ความคิดเห็นที่ 1 ดูไบ จากคุณ : BCrich เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 16:44:03

ความคิดเห็นที่ 2 บรูไน กู้เงินด้วยเหรอครับ ไม่ยักทราบ ดูไบมั้ง จากคุณ : ploytara เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 16:44:48

ความคิดเห็นที่ 3 ศก.กำลังรุ่งเรืองรอง มาตก มาแตกอะไรแถวนี้ ไป๊ไป จากคุณ : St.Paul เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 16:45:45

ความคิดเห็นที่ 4 เหมือน นาธาน ความแตก จากคุณ : มั้งนะ (Pigou) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 16:56:11

ความคิดเห็นที่ 5 คล้ายๆกับสบู่ตกก็ก้มเก็บน่ะจร๊า จากคุณ : TOTO & LOGO เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 16:59:46

ความคิดเห็นที่ 6 55555555555   บรูไน จากคุณ : suntao (sUnTaO) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 17:00:05

ความคิดเห็นที่ 7 อุปมาอุปมัยครับ.... เคยเป่าฟองสบู่มั้ยครับ..... ฟองสบู่ คือ ข้างในไม่มีอะไร แต่ข้างนอกกลับเติบโต รอการแตก ผู้คนพากันเก็งกำไร โดยมูลค่าเริ่มไม่ใช่เรื่องสำคัญ แล้วมันก็โตไปเรื่อยๆ... ครับ.... ผู้บริหารประเทศหรือระบบนั้นๆ ก็ต้องควบคุม ควบคุมจนกระทั้งเปราะบาง ถ้าคนเค้าดูเหตุการณ์เป็น ก็จะเฝ้ามองสิ่งที่จะมากระทบ (ฟองสบู่ยิ่งลูกใหญ่ ยิ่งแตกง่าย) พออะไรที่เป็นเหตุสำคัญมากระทบปุ๊บ มันก็แตก แต่การระเบิดของมันขึ้นอยู่ว่า อะไรขึ้นกับมันบ้าง เช่น ถ้าทองคำในตอนนี้ สูงๆๆๆๆ มากๆๆๆๆ คนก็จะหันมาเก็งกำไร ค่าเงินก็จะอ่อนนๆๆๆ (ขึ้นอยู่กับว่าเอาเงินอะไรมาซื้อ ในตอนนี้ Dollar) ค่าเงินอ่อนลง ส่งผลดีให้กับการส่งออกของประเทศเจ้าของค่าเงิน (แต่นำเข้าแย่) แต่ประเทศเค้าก็จะปรับต้วเพื่อส่งออก แล้ววันหนึ่ง อินเดีย(สมมุติ) ดันขายทองออกมา ทำให้ทองล้นระบบ ทองลงอย่างจริงจัง (ฟองสบู่ทองแตก) ผลกระทบ ค่าเงินแข็งขึ้น ส่งออกไม่ได้ ขาดทุน ขาดทุนไม่มีเงินจ่ายหนี้ธนาคาร ธนาคารล้ม ระบบสินเชื่อล้ม ไม่มีธนาคารที่พร้อมให้กู้ สินค้าชงัก เกิดเงินฝืด ฯลฯ นี่คือแรงระเบิดของฟองสบู่ ตอบยาวไปหน่อย ถามนิ๊ดเดียว โทษที ^ ^! จากคุณ : worthneverdie เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 17:03:28

ความคิดเห็นที่ 8 ผลกระทบ ค่าเงินแข็งขึ้น ส่งออกไม่ได้ ขาดทุน ขาดทุนไม่มีเงินจ่ายหนี้ธนาคาร ธนาคารล้ม ระบบสินเชื่อล้ม ไม่มีธนาคารที่พร้อมให้กู้ สินค้าชงัก เกิดเงินฝืด ฯลฯ ตรงนี้ไม่ค่อยเข้าใจ อธิบายอีกนิดได้มั้ยคะ สมมติว่า ไทยฟองสบู่แตกเมื่อปี 40 (ใช่หรือเปล่าหว่า) เงินไทยแข็งขึ้นก็ไม่ใช่นะ ถ้าจำไม่ผิด ต้องปล่อยให้เงินบาทอ่อน แล้วยังไงต่อ.... จากคุณ : หอมจัง เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 18:04:08

