ความคิดเห็นที่ 1 บางคนลงทุนมาค่อนชีวิต ยังหาบทสรุปของชีวิตๆไม่ได้เลย บางคนลงทุนมา10ปี ยังหาที่มาที่ไปของเงินไม่ได้เลย บางคนลงทุนมา5ปี ยังหาแนวทางการลงทุนที่ยั่งยืนไม่ได้เลย บางคนลงทุนมา1ปี ยังพยายามหาอัตราเร่งความรวยให้กับตนเองอยู่เลย บางคนที่เริ่มคิดจะก้าวเขามาลงทุน เขากำลังคิดว่านี่แหละอิสรภาพทางการเงิน...... หากยังไม่มีมุมมองที่ใหม่ไปกว่านี้ ให้คนที่คิดจะก้าวเข้ามาลงทุน ลองอ่านย้อนขึ้นไปดูว่า สุดท้ายแล้วจะเป็นเช่นไร..... จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:15:15

ความคิดเห็นที่ 2 เราต้องทำให้ได้ครับ We Can DO!!! ถ้าผมจะทำให้ได้ก็เพราะ  พี่ ๆๆ ในนี้ที่สั่งสอน ขอ เป็นน้องก็ละกันครับ น้องใหม่ อายุ 1 ขวบครับ เข้าตลาดมาปีที่แล้ว เรียนรู้อยู่ดอยพอดีครับ  ขาดอีกนิดหน่อยก็จะกลับเป็น 0 แล้วครับ ... สู้ ๆๆ ลงทุนให้ Happy นะครับ ... เป้าหมายของผม คือ 36% ต่อปีต่างหากครับ เพราะ ความหวังยิ่งสูงมาก ความกดดันจะมากตามไป ทำให้เราทำอะไรเสี่ยง ๆๆ มากครับ ปัจจุบัน ผมเน้น เงินทุนให้อยู่ก่อนครับ กำไรมากน้อยไม่สนสนอย่างเดียว ห้ามขาดทุน  3% ต่อเดือนก็เลิศแล้วครับ  ปู่บัฟเฟต เค้าทำแค่ 15% ต่อปีทบต้นเอง  ถ้าผมทำได้ 36% ก็เทพเล้วครับ ผมคิดงั้นนะ   คิดน่ะมันง่าย ทำน่ะมันยากจริง ๆๆ 1ปี นิด ๆๆ ผ่านไป ไวจริง ๆๆ พร้อมกับความรู้อีกเพียบ เริ่มจากติดลบ มันเป็นอย่างนี้เอง ถ้าเริ่มจากบวก เราจะรู้รสชาติของความติดลบไหม     แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 52 21:37:44 แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 52 21:31:43 แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 52 21:26:16 จากคุณ : WACHOVIA เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:21:58

ความคิดเห็นที่ 3 การรอคอยเพื่อให้ได้สิ่งดี ๆๆ กลับมา แม้ใช้เวลาเนินนาน แต่ก็คุ้มค่าที่จะรอ จากคุณ : WACHOVIA เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:38:35

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีค่ะ  พี่เย่   ชอบแนวความคิด  และ วิธีการ นำเสนอค่ะ   จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:38:47

ความคิดเห็นที่ 5 พี่หา.. 5%/เดือน แต่ผมหา 5% ต่อปี ยังไม่ได้เลยครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 6 สูตรเงินทบต้น นี่สูตรเดียวกับผมเลยครับ แต่ตัว % แล้วแต่เราจะกำหนดว่า ใครคาดหวังจะได้กี่ % ส่วนตัวแต่่ก่อนผมวางไว้ที่ 25% ต่อ 1 รอบ แต่ตอนปี 2546 2547  เงินที่ลงในหลายหุ้นทำได้ 100 % เยอะเลยครับ ช่วงนั้นถือเป็นปีทองแห่งการเล่นหุ้นของผมเลย และสุดท้ายในปลายปี 47 ต่อปี 48 ตามด้วยการเจ๊งอย่างแสนสาหัส ทุกวันนี้มาเริ่มใหม่หมดครับ แต่ % ตอนนี้ยิ่งน้อยลงมาก ถ้าจะเอาสัก 5 - 10 % ไม่ยากครับ ไม่ต้องเล่นเก้งกำไรด้วย มีหุ้นเยอะครับที่ให้กำไรระดับนั้นได้ไม่ยาก จากคุณ : ** ชายใหญ่ ** เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:52:46

ความคิดเห็นที่ 7 คุณหมอก้อนหินครับ การที่จะบอกว่า5%นั้นทำได้ยาก ผมว่าอาจจะเกิดจาก 1  เราได้เกินนั้นแล้วแต่.....เราเอาไปเสียที่ตัวอื่นอีก ทบไปมาก็เลยไม่ถึง หรือขาดทุน 2 ค่าคอมอาจจะกินไประหว่างที่เราหมุนรอบ ผมว่าหากเราทำได้ในแต่ละครั้งไม่ว่าจะครั้งใดก็ตาม เราต้องหยุดครับ เพื่อให้road mapของเราสมบูรณ์ครับ จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:54:40

ความคิดเห็นที่ 8 ฐานเงินน้อย ทำง่ายกว่าฐานเงินเยอะครับ อยากบอกว่าอย่าวัดเป้าหมายระยะสั้นรายเดือนเลยครับ ทำเฉลี่ยรายปีให้ได้ 20-25% แล้วปล่อยให้ทบต้นไปเรื่อยๆ ง่ายกว่าที่จะมาดูระยะสั้นแล้วก็เครียดน้อยกว่าด้วยครับ จากคุณ : Notelio เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:55:29

