PANTIP.COM : I8737310 อายุ 20 เพิ่งหัดเก็บตังค์ วานพี่ ๆ ช่วยจัดสรรใช้เงินต่อเงินให้หน่อยจ้า-เล่นหุ้น 5,000 บาทก่อน น่าเขินไหม [การเงิน]

ความคิดเห็นที่ 14

หวัดดีจ้าน้องหมีเฉย

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมก่อนเลยว่า ถ้าน้องอายุ 20 มีความคิดดีๆแบบนี้
อีก 20 ปี ตอนน้องอายุ 40 พี่รับประกันว่า น้องได้มีอิสรภาพทางการเงินอย่างที่ต้องการแน่เลย

ฟันธง

และอีกเรื่องนึง เก่งด้วยอีกต่างหาก ชนะเลิศประกวด (ออกแบบมั้ง..เดาๆ)ได้รางวัลเป็นกอบเป็นกำ
เก่งจริงๆเลยจ้า
..คุณพ่อคุณแม่คงปลื้มเนอะมีลูกดีอย่างนี้

เวลาเห็นกระทู้แบบนี้ จะชอบเข้ามาให้คำแนะนำแลกเปลี่ยนประสบการณ์เสมอแหละ เพราะส่วนตัวมี

ความรู้สึกเหมือนคุณเป็กสมบุญใน คห.9 ว่า เริ่มเรียนรู้การลงทุนช้าไป เสียดายเวลา
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากเริ่มตั้งแต่เริ่มทำงาน หรือตอนเรียนมหาลัย
(ตอนนั้นรู้จักแค่เก็บเงินฝากแบงค์ รู้เท่านี้จริงๆง่ะ แต่ยังดีนะที่เก็บเงินเป็น)

ดังนั้นถ้าเห็นรุ่นเด็กๆ อายุ 20 กว่า เริ่มมีไอเดียแบบนี้ ต้องรีบโฉบเข้ามาแนะนำ 55555 (จะได้ไม่ร้องเพลง...เสียดาย...เหมือนเรา)

ตอบเรยนะ

เรื่องที่ลงทุนไว้แล้ว ดีแล้ว
แต่ส่วนตัวพี่คิดว่าสลากออมสินพอแล้ว ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม พี่ว่าผลตอบแทนน้อยไม่คุ้มเวลา (คิดเหมือนที่คุณเป็กว่าไว้)
น้องอายุยังน้อย สามารถลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากหน่อยได้ (ตลาดหุ้นนะแหละ)

โดยส่วนตัว พี่ว่า
ถ้าจะให้ไม่ต้องเหนื่อยมากและเสี่ยงมากเกินไปนะ
ระยะแรก ให้ลงทุนแบบ DCA (Dollar cost average) ไปก่อน
ซึ่งแปลง่ายๆหมายถึงการลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่ากันทุกเดือน
เดือนละเท่าไรก็ได้ 1000 2000 3000 แล้วแต่งบที่เราจัดสรรไว้
โดยตั้งเป้าระยะเวลาไว้ก่อนเลย 3 ปี (คือเก็บเท่ากันทุกเดือนเป็นเวลา 3 ปี)

โดยแนะนำให้ซื้อเป็น TDEX
(เง็งหน่อยนะ แต่เอาง่ายๆว่ามันคือกองทุนเปิดที่ลงทุนกระจายในหุ้น 50 ตัวของดัชนี SET50
อ่านรายละเอียดคร่าวๆที่นี่จ้า
http://www.kgieworld.co.th/th/ETF/TDEX_WhatisTDEX.asp)

ถ้าน้องไปดูราคา TDEX ตอนนี้ อยู่ประมาณหน่วยละ 5.2 บาท มีหนึ่งพันบาทก็ซื้อได้..เห็นมะ ไม่เห็นต้องมีเงินหมื่น

ถ้าถามว่า..
1.ทำไมแนะนำให้ลงทุนแบบ DCA
เพราะเป็นวิธีทีช่วยลดความเสี่ยงให้น้อยลง
เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาด หรือคนที่ไม่มีเวลาดูความเคลื่อนไหวของตลาด
เพราะถ้าน้องเป็นมือใหม่
น้องจะไปรู้รึว่า ตรงนี้ราคาต่ำ ควรซื้อแล้ว หรือตรงนี้ราคาสูง ควรขาย ไรเงี้ย
(มือเก่ายังไม่รู้เลยขอบอก ติดดอย ขายหมู เป็นเรื่องปกติ)
ผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนแบบ DCA จะใกล้เคียงกับผลตอบแทนของตลาดโดยรวม

เพราะเป็นการเฉลี่ยราคา ซึ่งจะดีกว่าผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากมาก และเอาชนะเงินเฟ้อได้ค่อนข้างแน่นอน

ส่วนหนึ่งของพอร์ทลงทุนพี่ใช้วิธีนี้อยู่ ทำมาปีกว่าแล้ว และค้นพบว่ามันเป็นวิธีที่ดีมากเลย หมดกังวล ไม่มีความเสียวไส้เหมือนส่วนที่ลงทุนทีละเป็นก้อนใหญ่ๆ
ดัชนีจะขึ้นจะลงไม่สนใจเลย ตรูมีหน้าซื้อทุกเดือนตามกำหนดเท่านั้น..จบ

2. ทำไมให้ซื้อ TDEX
ประการที่ 1
เพราะ TDEX เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้น 50 ตัวของ SET50 คือเค้าคัดสรรมาให้แล้วว่างั้นเถอะ
เท่ากับเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัว
เพราะถ้าเราเป็นมือใหม่ เราจะไปรู้ยังไงว่าจะเลือกหุ้นตัวไหน เลือกผิดตัวก็ชีช้ำเดะ เข้าตลาดครั้งแรกถ้าติดดอยเศร้าตายเลย
ดังนั้นกระจายไป 50 ตัวก็ดีที่สุด

