ความคิดเห็นที่ 1 ที่บอกว่าใครได้กำไร 60-70 %  พอๆกับตลาดเนี่ย ... ผมว่าคนๆนั้นโคตรเก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วนะฮะ ..   ปีที่แล้ว ตลาดแรงเจงๆ คนที่ทำได้เท่าตลาด ก็คือ เทพขนานแท้แล้วจ้ะ .. จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 10:19:54

ความคิดเห็นที่ 2 ได้ 6% เริ่มจากเดือนธันวาครับ จากคุณ : The Cole เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 10:40:57

ความคิดเห็นที่ 3 LTF มันขายไมไ่ด้ เอิ้ก จากคุณ : hehew เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 10:42:21

ความคิดเห็นที่ 4 เราไม่ค่อยชอบเปรียบเทียบกันระหว่างเวปนะคะ มันเหมือนการแข่งขันกันยังไงไม่รู้ (อีกอย่างก็กลัวมีการวิจารณ์ข้ามเวปอีก)   จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 10:59:11

ความคิดเห็นที่ 6 2 เดือน 5 % ครับ จากคุณ : เราชอบคนรักกัน เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 11:10:02

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับท่านซูเน้อ ข้าน้อยไม่ได้นับมานานแล้วท่าน ขี้เกีจนับ เพราะบางทีก็ถือไว้เป็นปี เป็นเดือน ยากจะนับแท้ จากคุณ : เหมันต์ใบไม้ผลิ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 11:19:17

ความคิดเห็นที่ 8 10-20% ต่อปีก็พอแล้วครับ อาศัย leverage ก็ได้เยอะแล้ว จากคุณ : arpeggio เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 11:37:44

ความคิดเห็นที่ 9 เลือกข้อหนึ่งแบบเน้นๆเลยครับ จะชัดเจนขึ้นเมื่อตั้งหัวข้อให้เลือกแค่ว่า "ขาดทุน" จะคลิกให้เม้าท์พังไปเลย จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 11:38:49

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงตอนนี้ใน พอร์ทผมจะเขียวเข้มแล้ว แต่ก็ยังขาดทุนสะสมอยู่ครับ หากเทียบจากขนาดพอร์ทเมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้วก่อนที่ คัทลอสไปจาก วิกฤตซับไพร์ม จากคุณ : x-philes เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:04:01

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ พี่ Duckcovery คห.1 ความจริงการสร้างผลตอบแทนตามตลาดไม่อยากหรอกครับ พี่ก็แค่เลือกตัวใหญ่ๆ ซื้อแล้วถือ อย่าซื้อขายบ่อย ดีไม่ดี เลือกถูกตัว ชนะตลาดได้แบบง่ายๆ แต่ถ้าเลือกผิด ก็แพ้ตลาดได้อีกพอๆ กัน เฮ้อ.. ชีวิตก็แบบนี้แหละครับ เราต้องเลือก... หรือถ้าลงทุนแล้วแพ้ตลาดมาหลายๆ ปี ผมว่าไปลงทุนในกองทุนรวม SET หรือพวก SET50 ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะครับ ปล. Vote ที่นี่ด้วย Vote ที่โน่นด้วย ผิดไหม..? แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 12:17:15 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 12:15:43 จากคุณ : ส.สลึง เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:14:57

