ความคิดเห็นที่ 2 . จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:03:08

ความคิดเห็นที่ 3 .. จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:03:55

ความคิดเห็นที่ 4 . . สำหรับผม  ผมคิดว่า การลงทุนแบบ VI  นั้นถ้าแปลตามตัว คือ การลงทุนซื้อ-ขายหุ้น ตามมูลค่าหุ้นที่แท้จริง (อันนั้นคือแนวคิดหลักก่อนนะครับ) . . และ นักลงทุน VI โดยแท้จริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องผือหุ้นนาน หรือ ติดดอย หรือ เน้นแนวคิดว่า  ไม่ขายไม่ขาดทุน  --> เหล่านี้ไม่ได้เรียกว่า นักลงทุนแบบ VI นะครับ แต่ถ้าเอาง่ายๆ ในความคิดผม  นักลงทุน VI - จะเป็นผู้ที่ ซื้อขาย หุ้น อย่างมีเหตุผล โดยมีการประเมินราคาหุ้นตัวนั้น ตามที่ตนเองได้วิเคราะห์ บริษัทนั้นอย่างดีแล้ว  (ผลกำไรคาดการณ์ การเติบโต และอื่นๆ) . . . -*-  เพื่อนโทรตามแล้วครับ  ยังโพสไม่เสร็จ ขออนุญาตแว่บไปก่อนนะ . . และที่สำคัญที่สุดคือ เหตุผลในการซื้อขายครับ  ถ้าเราซื้อ เพราะเหตุผลใด เราก็ควรขายด้วยเหตุผลนั้น . . เช่นผม  ซื้อเมื่อเห็นว่ามี MOS เยอะ (upside  เยอะ)  ผมก็จะขายหุ้นตัวนั้น เมื่อ หุ้นตัวนั้นราคาขึ้นไปจนใกล้เคียง ราคาเป้าหมาย + กับไปเจอหุ้นอีกตัวที่มี MOS มากกว่าครับ ปล.  เที่ยวกันให้สนุกครับ จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:08:43

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีครับคุณภูมิทัศน์ (ตอนนี้คงกระโดดขึ้นรถไปแล้ว)  วันนี้ผมทำงานครับ T^T ก่อนอื่นขอบคุณมากครับที่ช่วยแตกกระทู้ กระทู้วันหยุด งั้นเรามาคุยเรื่องเบาๆ แต่ประเืทืองปัญญากันดีกว่าเนอะ อิอิ VI (Value Investor) แปลเป็นไทยได้ว่า การลงทุนแนวเน้นคุณค่า แปลให้ละเอียดอีกนิด มันคือ  "วิธี" การลงทุน "ในแนว" เน้นคุณค่า ดังนั้น สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ VI คือหลักการลงทุนในการซื้อหุ้น และไม่มีหุ้นไหนที่เป็นหุ้น VI นะครับ สำหรับแนวคิดเรื่องการลงทุนแนว VI สำหรับผมนั้น ผมถูกสอนมาว่า นักลงทุน VI คือการอยากเข้าไปเป็น "ส่วนหนึ่ง" ของบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่เขามีความสนใจ เขาอยากร่วมงานกับบริษัทที่ดี เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งกับกิจการที่ดี มั่นคง เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีกำไรดี เขาอยากมีความภาคภูมิใจไปกับตัว product หรือตัวธุรกิจที่เขาได้เป็นหุ้นส่วน เพราะเขาเชื่อว่า บริษัทที่ดี จะทำให้คนในองค์กรของเขานั้นเติบโตไปพร้อมๆกันด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือ .... ผู้ถือหุ้นรายย่อย และนี่คือ "แนวคิด" ขั้นต้นสำหรับผม ในการเลือกหาหุ้นสักตัวเพื่อการลงทุนครับ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 09:23:39 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:20:47

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาอ่านครับ หวังว่าสักวันจะได้เป็น VI กะเค้าบ้าง.... (ลงทุนโดย FOCUS ไปยังผลประกอบการ) จากคุณ : kkkai525 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:37:07

ความคิดเห็นที่ 7 .................. .....อรุณสวัสดิ์..กระทู้ DVD ฉบับปฐมฤกษ์ค่ะ.....   .................. จากคุณ : ฟองเต้าหู้ในน้ำซุป เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:46:55

ความคิดเห็นที่ 8 " ซื้อหุ้นในตัวกิจการที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือไว้จนกว่าพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนไปในทางที่เลวร้ายลง " หลักการนี้ก็น่าสนใจนะครับ ^^ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:50:45

ความคิดเห็นที่ 9 แวะเข้ามาเจิมกระทู้กับเค้าบ้าง จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:53:07

ความคิดเห็นที่ 10 อาหารเช้าครับ (สำหรับคนพึ่งตื่น)  อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:57:46

ความคิดเห็นที่ 11 ผล vote เมื่อวานฮะ จากคุณ : Discovery (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:07:10

ความคิดเห็นที่ 12 ยาวไปครับ ขอเป็นสมาชิก  อ่านด้วยคนนะครับ คุณ คนจนที่อยากรวย จากคุณ : ahcmos เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:16:19

ความคิดเห็นที่ 13 ช่วงนี้หุ้นกลุ่มเกษตรกำลังมาแรง  งั้นมาดูกันดีกว่าครับว่า ณ ตอนนี้ หุ้นใดบ้าง ........... ที่ราคายังไม่น่าจะแพงมาก(จนเกินไป) จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:18:33