ความคิดเห็นที่ 9 จำได้ว่าพี่บุญทับเคยให้ไอเดียไว้ประมาณนี้เหมือนกัน ผมก็ตั้งเป้าไว้แบบนี้แหละ 5-10%ต่อเดือน ทบต้นไปเรื่อยๆ ขาขึ้นอย่าง5-6เดือนที่แล้วก็ทำได้ บางเดือนเกินเป้าเยอะ แต่พอ2เดือนมานี่ตลาดไซย์เวย์ ก็เริ่มไม่เข้าเป้า อย่างเดือนที่แล้วได้แค่2%เอง ถ้าขาลงเต็มตัวสงสัยไม่รอด เป็นอย่างที่พี่เย่ว่าไว้เป๊ะ ต้นเดือนได้จากหุ้นตัวนึง 10 % จากนั้นก็ไปเสียให้ตัวนั้นตัวนี้เหลือสุดท้าย2% พยายามบอกตัวเองหลายครั้งว่า ถ้าได้ตามเป้าให้หยุด แต่ก็ทำไม่ได้ อ่านกระทู้นี้เสร็จมันตรงกับพฤติกรรมผมเลย เหมือนได้พี่เย่มาอบรมสั่งสอนผมโดยตรงเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : กะโหลกกับกะลา เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:55:41

ความคิดเห็นที่ 10 เหมือนกัน หมอก้อนหิ 10% ต่อปีนี่ยิ่งยากใหญ่ ตัวเองซื้อแล้วหุ้นขึ้นมากกว่า 5 %  ยากยิ่งกว่าเล่นหวย อย่าว่าแต่ 5% เลย หาอันที่มันเกาะ Mean ไปกับเขายังยาก จากคุณ : หมอคะน้า (khana) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:04:20

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับคุณเย่หยงเทียน หลักการดีครับ ผมเองก็กำลังทำอยู่ 10% ต่อเดือน (อย่างต่อเนื่อง)  ผมมาคิดๆดูแล้ว ... ยากใช่เล่นนะครับ โดยช่วงต้นผมขอ 10% ต่อปีก่อนละกันครับ  ผมต้องทำให้ได้ เป้าหมายนี้ ผมคิดว่าไม่ยากเกินไปสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่าครับ จากคุณ : ขอบคุณกระทู้ดีๆที่มีเสมอมา (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:07:22

ความคิดเห็นที่ 12 (^_^)/ vote \(^_^) จากคุณ : tua_tuanoi เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:08:55

ความคิดเห็นที่ 13 ว่าจะหันไปเล่นแบบ VI ซึ่งหุ้นที่คัดสรรแล้วโดยมีปันผลมากกว่า 5%/ ปี แต่ก็ไม่ได้วางใจจะเอาเงินที่หาได้จากหยาดเหงื่อแรงงานไปลงได้ไหม.. จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:10:11

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ... มาช่วยโหวตครับ จากคุณ : ตามพี่คนจนมาติดๆ (kkkai525) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:11:53

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ได้ยากที่ตัวเลขครับ มันยากที่ความสม่ำเสมอ จากคุณ : อันปังแมน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:13:38

ความคิดเห็นที่ 16 และถ้า เทรนตลาดมันขาลง จะเล่นไงครับ ต้องรอกินเด้งรึปล่าว แต่จะให้ทุกเดือนนี้ยากจัง ยากที่ความสม่ำเสมอ จริงๆ จากคุณ : land_scape_man เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:18:27

ความคิดเห็นที่ 17 กระทู้นี้ เป้าหมายจริงๆไม่ใช่ให้ทำให้ได้ แต่ผมจะพยายามสื่อลึกๆว่า ได้ให้เอาครับ ได้ต้องรู้จักพอ ไม่ใช่ว่าได้จากตัวนี้ ไปเสียตัวนั้น ได้ตัวนั้นไปเสียตัวนี้ ตลอดช่วงชีวิตของการลงทุน หากย่ำอยู่กับที่ หรือ ถอยหลัง ก็คงต้องกลับมามองหาหลักยึดครับ และนี่คือ หนึ่งกลยุทธ์ สร้างความหวัง ให้ลืมความโลภครับ จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:22:56

ความคิดเห็นที่ 18 ถูกต้องครับ  สูตรนี้จะยากตรง ความสม่ำเสมอ และต้องไม่โลภครับ  หากไม่มีความมั่นใจพอไม่ควรเริ่มรอบใหม่เด็ดขาด จากคุณ : ** ชายใหญ่ ** เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:29:05

ความคิดเห็นที่ 19 ผมไปนอนก่อนครับ  สนทนากันไปครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาเล่าเรื่องต่างๆอีกครับ จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:30:37

ความคิดเห็นที่ 20 แค่ 5% ต่อเดือน เท่ากับ 60% ต่อปี ขนาดวอเรน บัฟเฟต์ เซียนหุ้นอันดับหนึ่งของโลก ยังเฉลี่ย 30 กว่า % ทบต้น นั่นแสดงว่าต้องลงทุนให้เก่งกว่าปู่บัฟ ถึงสองเท่าเลยนะคะ พี่เย่ล้อเล่นหรือเปล่า แค่ 5% ต่อเดือน พูดเหมือนง่ายจัง จากคุณ : เลี้ยงแมวให้เป็นหมู เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 22:37:22

ความคิดเห็นที่ 21 ทำไมต้องกำหนดเป้าล่ะ จากคุณ : dragon variant เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 23:19:08

ความคิดเห็นที่ 22 หลักการดีมากเลยครับ Simpleด้วย แต่ที่ผมยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้คือ เราจะทำอย่างไรที่จะปกป้องเงินต้นไม่ให้ลดลง เช่นได้กำไร 10%ทุกเดือน มาเจอวิกฤตอะไรสักอย่างตกทั้งตลาด ขาดทุนไป 10% เท่ากับที่ทำมาหายไปเยอะเลยนะครับ เพราะมาขาดทุนตอนเงินต้นสะสมไปเยอะแล้ว ดังนั้นคงต้องมี ระบบอะไรซักอย่างที่ทำให้รับประกันได้ว่าเงินต้นจะไม่หาย จะไม่ขาดทุนแบบนั้นใช่ไหมครับ ถ้าท่านคิดออกอย่าลืมบอกกันบ้างนะครับ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : อยากรวยมั่ง (drNUM) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 23:35:10

