ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ..ชายหนุ่มผู้หลงรักทองคำ
|
|
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ถ้าจะบอกว่าเขาเกิดมาบน "กองเงินกองทอง"คงไม่เกินจริง เพราะ "ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ" เกิด เติบโต และคลุกคลีมากับธุรกิจร้านทองของครอบครัว
"ระหว่างหุ้นกับทอง ผมชอบทองมากกว่า เพราะคลุกคลีกับทองมาตั้งแต่เด็ก " "ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ" ที่ปรึกษาด้านการตลาดอนุพันธ์ สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ 1 บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก บอก
หลังเรียนจบด้านตราสารอนุพันธ์ และมีโอกาสทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับด้านการจัดแอสเซ็ท แอลโลเคชั่น ทำให้ธนพิศาลเข้าใกล้ถนนสู่การลงทุนได้เร็วกว่าคนวัยเดียวกัน
"การลงทุนครั้งแรกในชีวิตของผมคือซื้อทอง เพราะผมรู้สึกคุ้นเคยกับทองมากกว่า ตอนเรียนก็มีเพื่อนลงทุนในตลาดหุ้น แต่ผมไม่ได้ลง ผมชอบทองคำมากกว่า มันมีทั้งมูลค่าและมีประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่ไม่มีวันตาย แต่การลงทุนในทองคำก็มีปัจจัยเยอะเหมือนกัน ทั้งราคาน้ำมัน ความเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์ และสถานการณ์โลก ต้องดูหมด
แต่การลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเรามีเรื่องการเมืองที่เข้ามาเกี่ยวด้วย หลายสิ่งควบคุมไม่ได้ ผมถึงไม่อยากลงทุน แต่ก็ไม่ใช่ไม่เคยลงทุนในหุ้นนะ หุ้นตัวแรกที่ผมซื้อคือเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ก็มีบ้างที่ผิดพลาดจากการลงทุนในตลาดหุ้น แต่ผมถือว่าการเริ่มต้นผิดก่อน ไม่เป็นไร เป็นบทเรียนให้เราเอาไว้แก้ไขได้"
เขาบอกว่าคีย์เวิร์ดของคนที่จะลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้ ต้อง"จัดพอร์ต"ดี ในที่นี้หมายถึง ต้องเหมาะกับความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ นอกจากจัดพอร์ตดี ยังมีเรื่อง"วินัย"ในการลงทุน ต้องคิดในใจว่ากำไรและขาดทุนที่เท่าไหร่มีทาร์เก็ตชัดเจน พอได้กำไรหรือขาดทุนตามเป้าหมาย กล้าขายหรือไม่
"ของผมมีกฎตั้งไว้เลย ว่ากำไรกี่เปอร์เซ็นต์ขาย ตอนหุ้นลงมาก็ตั้งคัทลอสไว้เลย แต่ถึงยังไงผมคิดว่าเรื่องการจัดพอร์ตสำคัญมาก เช่นคุณมีเงินก้อนหนึ่ง ต้องถามตัวเองแล้วว่าเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน และอยากได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ ถ้ากระจายความเสี่ยง นอกจากจะได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ก็ยังสามารถจัดการความเสี่ยงได้"
ธนพิศาลเล่าถึงพอร์ตของเขาว่า ทุกวันนี้ ลงทุนระยะยาว 70% ที่เหลืออีก 30% เป็นการลงทุนระยะสั้น ในส่วนของการลงทุนระยะยาว เป็นการลงทุนในทองคำแท่ง 25% ซึ่งตรงนี้ เขาบอกว่าได้เก็บสะสมทองคำมาเรื่อยๆ นานแล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเลือกหุ้นพื้นฐานดีแล้วลงระยะยาวไปเลย ที่เหลือก็เป็นเงินที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีอนาคต ทั้งในส่วนของบ้านและคอนโดมิเนียม ขณะเดียวกัน จะมีเงินส่วนหนึ่งประมาณ 30% กันไว้เป็นเงินเย็น ที่สำรองไว้เผื่อฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน ถ้ามีจังหวะหรือโอกาสดีๆ ในการลงทุน ก็จะนำเงินตรงนี้ไปลงทุน
"เงินเย็นที่ผมเก็บไว้ยามคับขัน ก็เผื่อไว้สำหรับจังหวะดีๆ ด้วยที่จะเอามาลงทุนได้ ผมว่าเราเงินสดต้องมี เพราะคนเรามีโอกาสช็อตเงินได้ตลอด หรือบางจังหวะมีอะไรที่น่าลงทุนมาก แต่ถ้าเราไม่มีเงินทุนในหน้าตักเลย ก็อาจจะหมดโอกาสดีๆ แต่ถ้ามีเงินตุนไว้ ก็ลงทุนได้ ทำกำไรได้ หรือบางที ถ้ามีธุรกิจดีๆ ก็เอาไปทำธุรกิจได้ มั่นใจตรงไหนเข้าไปลุยตรงนั้น "