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับผม จะต้องมองที่ตัวบริษัทก่อน ดูธุรกิจ ที่น่าสนใจ มีอนาคต ถ้ายากนัก ลองถามตัวเองว่า ในแต่ละวัน ใช้ผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง แล้วดูว่า บริษัทนั้นอยู่ในตลาดหรือไม่ แล้วค่อยเอาแต่ละตัวมาเทียบMOSกัน เราจะได้หุ้นที่ชอบในใจ แล้วมาดูMOSซึ่งเป็นตัววัดมูลค่าของมัน แล้วคุณจะได้หุ้นที่ดีๆ ทุกคนล้วนทำได้ครับ แต่ผมว่านะครับ ถ้าทำอะไรไม่เป็น ง่ายๆ หาอ่านจากประสบการณ์คนอื่น อ่านดูว่ามีวิธีการเลือกของแต่ละคนอย่างไร จากนั้นก็ทำการบ้านเปิดset.or.th ลองไล่ดู คุณจะรู้เลยว่า แต่ละคนนั้น น่าจะถือหุ้นอะไรกันบ้าง แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 10:21:49 จากคุณ : Waroncom เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:19:31

ความคิดเห็นที่ 15 หุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่ผมชอบครับ เพราะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ทำความเข้าใจในตัวธุรกิจได้ง่ายกว่าอีกหลายๆกลุ่ม จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:20:53

ความคิดเห็นที่ 16 หุ้นกลุ่มนี้ผมก็ชอบครับ แต่ครั้นจะรอให้ราคาถูกๆถึงซื้อ คิดว่าคงเป็นไปได้ยาก(มากๆ)ครับ  อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:24:46

ความคิดเห็นที่ 17 สุดท้าย ... หุ้นในตลาดเล็ก (แต่ราคาวิ่งไม่เล็กครับ) อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:30:03

ความคิดเห็นที่ 18 ในชีวิตไม่เคยเป็น VI   สำหรับการลงทุนในหุ้น มีแต่เป็น  VI  สำหรับการลงทุนในการสร้างกิจการ ถ้าเมื่อใด กิจการนั้นยังสามารถเติบโตและสร้างผลกำไรได้ดี ก็ยังคงทำและขยายกิจการไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเมื่อใด  กิจการนั้นเริ่มไม่เติบโตและผลกำไรเริ่มไม่สม่ำเสมอ ก็ต้องมองหาลู่ทางใหม่ๆสำหรับการลงทุน การเปิดกระทู้  Daily VI Discussion   น่าจะเป็นการเปิดมุมมองต่างๆสำหรับการลงทุนในอีกมิติหนึ่งที่ดี คลื่นลูกหลังย่อมทยอยไล่หลังคลื่นลูกแรก  ! ขออนุญาต ฝากเนื้อฝากตัว...ฝึกฝนและร่ำเรียน การเป็น VI  สำหรับการลงทุนในหุ้น จากคุณ : ** 4 a & 4 j ** เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:34:57

ความคิดเห็นที่ 19 คห. 16 ใส่กรอบผิดหรือเปล่าครับ จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:43:39

ความคิดเห็นที่ 20 ถึงคุณ จอมโจรแมวเหมียว ใส่กรอบถูกต้องแล้วครับ ผมต้องการสื่อให้เห็นว่า หุ้นดีราคาถูกนั้น หายากครับ ในชีวิตจริงมักเจอแต่ หุ้นดี ที่ราคาเมื่อวาน มักถูกกว่าพรุ่งนี้ ........ เสมอ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:47:08

ความคิดเห็นที่ 21 ถามผม ผมว่าลงทุนแบบ VI คือการลงทุนแบบมุ่งให้ "กิจการทำงาน" มากกว่าให้ "ตลาดทำงาน" ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก VI ทุกท่านนะครับ วันหน้าวันหลังขอคำชี้แนะด้วย จากคุณ : csirre เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 10:49:47

ความคิดเห็นที่ 23 ฉบับปฐมฤกษ์ ก็ต้องมีท่านปรมาจารย์ระดับโลกมาเยี่ยมสักหน่อย.. (ก่อนจะไปข้างนอกขอแปะคุณปู่วอเรนต์ แรงบันดาลใจของ vi ทั่วโลกค่ะ) จากคุณ : ฟองเต้าหู้ในน้ำซุป เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 11:06:45

ความคิดเห็นที่ 24 ถึงคุณ คนจนที่อยากรวย หุ้นดี ราคาถูก หายากจริงๆครับ ส่วนตัวยังอยากซื้อ CPALL ไว้เลย แต่แพงเกิน จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 11:21:22

ความคิดเห็นที่ 25 จาก คห. 3 แบบทดสอบความเป็น VI ในตัวคุณ ผมว่า เรามาเจาะลึกเป็นข้อๆ กันดีกว่า เริ่มจาก ข้อ 1. คุณได้ทำการบ้านมากพอและประเมินบริษัทอย่างละเอียดก่อนที่คุณจะซื้อหุ้นหรือไม่ ข้อนี้ เน้นให้ นักลงทุนแบบ VI ประเมินบริษัทอย่างละเอียด เพื่อนๆ ประเมินจากจุดไหนกันบ้าง มีวิธีการประเมินอย่างไร มาแชร์ความคิดเห็นกันดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 11:40:45 จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 11:39:53

ความคิดเห็นที่ 26 พักเที่ยง กินข้าวกันครับ  อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:02:04

ความคิดเห็นที่ 27 ขอร่วมแจมด้วย ราคาไม่แพงที่ว่านั้น ไม่อาจมองแค่เพียง P/E ratio ได้ครับ กลัวว่ามือใหม่(มากๆ)เข้ามาแล้วจะหลงทางถ้าอ่านผ่านๆ แต่ถ้าเราพิจรณาศักยภาพ/พื้นฐานอื่นของบริษัทแล้วเช่น - ความสามารถในการแข่งขันกับเจ้าอื่นในอุตสหกรรมเดียวกัน(เป็นที่ 1,2  หรือเป็น 1 เดียวหรือเปล่า) - ความสามารถในการทำกำไร , ยอดขาย - ความสามารถในการบริหารของ CEO - ความสามารถในรักษาความเป็นผู้นำ , รักษา Brand ของตัวเองได้ - ความสามารถในการขยายกิจการ - อื่นๆอีกมากมาย(จำไม่ได้) หากว่าเราเจอบริษัทที่ดูดีมีอนาคตแล้ว ลองกลับไปดู P/E แล้วกันครับ ว่าตอนนี้ราคาถือว่าแพงไปไหม ที่บอกให้ดูคุณภาพก่อนเพราะว่า p/e ต่ำไม่ได้หมายความว่า บริษัทจะดีเสมอไปครับ บางที่ต่ำเพราะกิจการแย่ ^^ ปล.หรือถ้าดู p/e ก่อนแล้วลองกลับไปดูว่ามีคุณสมบัติผ่านมั้ยก็ได้นะเออ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 12:12:09 จากคุณ : คลาสดิสคัสชั่น (มิ่งกลิ้ง) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:10:49

