ความคิดเห็นที่ 1 ทำจายครับ รายยุ่ยอย่างเราทำไรได้ ผมว่า volume เขาก็เยอะนะวันๆหนึ่ง ไม่รู้โยนกันกี่ไม้ จากคุณ : palm_ins (palm_ins) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:27:42

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนนี้   อยากได้ เป็นพวกค่ะ  ....  มาช่วยดัน ดัน แล้วก้อ ดัน ไปแฮงๆ หน่อยค่ะ   ใช่สิ....คิดจะฆ่า กันอย่างเดวเลย ใช่มะ  พี่ป้อบอายยยยยยย จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:31:48

ความคิดเห็นที่ 3 พี่ดาว  อยากให้ มานดันเหมือนกัน  แต่กลัวมันจะหักหลัง อยากให้มันทำไร มันทำตรงข้ามทุกที อีปอป อีปอป  วันจันทร์ ทุบนะ  (มันจะได้ดัน)  สลับๆ ไปๆ มาๆ  งง 5555 จากคุณ : kamung6 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:34:04

ความคิดเห็นที่ 4 Prop Trade พวกนี้เล่นสั้นมากๆครับ lock-in profit และ cut loss กันเป็นรายนาที ว่ากันไม่ได้ครับ อาชีพใครอาชีพมัน ถ้าเราไปนั่ง trade แบบเขา คิดว่าคงทำไม่ต่าง ... ผมเห็นใจพวก Prop Trade เหมือนกันเวลาโดนด่าเยอะๆ ส่วนตัวผมรังเกียจคนคุมกฏมากกว่า พวกนี้ใช่ว่าไม่รู้ปัญหา แต่คิดว่าคงไม่มีปัญญาเพียงพอในการคิดกรอบมาจำกัด Prop Trade เพื่อสร้างสมดุลในตลาด ... จากคุณ : โกโก้ (Elliott Theorist) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:42:59

ความคิดเห็นที่ 5 Proprietary trading เดิมทีเอาไว้เสริมสภาพคล่องให้กับตลาด แต่ปัจจุบัน Proprietary trading กลายเป็นหนึ่งในแหล่งที่สร้างรายได้ให้กับ Broker อนาคต...หลังเปิดค่า  commission เสรี Proprietary trading จะกลายเป็นหนึ่งในรายได้หลักของ Broker อนาคตจากนี้ หุ้น Big Cap จะเล่นเก็งกำไรยากขึ้น .... คิดง่ายๆ ซื้อ Pttep 500,000 หุ้น @ 140  บาท ใช้เงินทุน 70,000,000 บาท ต้องรอขายที่ 500,000 หุ้น @ 141 บาท และได้กำไรเพียง 124,162.50 บาท ขณะที่ commission 0.25% + VAT = 375,837.50 บาท แต่ถ้าขายที่  500,000 หุ้น @ 140.50 บาท จะขาดทุน 125,168.75 บาท แต่  Proprietary trading กลับสามารถทำกำไรได้แล้วที่  140.50 บาท ... ถ้าตลาดยังไม่เปลี่ยนกฎเกณฑ์ จากนี้ไป... หุ้น Big Cap เหมาะสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว...สำหรับรายย่อย ต่อไปรายย่อย จะหันไปเก็งกำไรในหุ้น  Mid Cap & Small Cap ซึ่งถ้าติดตามดูดีๆ ตลาดปัจจุบันนี้   ก็อยู่ในสภาพดังที่กล่าวแล้ว จากคุณ : :: jeep&joule :: เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 18:11:18

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับ คห.5 ค่ะ   วางแผนไว้ ปีหน้า   จะ ทำการบ้าน หุ้นตัวกลาง ให้มากๆ   และเล่นตัวพวกนี้ล่ะ ทำรายได้ ไป ค่ะ  ส่วนตัวเล็ก   เล่นเฉพาะหน้า   แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 18:17:38 จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 18:16:46

