที่เรามีคนว่างงานมากกว่าปีอื่นๆ ในเดือนกรกฏาคมเรามีคนว่างงานสี่แสนคน คิดเป็นอัตราการว่าง 1.2% (เป็นอัตราการว่างงานธรรมชาติของไทย) แสดงว่าสภาวะการว่างงานที่อาจเป็นอันตรายได้จบสิ้นลงไปแล้ว ในเดือนมกราคมยังมีผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เราอาจจะมีคนว่างงานถึง 2 ล้านคน ไม่เกิดแล้วนะครับ ต่างกันอย่างมากกับในสหรัฐที่ปัญหาการว่างงานยังรุนแรงอยู่ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 52 09:26:34 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 09:28:07 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:25:07

ความคิดเห็นที่ 10 อัตราดอกเบี้ยนโยบาย RP-1 คงที่ 1.25% มา 5 เดือนแล้วครับ ไม่ลงแล้วมีแต่จะขึ้น ดูเงินเฟ้อที่ไล่หลังมาแล้วน่าจะอยู่ได้อีกไม่กี่เดือน ต้องจับตาดู Fed ด้วย แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 09:04:41 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:26:18

ความคิดเห็นที่ 11 อัตราดอกเบี้ยธนาคารก็ตาม RP-1 นะครับ  RP-1 หยุดลงก็หยุดบ้างถึงแม้เอกชนจะบ่นว่ามันยังแพงอยู่ เมื่อดูจาก bond + กู้ ที่รัฐบาลจะต้องทำจำนวน 800,000 ล้าน (ออกไปแล้วบางส่วน) ดอกเบี้ยธนาคารอาจจะขึ้นก่อน RP-1 เสียอีก ถึงแม้รัฐบาลจะพยายามบอกว่าสภาพคล่องเราเยอะอยู่ MLR ที่แท้จริงจะต่ำกว่า MLR nominal เนื่องจากผลของเงินเฟ้อที่ติดลบนะครับ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงก็ติดลบด้วย   แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 09:09:23 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:26:52

ความคิดเห็นที่ 12 นอนก่อนล่ะครับ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:29:15

ความคิดเห็นที่ 13 ยอดเยี่ยม ครับ.. !! คุณ Crazy Rabbit ------------------------------------------------- ขอบ่นหน่อย ... ดี เผื่อ คนที่ โดนบ่น เข้ามาดู.. แบงค์ ช่วยปล่อยกู้ หน่อยสิ  SME อัดเข้าไปสิ หรือยัง กล้าๆ กลัวๆ  เข้าใจ ครับ ! เคยเห็น ข่าวที่ เจ้าของโรงแรม ฆ่าตัวตายเพราะ ว่า ไป ขอ กู้ SME แล้ว มันนาน แก ก็ ฆ่าตัวตาย ปรากดว่า อีกวัน สองวัน หลังจาก แก เสีย ก็ จดหมาย อนุมัติจาก SME Bank !! เห็นแล้ว หดหู่ ... ทันที   fast track มันจะช่วยอะไรได้มั้ย ป่ะเนี่ย !!   รัฐบาล ไม่ บีบ แบงค์ หน่อยละ หรือว่าคิด.. จะอยู๋ ได้ อีกไม่นาน ตัวเลข MPI  เอกชน drive กันเอง ทั้งนั้น .. อะ กล้าๆ หน่อย ครับ มันจะ ได้ boost กันมากกว่านี้อีก นิด   low season แบบนี้  Q3 ทุกๆ ปี มัน low เหมาะสม ที่ จะเป็น ที่สะสมพลัง เพื่อไป boost กันช่วง high ถึง Q1/10 ช่วยๆกัน หน่อย ถึง แม้ ว่า มัน จะ กระเตื้องไปได้ไม่มาก.. หรือว่า เตรียม เลือกตั้งใหม่ กัน แล้ว ??? แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 01:06:27 จากคุณ : pheromotone เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:54:00