ความคิดเห็นที่ 28 น้องพลูดาวเป็นตัวแทนกระทู้ดาวมาแสดงความยินดีกับกระทู้ Daily VI Discussion ฉบับปฐมฤกษ์ด้วยค่ะ ขอขอบคุณที่มีกระทู้ดีๆแบบนี้มาให้ความรู้กับพวกเราค่ะ ขอขอบคุณค่ะ จากคุณ : พลูดาว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:16:24

ความคิดเห็นที่ 29 ขอเสริมน้องมิ่งกลิ้งอีกสักนิดนะครับ "หากว่าเราเจอบริษัทที่ดูดีมีอนาคตแล้ว ลองกลับไปดู P/E แล้วกันครับ ว่าตอนนี้ราคาถือว่าแพงไปไหม" หลายต่อหลายครั้งที่เรามักพลาดโอกาสดีๆไป เพียงเพราะถูกติดกับดักของคำว่า "แพง" จากสมการ  p/e = ราคา/eps กรณีถ้าเป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่ดีจริงๆ (growth stock) ถึงแม้ราคาปัจจุบันอาจจะดูสูง แต่ถ้าผลประกอบการออกมาดี กำไรเพิ่มขึ้น(มาก) ===> eps เพิ่มขึ้น นั่นก็จะทำให้ค่า p/e ที่เดิมทีมีค่ามาก  ถูกปรับค่าลดลงมาในระดับต่ำลงได้เช่นกันนะครับ สรุปคือ ... สุดท้ายแล้ว ผลประกอบการจะเป็นตัวผลักดันราคาหุ้นให้วิ่งเข้าสู่มูลค่าที่เหมาะสมครับ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:17:57

ความคิดเห็นที่ 30 ผมมองว่าแนวทางของปีเตอร์ ลินซ์ น่าจะเหมาะที่จะประยุกต์ใช้กับตลาดบ้านเรามากกว่าแนวทางของวอร์แรน บัฟเฟต นะครับ จากคุณ : เล่นรอบ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:26:04

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีครับคุณเล่นรอบ  ผมหาซื้อหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เลยครับ   จากคุณ : แนวทางนี้ผมเลยไม่ค่อยเข้าใจ (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:29:37

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาเจิมให้นะครับ   จากคุณ : เจ้าชายชาเย็น เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:29:56

ความคิดเห็นที่ 33 ตามที่พี่คนจนบอกเลยครับ.... ถ้าเรามองธุรกิจขาด ก็ต้องรีบคว้าโอกาสเอาไว้ ถ้าจำไม่ผิด ดร.นิเวศน์ท่านมองว่า หุ้นเซเว่น จะไปได้อีกไกลมาก แต่ช่วงนั้นมีปัญหาเกี่ยวกำผลกำไรเพราะเซเว่นถือโลตัสอยู่เยอะ หรืออะไรเนี่ยแหละ(จำได้ไม่ละเอียด) แล้วเซเว่นก็เลยลดปริมาณการถือ(หรือขายหมดไม่รู้) ดร.ก็เข้ามาซื้อ เซเว่นไว้ ช่วงนั้น 5 บาทกว่าๆรึปล่าว (จำไม่ได้อีกแล้ว) ดูตอนนี้สิครับ เซเว่นไปไกลแค่ไหนแล้ว โฮ้ๆๆ... และลุงบัฟเฟตต์ก็เคยบอกว่า เค้าซื้อหุ้นดี ใน"ราคายุติธรรม" ได้ครับ หมายความว่าไม่ต้องรอให้ราคาต่ำก่อนหรอก... ถ้ากิจการดีจริงเดี๋ยวกิจการจะนำพาราคาไปถึงที่ๆควรอยู่เอง(ไม่ใช่เจ้าลากไป) จากคุณ : VI ฝีกหัด (มิ่งกลิ้ง) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:30:01

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่านะครับ หลักการที่เป็นแก่นของการลงทุนแนวนี้เลยก็คือการซื้อกิจการในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของมัน ( วอร์เรน เคยเปรียบเทียบไว้ว่าเหมือนการซื้อแบงค์หนึ่งดอลลาร์ในราคา 50 cent ) ที่นี้ด้วย"หลักการ"นี้ ก็มีคนแตกหลักการออกไปเป็น"สไตล์"การเลือกหุ้น.... ซึงผมมองว่าแบ่งออกเป็นสองขั้วหลัก คือขั้วที่เน้นหุ้น"ถูก" กับขั้วที่เน้น"ความยอดเยี่ยม" ของกิจการ ขั้วของหุ้นถูก อาจจะทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า สไตล์การลงทุนแบบนี้ เน้นที่ความถูกของหุ้น เช่น ต้องมี PE น้อยกว่า 50% ของ PE อุตสาหกรรม, PB น้อยกว่าหนึ่ง ( ซึ่งแปลว่าเราซื้อหุ้นได้ถูกกว่าเจ้าของกิจการเสียอีก ) และการเลือกหุ้นในสไตล์นี้เรามักจะต้องขายเมื่อตลาดปรับราคามาให้จนถึง PE ที่เหมาะสม..... ซึ่งแม้แต่เบน เกรแฮม บิดาของการลงทุนสไตล์นี้ ยังถึงกับออกเป็นกฎไว้เลยว่า หุ้นตัวไหนวิ่งขึ้นมาถึง 50% ก็ถึงเวลาต้องขาย ( อย่าลืมนะครับว่า การลงทุนสไตล์นี้ เราซื้อหุ้นเพราะมันถูก หากหุ้นไม่ถูกอีกต่อไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะถือต่อ ) อีกขั้ว อาจจะเข้าใจได้ยากว่า แต่น่าจะเป็นกระแสหลักของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าในปัจจุบัน ซึ่งก็คือ"สไตล์"การลงทุนที่เน้นความยอดเยี่ยม และความได้เปรียบที่ยั่งยืนของบริษัท ( ความเป็น great company )..... บุคคลที่เป็นสัญลักษณ์ ของการลงทุนในสไตล์นี้ก็ไม่พ้นวอร์เรน บัฟเฟต์ครับ ( ในเมืองไทยก็ดร.นิเวศน์ ) แนวคิดของการลงทุนในสไตล์นี้คือ บริษัทที่ยอดเยี่ยม ที่มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างยั่งยืน ย่อมมีผลประกอบการ และกำไรที่มากขึ้นทุกๆ ปี ดังนั้น"มูลค่า"ของบริษัท ย่อมมากขึ้นได้เรื่อยๆ โดยไม่มีขีดจำกัด ดังน้นหากเราสามารถซื้อได้ในราคาไม่แพงจนเกินไปนัก ก็ย่อมเป็นการซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า การลงทุนในสไตล์นี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องขายหุ้นออกไปเลยก็ได้ ( เช่นวอร์เรน ไม่เคยขายโค้ก ) ตราบใดที่พื้นฐานกิจการ และความได้เปรียบในการแข่งขัน ยังคงอยู่กับบริษัท แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 00:21:54 แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 12:32:27 จากคุณ : Idiopathic เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:30:38