ความคิดเห็นที่ 23 เป็น VI ไม่ได้ถือหุ้นเป็น 10 ปี ครับ  *** ถ้าราคามันเกินมูลค่าแล้ว ขายครับ ไม่ได้รอนานขนาดนั้น จากคุณ : sciartist เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 23:35:19

ความคิดเห็นที่ 24 เล่นหุ้นตั้งเป้าเป็นเปอร์เซนต์ไม่ได้หรอกครับ Buffetเล่นได้เฉลี่ย20%ทบต้นทุกปี แต่จริงๆบางปีได้40%บางปีติดลบ เพราะมันขึ้นกับว่าเป็นตลาดกระทิงหรือหมี สุดยอดฝีมือคือคนที่เล่นชนะindexได้มากและสมําเสมอต่างหาก จากคุณ : drsp เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 23:36:55

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมาอ่านค่ะ จากคุณ : spaceship เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 23:47:42

ความคิดเห็นที่ 26 คงมีคนส่วนหนึ่ง(ส่วนน้อย)ที่ทำได้ครับ เหมือนนักกีฬา มีหลายระดับ บางคนเก่งระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ทีมชาติ แชมป์โลก ฯ ช่วงนี้ผมหวังแค่เอาชนะดอกเบี้ยเงินฝากและไม่เข้าเนื้อก็บุญโขแล้วครับ ความฝันสูงสุด ตอนอายุมากๆ อยากหาค่ากับข้าวกับตลาดหุ้นได้ ก็คงพอใจแล้ว ใช้ชีวิตท่องเที่ยว ทำบุญทำทาน.. อิอิ จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 00:06:41

ความคิดเห็นที่ 27 ด้วยความเคารพครับ พี่เย่ 5% ต่อเดือน หรือ 10% ต่อเดือน อาจจะไม่ยาก   .... แต่ 5% ต่อเดือน ติดต่อกัน เกิน 2-3 เดือนนี่  ยากโคตะระ เลยครับสำหรับผม แล้วผมไม่เข้าใจว่า การกำหนด "ต่อเดือน" นี่มีนัยยะสำคัญยังไงครับ เพราะหุ้นขึ้น หุ้นลง มันไม่ได้ตามรอบเดือน นี่นา อยากเห็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม เช่น  ถ้าผมซื้อ cpf ไว้ 10 บาท เมื่อวันที่ 27 พ.ย.   แล้ว พอวันนี้มันขึ้นมา 10.5  ผมก็ขายเพื่อ take 5%   แล้วผมจะต้องรอจนถึง 27 ธ.ค. ค่อยว่ากันใหม่หรือยังไงครับ ส่วนตัวผมว่า แนวคิดนี้ ถ้าแบบเป็นไปได้ น่าจะสรุปว่า "ถ้ามีหุ้นที่คิดว่าดี ก็ซื้อ ถ้าขึ้นมาพอสมควรก็ขาย ... ถ้าไม่เห็นหุ้นที่ดีจริงๆ ก็ไม่ต้องซื้อ หุ้นไม่ต้องเล่นทุกวัน"   หรือปล่าว แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 01:00:32 จากคุณ : จินหยง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 00:07:08

ความคิดเห็นที่ 28 เอากระดาษของเราเข้ามาแปะมั่ง  อิอิ แผ่นนี้มีอายุ 3 ปี สภาพเยินมากมาย ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองค่ะ  แต่ไม่รู้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน  555 ปล.แต่เราอย่าไป fix ว่าจะต้องเป็นหุ้นอย่างเดียวนะ  แต่เป็นการลงทุนอะไรก็ได้ที่ทำให้เงินเพิ่มมูลค่า  ^___^ ***แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 00:30:35 แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 00:29:47 จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 00:20:00

ความคิดเห็นที่ 29 ผมชอบตรงที่พี่เย่บอกว่า ได้ให้เอาครับ ผมเจอกับประสบการณ์แบบนี้มาก็หลายครั้งแล้ว ซื้อเป็นแต่ขายไม่เป็น ซื้อถูกจังหวะ ถูกราคา แต่พอกำไรก็ไม่ยอมขาย แถมที่ร้ายที่สุดคือ ปล่อยให้กำไรกลายเป็นขาดทุนไปซะด้วยซ้ำ จนถึงวันนี้ก็ยังแก้ไม่หายซักที ได้คำนี้ของพี่เย่มา มันช่วยกระตุ้นเตือนใจได้ดีเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : FRISKIE เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 00:48:49

ความคิดเห็นที่ 30 10%ต่อเดือนนี่ยากเหมือนกันนะครับ จากคุณ : BCrich เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 00:49:13

ความคิดเห็นที่ 31 กำลังศึกษา ขอบคุณครับ จากคุณ : Wed11Nov07 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 01:27:16

ความคิดเห็นที่ 32 ปกติ จะกำหนด เป้าต่อวันไว้ค่ะ   ไม่เคยกำหนดเป็น% แล้วพอ ต่อเดือน จะมา งบ บ/ช ดู จากการที่ มาร์ โอนเงินกลับให้  ว่าได้ตามเป้าที่เราตั้งไว้มั๊ย   ตั้งเป้า ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว คือ วันละ อย่างต่ำ 20,000 บาท ขึ้นไป ค่ะ  ตอนแรกๆ เช็ค เป็นวันนะคะ ตอนหลัง มีขาดทุนบ่อย เลย งบ เป็นเดือน ค่อยมาดู ค่ะ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 03:03:16

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่เข้าใจตรงตั้งเป้า 5 % ต่อเดือน แสดงว่าเราจะต้องทำการซื้อ-ขายทุกเดือน ลงทุนตัวนี้ได้ตามเป้า ก็ขาย แล้วเล็งตัวใหม่ต่อ หรือ เริ่มจากมีหุ้นหลายตัว คอยเฝ้าสังเกตุมัน ตัวไหนทำกำไรได้ตามเป้าก็ขาย สลับหมุนเวียนกันไป โดยที่กำไรที่ได้จากการขาย ก็ต้องนำมาลงทุนต่อเนื่องกันไปด้วยทุกครั้ง ถ้าหุ้นตัวนั้นราคาขึ้นอีก โดยที่ตลาดเป็นขาขึ้น ก็ช้อนซื้อตอนแพงต่ออีก แล้วไปขายตอนที่ได้ 5% ต่อเดือน อีกหรอคะ จะได้เป็นการทำกำไรสม่ำเสมอ และมีวินัย แล้วถ้าตลาดเป็นขาลงอ่าาาาาาา... จากคุณ : หอมจัง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 05:59:43