ความคิดเห็นที่ 14 ดีครับ  ตัวเลข แต่คนไทยเราไม่ค่อยเข้าใจ เขาอยากเอาผลที่ย่อยแล้วเกิดอะไร แล้วเป็นไงกับอะไรบ้าง  แล้วจะดูต่อไปตรงไหน (บทสรุปนำ แล้วเนื้อหารายละเอียดมี )  แล้วเกี่ยวข้องกับตลาดอื่นอย่างไร สอดคล้องกับกระแสร์โลกไหม     ที่สำคัญทำให้มองเห็นทิศทางตลาดไทยไปทางไหน ลองเชค เรทติ้งซิครับ ที่นี่ไม่มีตัวนับแบบที่อื่น    และเน้น ด้วยหลักเศรษฐศาสตร์ ที่ถนัด หรือ อย่างอื่น ที่สนใจ อย่างวันก่อน แค่ประโยคเดียว    ว่าการแก้ เงินที่อัดฉีดเข้าไปมาก ทำให้เงินเฟ้อ วิธีแก้ คือ ถอนเงินออกจากระบบ    แล้วผมเจอ พาริบา ของฝรั่งเศส เดือดร้อน จากการคืนเงินรัฐบาลไวไป บ่ายวันนั้น ยุโรปเลยเปิดแดงหมดเลย   แล้ววิธีอื่นมีไหมครับ ผมได้ตามดูว่าเมกา จะแก้ แบบไหน (เรื่องบอกเอาเงินคืนบอกแล้ว  )  อีกวิธีที่ทราบ การขึ้นดอกเบี้ย ไม่รู้ว่าถูกไหมครับ จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 06:37:50

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวเงินกู้มา ได้รับการอัดฉีดเข้าสู่ระบบ ตัวเลขต่างๆก็จะพุ่งกระฉูดขึ้นต่อไป การรับเหมาก่อสร้างที่เขาแบ่งเค๊กกันเรียบร้อยแล้ว(แหล่งข่าวบอกได้รับเค๊กกันถ้วนหน้ารายละไม่ต่ำกว่า 20ล้านบาท) เมื่อเงินมาถึง งานก็จะเริ่มเดิน ไหน วัสดุก่อสร้างทั้งหลาย อิฐ หิน ปูน ทราย กระเบื้อง ยางมะตอย เหล็ก จะไหลรื่นขายดิบขายดีในช่วงต่อไปนี้ ผู้ค้าวัสดุก่อสร้างก็เตรียมของรอไว้แล้ว -------------------------------- ข่าวจากประชาชาติธุรกิจ ค้าวัสดุก่อสร้างเชียงใหม่ปรับทัพ ตั้งแท่นชิงเค้กเงินไทยเข้มแข็ง1.8หมื่นล.ปลุกตลาด ตลาดค้าวัสดุก่อสร้างเชียงใหม่ระอุ ทุนใหญ่ชูจุดแข็งมีสินค้าครบวงจร-ราคาถูก ด้านกลุ่มผู้ค้าท้องถิ่นรายกลาง-เล็กเกาะฐานลูกค้าเดิมแน่น พร้อมปรับแผนการตลาดเชิงรุก เน้นโฆษณาสินค้าผ่านสื่อวิทยุ ป้ายโฆษณา ใบปลิว ปรับปรุงหน้าร้านเป็น มินิมาร์ต-โฮมเซ็นเตอร์ หวังเม็ดเงินไทย เข้มแข็ง 1.8 หมื่นล้านช่วยกู้วิกฤต เตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่กระตุ้นตลาด ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างเชียงใหม่อยู่ในภาวะซึมและซบมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อผนวกกับกลุ่มทุนยักษ์ค้าวัสดุก่อสร้างที่ถาโถมเข้าสู่เชียงใหม่ เช่น โกลบอลเฮาส์ และโฮมโปร ที่มีจุดแข็งความหลากหลายครบวงจรและชูราคาต่ำเป็นธงนำ ดีกรีการแข่งขันจึงพุ่งสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อผู้ค้ารายเล็กอย่างหนัก นายฉัตรชัย ตรีอารยะพงศ์ ที่ปรึกษาชมรมผู้ค้าวัสดุก่อสร้างเชียงใหม่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างเชียงใหม่อยู่ในภาวะประคองตัวมา 2-3 ปีแล้ว สาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเมือง รวมถึงการรุกเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่หลายราย โดยในช่วงครึ่งปีนี้ ยอดขายโดยรวมของสมาชิกชมรมผู้ค้าวัสดุก่อสร้างเชียงใหม่ที่มีอยู่ราว 123 ราย ตกลง 20-30% "ตอนนี้ตลาดค้าวัสดุก่อสร้างเชียงใหม่ถือว่าอยู่ในขั้นโอเวอร์ซัพพลาย มากเกินความต้องการของตลาด เนื่องจากที่ผ่านมามีการลงทุนมาก พอเจอวิกฤตหลายๆ ด้านก็อยู่ไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ค้ารายเล็กๆ ปิดตัวกันไปเยอะ ส่วนผู้ค้ารายใหญ่ในท้องถิ่นหลายรายก็หันมาเล่นสงครามราคา จุดนี้ถือเป็นปัญหาที่ทำให้กลไกตลาดบิดเบี้ยว ซึ่งทางชมรมกำลังจะหารือถึงประเด็นนี้" นายฉัตรชัยกล่าวว่า กำลังซื้อหลักของตลาดวัสดุก่อสร้างเชียงใหม่คือการลงทุนของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้บริโภคทั่วไป ล่าสุดงบประมาณจากรัฐบาลและโครงการไทยเข้มแข็งก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่จะมากระตุ้นตลาดการก่อสร้างในพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าวัสดุก่อสร้างที่เป็นงานโครงสร้างประเภทปูน เหล็ก ยอดขายรวมลดลงมากกว่า 40% เนื่องจากขณะนี้โครงการขนาดใหญ่ หรือเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่มีแผนจะมาลงทุนในเชียงใหม่ได้ถูกชะลอโครงการ และบางโครงการก็ยังไม่มีการลงทุนเกิดขึ้น ขณะเดียวกันโครงการลงทุนประเภทหอพัก หรืออพาร์ตเมนต์ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักก็มีการลงทุนไปจนล้นตลาดแล้วในระยะที่ผ่านมา ส่วนโครงการบ้านจัดสรรก็ยังมีความเคลื่อนไหวที่เป็นโครงการต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แม้ตลาดจะมีการแข่งขันสูงขึ้น แต่ด้วยขนาดการบริโภคของ จ.เชียงใหม่ ที่ค่อนข้างใหญ่และมีกำลังซื้อมาก ทำให้กลุ่มผู้ค้าท้องถิ่นทั้งรายกลางและรายเล็กต้องรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด หลายรายเริ่มปรับแผนการตลาดเน้นโฆษณาสินค้าผ่านสื่อวิทยุ ป้ายโฆษณา ใบปลิว เน้นบริการส่งสินค้าและปรับปรุงหน้าร้านให้เป็นมินิมาร์ตวัสดุก่อสร้าง และปรับเป็นโฮมเซ็นเตอร์ เป็นต้น ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา พบว่าผู้ค้าบางรายเริ่มเจอปัญหาหนี้เสียและเช็คเด้ง จึงต้องปรับแผนการตลาดใหม่ เน้นขายสินค้าเป็นเงินสดและให้เครดิตน้อยที่สุด "ภาครัฐควรเร่งเข้ามาช่วยเหลือให้ภาคธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ เช่น เร่งเดินหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ตามโครงการไทย เข้มแข็ง ซึ่งเชียงใหม่ได้รับงบฯถึง 1.8 หมื่นล้านบาท แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นการลงทุน" นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้ชมรมกำลังเตรียมแผนจัดอีเวนต์เพื่อช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดเชียงใหม่ให้คึกคัก เพราะหากภาคธุรกิจไม่ขยับก็ยิ่งทำให้สถานการณ์การค้าขายแย่ลงไปอีก --------------------------------- จากคุณ : kaisin เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 08:23:54