ความคิดเห็นที่ 35 ไหนๆ ก็มาแจม DVD ฉบับปฐมฤกษ์ด้วยแล้ว ขออนุญาต ฝากกระทู้เล่าถึงหลักการการลงทุนในหุ้น"ถูก" ด้วยนะครับ ก้าวแรกสู่การลงทุนแบบ VI : ลงทุนอย่างจอห์น เนฟฟ์ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8629909/I8629909.html จากคุณ : Idiopathic เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:38:25

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีครับคุณ Idiopathic   คห.34 เขียนได้ดีมากๆครับ นี่ถ้าผมมีโอกาสได้ซื้อหุ้นที่ "ยอดเยี่ยม" ในราคาที่ "แสนถูก" แล้วถือมันไปตราบจนผมตาย >< 555  มันเป็นความคิดของคนไร้เดียงสาน่ะครับ อย่าได้ใส่ใจ ^^ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 12:55:13 จากคุณ : ผมก็พูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับ (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:52:47

ความคิดเห็นที่ 37 Winkung  อย่ากลัวที่จะฝัน  และอย่ากลัวคำเยาะเย้ย keep walking  ครับ   จากคุณ : เจ้าชายชาเย็น เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 13:08:00

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ จดยังไง ขี้มูกโป่งเลย  วุ้ย >< จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 13:30:17

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่ได้ชมว่าสวย  จะอายไปทำไม - -" จากคุณ : วัยรุ่นเซ็ง (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 13:35:24

ความคิดเห็นที่ 43 ช่วงนี้เป็นช่วง "ก่อนบ่าย คลายเครียด" ทุกท่านจะได้พบกับ สองนักลงทุนผู้มากไปด้วยความ "ไร้สาระ"  แป่ว - -" จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 13:44:11

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ ^ ออกทะเลทั้งคู่ จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 13:46:16

ความคิดเห็นที่ 46 ขอมีส่วนร่วม ในกระทู้ ปฐมฤกษ์ ด้วยนะครับ ---- ถ้าจะมาทาง สายนี้ ก็ต้องไป ศึกษา ชีวประวัติและผลงานของ Benjamin Graham v v Philip Fisher v v Warren Buffet คนสุดท้าย  นี่คือเพชรแท้ ที่ผ่านการเจียรนัยอย่างประณีต จาก  ปรัชญาการลงทุน ของ บุคคลสองท่านแรก จริงๆ ทางสายนี้ คือ Fundamental Analysis นะครับ VI หรือ Value Investor คือ คำที่เรียกกันเอง สำหรับการลงทุน สไตล์นี้ ในหมู่คนไทย ถ้าจำไม่ผิด คนที่เริ่มต้นใช้คำนี้ คือ ดร.นิเวศน์ นั่นเอง ----- คำเตือน ทางสายนี้ ไม่ได้ปูลาด ด้วยกลีบกุหลาบ จะมีการทดสอบ แนวคิด ความรู้ และ สภาวะจิตใจ เป็นระยะๆ จากสภาพ ความผันผวนของ ตลาด ราคาหุ้น และ สภาวะเศรษฐกิจ ทั้งภาพรวมและรายอุตสาหกรรม ตาม Cycle ของมัน  ทั้งรอบเล็กและใหญ่ --- เวลาที่ ตลาดเริ่มดี หรือ เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว (อย่างเช่นปีนี้) คนที่ ศึกษามาบ้าง แต่ไม่มากพอ หรือประสบการณ์ ยังไม่มากนัก จะไม่สามารถแยกแยะ ได้ว่า ความสำเร็จ ที่ได้มานั้น มาจาก การวิเคราะห์ที่ดีและรอบคอบ หรือ ภาวะตลาด-เศรษฐกิจ ฯลฯ มันนำพากันแน่ หรือ ปนๆ กันไป ซึ่ง ก็ไม่มีใครบอกได้ว่า ในกลุ่มคนเหล่านั้น แท้จริงแล้ว ต่างกันอย่างไร ถ้าดูจาก ผลตอบแทน เป็นปีๆ --- แต่เวลาที่ เกิดวิกฤติ เศรษฐกิจ ตลาดจะ แยก คนเหล่านี้ ออกมาให้เห็นเอง ไม่ว่าแต่ละคนนั้น จะยอมรับ หรือไม่ ก็ตาม --- คำแนะนำ เข้าให้ถึง .............วิถี อย่าไปหลงเพียง....วิธี --- ข้อเสนอแนะ นอกจากจะมองหา ข้อดี หรือ จุดแข็ง ของการเดิน บนเส้นทาง สายนี้ ส่วนที่น่าสนใจ ก็คือ อะไร คือ จุดอ่อน ในวิถีนี้ อะไร คือ ภาพลวงตา หรือ มายา ที่ทำให้บางคนหลงใหล ว่าได้เดินมาถูกทาง แต่ไม่เคยถึงจุดหมาย สักที แม้จะให้เวลา กับเส้นทางสายนี้ ...........จนตลอดชีวิต.......... ------ สุดท้าย ขอให้ทุกท่านที่เลือกเดินบนส้นทางนี้ เดินไปได้ อย่างมีความสุข ในแต่ละวัน และ ไปได้ถึง ฝั่งฝัน ของแต่ละคน ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 13:54:41