ความคิดเห็นที่ 34 หุ้น ขาลง  มักจะเล่น ตัวเล็ก กันค่ะ  กับ เน้น ทีเฟค ขาใหญ่ บิ๊กแคป หลบ ค่ะ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 06:55:01

ความคิดเห็นที่ 35 ผมขอพูดตรงๆเลยนะครับ เป็นการคาดหวังที่สูงเกินไป ในระยะยาว(5 ปีขึ้นไป) ไม่มีใครทำได้อย่างยั่งยืนหรอกครับ แม้แต่บัฟเฟทก็ทำได้เพียง 20%ทบต้นต่อปีตลอดการลงทุนของเขา หรือเทียบต่อเดือนเพียง 1.6% ทบต้นต่อเดือนเท่านั้น การคาดหวังที่สูงขนาดนั้นมันอาจทำได้ช่วงสั้นๆ แต่หากเดือนไหนคุณต้องขาดทุน 5-10 % คุณจะกดดันตัวเองมากไปและจะท้อถอยหมดกำลังใจไปในที่สุด จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 07:32:19

ความคิดเห็นที่ 36 ผมคิดว่าการตั้งเป้าหมายการลงทุนควรขยายกรอบออกมาเป็นผลตอบแทนทบต้นต่อปีมากกว่า และควรลดเป้าหมายจาก 60 % ทบต้น เหลือเพียง 15-20%ทบต้น ซึ่งก็เป็นการคาดหวังที่อยู่ในระดับที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติและไม่กดดันตัวเองจนเกินไป หากทำได้เกิน 20 % ต่อปีต่อเนื่องกันอย่างน้อย 5-10 ปี  คุณก็เหนือกว่า FM คนไหนในโลกแล้ว รวมทั้งบัฟเฟทเองด้วยซ้ำไป จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 07:36:56

ความคิดเห็นที่ 37 การเล่นหุ้นแบบเอากำไรคราวก่อนมาทบเป็นเงินลงทุนในรอบต่อไปนี้เป็นดาบสองคมเหมือนกันนะครับ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้แม้ทั้งปีทำได้ตามเป้ามาตลอดแต่ถ้าพลาดปลายปีครั้งเดียวก็อาจจะโดนเอา คืนไปเยอะเลย ใครจะทำอย่างนี้ก่อนอื่นอยากให้ลองหาความรู้เรื่องmoney manngement มาอ่านดูก่อน แล้วชอบไม่ชอบแบบไหนยังไงค่อยวางแผนกันอีกที สำหรับคนที่เล่นแบบเป็นsystematic trader ควรต้องถ่วงน้ำหนักในการเทรดแต่ละครั้งด้วย เช่นsystemของตนเองbacktestแล้วมีความแม่นยำ 70% คือ เล่น10ครั้งจะถูก7 ผิด3 หากครั้งแรกเข้าซื้อแล้วถูก เท่ากับถูกไปแล้ว1ครั้ง ครั้งต่อไป ความแม่นยำของระบบอาจจะลดลงเหลือ 6 ต่อ 3 (เพราะถูกไปแล้วครั้งนึง) เกมต่อมานี้ควรลดpositionลงจากครั้งแรก พอเป็นไอเดียอย่างนี้เป็นต้นครับ :) ผมเองก็กำหนดเป้าหมายรายปีเหมือนกัน แต่ไม่ได้แบ่งย่อยลงมาเป็นรายเดือนครับ และคิดว่าสิ่งที่สำคัญกว่าการทำให้ได้ตามเป้าคือการปกป้องเงินต้นของเราให้ปลอดภัยพอสมควรก่อนครับ จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 08:23:27

ความคิดเห็นที่ 38 ติดตามอ่านอยู่ค่ะ พี่เย่ ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆๆ สำหรับผู้ลงทุนรายย่อย อย่างเรา ขอตั้งเป้ากำไรปีละ 10% ก่อนนะค่ะ ยังมือใหม่อยู่ คงต้องอาศัย ประสบการณ์ จากพี่ๆ อีกเยอะค่ะ ...^_^ จากคุณ : t-soda เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 08:27:30

ความคิดเห็นที่ 39 ขอแค่หุ้นปันผล 5%ต่อปี ที่จะสามารถเอาเงินออมลงไปได้ทั้งตัว ผมก็จะมีอิสรภาพทางการเงินภายในอายุ 40 ปีครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 08:45:53

ความคิดเห็นที่ 40 ดีจังครับ ชอบทุกๆความเห็น  discussให้เห็นทุกแง่ครับ นี่แหละคือสิ่งที่จะได้จากwebboard ผมจึงบอกตั้งแต่ตอนต้นไงครับว่า road map ก็คือการสร้างgoal ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้น แต่ละบุคคลแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสร้างความคาดหวังนำหน้าความโลภ  การสร้างเป้าหมายเพื่อให้รู้ว่าตนเองไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 09:04:31

ความคิดเห็นที่ 41 เป็นเป้าหมายที่ดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย ดูเหมือนยาก แต่น่าจะทำได้ .. ยอดเยี่ยมฮะท่านเซียนเย่ จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 09:40:32

ความคิดเห็นที่ 42 ผมว่าเข้าใจประเด็นนะ ฝันไว้ที่ดวงดาว ... ไม่ถึงก็ยังได้ก้อนเมฆ ฝันไว้แค่ยอดหญ้า ... ตกลงมา อึหมาแน่ๆ อิอิ จากคุณ : Pop_Pcon เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 09:44:18

