Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ชีวิตหลังเกษียณ  

กระทู้นี้ตั้งเพื่อคนในห้องสินธรเลยนะครับ เห็นว่าอยู่ในวัยนี้กันหลายคน ฮ่าฮ่าฮ่า

By nives
เดือนนี้สำหรับหลายๆ คนที่มีอายุครบ 60 ปี คงจะเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากเขา  "เกษียณอายุ" นั่นคือ เขาไม่ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปทำงานประจำที่เขาทำมาหลายสิบปี  เขาไม่ต้องรับผิดชอบงานในหน้าที่ ที่ต้องทำให้สำเร็จในเวลาที่กำหนด เขาไม่ต้องเข้าประชุมถกเถียงกับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าอีกต่อไป ความเครียดในการทำงานดูเหมือนจะหายไป

ทว่าในอีกด้านหนึ่ง เขาคงเริ่มคิดถึงชีวิตสังคมในที่ทำงาน ต่อไปนี้เขาจะคุยกับใคร เขาจะได้ฟังหรือเล่าเรื่องซุบซิบนินทาให้ใครฟัง เขาจะมีงานสังสรรค์เหมือนเดิมที่ไหน และสำหรับหลายคนที่เคยเป็นผู้บริหาร เขาจะสั่งหรือใช้ใครพิมพ์งาน หรือติดต่อส่งข่าวต่างๆ ในเมื่อเลขาที่เขาเคยมีหายไป ใครจะขับรถไปรับตัวเองหรือลูกเมีย หรือวิ่งงานสารพัดในเมื่อคนขับรถก็จะหายไปด้วย

นั่นเป็นเรื่องที่ "น่าใจหาย" สำหรับหลายๆ คน แต่สำหรับคนจำนวนมากนั้น เรื่องที่จะต้องคิดและน่าห่วงมากยิ่งกว่า ก็คือ เขาจะจัดการกับเรื่องการเงินหลังจากนี้อย่างไรใน เมื่อเงินรายได้ประจำเดือนนั้นจะไม่มีอีกต่อไป

ผมเชื่อว่าคนที่อ่านบทความนี้และถึงวัยเกษียณแล้วคงต้องมีเงินเก็บสะสมไว้บ้าง หลายๆ คนมีเงินมากพอที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้น ผมคงพูดโดยอิงกับคนสองกลุ่มนี้เท่านั้น ส่วนคนที่แทบไม่มีเงินเก็บสะสมเลยหรือมีน้อยมากนั้น ผมคิดว่าทางเดียวที่ทำได้ ก็คือ หางานทำต่อไปไม่ว่า จะเป็นงานประจำหรืองานอิสระ ส่วนคนที่เกษียณแล้วจริงๆ ต่อไปนี้คือความคิดและคำแนะนำของผมซึ่งเป็นคนที่สมัครใจ "เกษียณ" ก่อนกำหนดตั้งแต่อายุ 50 ปีเศษๆ และใช้ชีวิต "อิสระ" มาได้ 5-6 ปีแล้ว

ก่อนอื่นผมคงต้องบอกว่า การเกษียณนั้นไม่ควรจะเป็นการเลิกทำงานทุกอย่าง สำหรับผม การเกษียณคือการเลิกจากการทำงานที่เราทำเพื่อเงินเป็นหลัก หลัง "เกษียณ" เราควรจะทำงานต่อไป แต่งานที่ทำนั้นควรเป็นงานที่เราชอบและมีประโยชน์ต่อตัวเรา และ/หรือสังคมโดยส่วนรวม  

งานนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เราทำอยู่แล้ว เป็นงานอดิเรกหรืองานเสริม แต่เมื่อเราเกษียณจากงานประจำเราจึงหันมาทำงานนั้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว  

งานนั้นอาจจะเป็นงานใหม่ ที่เราเพิ่งเริ่มทำและมันเป็นงานที่เราเคยคิดอยากทำแต่ไม่มีเวลาหรือไม่มีโอกาสที่จะทำในขณะที่เรายังทำงานประจำอยู่ อย่าไปห่วงว่าเราจะทำไม่ได้หรือยากลำบากเกินไปเพราะถ้าทำแล้วเราไม่ชอบหรือไม่ประสบความสำเร็จเราก็เลิกทำได้เสมอ

ประเด็นสำคัญที่สุด ก็คือ อายุ 60 ปีที่เราเกษียณนั้น ไม่ได้แก่เกินไปที่จะเริ่มทำสิ่งใหม่ เพราะสำหรับคนทั่วไปผมคิดว่าอายุที่จะเสียชีวิตนั้นน่าจะถึง 80 ปี ซึ่งทำให้มีเวลาอีกตั้ง 20 ปีที่จะทำสิ่งที่เราต้องการทำ   ดังนั้น  การเกษียณนั้นไม่ใช่เวลาสิ้นสุด แต่เป็นเวลาที่เพิ่งเริ่มต้นสำหรับสิ่งใหม่ที่ท้าทายของชีวิต

การทำงานในช่วงเวลาหลังเกษียณนั้น ถึงแม้จะไม่ใช่การทำงานเพื่อเงินเป็นหลัก แต่ผมคิดว่าการทำงานแล้วได้เงินด้วยก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเงินนั้น อย่างน้อยมันเป็นเครื่องวัดว่างานที่เราทำ "มีค่า" ในสายตาของคนในสังคม  

