|
ความคิดเห็นที่ 7 |
10.ถ้าหุ้นสองตัวราคา 10 บาทเท่ากันและมีราคาเป้าหมาย 13 บาท ทั้งสองตัว ตัวแรกราคาลงมาจาก 13 บาทเหลือ 10 บาท อีกตัวนึงขึ้นจาก 7 บาท มา 10 บาทถ้าให้เลือกลงทุนได้ตัวเดียว ผมเลือกตัวที่สองมากกว่าตัวแรก เพราะตัวแรกมีคนติดหุ้นไปแล้ว น่าจะมีแรงขายมากกว่าตัวที่จะ มี new high คุณ ih มองว่าอย่างไร - ก็เป็นความเป็นจริงที่หุ้นที่ทำ new high จะมีแรงขายน้อยกว่าหุ้นที่ลงมาจาก high แต่ผมก็เห็นนักลงทุนหลายๆ คนก็ชอบหุ้นที่ลงมาจาก high เยอะๆ และไม่กล้าซื้อหุ้นที่ทำ high เช่น ตอนนี้คนอาจจะรู้สึกสะดวกใจที่จะซื้อ TOP PTTAR PTT มากกว่า PTTEP หรือ BANPU ดังนั้นเหตุผลทั้ง 2 ส่วนมันก็อาจจะหักล้างกันไป แต่แบบไหนน่าซื้อกว่าคงตอบด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้ไม่ได้คงจะต้องดูปัจจัยอื่นๆ หลายอย่างประกอบครับ
11.พี่ ih ครับ เพื่อนของผมไปงานสัปดาห์หนังสือมา ไปเพื่อไปขอลายเซ็นคุณ วิกรม กรมดิษ เพื่อนผมบอกว่า ตอนไปขอลายเซ็น คุณวิกรมบอกว่า เขาได้กำไรจากการเขียน หนังสือถึง 20 ล้านซึ้งดูๆไปแล้ว เขาภูมิใจมาก ผมว่าหุ้น amata ขึ้นแค่ 1 ช่องเขาก็ได้มากกว่า 20 ล้านแล้ว แต่ไหงเอาเวลามานั่งเขียนหนังสือแล้วภุมิใจกับ 20 ล้าน พี่คิดว่า เข้า สัจธรรม การหาเงินเป็นเรื่องท้าทายในตอนต้น แต่น่าเบื่อในตอนปลายไหมครับ ทำไมคนรวยหลายคน เข้าวัด ทำเพื่อสังคม แล้วแบบนี้หุ้นของเขาจะน่าสนใจน้อยลงไหม
- เป็นเรื่องแรงจูงใจ หรือ motivation ครับ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้บริหารเหล่านี้มอบหมายงานสำคัญในบริษัทให้ใครดูแลต่อ เป็นญาติ เป็นลูกน้องที่ยังมี motivation ไหม รวมไปถึงผู้บริหารบางรายแม้อาจจะมีเวลาในบริษัทน้อยลง แต่ถ้าระบบต่างๆ ถูกวางไว้ดีก็อาจจะทำให้มีเวลามาทำงานเพื่อสังคมได้มากขึ้นก็ได้ครับ
ผมเข้าใจว่ารายได้จากหนังสือของคุณวิกรมจะเป็นเงินที่จะไปทำสาธารณประโยชน์ต่างๆ ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็คงเหมือนเด็กนักเรียนที่เป็นลูกคนรวย ไปทำงานพิเศษ หรือขายของเล็กๆ น้อยๆ แล้วนำเงินทีได้ซัก 1,000 บาทไปทำบุญบ้านเด็กพิการ ก็คงจะมีความภูมิใจมากกว่าที่จะนำเงินที่บ้าน 1,000 บาทไปทำบุญ
ผมเห็นด้วยและชื่นชมครับที่คุณวิกรมประสบความสำเร็จแล้วก็มีความตั้งใจทำประโยชน์และสิ่งดีๆ ต่างๆ ให้สังคม ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหนังสือให้ความรู้ จัดรายการ CEO vision 9.00-10.00 ทาง FM 96.5 ให้ความรู้กับผู้ฟังในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นประวัติบุคคลสำคัญ มุมมองต่างๆ รวมถึงการตอบคำถาม และที่สำคัญคือการก่อตั้งมูลนิธิอมตะ ที่มอบหุ้น amata ให้กับมูลนิธิ
ประเด็นก็คือ ผมคิดว่าสำหรับคนที่รวยจนพอแล้ว หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า ตอนนี้มีเงิน 1 พันล้าน หรือหมื่นหรือแสนล้าน ถ้ามีเงินเพิ่มอีกเท่าตัว จะมีความสุขเพิ่มอีกเท่าตัวหรือเปล่า จะกินอาหารได้เพิ่มอีก 2 เท่าหรือเปล่า จะซื้อบ้านซื้อรถอีกเท่าตัวหรือเปล่า ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้มีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นไม่น่าจะเป็นการบริโภควัตถุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหลายคนอาจจะเลือกที่จะหาความสุขด้วยการทำอะไรดีๆ ให้กับสังคมมากขึ้นครับ
11.1 พี่ ih คิดว่ากรณี คุณ วิกรม คล้ายๆ คุณตันไหมครับ
- หมายถึงคล้ายในเรื่องไหนครับ ที่ Hong ถามแสดงว่าต้องเห็นว่ามีประเด็นไหนคล้ายหรือครับ? ถ้าหน้าตาก็คงไม่คล้ายแน่ครับ คุณตันเจ้าเนื้อกว่าหน่อยเข้าใจว่าอาจจะได้รับน้ำตาลในชาเขียวมากไป ถ้าจะหาประเด็นที่คล้ายก็คงเป็นเรื่องที่ผมเห็นทั้งคู่ออกสื่อบ่อยๆ เหมือนกันครับ
เอาเป็นว่าผมให้ข้อมูลไปแล้วกันนะครับ เอาเฉพาะที่ข้อมูลที่เป็นข้อมูลทั่วๆ ไปที่อ่านได้จากสื่อต่างๆ แล้วกัน
คุณตันขายธุรกิจได้เงินสดออกมา แต่คุณวิกรมยังไม่ขายแต่บริจาคหุ้นให้มูลนิธิ คุณวิกรมไม่มีครอบครัวแต่คุณตันมีครอบครัวและมีลูกจึงน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่คุณวิกรมเลือกที่จะบริจาค คุณวิกรมทำ Amata เป็นหลักอย่างเดียว คุณวิกรมไปอยู่ในแพที่เขาใหญ่ 6 วันต่อสัปดาห์ ส่วนคุณตันยังอยู่บ้านในกรุงเทพฯ ส่วนคุณตันมีข่าวว่าหลังขาย Oishi ออกมาแล้วก็สนใจไปลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ โดยซื้อที่ดินที่ ถ. เพลินจิต ปราณบุรี ฯลฯ ไว้แล้ว ซึ่งอาจจะเป็นการแก้มือจากสมัยที่เคยทำที่ชลบุรี คุณวิกรมไม่ค่อยได้บริหารงานใน Amata แล้วแต่ให้น้องๆ ดูแลแทนและคุณวิกรมมาดูภาพรวมอย่างเดียว ส่วนคุณตันดูเหมือนว่ายังหาตัวตายตัวแทนใน Oishi ยังไม่ได้ แต่อนาคตคงไม่แน่เพราะคุณตันอาจจะค่อยๆ ลดการถือหุ้นใน Oishi ลงไปอีกครับ
จากคุณ |
:
เจ้าชายชาเย็น
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ม.ค. 53 08:41:41
|
|
|
|
|