ความคิดเห็นที่ 43 คห ที่42ถูกต้องแล้วครับ ดั่งทำกล่าวที่ว่า "หากคุณตีลูกกอล์ฟให้ถึงดวงจันทร์  หากคุณพลาดคุณก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว"//star มีที่ให้ยึดเกาะ จะได้ไม่รู้สึกถึงการลอยเคว้งคว้างครับ จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 10:01:59

ความคิดเห็นที่ 44 ขอเสริมอีกหน่อยนะครับ การที่ผมเรียนว่าทางปฏิบัตินั้นเป็นไปได้จริงหรือไม่นั้น มองกันง่ายๆอย่างนี้ ในแง่ Roadmap หรือ Goal ที่เราคาดหวังไว้ ตามที่เฮียเย่กล่าวมา ผมอยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นดังนี้ สมมุติมีคน 3 คนกำหนด Road map ไว้กับตัวเองและวางแผนการลงทุนไว้ว่าใช้เวลา 20 ปี เท่ากันหมด และใช้เงินลงทุนครั้งแรกเท่ากันหมดคือ 1 ล้านบาท และไม่มีเงินใหม่มาเพิ่มเลย ขณะที่ผลตอบแทนลงทุนที่ได้ก็มาลงทุนต่อ 100 % เหมือนกันหมด โดยวัดผลกันที่ผลตอบแทนทบต้นต่อปี โดยนาย A ตั้งเป้าไว้ที่ 10 % ทบต้นต่อปีโดยเฉลี่ย นาย B ตั้งเป้าไว้ที่ 20 % ทบต้นต่อปีโดยเฉลี่ย ส่วนนาย C ตั้งเป้าไว้ที่ 60 % ทบต้นต่อปีโดยเฉลี่ย อยากรู้ไหมครับว่า Goal ของแต่ละคนจะแตกต่างกันอย่างไร ผลออกมาจะเป็นดังต่อไปนี้ ปีที่ 20 นาย A จะมีเงินต้นรวมผลตอบแทนอยู่ที่ 6.8 ล้านบาท ปีที่ 20 นาย B จะมีเงินต้นรวมผลตอบแทนอยู่ที่ 40 ล้านบาท (เคสนี้ใกล้เคียงผลตอบแทนของ วอร์เรนบัฟเฟท ซึ่งเป็นนักลงทุนอันดับ 1 ของโลก) ปีที่ 20 นาย C จะมีเงินต้นรวมผลตอบแทนอยู่ที่.............................. . . . . . . . . . . . . . . . . . . 13,000,000,000.00 บาท (หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาท) จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 10:11:00

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ ว้าว   หากให้ทำ20ปีติดต่อกัน คงยากครับ ถ้าทำได้ก็คง.......บ้าไปก่อน จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 10:17:37

ความคิดเห็นที่ 46 กรณีการวางเป้าหมายนั้นผมอาจมองเห็นต่างจากเฮียเย่ คือผมจะไม่ตั้งเป้าหมายที่ไกลเกินเอื้อม แต่ขอตั้งเป้าหมายในเชิง Conservative ไว้ก่อน เพราะหากเราทำไม่ได้สูงกว่านั้นมันก็จะไม่เครียดเกินไป แต่หากเราทำได้ดีกว่านั้นมันก็จะเป็นกำลังใจให้เรามุ่งมั่นต่อไปข้างหน้า ความเห็นผมดังนี้ไม่ได้หมายความของผมถูกหรือเฮียเย่ผิดนะครับ ผมอาจจะผิดก็ได้ ความจริงผมประทับใจในความมุ่งมั่นและปี่ยมไปด้วยมิตรภาพและน้ำใจของเฮียเย่ที่พร้อมมาแบ่งปันกับคนอื่นๆ ซึ่งผมสัมผัสได้กับข้อเขียนที่สื่อออกมา ขอชื่นชมตรงนี้นะครับ จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 10:20:33

ความคิดเห็นที่ 47 เล่นหุ้นให้ได้ตังค์ ใจต้องนิ่ง   (ไม่หวั่นไหวแม้วันมามาก)   จากคุณ : pyada เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 10:47:20

ความคิดเห็นที่ 48 Ref : ment 43 "หากคุณตีลูกกอล์ฟให้ถึงดวงจันทร์  หากคุณพลาดคุณก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว"   แนวคิดแจ่มเลยครับ เป็นกำลังใจชั้นดีสำหรับคนที่มีความมุมานะในการทำการสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีทีเดียว จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 10:53:03

ความคิดเห็นที่ 49 ติดgive หลายๆความเห็นก่อนนะครับ  คืนนี้เอามาแจก เราต้องคิดบนความเป็นไปได้ ขอบคุณครับพี่คนรักน้ำมัน จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 10:56:11

ความคิดเห็นที่ 50 ปล่อยกู้ไง  ร้อยละ 20  ต่อเดือน  ไม่ต้องลุ้นหุ้นด้วย (แต่ผิด กม. นะอิอิ) จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 11:01:33

ความคิดเห็นที่ 53 ปีนึง ขั้นต่ำ 60% เลยนะครับพี่เย่ ผมว่ายากพอสมควรเลยหล่ะ จากคุณ : ก้นเหวอยู่ไหน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 11:19:04

ความคิดเห็นที่ 56 เรียน คคห.54 อันนั้นผมทราบครับ รอบที่หมุนใน 1 เดือน กับใน 1 ปีมันทบต้นทบดอกเร็วขึ้นอีกมาก แต่ตย.ที่ยกมาเพียงแค่ให้เห็นภาพในเชิงเปรียบเทียบเท่านั้น ถ้าจะทบ 5 % ใน 1 เดือน กรณี A กับ B ก็จะต้องทบในแบบเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้เข้าใจได้ยากขึ้น  ถามว่าแล้วถ้าเป็น 5 % ทบต้นต่อเดือนจะไปจบลงตรงไหน ผมก็ขอตอบง่ายๆเลยว่า จากตย. 44 ให้ใส่ 0 ไปอีกตัวนึง ซึ่งจริงๆแล้วแค่นี้ก็ตกใจกันมากพออยู่แล้ว เพราะจาก 1 ล้าน เป็นแสนล้าน ใน 20 ปี ต่อให้ ร้อยบัฟเฟทก็ไม่มีปัญญาทำได้ ถ้ามีก็คงอยู่ในเกมส์กดมากกว่าครับ อ่านดูอีกที เฮียเย่คงมีกรอบระยะเวลาที่ไม่นานขนาดนั้น ด้วยปัจจัยที่อำนวยในระยะเวลาหนึ่งมากกว่าการพูดถึงกรอบระยะยาวเป็นสิบปี แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 11:50:53 จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 11:48:38