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าคุณเข้ามาตอนต้นปีจริงๆ ผมอยากให้มองมุมใหม่ครับว่า 60-70%ถือว่าปกติ แค้ถ้าคุณทำได้น้อยกว่าให้จงประเมินตัวเองใหม่หมด เอาราคาหุ้รที่เราถือต้นปีกับปลายปีมาเทียบกันว่าต่างกันขนาดไหน เป็นเพราะเราถือหุ้นผิด หรือเข้าออกผิดจังหวะ ไม่อยากให้นิ่งนอนใจนะครับ หาจุดบอดตัวเองให้เจอครับ ความคิดเห็นที่ 4 บอโทษครับไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบ แต่ผมมีเจตนาให้เห็นภาพรวมว่าเป็นอย่างไรครับ เพื่อจะได้พัฒนาตนเองขึ้นไปอีกครับ เพราะทั้งสองสังคมนี้ผมชอบทั้งคู่ครับ เพราะต่างอันต่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันครับ..... ความคิดเห็นที่ 5 เป็นความจริงครับ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างไม่มีข้อมูล กับจ้อมูลที่มีความพกพร่องซัก20% ผมเลือกการมีข้อมูลมากกว่าครับ แต่พอได้ข้อมูลมาแล้วเพื่อนๆควรจะเผื่อ%ในใจไว้อย่างที่ คห.5 สอนมาด้วยนะครับ อิอิ ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าพี่มีพอร์ทใหญ่และไม่คาดหวังอะไรมากนักกับการลงทุนก็ควรจะไม่มีซีเรียสอย่างที่พี่ว่าครับ แต่!!!ผมเป็นคนที่ตั้งความหวังกับการลงทุนนี้ไว้สูงครับ สุงมาก ดังนั้นในทุก1ปี และ1เดือน ผมจะมาวัดผลการลงทุนของตัวเองเทียบกับตลาดเสมอครับ เพราะผมไม่เก่ง ดังนั้นผมต้องพยายามลบจุดอ่อนให้ได้มากที่สุดครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:42:14

ความคิดเห็นที่ 13 ครับปัจจุบันที่ผมมาโพสนี่ มีคนโหวต43คน และผลการโหวตปรากฏว่ามีคนขาดทุนเยอะให้ได้เลยครับ คืองี๊นะครับ สังคมกลุ่มสินธรกับTVI จะมีส่วนที่ซ้อนทับกันอยู่พอสมควร เท่าๆที่ผมประเมินดูนะครับ อย่างเช่นคุณคนจนก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ซึ่งสังคมกลุ่มนี้ผมไม่ซีเรียสครับ เพราะคิดว่าน่าจะเอาตัวรอดได้ แต่พอมาเจาะสังกลุ่มในกลุ่มที่อยู่ในสินธรไม่อยู่ในTVI กลุ่มนี้ก็น่าจะมีอยูในเวปอื่นๆซึ่งผมไม่ขอยกตัวอย่างนะครับ เพราะที่ชุมนุมคนเล่นหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกออนไลน่าจะเป็นสินธร รองมาน่าจะเป็นTVI แต่กลุ่มที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดก็คือกลุ่มสินธรเพียวๆ ซึ่งในกลุ่มนี้ก็น่าจะมีทั้งคนเก่งและไม่เก่ง คนเก่งผมก็ไม่ห่วงอีกแหละครับ ห่วงแต่คนไม่เก่ง ดังนั้นหากผลโหวตออกมาเป็นแนวโน้มอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็แสดงว่ามีชาวสิธรจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวื้เป็นแมงเม่า.....ผมจึงอยากให้เพื่อนๆกลุ่มลองศึกษาเรื่องหุ้นในหลายๆสังคมดูครับ แล้วศึกษาเรื่องพื้นฐานของหุ้นมากๆด้วยๆ สังคมชาวสินธรจะได้แข็งแกร่งขี้เพื่อวะได้โดนรายใหญ่หลอกน้อยลงครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:55:57