การทำงานแล้วได้เงิน จะทำให้งานไม่น่าเบื่อ หรือไม่มีจุดหมาย ว่าที่จริงหลายคน อาจจะทำงานได้เงินมากกว่าในช่วงที่ยังทำงานปกติก็เป็นไปได้ เพราะหลังจากการเกษียณแล้ว เขาก็เป็นอิสระในการเลือกทำเฉพาะงานที่มีค่ามากและไม่ทำงาน "ขยะ" เช่นงานประชุมบางอย่างที่เสียเวลามากและไม่ได้ประโยชน์   อย่างไรก็ตาม อย่าทำงาน "เพื่อเงิน" เพราะนั่นจะกลายเป็นว่า เรากลับเข้าไปอยู่ในวังวนของการทำงานที่ผูกมัดชีวิตของเราจนไม่มีความสุข  

พูดอีกนัยหนึ่ง ก็คือ งานหลังเกษียณ ไม่ควรเป็นงานที่หนักเท่ากับงานประจำเดิม แต่ควรเป็นงานที่มีค่าและมีประโยชน์ทำแล้วมีความสุข  ส่วนเงินนั้นเป็นผลพลอยได้ที่พึงปรารถนา  ยิ่งมากก็ยิ่งดี  แต่เราไม่ไล่หามัน

หลังเกษียณเป็นเวลาที่ร่างกายเรามักจะเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว  สิ่งที่เราควรทำอย่างยิ่งก็คือการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง  ดังนั้น การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็นและว่าที่จริงทำให้เรามีความสุขไม่น้อยกว่าสิ่งอื่นๆ ผมเอง หลังจาก "เกษียณ" ตัวเองก็เริ่มหัดเล่นกอล์ฟ  เพราะกอล์ฟนั้นช่วยให้เราได้เดินค่อนข้างมากในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ คุณไม่จำเป็นต้องเล่นกอล์ฟ เพื่อเป็นการออกกำลังกายแต่ไม่ควรเล่นกีฬาที่ต้องใช้พลังงานสูงหรือหักโหมเกินไป ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน การออกกำลังกายสม่ำเสมอที่เหมาะสมกับร่างกายเป็นสิ่งที่คนหลังวัยเกษียณควรทำเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากการออกกำลังหรือกีฬาแล้ว การทำงานอดิเรกหรือการทำงานเพื่อสังคมเช่นการเป็นอาสาสมัครในเรื่องต่างๆ ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจทำสำหรับคนหลังเกษียณ การสอนหนังสือหรือเผยแพร่ประสบการณ์ให้กับคนอื่น เป็นสิ่งที่จะทำให้เราไม่รู้สึกล้าหลัง หรือกลายเป็นคนแก่ที่ไร้ความหมาย ดังนั้น  ลองมองหาดูว่า อะไรที่เราพอทำได้แล้ว ไม่รู้สึกหนักแต่เพลิดเพลิน และได้สังคมกับคนต่างวัยกันด้วย

สุดท้ายซึ่งสำคัญมากก็คือเรื่องของเงินทอง การเกษียณนั้นแปลว่า เงินที่จะได้จากน้ำพักน้ำแรงจะค่อนข้างน้อยลงหรือหมดไป แต่เรายังต้องใช้เงินในการดำรงชีวิตอยู่ คนที่มีเงินมากเหลือเฟืออาจจะไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่คนที่มีเงินพอสมควรแต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า จะสามารถใช้ได้ตลอดชีวิตอย่างสะดวกสบายจะต้องรู้จักการบริหารเงิน  

การบริหารเงินของคนเกษียณนั้น ไม่ใช่ไม่ยอมเสี่ยงเลย และทำแค่ฝากเงินไว้กับธนาคาร เพราะดอกเบี้ยที่ต่ำมากเพียง 1-2% ต่อปีในขณะที่ยังมีเงินเฟ้ออยู่ จะทำให้ค่าของเงินลดลงในอนาคต ซึ่งทำให้ความมั่งคั่งลดลง และอาจทำให้เรามีปัญหาทางการเงินได้

สูตรการบริหารเงินสำหรับคนเกษียณ ผมคิดว่าคล้ายๆ กับคนทั่วไป เพียงแต่การลงทุนอาจจะลงในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า นั่นก็คือ ควรแบ่งกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ใหญ่ๆ สามอย่างคือ หุ้น  พันธบัตร และเงินสดในธนาคาร โดยสัดส่วนการลงทุนในหุ้น ให้เอา 80 ตั้งลบด้วยอายุตัวเองเช่น 60 ปี ก็จะได้ว่าเราควรลงทุนในหุ้น 20%

ส่วนการลงทุนในเงินฝากธนาคารทั้งฝากประจำและออมทรัพย์รวมกันไม่เกิน 20% ที่เหลือ 60% ให้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือตราสารหนี้ที่มั่นคง โดยการลงทุนในหุ้นและพันธบัตร ถ้าเรายังไม่รู้วิธี หรือเทคนิคที่ถูกต้องก็สามารถลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งบริหารโดยมืออาชีพได้ การลงทุนเป็นพอร์ตโฟลิโอของสินทรัพย์หลายกลุ่มแบบนี้ จะทำให้เราได้ผลตอบแทนสูงขึ้น โดยน่าจะได้ถึงปีละ 5% โดยเฉลี่ยและความเสี่ยงอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้สบาย

ทั้งหมดก็เป็น "ชีวิตหลังเกษียณ" แนวทางหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วหัวใจของมัน ก็คือ การเกษียณ ไม่ใช่  Last Stop หรือ "รถเมล์ป้ายสุดท้าย" ก่อนตาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่อิสระและมีความหมายเต็มเปี่ยม เป็นปีทองของชีวิต

http://newsroom.bangkokbiznews.com/comment.php?id=7536&user=nives

จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา
เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 11:05:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com