ความคิดเห็นที่ 9 งงเรื่องค่าเงิน ??? เมกามีเงิน $1 สมมติอัตราแลกเปลี่ยนของเราตอนนี้ประมาณ ฿33=$1 (ไทยแข็ง) ขนมไทยราคา ฿66 เมกาใช้ $1 แลกเงินไทยได้เงิน ฿33 ก็ซื้อขนมได้ครึ่งชิ้น(คงไม่ขาย อดไป) สมมติอัตราแลกเปลี่ยนตอนอ่อนสุดๆของไทยประมาณ ฿66=$1 (ไทยอ่อน) ขนมไทยราคา ฿66 เมกาใช้ $1 แลกเงินไทยได้ ฿66 ก็ซื้อขนมได้ 1 ชิ้น (ขายออกแระ) แข็งแล้วไม่ออก.... เห็นมั้ย จากคุณ : worthneverdie เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 18:22:40

ความคิดเห็นที่ 10 อ่อ เข้าใจคำถามแระ.... ตอนนั้นเราหนี้ต่างประเทศเยอะครับ (ไม่ใช่ปัญหาส่งออก) สมมติอัตราแลกเปลี่ยนของเราตอนนี้ประมาณ ฿25=$1 (ไทยแข็ง) กู้เมกา 1$ ใช้เงินไทย ฿25 แลกเงินไทยหนี้ดอลลาร์มา ต้นทุนการกู้อยู่ที่ ฿25 สมมติอัตราแลกเปลี่ยนตอนอ่อนสุดๆของไทยประมาณ ฿50=$1 (ไทยลอยตัวในตอนนั้น == เป็นไปตามธรรมชาติ, ปล่อย === ตอนนั้นธรรมชาติของมันคือ อ่อน) คือเงินกู้ให้เมกา 1$ ใช้เงินไทย ฿50 แลกเงินไทยใช้หนี้ดอลลาร์ ต้องจ่ายให้เค้าถึง ฿50 กู้ ฿25 คืน ฿50 คนเจ้งคือคนกู้เงินต่างชาติ จากคุณ : worthneverdie เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 18:29:41

ความคิดเห็นที่ 11 ผลกระทบ ค่าเงินอ่อนตัว ใช้หนี้ต่างประเทศไม่ได้ ขาดทุน ขาดทุนไม่มีเงินจ่ายหนี้ธนาคาร(เราเอง) ธนาคารล้ม ระบบสินเชื่อล้ม ไม่มีธนาคารที่พร้อมให้กู้ สินค้าชงัก เกิดเงินฝืด ฯลฯ พอเป็นไปได้หรือยังจ๊ะ.... ^ ^ อย่างที่บอก "ผู้คนพากันเก็งกำไร โดยมูลค่าเริ่มไม่ใช่เรื่องสำคัญ" ต้องตามความเป็นจริง แล้วจะไม่เดือดร้อน (มากนัก) จากคุณ : worthneverdie เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 18:32:34

ความคิดเห็นที่ 12 "ใช้หนี้ต่างประเทศไม่ได้"  คงรู้นะว่าเป็นไงต่อ ไปไล่เอาเองเน้อ.... จากคุณ : worthneverdie เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 18:33:43

ความคิดเห็นที่ 13 ขำป้า ไม่แน่อาจจะลามถึงบรูไน... จากคุณ : alien Flu เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 18:34:03

ความคิดเห็นที่ 14 ป้าอำมหิตโคตรๆๆๆ เขามาขอความรู้ นะเนี่ย ปล ป้าพักนี้อย่างแม่นเลยนะครับ ของวดนี้ด้วย จากคุณ : MASTERSMITH เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 52 23:01:17

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคุณ worthneverdie ค่ะ เข้าใจแล้ว กิ๊ฟหมดนะคะ ใจดีจังเลย จากคุณ : หอมจัง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 08:11:41

ความคิดเห็นที่ 16 แต่ยังสงสัยอีก... แล้วทำไมเงินบาทถึงไ้ด้แข็ง ได้อ่อน มันขึ้นกับอะไร แล้วดอลล่าร์ล่ะ ทำไมแข็ง ทำไมอ่อน ปัจจัยเดียวกันหรือเปล่า สงสัยกระทู้ตกแน่ๆเลย ถ้าไม่มีคนเข้ามาตอบจะตั้งกระทู้ใหม่ อิอิ จากคุณ : หอมจัง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 08:15:41

ความคิดเห็นที่ 17 #16 ตอบโดยใช้ความรู้น้อยๆของผมนะครับ เปรียบเงินแต่ละสกุลกับสินค้าชนิดหนึ่งครับ ถามว่า ราคาสินค้าแพงขึ้นหรือถูกลงเพราะอะไร - ก็เพราะความต้องการซื้อ(demand)/ความต้องการขาย(supply) พอจะเห็นภาพไหมครับ :p จากคุณ : เครื่องบินกระดาษ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 23:41:30

ความคิดเห็นที่ 18 อ๋อ... เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หอมจัง เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 07:48:53