ความคิดเห็นที่ 16 คุณหมอครับ จริงแล้วๆผมไม่สน rating หรอกครับ ช่วงไหนมี idea หรือมีความอยากจะ share ก็ทำ ถ้าจะเอา show ล่ะก็ผมขุดอะไรขึ้นมาเล่นได้ทุกวันแหละครับ แบบอ่านแล้วอ้าปากหวออย่างพวก time-varying volatility (by GARCH Model) ก็มีแยะ   ผมก็กำลังจะเข้ามาอธิบายตารางที่แปะไว้ แต่ผมต้องทำงานประจำนะ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 08:53:23

ความคิดเห็นที่ 17 Stimulus Package 2 : แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง พ.ศ. 2553-2555 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8267242/I8267242.html Asset Bubble ที่กำลังก่อตัวในจีน (อ่าน คคห. 3-4 ดีๆนะครับ) http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8250693/I8250693.html เหตุผลเล็กๆน้อยๆ ที่ควร Long Gold Futures ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8276549/I8276549.html แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 09:46:07 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:45:25

ความคิดเห็นที่ 18 ดีครับผมกำลังมีปัญหา ราคาออปชั่นพอดีเลยครับ   ทางตลาดก็บอกว่าใช้ Black-schole Model  ถ้ามีการคำนวนแบบอื่นอีก ผมว่าน่าจะทดลอง ใช้สูตรอื่นคำนวน ไม่ให้ ต้นเดือนแรก ของงวด ราคาแพงแบบนี้ http://www.tsi-thailand.org/ProfessionalEdu_2/schedule_ofthemonth/SEP50/03.pdf   อยากทราบนะครับว่า ผลการคำนวนด้วย GARCH Model กับราคาออปชั่นจะได้เท่าไร รูปประกอบของ วันคลิก ราคาทฤษฏี แพงมากๆๆ  ทำให้ออปชั่นเดือนแรกของงวด ไม่น่าเล่นเลย จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:47:27