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ เขียนอ่านง่าย เข้าใจง่ายดีครับ นับถือ * มีอีกคนคือ ชาร์ลี มังเกอร์ ลองไปหาอ่านดูนะครับ =/\= จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 13:55:18

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับคุณ The Rounder     แสดงความเห็นได้ดีและแฝงแง่คิดให้ได้คิดตาม  ดีมากๆเลยครับ จะเรียกการลงทุนแนวนี้ว่าอย่างไร ... สำหรับผมแล้วผมถือว่าไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะต้องมาหาคำนิยามของมันครับ เอาเป็นว่า หากเรายึดถือหลักและนำมาปฏิบัติ แล้วส่งผลดีต่อเรา ... ผมถือว่า ประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้วครับ Fundamental Analysis คือ การวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน Value Investor คือ นักลงทุนเน้นคุณค่า ผมขอเป็น นักลงทุนเน้นคุณค่าที่ลงทุนโดยการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน  ... อย่างนี้ ดีไหมครับ ? อิอิ ------------------------------------------------------------------------- ไม่อยากให้มองว่าการลงทุนแนว VI จะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะผมเชื่อว่า การลงทุนด้วยแนวทางอื่น ก็สามารถพูดว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบได้เช่นเดียวกัน ... ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเป็นหลัก บททดสอบ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคัดแยก และเลือกสรรนักลงทุนผู้อยู่รอด ให้ก้าวเดินต่อไป มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ  อันนี้ผมเห็นด้วย จุดดีของการลงทุนในแนวนี้คือ อย่างน้อย ก็ช่วยให้นักลงทุน "เบาใจ" ได้ว่า บริษัทที่ตนเลือกลงทุนนั้น ได้ผ่านการศึกษาข้อมูลด้านพื้นฐานทั้งในแง่คุณภาพและ ความสามารถมาบ้างพอสมควร สิ่งนี้จะช่วยให้เรามี "หลักยึด" ในเวลาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันครับ อย่างไรก็ตาม  การลงทุน ไม่ว่าจะด้วยแนวทางใด ย่อมต้องมีความเสี่ยงควบคู่มาด้วยเสมอ สำหรับผม ณ ตอนนี้ จึงขอเลือกลงทุนในหุ้นที่ผม "สามารถ" ทำความเข้าใจในตัวบริษัทนั้นๆได้ โดยมากจะไม่เป็นธุรกิจที่ใหญ่โต  ไม่มีบริษัทร่วมยิบย่อยมากมาย เพราะผมประเมินตัวเองได้ว่า ผมไม่มีความสามารถมากมายขนาดนั้น ผมจึง "พอใจ" ที่จะเริ่มต้นลงทุนกับหุ้นในธุรกิจขนาดเล็ก ถึงปานกลาง เพื่อการเฝ้าติดตามของผม จะได้ทำได้ง่ายมากขึ้น  ... ผมถือว่าเป็นการลดความเสี่ยงได้อีกทางหนึ่ง ยกเว้น หุ้น CPF ที่อาจจะอยู่นอกหลักเกณฑ์ไปสักหน่อย แต่เพราะว่าผมถือว่า ผม "ขึ้นหลังเสือ" ไปแล้ว  ดังนั้น ... ร้อยละ 70% ผมคงต้องหวังพึ่งความสามารถของท่านผู้บริหารแล้วครับ   ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ ............................ ปล. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 14:12:12 จากคุณ : แชร์มุมมองครับ (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 14:04:56

ความคิดเห็นที่ 49 ชาลี มังเจอร์ เป็นคู่หูวอเรน บัฟเฟตต์ เป็นคนที่สอนให้วอเรนรู้จักdurable competitve advantage และในที่สุดวอเรนก็เลิกใช้สูตรเกรแฮม(แบบเป๊ะๆ) วอเรนจึงกลับไปใช้ลูกผสมแทน ชาลีนับว่าเป็นสุดยอดนักลงทุนอีกคนครับ แต่ถ้าเป็นนักลงทุน ผมชอบ Icahn มากกว่าครับ Corporate Raiderเลย(แต่เค้าให้เรียกว่า Activist Investorแฮะ) ประเภทซื้อบริษัทที่ต่ำกว่าราคาตลาด โหวตให้แยกขายบริษัท แล้วเอาเงินมาจ่ายผู้ถือหุ้น...แล้วบริษัทนั้นก็มลายไป อิอิ....ไม่ใช่แนววอเรนครับ จากคุณ : clientuser เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 14:16:14

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาเป็นกำลังใจ และคอยสนับสนุนอยู่นะครับ :) ด้วยความเคารพครับ :) จากคุณ : nuchnin เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 14:39:39

ความคิดเห็นที่ 51 ขอขอบคุณสำหรับคุณคนจนฯ และทุกท่านที่ทำให้เกิดกระทู้ดี ๆ แบบนี้ค่ะ ขอขอบคุณสำหรับทุกความรู้-ความเห็นที่ทุกท่านนำเสนอด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้ชาว VI ทุกท่านค่า จากคุณ : รอมานานแร้นนนนน (Jarranai) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 15:47:52

ความคิดเห็นที่ 52 daily สะกดงี้เด้อ ^^ จากคุณ : zylinz เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 15:55:52