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้าเป็นขาขึ้นไม่ยากเลยครับ จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 11:48:54

ความคิดเห็นที่ 58 เรียน คคห.57 แล้วเดือนไหนที่ไม่ได้เป็นขาขึ้นล่ะครับ จะทำอย่างไร อย่างกรณีช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว เป็นขาลงติดต่อกัน 6 เดือน จะทำอย่างไร หรือตลาดช่วงปี 48-50 ที่เป็นตลาด Side Way ติดต่อกัน 3 ปีล่ะครับ จะทำอย่างไร จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 12:00:03

ความคิดเห็นที่ 60 ลองมาคิดเลขกันเล่น ๆ นะครับ สมมุติ เริ่มที่ 100 บาท เดือนที่ 1 ทุน 100 บาท -> เป้า 5 % = 105 บาท ปรากฏว่า เดือนนี้พลาดท่า ขาดทุนไป 10%  เหลือเงิน 90 บาท เดือนที่ 2 ทุน 90 -> เป้าที่ต้องทำ 105 + (105 * .05) = 110.25 บาท เพื่อจะให้ Cover เดือนแรก และทำ 5% ของเดือนที่ 2 ต้องทำกำไร (110.25 - 90) / 90 * 100 = 22.5% ลองคิดดูเล่น ๆ ล่ะกันครับ ว่าถ้าพลาดไป 1 เดือน ยังสาหัส ขนาดนี้ ถ้าพลาด 2-3 เดือน นี้จะสาหัสขนาดไหน ขอบอกว่า เดือนละ 5% ติดต่อกัน ยากมากครับ ป.ล. คำนวณแล้ว ถ้าทำ 5% ทบต้น 1 ปี คือทำกำไรได้ 79.58% ครับ ไม่ใช่ 5*12 = 60%  ปีละ 79.58% น้อยคนที่จะทำได้ครับ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 52 13:21:17 จากคุณ : Man Call Hero เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 13:15:21

ความคิดเห็นที่ 61 เป้าหมายของเฮียเย่นั้นผมมาใคร่ครวญดูแล้วไม่ใช่ว่าจะไร้เหตุผลหรือเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว ความจริงคิดอีกแง่นึงก็เป็นสิ่งที่น่าคิด เพราะหากเรามีวิธีการที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสม ในกรอบเวลาอันจำกัดอันหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นเมื่อถึงเส้นชัยแล้วก็หันเหออกไปในทิศทางอื่นๆ เช่นเลิกเล่นและนำเงินไปหาผลตอบแทนที่แน่นอนเช่นซื้ออสังริมทรัพย์ให้เช่า ซื้อตราสารหนี้ พันธบัตร และหันออกไปจากตลาดเลย โดยไม่หันกลับมาอีก สมมุติว่ากำหนดกรอบเวลาไว้เพียง 3 ปี แล้วตั้งใจว่าใน 3 ปีนี้จะต้องทำให้ได้ตามนี้ โดยอาศัย อิทธิบาท 4 ความสำเร็จในทางปฏิบัติย่อมมีได้ คือเล่นชนะแล้วเลิก อย่าโลภ แล้วออกจากสนามแข่งไป ถ้าทำได้ผมว่ามันเป็นตำนานได้เลย โดยตัวอย่างในอดีตที่มีคนทำอย่างนี้คือชนะแล้วเลิกเลยคือ ปีเตอร์ ลินซ์ ผู้บริหารกองทุน  Magellan ซึ่งดูแลกองทุนของเขาเป็นเวลา 13 ปี แล้วเลิกเด็ดขาด โดยทิ้งผลงานอันเป็นตำนานไว้ที่ผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยต่อปีที่ 29.2% ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงมาก  ส่วนหนึ่งก็เป็นความโชคดีของเขาด้วย เพราะหลังจากนั้นไม่นานตลาดหุ้นวอลสตรีทก็พังพาบลงเพราะกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีพวกดอทคอม จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 13:26:36

ความคิดเห็นที่ 63 ของผมมองเป็นครั้งครับ ทำกำไรครั้งละ 40% เริ่มต้นด้วยเงินที่ 1 แสนบาท ทำให้ได้แค่ 18 ครั้งพอครับ จากคุณ : =. ลางเนื้อเจือลางยา .= เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 14:35:06