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าใครทำได้ 60-70 % แปลว่า ... 1. พี่จะต้องซื้อตูมเดียวแถวๆ 400 ต้นๆ ด้วยเงินเกือบหมดปอด 2. พี่จะต้องขายระหว่างทางน้อยมาก ไม่วอกแวกเลย 3. พี่จะต้องเลือกหุ้นถูกตัว 4. ถ้ามีรายได้เข้ามาระหว่างปี ที่ราคาหุ้นขึ้นแล้ว พี่จะไล่ซื้ออีกรึเปล่า 5. ก่อนหน้าหุ้นตก พี่จะต้องล้างปอด .. และเวลาหุ้นตก พี่แทบจะไม่ซื้อหุ้นเลย 6. พี่ต้องดวงดีเข้าตลาดถูกช่วงถูกเวลา และต้องมั่นใจลงเงินทั้งปอดซื้อ (ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ไม่เคยเข้าตลาดเลย) ผมเข้าตลาดตอน 800 กว่าจุด เริ่มซื้อหนักๆตอน 600 กว่าจุด ผ่านมาจนต่ำ 400 จุดผมก็ยังไล่ซื้อ .. จนตังค์แทบเกลี้ยง .. รายได้ประจำเดือนที่เข้ามา ผมก็ไล่ซื้อหุ้นเฉลี่ยขาขึ้นมาตลอดทาง เก็บตัวโน้นบ้างนี้บ้าง มีเงินฝากประจำครบดิวระหว่างปี ผมก้อเอาไปซื้อหุ้นหมด ผมขายระหว่างทางไม่เยอะเลย มีแต่ซื้อเข้า ปัจจุบัน ผมบวก 40 % กว่าเปอร์เซ็นต์ ..  จากเงินลงทุน ในระยะเวลาเกือบ 2 ปี .. ผมเลยคิดว่า ปีที่ผ่านมาใครทำกำไรได้ถึง 60-70 % ผมถือว่าเซียนมากๆแล้วฮะ เพราะมันยากจริงๆ ยากมาก ... นอกจากพี่ต้องอ่านตัวหุ้นขาดจริงๆ ดวงดีที่เข้าถูกจังหวะถูกเวลา พี่ต้องประเมินกำลังเงินของพี่ถูกด้วย และยังต้องใจถึงซัดตูมเดียวตอน 400 จุดต้นๆอีกต่างหาก  ไม่นับยังต้องใจแข็งถือมาจนถึงวันนี้ .. ปล. พี่ให้คำจำกัดความของคำว่าผมตอบแทนปี 2009 ว่าอะไรฮะ .. แปลว่ากำไรที่ได้นับเฉพาะปี 2009 (ก่อนหน้าไม่นับ) ... ถ้าผมซื้อตอนหุ้น 800 จุด แล้วผมถือขาดทุนจน 400 จุด แล้วผมอยู่เฉยๆ ไม่ซื้อไม่ขายมาจนถึงวันนี้ จะเรียกได้ว่า ผมมีผลตอบแทนปี 2009 เป้นกำไร 70-80% ได้มะฮะ จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:14:29

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเป็นมือใหม่ครับ อยากสอบถามตัวเลขที่พอๆกับตลาด 60-70% นี่เอามาจากไหนกันหรอครับหรือคิดอย่างไร ช่วยแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ปลาดุกกรอบ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:17:49

ความคิดเห็นที่ 16 1/1/52 .....500000 31/12/52....1563000 หลักๆได้จาก mjd mcs ผมเคยโพสไว้เป็นหลักฐานถ้ายังจำได้....ไม่มีมั่วนะ จากคุณ : 2024 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:34:05

ความคิดเห็นที่ 17 "พี่ให้คำจำกัดความของคำว่าผมตอบแทนปี 2009 ว่าอะไรฮะ .. แปลว่ากำไรที่ได้นับเฉพาะปี 2009 (ก่อนหน้าไม่นับ) ... ถ้าผมซื้อตอนหุ้น 800 จุด แล้วผมถือขาดทุนจน 400 จุด แล้วผมอยู่เฉยๆ ไม่ซื้อไม่ขายมาจนถึงวันนี้ จะเรียกได้ว่า ผมมีผลตอบแทนปี 2009 เป้นกำไร 70-80% ได้มะฮะ" -------------------------------------------------------------------- แน่นอนครับ ผลตอบแทนปี 2009 ก็ย่อมเป็นผลตอบแทนปี 2009 ส่วนผลตอบแทนในปี 2008 ก็คือผลตอบแทนในปี 2008 จะให้เป็นผลตอบแทนปี 2008-2009 ได้ยังไงล่ะครับ จริงไหม..? ปล. ความจริงจะเปรียบเทียบผลตอบแทน ต้องมี Benchmark ว่าไปเทียบกับอะไร ถ้าจะเทียบกับดัชนี SET ก็ต้องดูผลตอบแทนจากดัชนี SET ในปีเดียวกัน หรือถ้าจะเปรียบเทียบ 2 ปี ก็ต้องเปรียบเทียบทั้ง 2 ปี ที่เป็น 2 ปี เดียวกันครับ จากคุณ : ส.สลึง เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:35:06

