สงครามชนะศึกที่สำคัญก็พอ
|
|
ช่วงหุ้นปรับฐานคงไม่ออกความเห็นบ่อย เดี๋ยวโดนด่าข้อหาแช่งหุ้นลง
มาดูสามก๊ก โจโฉเองยิ่งใหญ่ในภาคเหนือ (วุยก๊ก) ก็ไม่ใช่ผู้เก่งกล้าชนะทุกศึก เริ่มต้นก็รบแพ้ลิโป้ เคยแตกทัพเรือที่เซ็กเพ็ก ตัดเคราหนีม้าเฉียว จังหวะแพ้ก็หนีตายแบบสะบักสะบอม แต่ชนะศึกสำคัญไม่กี่ศึก เช่นศึกกัวต๋อ ยึดภาคเหนือได้ เล่าปี่เองก็แพ้ตลอด ตั้งตัวได้โดยแอบยึดเกงจิ๋ว และเสฉวน ถ้าดูขุนศึกที่ยิ่งใหญ่ในอดีต แทบไม่มีใครไม่แพ้ แต่ต้องรู้จักถอย การถอยหรือหนี เป็นสุดยอดใน 36 กลยุทธ์ การถอยหรือหนีไม่ใช่แพ้ ขอเพียงแต่มีทหารโอกาสก็ยังมี หุ้นเช่นกัน ขอเพียงแต่มีเงินทุน จึงจะคิดการใหญ่ได้ เก่งไม่มีทุนก็ทำอะไรไม่ได้ ซุนเซ็กนำตราแผ่นดินหยกแลกทหารแค่ 500 เพื่อคิดการใหญ่ การรักษาทหารหรือเงินทุนเป็นเรื่องสำคัญ
หุ้นเองมี วัฐจักรของมัน มีขึ้นย่อมมีปรับฐาน เป็นธรรมชาติ ของทุกสิ่งรุ่งเรือง เสื่อมดับ และเริ่มต้นใหม่มันคู่กับทุกสิ่ง ที่ผ่านมาการวงจรตลาดหุ้นถ้ารอบกลางๆ ขึ้นลง 15-20% จะมีประมาณ 2 ครั้ง แต่ถ้าปรับฐานครั้งใหญ่คือซึมยาวเป็นปี การขึ้นลง 50-100% ก็ประมีแค่ 1 รอบ ถ้าเราเล่นรอบระยะกลาง หุ้นขึ้นลง 15% ปีละ 2 รอบ ก็ 30% แต่กว่าสัญญาณเทคนิคจะจับได้ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง หุ้นก็ขึ้นหรือลงไปได้ซักระยะ มีคนคำนวณกันว่า ส่วนใหญ่จะได้กัน 2/3 ของที่ขึ้น ดังนั้นนักเล่นระยะกลางถ้าหุ้นขึ้นลงรอบละ15% 2 รอบก็30% ถ้าทำกำไรได้ 2/3 ก็จะทำได้ 20% ต่อปี เล่น 30 ปีเกษียณ ก็ได้ 237 เท่า ถ้าเงินทุน 1 ล้านเกษียณเลิกเล่นหุ้นก็ทำให้มีเงินใช้ยามแก่ได้พอสมควร อีกทั้งการเล่นระยะกลางเราไม่เสียเวลาไปกับหุ้นมากนัก การเล่น Day trade อาจเปรียบได้กับการทำศึกตลอดเวลา ผู้ชนะมีน้อยผู้แพ้มีมากกว่ามาก
| จากคุณ |
:
ไป่ฉี 
|
| เขียนเมื่อ |
:
23 พ.ย. 52 14:30:14
|
|
|
| 
... เข้ามาดู