ความคิดเห็นที่ 53 ^ ^ ไปแซวเขาอีก   จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 16:01:15

ความคิดเห็นที่ 54 ขอแอบอ่านเจ้าค่ะ ...Thanks. จากคุณ : ไม่ใช่ นัก VI ค่ะ (dawreung51) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:17:57

ความคิดเห็นที่ 55 ใคร  ใคร  ก้อ  บูชา  วอเรน บัฟเฟตต์ อ.สิปกร มั่งดิ     เอิ้กกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:20:02

ความคิดเห็นที่ 56 หรือ ดร.นิเวศน์   อ่ะ จากคุณ : ไทย นิยม ไทย ค่ะ (dawreung51) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:21:28

ความคิดเห็นที่ 57 #52 จริงๆใช้ Daili ก็ดีนะครับ(ส่วนตัวชอบนะครับ) เป็นการbrandingกลุ่มไปในตัว แบบว่าไม่เหมือนใครดี จากคุณ : clientuser เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:28:36

ความคิดเห็นที่ 58 ผมนิยมคนเก่งและคนดีครับ ไม่เกี่ยงชนชาติ จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:29:44

ความคิดเห็นที่ 59 ขอแสดงความยินดี กับ กระทู้ DVD ฉบับปฐมฤกษ์ค่ะ..... จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:40:44

ความคิดเห็นที่ 60 แอบเห็นหนังสือที่คุณคนจนที่อยากรวยหาค่ะ เข้าไปในเวบสำนักพิมพ์ บอกว่าหมดแล้วแต่มีตัวอย่างให้อ่านค่ะ ลองเข้าไปดูตามนี้นะคะ (จะโดนลบข้อความไหมเนี่ย) http://books.google.com/books?id=suCD5NUSFRcC&lpg=PP1&pg=PA34#v=onepage&q=&f=false จากคุณ : superbox3 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 19:11:06

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาศึกษาด้วยคนครับ จากคุณ : คุณหนูพีพี เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 19:36:13

ความคิดเห็นที่ 62 Grand Opening จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 19:38:46

ความคิดเห็นที่ 63 .. จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 19:40:50

ความคิดเห็นที่ 64 สวัสดีครับ เข้ามาให้กำลังใจกระทู้ดีๆ แบบนี้ครับ :D จากคุณ : Kamen Rider Agito เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 20:13:10

ความคิดเห็นที่ 65 ยินดีกับกระทู้คุณค่าอันทรงคุณค่ากับสมาชิกทุกคนครับ จากคุณ : เทพบุตรเขาหวงซาน เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 20:25:39

ความคิดเห็นที่ 66 Daili VI Discussion ...... very very good จากคุณ : goldengun (เด็กเลี้ยงไม้) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 20:45:25

ความคิดเห็นที่ 67 ว่าแต่วันนี้จบแล้วหรอครับ (สำหรับหัวข้อนี้) จากคุณ : สวัสดีครับ... (มิ่งกลิ้ง) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 20:48:02

ความคิดเห็นที่ 68 มาขอเจิมกระทู้ด้วยคนค่ะ หลายๆ ความเห็น ให้ข้อคิดดีมากเลยค่ะ จากคุณ : ณกานต์ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 21:54:14

ความคิดเห็นที่ 69 ขอเข้ามาเป็นส่วนนึงในวันเปิดตัวกระทู้ DVD ด้วยครับ จากคุณ : เที่ยวไปสะพายเป้ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 21:58:09

ความคิดเห็นที่ 70 ไม่สบาย admit กันยกครัว เลยเงียบหายไปหน่อย ตอนนี้หลับกันหมดแล้วด้วยความอ่อนเพลีย มารายงานตัวลงเสาเอกไว้ก่อน ว่ากันต่อไป ยังไงก็ขอแจมด้วยคน cpf fan : ถ้ามีเวลา และ โอกาสก็จะตั้งเป็น วัน ๆ ไป จากคุณ : คิดดี ทำดี ได้ดี (kloomjai) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 23:29:48

ความคิดเห็นที่ 71 จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 23:43:28

ความคิดเห็นที่ 72 คุณภูมิทัศน์กลับมาจากเที่ยงคงดีใจ ที่เห็นกระทู้ได้โหวตเป็นกระทู้แนะนำ ^^ จากคุณ : กระทู้ปฐมฤกษ์สำเร็จไปด้วยดี (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 00:14:18

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ superbox3 ขอบคุณสำหรับเรื่องหนังสือนะฮะ คุณ kloomjai ช่วงนี้อากาศแปรปรวน รักษาสุขภาพและขอให้หายป่วยเร็วๆนะฮะ จากคุณ : Discovery (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 01:01:50

ความคิดเห็นที่ 74 Wow.     เปิดตัว DvD. วันเเรกผู้คนล้นหลาม จากคุณ : tua_tuanoi เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 02:45:25

ความคิดเห็นที่ 75 DVD วันจันทร์ ผมจะเปิดประเด็นเรื่อง   " หุ้น VI  &  หุ้นที่ลงทุนด้วยแนว VI " คำจำกัดความที่ต้องทำความเข้าใจกันใหม่   จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 11:47:00

ความคิดเห็นที่ 76 แรงจูงใจของเจ้าของ http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/11/I8552927/I8552927.html ชีวิตชีวาของหุ้น http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/11/I8536408/I8536408.html จินตนาการกับการลงทุน http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/11/I8529895/I8529895.html สไตล์ของนักลงทุน http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/11/I8500525/I8500525.html ทำน้อยได้มาก http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8473276/I8473276.html เข็มทิศการลงทุน http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8471497/I8471497.html บัญญัติ 10 ประการสำหรับนักลงทุน http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8464112/I8464112.html บทเรียนหลังวิกฤต http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8449685/I8449685.html เศรษฐกิจกับตลาดหุ้น http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8424303/I8424303.html วิถีมหาเศรษฐี http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8419592/I8419592.html Cash Is King http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8419268/I8419268.html มองไปข้างหน้า http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8417041/I8417041.html Perfect Storm-Perfect Stock http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/10/I8416152/I8416152.html จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 12:09:17