ข้อสำคัญคือต้องจัดสัดส่วนให้เหมาะกับความเสี่ยงที่เรารับได้ และกระจายความเสี่ยง บางทีหุ้นขึ้นทองอาจจะตก หรือทองขึ้นหุ้นตก จะได้มีอย่างใดอย่างหนึ่งมาช่วยได้ บางคนลง 100% ลงในหุ้นหมดเลย หุ้นขึ้น เขาก็แฮปปี้ แต่ถ้าหุ้นตกลง เขาก็หมดเลย ถ้าจัดพอร์ตให้เป็น จะดีมาก ผมสังเกตว่านักลงทุนรุ่นเก่าไม่ค่อยจัดพอร์ตและกระจายความเสี่ยง แต่นักลงทุนรุ่นใหม่หันมาจัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะ ซึ่งผมว่าการจะลงทุน ถ้าเริ่มจากจัดพอร์ตที่ดีจะประคองตัวเองได้ในระดับหนึ่ง สำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่นอกจากจะจัดพอร์ตให้เหมาะ ควรศึกษาสิ่งที่จะลงทุนให้ดีให้ถ่องแท้
ธนพิศาลบอกว่า จากการลงทุนในแขนงของเขา พบว่าทองคำแท่งเป็นการลงทุนที่ถูกจริตที่สุด จริงอยู่ระยะหลัง โกลด์ ฟิวเจอร์สอาจจะมาแรง แต่เขารู้สึกว่าชอบทองแท่งมากกว่าทองกระดาษ
"โกลด์ ฟิวเจอร์สน่าสนใจ แต่เราได้เสียกับมันมากกว่า ชอบ 2 อย่าง ต่อไปออปชั่นน่าจะเกิดด้วย ตอนนี้ผมว่าโกลด์ฟิวเจอร์สยังไม่สนุก ถ้าเปิด 24 ชั่วโมงสนุกกว่านี้ จริงๆ ภาพรวมตอนนี้ตลาดทองก็สนุกแล้ว ก่อนหน้านี้ ผมคิดว่าแนวโน้มทองคำปีนี้น่าจะเห็น 1100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งตอนนี้ก็เกือบเห็น โดยรวมๆ ผมยังเชื่อว่าเป็นวัฏจักรขาขึ้นของทอง แต่บางจังหวะอาจจะมีย่อตัวบ้าง ตอนนี้มาดูปีต่อไปว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะเป็นยังไง แต่มีคนมองว่าราคาน้ำมันจะไปไกลกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถ้าน้ำมันไปทองไป"
ในฐานะที่เป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ ไม่อยากเห็นคนลงทุนในทองคำบาดเจ็บจากการลงทุน จึงอยากจะแนะนำว่าให้ลงทุนระยะยาวจะดีกว่า หรือบางคนที่คิดว่าเข้าไปซื้อทองตอนนี้แพงมาก เขาคิดว่าถ้าคิดว่าอนาคตทองจะขยับไปข้างหน้า ซื้อแล้วลงทุนระยะยาว ก็ถือว่าไม่แพง
"ถือยาวมีภาษีดีกว่า เพราะเมื่อลงทุนระยะยาวก็ไม่ต้องกลัวการเหวี่ยงตัว ทุกวันนี้ คนที่บาดเจ็บคือคนเก็งกำไรช่วงสั้น ผมแนะว่านักลงทุนที่จะเข้าลงทุนในตลาดทอง เริ่มต้นควรจะหาอาหารสมอง ต้องทำการบ้าน ศึกษา ฟังสัมมนา ทุกวันนี้ มีคนที่เล่นโกลด์ ฟิวเจอร์สแล้วบาดเจ็บเยอะ เพราะยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็อาจจะพลาดได้"
ธนพิศาลตบท้ายด้วยการเล่าถึงไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของเขาว่า แม้จะเติบโตมากับแวดวงค้าทอง แต่ก็ถูกเลี้ยงแบบคนจีน ให้รู้จักใช้เงิน ฉะนั้น ตั้งแต่เด็กมาเขาจะจดบันทึกตลอดว่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
"ผมเริ่มจดตั้งแต่ ม.4 แล้วเอาไปให้พ่อแม่ดู เขาอยากจะเทสต์เราว่าใช้เงินยังไงบ้าง ผมก็จดใส่กระดาษ ทำให้เรารู้ว่า ตรงไหนควรใช้ตรงไหนไม่ควร ทำแล้วดี รู้ว่าเงินหายไปไหน ใช้อะไรไปบ้าง บ้านผมเลี้ยงไม่ตามใจ จะให้เงินทุกครั้ง ต้องดูด้วยว่าจะเอาไปทำอะไร เขาสอนให้ผมเป็นคนประหยัด ที่จริงทุกวันนี้ ผมใช้ชีวิตแบบเดินตามรอยพ่อของผม พ่อสอนว่า เราต้องจัดการเงินให้อยู่ ลงทุนเป็นชิ้นเป็นอัน อีกคนที่ผมอยากตามรอยคือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นคนหนึ่งที่ผมชื่นชอบ เขาเป็นเพียวอินเวสเตอร์ ชอบที่เขาใช้ชีวิตสมถะและติดดิน เมื่อรวยแล้วรู้จักแบ่งปันให้สังคม เขาเป็นคนที่รวยแล้วไม่ได้คิดว่าตัวเองรวย "
ถึงจะเป็นชายหนุ่มผู้หลงรักทองคำ แต่เขาบอกว่า เป้าหมายในชีวิต ไม่ได้อยู่ที่เงินทอง แต่อยากมีครอบครัวที่มีความสุข นั่นสำคัญมากกว่าเงินทอง
จากคุณ |
:
ขอบฟ้าบูรพา
|
เขียนเมื่อ |
:
8 พ.ย. 52 23:04:30
|
|
|
|