ความคิดเห็นที่ 7 กฎเป็นไง ก็เล่นไปแบบนั้นครับ ไม่ซีเรียส ถ้าเราจะอยู่ให้รอด ยังไงก็ต้องเล่นด้วยเงื่อนไขทุกๆแบบได้ เช่นรู้ว่า อีป๊อบเล่นสั้น ถ้าเราเล่นสั้นแล้วเราเสียเปรียบ เราก็ต้องเลื่อนไปเล่นที่เราได้เปรียบหน่อย trend following คงต้องเลื่อนไปเล่นที่ time frame ใหญ่ขึ้น ไม่งั้น โดนอีป๊อบลงเลื่อยสองมือ เสียขาทั้งขึ้นทั้งร่อง ^^ จากคุณ : DARINGYOUSENDMEHOME เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 18:31:01

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนแรกก็รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่างจากเดิมนะ ผมเล่นมานานแล้วตอนนั้นเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่แน่ใจว่าต่อไปกลุ่มไฟแนนซ์จะเปลี่ยนไปหรือเปล่า เห็นกลัวกันจัง แบบว่าโบรคเก่งใช่ปะ ถ้าโบรคเล่นแล้วกำไรทุกวัน เราก็เลือกมาซักตัวถือลงทุนซะเลยดีมั้ยเนี่ย ^^ จากคุณ : greenstock เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 18:46:58

ความคิดเห็นที่ 9 ++++ นักลงทุนที่คิดจะเล่นรายวันคงยากขึ้น เพราะต้องจ่ายค่าโบรค+vat ทั้งขึ้นและล่อง(กำไร/ขาดทุน) ขณะเดียวกันเขาจ่ายแค่ค่าvat เพียงอย่างเดียว อีกหน่อยรายย่อยน่าจะหดหายจากตลาดเร็วขึ้นกว่าเก่า ++++ จากคุณ : ลุค เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 19:05:35

ความคิดเห็นที่ 10 หมาเห่าใบตองแห้ง ผมโวยวายไม่รู้กี่รอบถึงความอยุติธรรม สุดท้าย ก็แค่หอบ แห่ะ แห่ะ จากคุณ : เย่หยงเทียน เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 19:46:46

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนอยากให้หุ้นขึ้นก็ขอให้อีปอบมาดันหน่อย รักอีปอบตรงเนี๊ย กร๊ากกกกกกกกกกกก จากคุณ : เอกาก้า เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 20:49:15

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าพวกเล่น เดย์น้อยลง ก็น่าจะเป็นผลดีกับตลาดใช่ไหมครับ ( และพวกโบรคก็น่าจะมีรายได้น้อยลงด้วยหรือเปล่า ) จากคุณ : palm_ins (palm_ins) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 20:52:04

ความคิดเห็นที่ 13 ความเห็นผม คือไปเล่นหุ้นที่ Market Cap ใหญ่ๆครับ ที่พวกปอบดันทุบยากๆ ทุบช่องนึง ใช่เป็นสิบๆ ร้อยๆล้าน  พวกนี้ปอบคงไม่สน อย่างที่ คห. บนๆพูดครับ ว่าเล่น time frame ให้ใหญ่ขึ้น  ซึ่งตรงนี้ถ้ารายย่อยเข้าใจ ไม่เก็งกำไรกันรายนาทีตาม อีกหน่อย ก็ลากยากขึ้นไปเองครับ ถ้ารายย่อยลงทุนเป็นรอบกลางๆ หรือเป็น VI กันเยอะๆ ก็พวกปอบก็อยู่ไม่ได้แน่นอนครับ จากคุณ : เม่าอยากรวย เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 21:47:21

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณพี่The Rounder   มั๊กมากค่ะ  ที่มาเปิดอกคุยให้ฟัง อ่านแล้ว ทำให้ เกิด ความคิดอะไร บางอย่างขึ้นในหัวทันที ..... I SEE........ทำนองนั้นอ่ะ    อืมส์.............. จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 23:08:42

ความคิดเห็นที่ 19 กิ๊ฟ  หมดตั้งแต่ต้นเดือนค่ะ     เอานี่ไปนะคะ ..................     ให้คุณพี่The Rounder ค่ะ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 23:10:23

ความคิดเห็นที่ 20 คห.11     ช่ายเลยค่ะ   คุงพี่เอกาก้า       55+ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 23:12:32

ความคิดเห็นที่ 21 ดีแล้วครับ ช่วยสภาพคล่อง ทำให้รายย่อยเป็นมืออาชีพมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 10:19:40 จากคุณ : nunkasho เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 23:52:59

ความคิดเห็นที่ 22 ท้าทาย ระคน ลังเล จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 00:47:18