ความคิดเห็นที่ 77 เห็นหัวข้อ DVD นึกว่าจะมีแจกแผ่นซะอีก ^^ จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 13:21:40

ความคิดเห็นที่ 78 เข้ามาดู DVD ค่ะ ... จากคุณ : ฟองเต้าหู้ในน้ำซุป เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 15:46:14

ความคิดเห็นที่ 79 เข้ามาตามอ่านครับ ได้ประโยชน์มากเลยครับ จากคุณ : luckydog2 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 16:00:49

ความคิดเห็นที่ 80 #52  k.zylinz ขอโทษด้วยครับ  ตอนนั้นรีบพิมพ์ไปหน่อย  เพื่อน(สนิท)ก็โทรมาเร่งอยู่  เหงื่อตกเลยเรา = ="   อายมากๆ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว   #72  k.คนจนที่อยากรวย  แปลกใจมากกว่าครับ  ไม่คิดว่าจะมีพี่ๆ VI เยอะขนาดนี้  + ต้องขออถัยด้วยนะครับ . . *******ใครที่เพิ่งเข้ามาอ่าน ขอรวบรวมแนวคิดของเหล่าพี่ๆ VI ไว้ตาม คห. ต่อไปนี้นะครับ ********* #5  คุณคนจนที่อยากรวย -->  เป็นแนวคิดที่เน้นไปที่บริษัทครับ #14 k.waroncom --> เป็นแนวคิดที่ผมใช้อยู่ครับ #18 พี่ 4 a & 4 j --> แนวคิดของพี่ VI ที่ตกผลึกแล้วครับ อ่านแล้วคิดตามเยอะๆนะครับ แล้วพี่มีแนวคิดในการเลือกกิจการที่พี่จะลงทุนอย่างไรบ้างครับ? #27 k. มิ่งกลิ้ง & #29 -->  ขอบคุณมากครับ  ราคาที่บอกว่าถูกนั้นก็คือ ราคาณ. ตลาดปัจจุบัน  เทียบกับราคาแท้จริงที่เราประเมินได้ อย่างเช่น ถ้าแบบง่าย ก็คือ ค่า PE(คาดการณ์)xEPS(ในอนาคต ที่รวมการเติบโตแล้ว)  หรืออย่างเช่น คิดจากอัตราผลตอบแทนที่ต้อง หรือ คิดจาก งบกระแสเงินสด และอื่นๆ ครับ #30 พี่เล่นรอบ --> ไว้หลังจากผมศึกษาแนวคิดนี้จนเข้าใจแล้วอาจจะมาตั้ง DVD เกี่ยวกับหลักการของ Peter Lynch กันนะครับ (แอบเห็นด้วย ><) #34 พี่ Idiopathic  --> ขอบคุณมากครับ พี่ VI ที่ผม(แอบ)เคารพ ^^ พี่ยังคงพูดได้เข้าใจง่าย  ครอบคลุม กระชับ ขอบคุณมากครับ ผมอยากถามพี่หน่อยครับว่า  ถ้าตัวผมอยากจะเป็นนักลงทุนทั้ง 2 แบบนี้ จะมีโอกาสทำได้รึเปล่าครับ   (อย่างใน port ผมก็จะแบ่งออกเป็น หุ้นตามแนวคิดแบบ Great company กับหุ้นที่คาดว่าจะเติบโตได้ในช่วงระยะสั้นๆ ผสมกันอยู่ครับ ตามแต่โอกาส ตลาดเกิด panic sell) #46 พี่ The Rounder  -->  ขอบคุณมากครับสำหรับประสบการณ์อันล้ำค่า  และแนวคิดที่ดีมากๆ จริงกับประโยคนี้ "ส่วนที่น่าสนใจ ก็คือ อะไร คือ จุดอ่อน ในวิถีนี้ อะไร คือ ภาพลวงตา หรือ มายา " เก็บเอาไปคิดกันเยอะๆนะครับ  แนวคิดดีๆไม่ได้มาบ่อยๆ และมีค่ามากจริงๆ (สำหรับบางคนมันอาจจะมีมูลค่ามากกว่าสิบล้านก็เป็นได้) #48 คุณคนจน --> ขอบคุณมากครับ สำหรับคำขยายความ  ส่วน CPF นี่ขอแอบแซวหน่อยนะครับว่า  ถ้าขึ้นหลังเสือไปแล้ว ก็ลงได้นะครับ อิอิ #75 คุณคนจน --> เห็นด้วยครับ  เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังมีคนเข้าใจผิดกันอยู่มากทีเดียว . . ความเห็นอาจจะยาวไปหน่อย แต่อยากให้ผู้ที่มาทีหลังไม่ตกหล่น สิ่งสำคัญไปครับ . . ที่แตกกระทู้มาก่อน พอดีคำถามนี้ เป็นคำถามที่ผมอยากรู้มากๆ  เพราะตัวเราก็ยังไม่แน่ใจในแนวคิดของตัวเองเท่าไร เลยต้องขออนุญาตชิงถามซะก่อน  แหะๆ ปล.  ขอบคุณมากครับ  หลังจากที่ได้อ่านความเห็นของพี่ๆ หลายท่านแล้ว ทำให้เหมือนได้ฉุกใจคิดอะไรสักอย่าง  ขอบคุณมากจริงๆครับ ปล2.  แอบหวังไว้ว่าเพื่อนๆที่ได้อ่าน  จะได้แนวคิดอะไรกันไปบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:36:28

ความคิดเห็นที่ 81 เอรูปหาย  แปะรูปก่อนไปกินข้าวว (ทำไมพอ preview แล้วไฟล์รูปที่จะโพสมันหายล่ะเนี่ย -*-) จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:38:45

ความคิดเห็นที่ 82 หากจะ post รูป   ต้องห้าม preview ครับ ^^ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:49:06