ความคิดเห็นที่ 64 ว่าอีก20-30 ปี จะมาโพส บอกเล่าวิธีเล่นของผม  ถ้าทำได้จะได้เงินประมาณ 1000 กว่าล้าน   ดูเว่อร์มาก ตอนคิดเเผนนี้ขึ้นมา  เลยต้องรอให้ได้เงินตาม เเผนก่อนค่อยมาโพส   เเต่เห็นกระทู้นี้   เเนวคิดคล้ายกัน  เลยมาเเจมเเผน การเล่นของผม     เเนวคิด   หุ้นจะมีช่วงจังหวะขึ้น  หนักๆประมาณ10-50%   ในเเต่ละปี ประมาณ2-3 ครั้ง  (ต้องอยู่ใน trend ขาขึ้นด้วย)   ผมจะเล่นเอากำไร10- 20%  ต่อครั้ง   โดยครั้งต่อไป  ให้เอาทั้งทุน+กำไร  ซื้อใหม่ทุกครั้ง  ผม ทำสูตร ในexcell  หาว่า จะได้เท่าไหร่  เเล้วก็เห็นว่า ถ้าลงเงินครั้งเเรก 100000-200000   ให้ได้กำไร 15-20%  ภายใน20-30ปี จะมีเงินเป็น1000 ล้าน  เเล้วก็คิดว่าตรูจะทำได้ยังงัย    พอดีได้เรียนเทคนิคอลมาบ้าง เลยนั่งดูกราฟ เป็นปีๆ   เเล้วก็ถึงบางอ้อ  ว่าจุดที่จะเข้า  เเล้วมั่นใจได้เงินเกิน 80%  ควรจะเป็นรูปเเบบไหน   ก็เลยเล่นตามนั้น   หวังไว้ว่า     1.เราคงไม่เจอ ต้มยำกุ้ง  รอบ2   ภายใน20-30ปีนี้     2.ผมคงมีสุขภาพดี  ที่จะอยู่ ดูตัวเองมีเงิน 1000ล้านในอีก20-30ปีข้าง หน้า     3.ลูกคงจะได้ซึมซับ วิธีเล่นนี้อย่างเข้าใจ  ลึกซึ้งเหมือนพ่อมัน  อีก20-30ปี ถ้าไม่ตาย และเวปพันทิพยังอยู่  เเละผมเล่นได้อย่างที่คิดจะ มาโพส  เเลกเปลี่ยน ประสบการณ์ ให้ได้อ่านกันครับ จากคุณ : เศษธุลี (เศษธุลี) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 18:30:50

ความคิดเห็นที่ 65 เข้ามาหาความรู้ครับ จากคุณ : น้องนัทตี้ (nuttylim19) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 08:47:43

ความคิดเห็นที่ 66 กำลังคิด............. จากคุณ : HiHitler เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 14:25:56

ความคิดเห็นที่ 67 พยายามอดทนรอคอยอยู่ครับ จากคุณ : @power เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 15:29:57

ความคิดเห็นที่ 68 แหะๆ  มีคำกล่าวนึ่งว่าไว้ว่า  ตั้งเป้าหมายไว้ที่ดวงจันทร์ ถึงแม้จะพลาดก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว 555+ สุดยอดครับท่านเซียนทั้งหลาย จากคุณ : gunpoopoom424 เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 15:38:27

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าเดือนละ 5% ยากมาก แต่ถ้า ปีละ 60% ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ........ คิดได้แบบนี้ก็ดี ..... ผิดที่ มองกันเป็น เดือน จากคุณ : อาหนิว เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 19:48:16

ความคิดเห็นที่ 70 ฝันแล้วครับน่าเย่ ขอแค่ 20-30%ต่อปีทบต้นเฉลี่ย ใน 20 ปี นี่ก็เทพแล้วครับ ทำได้นี่ระดับบัฟเฟต หรือ ดร.นิเวศน์ แล้วครับ ที่สำคัญต้องวัดกันยาวๆหลายๆปี บางคนมือใหม่เพิ่งทำได้ตอนหุ้นขึ้นมากกว่านี้ คิดว่าเก่งแล้ว พอหุ้นขาลงจุกทั้งนั้น จากคุณ : บอย :) เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 08:05:40

ความคิดเห็นที่ 71 เชื่อว่าคนเก่งๆ มากมายสามารถทำได้ค่ะ แต่ว่าข้าพเจ้าเคยลองแล้ว แต่ทำไม่ได้เลย เพราะจังหวะพลาดตลอด เมื่อไม่กี่วันมานี้ เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่า ในช่วงที่ผ่านมา เวลาที่เราอยากได้เงินมากๆ อยากได้เงินเร็วๆ  เรามักจะเสียเงิน  แต่ตอนไหนที่บอกตัวเองว่า เอาล่ะ ไม่เป็นไร รอปีหน้าก็ได้ ผลตอบแทนมันมักจะมาเร็วกว่าที่คาดเสมอ เคยซื้อหุ้นดีตัวหนึ่งที่ราคา 80 กว่าบาท เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตั้งใจไว้ว่าสิ้นปีนี้ขอแค่ 90 กว่าบาทก็พอใจแล้ว แต่ปรากฏว่าตอนนี้มัน 100 กว่าบาทไปแล้ว   ถึงเป้าเดือนมีนาปีหน้าที่ข้าพเจ้าวางไว้  ก็พอใจมากมาย แต่หุ้นที่ซื้อแล้วอยากให้ขึ้นไวๆ มักจะทำเราเสียตังค์ตลอด   สรุปได้ว่า ในกรณีของเรา ไม่ใช่เป็นเพราะหุ้นไม่ดี  แต่เป็นเพราะตั้งเข็มทิศผิด ไม่เข้ากับความสามารถของตัวเอง  เหมือนคนที่มีรถญี่ปุ่นคันเล็ก แต่ชอบเหยียบคันเร่งเกิน 100 กมต่อชม  ต้องเปลี่ยนจังหวะเท่านั้น ถึงจะรักษารถให้อยู่ในสภาพดีได้   ตอนนี้บอกได้เลยว่าตั้งแต่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตข้าพเจ้าก็เปลี่ยนไปมากมาย  สุขและสงบ  เอาเวลาที่จะมัวเฝ้าหน้าจอ ไปทำประโยชน์อย่างอื่น  เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาก็ไปเป็นล่ามอาสาสมัครช่วยฝรั่งที่เอาสตังค์มาแจกเด็กบ้านเรา กลับมา ตลาดหุ้นก็ยังไม่ถล่มทลาย  พอร์ทบางตัวแดง บางตัวเขียว แต่ใจเรากลับคิดถึงหน้าเด็กๆ ตอนได้ทุน มากกว่าตัวเลขในพอร์ท   ทั้งนี้ทั้งนั้น ย่อมแล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคล  ใครทำได้ ข้าพเจ้าก็ยินดีด้วย จากคุณ : Samsara เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 21:05:37

