|
ความคิดเห็นที่ 22 |
ลุยเลยครับ ใช้ระบบ learning by doing ไม่งั้นกว่าจะรู้เรื่องคุยกันปากเปียกปากแฉะ
แบ่งเงินที่จะไว้ลงทุนในหุ้นเป็น 4 ส่วน เช่นเงิน 400,000 บาท ให้แบ่งส่วนละ 100,000 บาท สำหรับซื้อหุ้น 2 ตัวเท่านั้น รวม 200,000 บาท ที่เหลือไว้เป็นกำลังเสริม ตัวแรกจิ้มเอาซักตัวในเซต 50 เช่น PTT, SCB, ADVANC .. กำหนดเป็นหุ้น A ตัวที่สองเอานอกเซต 50 ที่มีปันผลงามๆ เช่น SE-ED, DSGT .. กำหนดเป็นหุ้น B
ซื้อหุ้น A เป็นเงิน 40% ของที่กำหนดไว้ ดังตัวอย่างคือ 40,000 บาท 1. กรณีซื้อแล้วหุ้นลง.. 1.1 ถ้าลงปล่อยไปก่อน จนมันขึ้นจากจุดต่ำสุด 5% ให้ซื้ออีก 30% 1.2 ทำดังนี้ไปเรื่อยๆ สำหรับเงิน 20% และ 10% ที่เหลือ 2. กรณีซื้อแล้วหุ้นขี้น..ก็ทำตรงกันข้ามคือ 2.1 ปล่อยให้มันขึ้นจนมันลงจากที่ขึ้นสูงสุด 5% ไปทีละครึ่งที่มี 2.2 ถ้ามันขึ้นต่อ (ทำนิวไฮ) ก็คอยดูว่ามันลงจากนิวไฮนั้นๆ อีก 5% จึงค่อยขายไปอีกครึ่งที่เหลือ
หุ้น B ที่เลือกไว้ก็ทำเช่นเดียวกันกับหุ้น A ส่วนกำลังเสริมที่เหลือ (200,000 บาท) เอาไว้ใช้ในเวลาที่เกิดวิกฤติหนักๆ เช่นวันนรก 100 จุด ก็ให้ซื้อหุ้นเดิมได้ตามอัธยาศัยตามกำลังใจอันแก่กล้า ณ วันที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้และทั้งนั้น การเรียนรู้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อท่านได้เฝ้าถามและหาคำตอบ ให้ได้ว่าทำไมหุ้นถึงได้มีพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงด้านราคาเป็นเช่นนั้น
จากคุณ |
:
teeranet
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ม.ค. 53 11:59:24
|
|
|
|
|