ความคิดเห็นที่ 23 P. rounder ขอบคุณมากครับ ที่นำข้อมูลดีๆ มาเล่าครับ ............ ส่วนตัวผมเอง ผมว่า  หาก เทรดแบบฟรีได้ ผมคิดว่า มีผลทำให้ วอลุ่ม เทียม ๆ  เกิดขึ้นได้มากทีเดียวครับ สมัยนึง ที่ มีการ ให้เทรดแบบ ไม่เสียคอม กับรายย่อย ผมเอง ก็ เทรด สนั่นเลย มองแบบสั้น ๆ  รายนาทีเลยครับ หากซื้อ แล้วไม่ยอมวิ่งต่อ ไม่กี่นาที ผมก็ ยอมขายคืน ราคาเดิมที่ซื้อมา ผมก็จะไม่เสียหายอะไรเลย แต่ หาก ตัดสินใจช้า ราคาไหลลง ต่ำกว่า ราคาซื้อ ประการหลัง แน่นอนว่า มี ส่วนขาดทุน เกิดขึ้น หาก ขาย ตรงราคาต่ำกว่าที่ซื้อครับ การเทรด แบบคอม ฟรี ทำให้มีการไล่ราคากันขึ้นไปง่ายๆ   แบบว่าผลัดกันซื้อ ผลัดกันขาย แต่ทำให้ ราคาสวิงขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ ทั้งๆ ที่ ใช้เงินจริงๆ  ไม่เท่าใดนักครับ นี่คือ เกิด วอลุ่มเทียม   ช่วยกันปั่น ขึ้น ๆๆ   แล้ว ก็ ค่อย ๆ หยอดขาย ได้ ทุก ราคา ในวันถัดๆ ไป ได้เช่นกัน จากคุณ : samsam เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 10:16:32

ความคิดเห็นที่ 24 เอางี้นะ เทรดเฟกไม่เสียคอม โอกาสขาดทุน 10 % เทรดเฟกไม่เสียคอม โอกาสกำไร 110 % 0.010 จุด  ก็ถือว่ากำไร ย่อยมีต้นทุน  1.00 จุด เทรดให้ตายไง ๆก็เจ๊ง  อย่างน้อยก็เจ๊งค่าคอม จากคุณ : NIKKEI_NIK เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 10:18:29

ความคิดเห็นที่ 25 เทรดเฟกไม่เสียค่าคอม ผมฟันธง ยังไง ๆ เล่นหมดวัน ก็กำไร เทรดยังไงก็กำไรอ่ะ ยิ่งเทรดแบบ รายวินาที ยิ่งกำไร จากคุณ : NIKKEI_NIK เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 10:21:05

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่มีปัญหา มีก็มีไป รายย่อยก็ปรับตัวไป เล่นไม่ไหวก็เลิกกันไปเอง จากคุณ : thrill เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 11:11:25

ความคิดเห็นที่ 27 ขอให้ไปอ่านกระทู้นี้ครับ http://74.125.153.132/search?q=cache:t9i_xtGaFBAJ:www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8551276/I8551276.html+inori+การทำงานของ+proprietary&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th ผมโพสมาหลายทีแล้ว แต่ก็ยังมีคนไม่เข้าใจ จากคุณ : Inori เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 11:17:31

ความคิดเห็นที่ 28 อ้อ อีกอย่างหนึ่งคือ  proprietary trading มีมาตั้งนานแล้ว และการทำงานก็โปร่งใสมาตลอด แต่หลายคนเพิ่งจะมารู้จักก็ตอนหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเอามาลง ซึ่งผมมั่นใจว่าคนเขียนก็ไม่ได้รู้เรื่องของ prop. trade จากคนที่ทำงาน prop trade แต่ใช้การคิดเองเออเองครับ ผู้อ่านต้องมีวิจารณญาณบ้าง จากคุณ : Inori เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 11:20:21