ประการที่ 2
TDEX ซื้อขายได้ตลอดเวลาจากบัญชีลงทุนของเราเหมือนหุ้นตัวนึงบนกระดาน สะดวกมากๆ (เทียบกับกองทุนบางประเภทที่ซื้อขายได้วันละครั้ง อะไรเงี้ย)

ประการที่ 3 TDEX มีปันผลให้ด้วย นอกจากกำไรส่วนต่างราคาที่จะได้รับ

ประการที่ 4 TDEX ย่อมเคลื่อนไหวตามดัชนี SET50 ซึ่งสอดคล้องกับ ดัชนี SET
การหัดซื้อ TDEX จะเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้น้องได้ศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น
ซึ่งส่วนตัวพี่คิดว่าการลงทุนในหุ้น เป็นอะไรที่เหมือนการที่เราหัดใช้ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์แหละ
ยกตัวอย่าง Photoshop ซึ่งน้องต้องรู้จักดีอยู่แล้ว
ถ้าอยากใช้โฟโต้ชอปเป็น แค่ซื้อหนังสือมาอ่านไม่พอใช่มั้ย
ซื้อหนังสือมาอ่านสิบเล่มก็ทำไม่ได้
ตราบใดที่ยังไม่ลงมือเปิดเครื่อง เปิดซอฟแวร์ กดคีย์บอร์ด ลองทำภาพให้ออกมาอย่างที่เราต้องการ (เก็ทเนอะตรงนี้)

ดังนั้นถ้าน้องลงทุนใน TDEX โดยวิธีซื้อเฉลี่ยแบบ DCA เป็นเวลา 3 ปี ถึงตอนนั้นพี่ว่าน้องก็รู้จักตลาดหุ้นดีพอควรแล้ว จะไปซื้อหุ้นรายตัวก็สบายแล้วแหละ
(ตัวเลข 3 ปี เอามาจากประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว ที่ใช้เวลาประมาณ 3 ปีจึงรู้สึกว่ารู้จักความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นพอสมควร และยาวนานพอที่จะผ่าน วัฏจักร การขึ้นลง หรือเหตุการณ์ต่างๆที่มีผลต่อตลาดหุ้น ไม่ว่าจะเป็น การเมือง เศรษฐกิจ ฯลฯ พอสมควร และอีกอย่างคือ รู้สึกว่าต้อง 3 ปีขึ้นไปแหละ ใจมันถึงจะนิ่ง 555)

ดังนั้นสรุปว่า งบ 5000 นี้ พี่แนะนำว่า
ให้เริ่มจากซื้อ TDEX แบบ DCA เฉลี่ยเดือนละ 1000-1500 บาทก็ได้ (แล้วแต่ว่าน้องตั้งงบไว้ว่าจะลงทุนแต่ละเดือนเท่าไร) แล้วซื้อต่อๆไปเลยให้ครบ 3 ปี
หรือจะนานกว่านั้นก็ยิ่งดี 5 ปี 10 ปี 20 ปี ก็ยังได้สำหรับส่วนนี้
พอโตขึ้นมีเงินมากขึ้น ก็ขยายการลงทุนเพิ่มในวิธีอื่นอีก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นรายตัว ลงทุนอสังหา ทองคำ หรืออื่นๆ ในที่สุดแล้ว ถึงจุดนึง เงินจะทำงานให้น้อง แล้วอิสรภาพทางการเงินก็จะมาถึง

คำตอบ ปล.

ปล.โปรกเกอร์นี่เค้าค่าตัวแพงเปล่าคะ

ตอบ - ไม่แพงค่ะ เค้าคิดค่าบริการเรียกว่าค่า commission อัตราคิดง่ายๆประมาณ 0.25% ของมูลค่าการซื้อขาย

ปล2.ถ้าเราเล่นไม่มาก 5,000 ก่อนเป็นเรื่องน่าเขินไหมคะ (ควรอย่างต่ำเท่าไหร่ เพราะ..)เพราะมันน่าจะได้กำไรไวก่อนฝากธนาคารอ่ะคะ

ตอบ- ไม่เขินเลยค่ะ เงินของเราใครจะทำไม อิอิ เริ่มตอนนี้ 5000 อีกยี่สิบปีมาเจอกันห้าล้านเป็นไง 5555
ทำดีไม่ต้องเขินน้อง เขินทำไม ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นเรื่องต้องภูมิใจมากๆด้วยซ้ำ

ปล3.วิธีเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ทำยังไงคะ

ตอบ-โทรไปติดต่อบริษัทไหนก็ได้ แล้วก้อถามเค้าว่าต้องใช้หลักฐานไรมั่งเท่านั้น
แล้วเขาก็จะนัดเซ็นเอกสาร (อาจนัดที่ บริษัท หรือ มาร์เกตติ้งอาจมาพบน้องก็ได้)
พอเรียบร้อยแล้ว น้องก็จะได้เบอร์บัญชีมา (อ่อ อย่าลืมเปิดแบบที่ซื้อขายทางอินเตอร์เน็ตได้นะ จะได้สะดวก) แล้วทีนี้ก็ซื้อขายได้แล้วจ้า

โอ้ย พิมพ์จนเหนื่อย ไปหาไรกินก่อนนะ
สงสัยไร ถามไปทางหลังบ้านก็ได้ ยินดีช่วยเหลือจ้า
อยากเห็นคนไทยรู้จักการออมและการลงทุนที่ถูกวิธีกันมากๆ
แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 53 07:31:40
แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 53 07:30:42

จากคุณ : LiTtle_LOliTa

เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 07:27:02