ความคิดเห็นที่ 72 บอกได้เลยครับว่าไม่มีทาง คำว่าเฉลี่ย นั้นหมายถึงเอาผลที่เกิดเป็นสิบๆ ครั้งมาคิด ซึ่งไม่มีทางที่จะทำได้ต่อเนื่องยาวนานติดต่อกัน 36 เดือนแน่ ถ้าบวก 5% ต่อเดือนได้ ในบางเดือน ก็ย่อมมี ลบ 5% เกิดขี้นเช่นกัน คิดรวมเฉลี่ยแล้วในหนี่งปีให้เหลือบวก 10 % ให้ได้ก็ไม่ใช่ง่ายแล้ว ไหนจะค่าคอมมิสชั่นอีก การคิดว่าภายใน 1 เดือนถ้าเมื่อไหร่ทำได้บวก 5% แล้วจะหยุดแล้วรอเดือนต่อไป ก็ทำอีกไปเรื่อยๆ อย่าคิดว่าง่ายนะครับ อย่างที่บอกครับว่าถ้าทำซัก ไม่กี่เดือนติดต่อกันอาจพอได้ แต่ถ้าทำได้ 36 เดือนติดกันนี่ผมว่า ความน่าจะเป็น ก็คงประมาณเท่าๆ กับ แทงบอลติดกัน 36 งวด หรือทายเหรียญโยนหัวก้อยถูก ติดต่อกัน 36 งวดแหละครับ จากคุณ : นินจาดาบสายลม (นินจาดาบสายลม) เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 23:02:40

ความคิดเห็นที่ 73 เทคนิคของผมตอนนี้ลุ้นปัละ 4 ครั้งตามงบรายไตรมาสครับ พยายามหาหุ้นที่ผลประกอบการพอจะคาดหมายได้เป็นรายไตรมาส เช่น ไตรมาส 2,3 กำไรน้อยหน่อย แต่กำไรมากตอนไตรมาส 4,1 ประมาณนี้ หรือหุ้นวัฎจักร ที่กลับตัวกลับมาทำกำไรได้ เพราะราคาต้นทุนสินค้า เช่น เหล็ก ทองแดง ราคาเป็นขาขึ้น เป็นต้น พวกนี้ถ้าเป็นตัวเล็กๆราคาจะไม่วิ่งไปไหนไกลๆ ขึ้นๆลงๆ นิดๆหน่อยๆ แต่ไปวิงทีเดียวเลยตอนประกาศงบครับ ผมก็คิดว่าแนวนี้น่าจะดี แต่ยังไม่ได้พิสูจน์เท่าไหร่นะครับ เพราะเพิ่งลงทุนมาได้สัก 2 เดือนกว่าๆเอง กำไรก็เพิ่งจะ +2% เท่านั้นเอง ก็พอจะหาหุ้นได้บ้างแล้วครับ คิดเล่นๆว่า ขอ Capital gain สัก 10% ต่อ ไตรมาส ก็ปีละ 40% + ปันผล นำเสนอ ไว้เป็นทางเลือก ที่น่าจะทำได้ง่ายกว่า ถ้าไม่มีเวลามานั้งเฝ้าจอครับ ส่วนประสบการณ์ที่ผ่านมาเหมือนๆกับ ที่พี่ๆในนี้บอกไว้เลยว่า มีกำไรขาดทุนสลับกัน สมมติถ้าเรา weight ไปตัวที่ถูกทางมากๆ เราก็กำไรเยอะ แต่กลับกัน ตัวที่ไปผิดทาง มันก็ทำให้ port เราติดลบได้พอๆกัน มันยากตรงเลือกหุ้น และจังหวะเข้าออกเนี่ยแหละ พอได้กำไรจากหุ้นมาตัวนึง แล้วขายตัวนั้นออกไปแล้ว พอร์ดของเราที่เคยเขียวๆมันก็จะหายไป ทีนี้พอไปเข้าตัวใหม่ แล้วเกิดขาดทุน มันก็จะเป็นสีแดงๆเต็มไปหมด ทีนี้ก็เริ่มใจฝ่ออีกแล้ว ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าระยะยาวมันจะสู้ไม่ไหว เพราะเครียดสะสม และผันผวนมากไป เดี๋ยวนี้เลยเน้นตัวเล็ก พื้นฐานดี พอที่จะคาดหวังผลประกอบการณ์ได้ และราคาไม่เหวี่ยงแรง นิ่งๆหน่อยก็ได้ ประมาณนี้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : นายกร (9korn) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 21:54:50

ความคิดเห็นที่ 74 ติดตามเรื่องถัดไปได้ที่นี่นะครับ จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 52 19:52:40

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณครับ จากคุณ : bullfrog เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 52 21:57:15

ความคิดเห็นที่ 76 เข้ามาอ่าน จากคุณ : ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 52 23:06:43

ความคิดเห็นที่ 77 ทำไมไปเปรียบกับ Buffet ? - Buffet ลงทุนแบบ VI ซื้อทิ้งไว้นานเป็นปีๆ จะมี arbritage บ้างก็แค่ 10% - แต่เราตั้งเป้ากันรายเดือนก็ต้องเล่นแบบ VS ด้วย เป้าก็ต้องสูงกว่า VI ในระยะสั้นเป็นธรรมดา ไม่งั้นจะเสี่ยงไปทำไม - Buffet ไม่ได้เก่งที่สุดในโลก แค่ทำเงินได้มากสุดแต่ก็ใช้เวลาทั้งชีวิต คุณอาจจะเป็นคนที่เหนือกว่าเขาก็ได้ถ้ามีไสตล์ที่ดีกว่า โลกเปลี่ยนไปทุกวัน Buffet ใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรวยเพราะสมัยนั้นไม่มี Internet, Computer, โทรศัพท์มือถือและ pantip.com จากคุณ : พันธุ์ทางหางเทา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 18:29:46

ความคิดเห็นที่ 78 โหยย...เกือบพลาดบทความดีๆไปซะแล้วซิเรา ขอบคุณพี่เย่มากๆครับ จากคุณ : เที่ยวไปสะพายเป้ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 22:46:04