ความคิดเห็นที่ 29 K. Inori ขอบคุณมากครับ เรื่อง Prop. Trade Prop. Trade เปรียบไป ก็ เหมือนรายใหญ่รายนึง นั่นเอง แม้จะต้องเสียค่าคอม ก็ เพียงเล็กน้อย  เช่นเดียวกับ รายใหญ่นั่นเอง ส่วนค่าใช้จ่าย ที่แต่ละโบรก ต้องเสียให้ทาง ตลาดหุ้น และ ตลาด ฟิวเจอร์นั้น ไม่ว่ารายใหญ่ หรือรายย่อย ก็ ต้องจ่าย ส่วนนี้ ให้ทางตรงด้วยเช่นกัน เพราะได้รวมอยู่ในค่าคอมที่จ่ายไปแล้วนั่นเอง  เป็นส่วนที่ไม่ได้แจงออกมาให้ชัดเจนเท่านั้น จากคุณ : samsam เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 13:37:00

ความคิดเห็นที่ 37 ท่าน The Rounder ....30...... คำถามของพี่ น่าคิดครับ หาก คนที่เล่นยาว ๆ   อะไรที่จริงหรือ เทียม ก็ไม่มีผลกระทบ ใดๆ ทั้งสิ้นใช่ไหมครับ คนที่เล่นสั้น ๆ   รวมถึง day trader เท่านั้น ที่จะมีผลด้านลบ ทำให้ รู้สึก ดีใจ เมื่อกำไร   หรือ เสียใจ เจ็บใจ เมื่อต้องขายขาดทุนรายวัน ทั้งๆ ที่ จริง แล้ว  นลท  หลาย ๆท่าน ก็มีเงินจ่าย ไม่จำเป็นต้องเล่นรายวันเลย ขอบคุณที่พี่ชี้แนะครับ หุ้นของผมบางตัว  แม้ สภาพคล่องน้อยๆ แต่ก็สามารถ ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาถึง จุดพีค เดิม ๆ ที่ ผม เคยขาย ได้ ในอดีตได้เช่นกัน ดังนั้น เรื่องวอลุ่ม จริงหรือเทียม ไม่น่าที่จะไปสนใจ อันใดเลย จากคุณ : samsam เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:35:56

ความคิดเห็นที่ 38 ขอเสนอความเห็นด้านค่าคอมที่ว่า prop. trade ได้เปรียบให้ดูนะครับ ผลของการเทรด 1 ช่อง แบ่งออกได้ 3 แบบใช่มั้ยครับ คือ 1. ได้กำไร 1 ช่อง 2. เท่าทุน 3. ขาดทุน 1 ช่อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น prop. trade ต้องเสียภาษี 30% ส่วนค่าคอมถึงจะเสียถูกกว่ารายย่อยก็ยังต้องจ่ายอยู่ดี สรุปคือ 1. ถ้าได้ ได้ 1x0.7 = 0.7 ช่อง + ค่าคอมนิดหน่อย 2. เท่าทุน เสียฟรีค่าคอม 3. ขาดทุน 1 ช่อง + ค่าคอมนิดหน่อย ดังนั้นการที่ได้ช่องเดียวก็โยนหรืออะไรทำนองนั้นก็แปลว่าเจ๊งแน่นอนครับ เพราะ upside น้อยกว่า down side คนที่เห็นดีเห็นงามกับการเทรดแบบนี้บอกได้เลยว่าต้องเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นแน่นอนครับ จากคุณ : Inori เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:49:41

ความคิดเห็นที่ 39 K. Inori ขอบคุณมากครับ เห็นด้วยกับ....38..... ในสภาพตลาดหุ้นที่เห็นๆ นั้น ส่วนใหญ่ หากจะวิ่ง  ก็ ต้องวิ่ง มากกว่า 1 ช่อง โดยส่วนใหญ่ ครับ ผมเองบางคราว ได้สองช่อง  ก็ยังลังเล ที่จะขายทำกำไร เช่นกัน เพราะ ผม หรือ นลท หลาย ท่าน ก็ คงมอง ส่วนต่างกำไร ไว้ ระดับนึง ซึ่งควรจะมากว่า หนึ่งช่องครับ เพราะ  หาก ได้แค่หนึ่งช่อง แล้ว ขายทำกำไร ก็คงมีเหตุผล ในการขายออกไปว่า หุ้น น่าจะแกว่ง ลงมาให้ซื้อ ในราคาที่่ต่ำลงมามากกว่าครับ ส่วนสาเหตุที่ ได้สองช่องแล้ว ไม่ขายทำกำไร ก็เพราะมองว่า หุ้นจะ มี upside gain ที่มากกว่า  ในอนาคตครับ จากคุณ : samsam เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:56:45