 |
ความคิดเห็นที่ 20 |
กิมเอ็ง เชียร์ TMB แนะนำ เต็มมูลค่า มูลค่าเหมาะสมปี 53 ที่ 1.17 บาท
บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง ระบว่า TMB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/52 ที่ 526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.9% จากไตรมาสก่อน (qoq) สาเหตุหลักมาจากในไตรมาสนี้มีรายการโอนกลับขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้สุทธิจากการตั้งสำรองฯ 139 ล้านบาท เทียบกับค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯที่สูง 3,734 ล้านบาท ในไตรมาสก่อน หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนพบว่า กำไรสุทธิลดลง 68.4% (yoy) สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิลดลง 24.7%yoy จากการชะลอตัวของสินเชื่อในอัตราที่สูง 15.4%yoy และ NIM ที่ปรับตัวลดลง 46bps จาก 2.78% มาอยู่ที่ 2.32% โดยเรามองว่าปี 52 ยังเป็นอีก 1 ปีที่ธนาคารอยู่ในกระบวนการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และวางแนวกลยุทธ์ทางธุรกิจ ส่งผลให้ผลประกอบการปี 52 อาจยังไม่มีเสถียรภาพ TMB รายงานยอดสินเชื่อคงค้าง ณ วันที่ 30 ก.ย. 52 ไว้ที่ 361,723 ล้านบาท ลดลงต่อเนื่อง 4,443 ล้านบาท หรือ 1.21% จากสิ้นไตรมาสก่อน ส่งผลให้สินเชื่อ 9 เดือนแรกลดลง 62,563 ล้านบาท หรือลดลง 14.75% จากสิ้นปีก่อน จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ ประกอบกับผลกระทบจากโครงการ Branch Transformation โดยเรามองว่า TMB ไม่ได้เน้นการขยายสินเชื่อสักเท่าไหร่ในปีนี้ เนื่องจากเป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างองค์กร และวางกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ สำหรับสัดส่วนของสินเชื่อเป็นสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ 50% สินเชื่อธุรกิจรายย่อยและขนาดกลาง 32% และสินเชื่อส่วนบุคคล 18% TMB รายงาน NIM ไตรมาส 3/52 ที่ 2.32% เพิ่มขึ้น 11bps จากไตรมาสก่อน จากการลดเงินฝากต้นทุนสูง แต่หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน NIM ลดลง 46bps จาก 2.78% เป็น 2.32% สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 2.28% ลดลง 48bps จาก 2.76% สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของสินเชื่อประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 52 ธนาคารมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 59,144 ล้านบาท ลดลง 740 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาสก่อน ส่งผลให้สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อทั้งหมด (NPL Ratio) ลดลงจาก 14.4% เป็น 14.1% ในไตรมาส 3/52 ธนาคารได้ดำเนินโครงการ Early Retirement ซึ่งมีพนักงานเข้าร่วมโครงการโดยสมัครใจทั้งสิ้น 1,187 คน จากพนักงานทั้งหมด 9,310 คน ณ สิ้นเดือน ก.ย. 52 ส่งผลให้ธนาคารตั้งสำรองค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก 442 ล้านบาท (ธนาคารได้มีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการดังกล่าวแล้วจำนวน 850 ล้านบาท ในไตรมาส 4/51) แม้ว่าเรามองว่า TMB มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 53 ทั้งในแง่ของการดำเนินงานที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และโอกาสที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ภายหลังการล้างขาดทุนสะสม แต่ผลประกอบการปี 52 ยังอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับราคาหุ้นได้มีการปรับตัวขึ้นมาพอสมควรแล้ว โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 1.12 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ซึ่งถือว่าสูงแล้วเมื่อเทียบกับ ROE ที่ยังต่ำในระดับ 3-9% ในช่วง 1-3 ปีนี้ ดังนี้เราจึงให้คำแนะนำเป็น เต็มมูลค่า ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมปี 53 เพิ่มขึ้นเป็น 1.17 บาท/หุ้น อ้างอิงกับ 1.0 เท่าของมูลค่าทางบัญชีปี 53
*ตารางสรุปกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2552 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
บริษัท Q3/52(ลบ.) Q3/51(ลบ.) เปลี่ยนแปลง (ลบ.) % KBANK 3,719.96 3,835.54 -115.58 -3.01 TISCO 512.67 397.92 114.75 28.83 TMB 526.17 1,666.02 -1139.85 -68.41 BBL 5,068.82 4,315.64 753.18 17.45 KK 742.95 674.17 68.78 10.20 TCAP 1,001.54 576.23 425.31 73.80
รวม 11,572.11 11,465.52 106.59 0.93
| จากคุณ |
:
member28
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 ต.ค. 52 10:07:26
|
|
|
|
 |