ความคิดเห็นที่ 83 เเวะ ทักทาย + ขอบคุณ ท่านยามเทพ VI เเห่งสินธร คุณคน(ไม่)จน(แล้ว)ที่อยากรวย(อีก)ครับ ขอบคุณมากครับ ^^ จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 20:25:17

ความคิดเห็นที่ 84 ชายกลางกับครูกุ๊ก http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8678551/I8678551.html จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:48:16

ความคิดเห็นที่ 85 เพิ่มเติมความเห็นจาก  กูรูท่านอื่นๆ ครับ คุณ i_satut  จาก THaiVI . . "VI ก็ลงทุนในหุ้นหลายประเภท เพราะ VI คือนักลงทุนที่รู้มูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นนั้นๆ Growth Value ก้นบุหรี่ สามารถลงทุนได้หมด ไม่ได้แบ่งแยกว่าต้องซื้อแต่หุ้นถูกๆเท่านั้น - Growth Stock PE สูงแต่ e โตไปเรื่อยๆ ทำให้ราคาเหมาะสมมันก็ขยับไปเรื่อยๆ ถือกินยาวๆ - Value Stock ราคาหุ้นต่ำกว่าที่เราคิดว่าเหมาะสม เราก็ซื้อไว้รอราคามันขึ้นมาจนพอใจก็ขายเท่านั้นเองครับ ระหว่างที่รอก็ได้ปันผลมาเป็นน้ำจิ้มไปก่อนด้วย เพราะส่วนมาก PE ต่ำๆ มาพร้อม Dividend สูงๆ ผลตอบแทนของหุ้น 2 ประเภทนี้ผมว่าเอามาวัดกันตรงๆไม่ได้ อยู่ที่ว่าเราซื้อได้ถูกตัว และถูกจังหวะรึเปล่าครับ  " . . คุณ moonchild  จาก THaiVI . . ผมขอคิดแบบพี้นๆนะครับ เพราะความรู้ไม่ค่อยมี   ผิดถูกประการใดติงได้นะครับ แต่ละคนแต่ละแนวทาง แต่ละคน แนวคิดก็เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ แต่ถ้าเค้าคิดว่าเค้าเป็น VI ก็คือ VI ครับ ฺ Benjamin graham เล่นหุ้นก้นบุหรี่ peter lynch เล่นหุ้นหลายๆแบบ โต้ช้า โตเร็ว วัฎจักร ฟื้นตัว อื่นๆ warrent buffet หุ้นพื้นฐานดีมาก และถือให้นานที่สุด ทั้งๆที่แนวคิดทั้งสามคนก็คนละแบบ แต่เค้าก็เรียกตัวเองว่า VI ครับ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนิยามของ วีไอให้มองหุ้นที่พื้นฐานของธุรกิจเป็นหลัก คนที่เล่นกราฟก็ให้ดูแนวโน้มกราฟ คนที่เล่นฟันโฟลวก็มีมุมมองในเรื่องการโยกย้ายสินทรัพย์จะส่งผลต่อราคาสินทรัพย์ (แอบลอกข้อความในบล็อกคุณฮงมานะครับ  ) ส่วนเรื่องรอง ก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนครับ . . คุณ ส.สลึง  จาก THaiVI  เช่นกันครับ ผมมอง VI ต่างไปครับ   เพราะ VI ไม่ใช่คณิตศาสตร์ การที่นักลงทุนคนนึง จะประเมินมูลค่าหุ้นได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า... จะเป็น VI ที่ดีได้ ในขณะเดียวกัน VI ก็ไม่ใช่เครื่องมือ ที่จะเอาไปใช้แบบเครื่องมือของ Technical . . "แต่ VI เป็นปรัชญาครับ" อ่านของคุณ ส.สลึง แล้วรู้สึกโดนมาก  เหมือนที่ผ่านมาเราลืมอะไรไปบางอย่าง . . . ก็ไม่รู้ว่าจะถูกต้องกันรึเปล่า  ถือว่าแชร์ๆความคิดเห็นกันแล้วกันครับ ขอบคุณกระทู้นี้ช่วยเปิดมุมมองของเราอีกด้านครับ จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:49:28

ความคิดเห็นที่ 86 งั้นกระมู้ DVD ผมก็เชลียร์น้องทาโร่ ไม่ได้อ่ะดิ จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 23:03:13

ความคิดเห็นที่ 87 คุณ ภูมิทัศน์ ครับ เท่าที่ผมทราบแม้แต่ดร. เอง ท่านก็ลงทุนทั้งสองแนวนะครับ ทั้งแนว"ถูก"และแนว"ยอดเยี่ยม" ถามว่าจะลงทุนทั้งสองแนวได้หรือเปล่า คำตอบก็คือแล้วแต่ความถนัดล่ะครับ ส่วนตัวมองว่าแนวถูกนี่ไม่น่าจะยากนะครับ ใครๆ ก็น่าจะพอลงทุนแนวนี้ได้ ขอแค่มีทักษะเรื่องการอ่านงบการเงินอยู่บ้าง แต่ที่ตัวเองคิดว่ายากคือแนวยอดเยี่ยมครับ ผมมองว่ามันต้องใช้ความรู้ความเข้าใจหลายๆอย่าง และต้องมอง"เมกาเทรนด์"ของสังคมให้ออก ส่วนตัวผมก็ยังทำกับแนวยอดเยี่ยมได้ไม่ดีครับ ผลตอบแทนในปีที่ผ่านมา ผมทำกับหุ้นถูกได้ดีกว่าหุ้นยอดเยี่ยมมากเลย จากคุณ : Idiopathic เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 23:07:04

ความคิดเห็นที่ 88 ถึงคุณ Duckcovery เชียร์ได้ครับ ตามกฎข้อที่ 1. นั่นคือต้องมีข้อมูลพื้นฐานประกอบ ซึ่งผมคิดว่า คุณ Duckcovery ทำได้อยู่แล้วครับ ^^ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 23:32:21

ความคิดเห็นที่ 89 Daily VI Discussion (DVD 2) กระทู้การลงทุนแนวเน้นคุณค่า ประจำวันที่ 21/12/19 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 07:54:45