|
ความคิดเห็นที่ 5 |
แนะนำเพิ่มเติม: 1) ถ้าเน้นว่าต้องการซื้อประกันเพื่อคุ้มครองรายได้กรณีเสียชีวิต แบบ UL สามารถตอบสนองได้ดีเนื่องจากเป็นแบบที่ยืดหยุ่นมาก จึงสามารถกำหนดเบี้ยประกันต่อทุนได้ต่ำในบางช่วงอายุ อาจต่ำกว่า 1% โดยที่เมื่อเกษียณยังมีเงินเหลือคืนออกมาให้ได้ เช่นต้องการซื้อทุน 1,000,000 บาท สามารถใช้เบี้ย 10,000 บาทเท่านั้น (ถ้าเป็นแบบคุ้มครองตลอดชีพ จ่ายเบี้ย 20ปี จะอยู่ที่ประมาณ 2-4% ทุน 1,000,000 เบี้ยประมาณ 20,000 ขี้นไป แต่ถ้่่่าไม่ด้องการความคุ้มครองแล้ว จ่ายครบ 20ปี ปิดกรมธรรม์จะได้เงินคืนประมาณ 80% ของเบี้ยประกันที่ส่งไปทั้งหมด) 2) ถ้าเน้นการวางแผนภาษี ก็ตอบสนองความต้องการได้ดีเช่นกัน 3) แต่ถ้าเน้นการวางแผนเกษียณแล้ว ต้องลองหาเป้าหมายทางการเงินก่อน เนื่องจากว่า ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ของกรมธรรม์ประกันชีวิตจะน้อย ประมาณ 2-4% แต่การันดีว่าได้แน่นอน (ยกเว้น UL นะ) ดังนั้นเป้าหมายเงินได้ยามเกษียณที่ควรใช้เคร่ื่องมือการออมแบบนี้ ควรเป็นเป้าหมายที่ใช้สำหรับรายจ่ายจำเป็น เช่น ปัจจัย 4 ค่านำ้ ค่าไฟ ค่าดูแลบ้าน ส่วนเป้าหมายอื่น ๆ ที่ตอบสนอง Life style ให้ใช้เครื่องมือในการลงทุนตัวอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า (แต่เสี่ยงกว่า) ผลที่ได้ก็คือ ในยามเกษียณ ไม่ว่าพอร์ตการลงทุนจะเป็นอย่างไร ก็มีเงินกินข้าวแน่นอน (จากประสบการณ์ที่วางแผนมาคนส่วนใหญ่จะมี รายจ่ายจำเป็น:รายจ่ายไม่จำเป็น ประมาณ 40:60)
จากคุณ |
:
FP_Narodom
|
เขียนเมื่อ |
:
3 พ.ย. 52 17:07:52
|
|
|
|
|