|
ความคิดเห็นที่ 8 |
เขานำสิ่งเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อวิเคราะห์ว่าจะนำเงินทุนไปซื้ออะไร ที่ไหน และเมื่อไร เพราะกิจการเก็งกำไรครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร เงินตรา ทองคำ วัตถุดิบของอุตสาหกรรม น้ำมัน สินค้าเกษตรหรืออนุพันธ์ต่างๆ จอร์จ โซรอส ใช้เวลาไปกับงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว ทำให้ภรรยาคนแรกฟ้องหย่า หลังจากนั้น มีเรื่องเล่าว่าเขาไปไม่ทันพิธีแต่งงานครั้งที่ 2 !
ใน ด้านส่วนตัว จอร์จ โซรอส ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดูโทรทัศน์ ไม่ติดผู้หญิง ไม่ไปในสถานเริงรมย์และร้านอาหารชื่อดัง ไม่มีเครื่องบินและเรือยอชท์ ไม่สะสมงานศิลป์ ไม่ชอบพิธีรีตอง ไม่ชอบการสรรเสริญเยินยอ ชอบอ่านหนังสือและเล่นเทนนิสเป็นชีวิตจิตใจ
แม้ จะเป็นที่เลื่องลือว่า จอร์จ โซรอส มีความสามารถพิเศษ เพราะกองทุนของเขาทำกำไรได้ในอัตราสูงกว่าของคนอื่น แต่ใช่ว่าเขาจะได้กำไรในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ เช่น ในการโจมตีค่าเงินเยน เมื่อปี 2533 เขาขาดทุนราว 600 ล้านดอลลาร์ ต่อมาในปี 2541 เขาขาดทุนถึง 2,000 ล้านดอลลาร์เมื่อค่าเงินรูเบิลของรัสเซียไม่เป็นไปดังที่เขาคาด
เขา เจ็บตัวไปในตอนต้นปี 2540 จากการโจมตีค่าเงินบาท เพราะ ธปท. ย้อนเกล็ดนักเก็งกำไรด้วยการห้ามธนาคารพาณิชย์ไทย ปล่อยเงินกู้ให้สถาบันการเงินต่างประเทศ การพ่ายแพ้ของนักเก็งกำไรทำให้ ธปท. และนายกรัฐมนตรีดีใจถึงกับฉลองกันยกใหญ่ แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่านั่นเป็น "การเฉลิมฉลองของคนโง่" ตามชื่อของหนังสือเรื่อง The Celebration of Fools ซึ่งนายกฯ ทักษิณ แนะนำให้คนไทยอ่านในกาลต่อมา
แม้จะพ่ายแพ้ แต่จอร์จ โซรอส ไม่คิดจะติดตามเอาเงินคืน เพราะนั่นเป็นจุดอ่อนของพวกนักเล่นการพนันทั่วไป เวลาชนะเขาก็ไม่เฉลิมฉลอง เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ การมองทุกอย่างเชิงวิเคราะห์โดยปราศจากอารมณ์ ทำให้เขามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้กระจ่างขึ้น
หลังจากมือโปร เช่น จอร์จ โซรอส ประสบความสำเร็จ นักเก็งกำไรจำนวนมากพยายามเดินตามทางของเขา และชักจูงบรรดาแมลงเม่าซึ่งมีความโลภเป็นทุนให้กระโดดตามเข้าไปด้วย ทั้งที่ต้องเสียค่านายหน้าสูงมาก เช่น จะต้องเสียค่าบริหารจัดการเท่ากับ 2% ของเงินที่ฝากไว้กับกองทุน บวกกับ 20% ของกำไร
ในช่วงนี้จึงมีกองทุนเพื่อเก็งกำไรถึงราว 8,000 กองทุน ซึ่งมากกว่าในสมัยจอร์จ โซรอส โด่งดังครั้งแรกกว่า 10 เท่า ส่วนแมลงเม่าก็มีทุกชนิดตั้งแต่ขนาดเล็กในรูปของคนเดินถนนทั่วไป ซึ่งมีเงินเพียงไม่กี่หมื่นดอลลาร์ จนถึงขนาดใหญ่ซึ่งมีเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญของพนักงานองค์กร การมีกองทุนจำนวนมากและเงินทุนจำนวนมหาศาล ทำให้ยากแก่การทำกำไรยิ่งกว่าในสมัยก่อน ฉะนั้นตอนนี้ผลตอบแทนจึงลดลง
จากคุณ : OnceInTheBlueMoon - [ 21 ส.ค. 48 03:32:09 >
http://www.pantown.com/board.php?id=7268&name=board9&topic=44&action=view
จากคุณ |
:
kasimasi
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ต.ค. 52 06:06:47
|
|
|
|
|