ความคิดเห็นที่ 19 ทางพุท เช่นกัน จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:49:12

ความคิดเห็นที่ 20 โหวตให้ สำหรับคลังความรู้ จากคุณ : ด้วยคนนะ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:49:16

ความคิดเห็นที่ 21 ผมขอรับไว้เป็นการบ้านแล้วกันครับ แล้วจะมาบอกเมื่อทำเสร็จ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน คุณหมอแจกการบ้านเด็กนักเรียนเศรษฐศาสตร์ยากไปหรือเปล่า ^^ สำหรับท่านที่ไม่เข้าใจเรื่อง Option นะครับ 1. Volatility (ความผันผวน) เป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดราคา Option ตาม Black-Schols OPM   2. สำหรับ Call Option เช่น Warrant เนื่องจากมันมี Downside Loss Limit ดังนั้น Volatility ที่สูงจะทำให้ Option ราคาสูงขึ้น 3. Volatility ใน Financial Time Series มีคุณสมบัติ non-linear เช่น pooling มาก-น้อยเป็นก้อนๆ ดังนั้นต้องใช้ non-linear model เช่น GARCH ในการ forecast 4. การกำหนดช่วงเวลาของข้อมูลก็เป็นความยากอีกประการหนึ่ง มีส่วนทำให้ค่า Warrant ตาม B-S ของแต่ละ broke ไม่ตรงกันเลย ถ้า forecast ได้ ก็จะเช่น Option ได้ชนะมากขึ้น (เชื่อว่ามีคนทำไปเยอะแล้ว และจะได้ผลยังไงไม่ทราบ อาจจะเจ๊งเหมือนเดิม) ส่วน One-Click ผมไม่เข้าใจรายละเอียดว่าTheo คำนวนจากอะไร จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 10:37:03

ความคิดเห็นที่ 22 แต่บอกก่อนนะครับว่า จะทำตามที่เรียน ไม่ได้เทพแบบอาจารย์มหาลัย หรือคนที่มีอาชีพทางนี้ ถ้าผลออกมา และคุณหมอเชื่อ และเจ๊ง ผมไม่เกี่ยว จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 10:46:39

ความคิดเห็นที่ 23 เยี่ยมครับคุณ crazy rabbit... ผมก็มีความคิดเหมือน #13 ว่ารัฐบาลยัง drive เศรษฐกิจน้อยเกินไป มีอีกหลายๆ ส่วนที่น่าจะทำ ก็ไม่เห็นจะทำ... บางอย่างไม่จำเป็นก็ทำซะงั้น หรือว่ารออะไรอยู่ จากคุณ : sampunth เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:01:40

ความคิดเห็นที่ 24 วันคลิกเป็นโปรแกรมของ ตลาดหลักทรัพย์เองครับ แต่รายละเอียดค่อนข้างวิชาการมากเลย       ค่าตามทฤษฏีในนั้น ก็จาก Black-Schole Model นั่นแหละ แต่ถ้าการบ้านยากไปก็ไม่เป็นไรครับ  ผมไม่รู้เรื่อง Garch Model เห็นเอ่ยมา ไปค้นดูมีเรื่องคำนวนราคาออปชั่นด้วยเลยอยากรู้ จริงๆๆผมแค่มวยวัด ทางออปชั่นนะครับ ประสพการณืยังไม่ครบปีเลย จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:30:45

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่ถึงขนาดยากไป แต่ใช้เวลาครับ คุณหมอใจเย็นครับ เสาร์-อาทิตย์นี้ผมมีสอบ Final เทอมสุดท้าย (ที่นี่เราเรียนสามเทอม) หลังจากนั้นผมจะว่างมากขึ้น ก็จะเร่งปั่นบทความ และค้นคว้าที่ตัวเองอยากรู้ต่อไปครับ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 09:21:11

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยครับ ประเทศอื่นๆเค้าเตรียมจะดูดเงินออกแล้ว ไทยเราเงินยังไม่เข้าระบบเท่าไหร่เลย แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 52 09:23:53 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 09:23:35

ความคิดเห็นที่ 27 BOT ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกันยายนมาแล้วนะครับ ดังกราฟ (ขอบคุณบล. บัวหลวง) จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 10:03:20