ความคิดเห็นที่ 18 พี่ kokuki kloomjai ว่า สินธร ก็มีทู้เจ๋ง ๆ อยู่นะพี่ อย่าง ทู้ดาวพี่dsc ทู้ข่าวพี่luck me ทู้DVDคุณคนจนฯ ทู้คุยโขมงคุณg2001 ฯลฯ ถ้าคนที่อยู่ใน สินธร เลือกเสพเป็น ก็น่าจะทำให้เทรดได้อย่างไม่เจ็บตัว แต่ สินธร ก็ ทู้ปั่น เยอะ เหมือนแสงไฟ ระยิบระยับ เม่า ๆ เลยหลงเยอะ รวม kloomjai ด้วย หุหุ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 13:37:28 จากคุณ : ร่วมด้วยช่วยกัน (kloomjai) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:37:08

ความคิดเห็นที่ 20 สินธรกะ tvi เป็นคนเดียวกันก็เยอะนะ ผลตอบแทนคงไม่ต่างเท่าไหร่ จากคุณ : Pu121 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:41:22

ความคิดเห็นที่ 21 ใครได้เยอะๆ ยินดีด้วยนะครับ   จากคุณ : เจ้าชายชาเย็น เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:52:27

ความคิดเห็นที่ 22 เสริม ความคิดเห็นที่ 17 ใช่ครับ.....ผลตอบแทนต่อปี ควรจะตัวฉั๊วเลยครับ ปีใครปีปีมัน ไม่เอามารวมกัน อย่างเช่นมครที่มีหุ้นข้ามจากปี2008ไป2009 จะต้องปรับราคาทุนเป็นราคาปิดของปี2008ให้หมดทุกตัวครับ..... เพราะใน1ปีเราจะได้ว่าConceptการลงเราแบบนี้ลงทุน1ปี ได้เท่าไหร่ เทียบกับตลาดเป็นอย่างไรบ้าง หาจุอ่อนจุดแข็งครับ จะได้พํฒนาขึ้นครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 16:00:59

ความคิดเห็นที่ 23 วัดผลตอบแทนรายปีต่อปีไม่ค่อยจะได้หรอกครับ ยิ่งถ้าจะเอาของเราไปเปรียบเทียบ กับคนอื่นก็ยิ่งไม่ค่อยได้ เพราะว่าถือหุ้นคนละตัว หุ้นคนละตัวมีราคานับจากวันที่ซื้อจน ถึงวันที่เริ่มนับคือต้นปีไม่เท่ากัน จะขอลองสมมติให้ดูตามนี้นะครับ มีคนสองคน ซื้อหุ้นคนละตัวกันครับแต่ที่ราคาเดียวกันคือหุ้นละ 10 บาท เอาเป็นว่าซื้อ ไว้วันที่1 เดือนธันวาปี 2551 พอถึงวันที่ 1 มกราคมที่จะเริ่มนับว่าทำผลตอบแทนได้เท่า ไหร่ หุ้นของนายก.วันนั้นราคาตกลงไปเหลือหุ้นละ 8 บาท ส่วนหุ้นนายข.ขึ้นไปเป็นหุ้น ละ 13 บาท พอสิ้นปีหุ้นทั้งสองตัวปิดสิ้นปีที่ราคา 20 บาทเท่ากัน นายก.และนายข. ได้ กำไรเท่ากันคือซื้อที่ 10 บาท แล้วสิ้นปีราคามันคือ 20 บาท แต่ถ้าจะวัดเป็น% จากต้นปี นายก.จะวัดได้  150%  ส่วนนายข.จะวัดได้ 53.8% จะเห็นว่าต่างกันสามเท่าตัวเลย แต่ ความจริงทั้งสองคนได้มูลค่าเพิ่มเท่ากันครับ ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นตามนี้เป็น ต้นครับ ไม่รู้ว่าจะนิยามเดียวกันรึเปล่า จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 17:29:05

ความคิดเห็นที่ 24 ว่าจะไม่ตอบแล้วเชียว..... คห.14 1. พี่จะต้องซื้อตูมเดียวแถวๆ 400 ต้นๆ ด้วยเงินเกือบหมดปอด ตอบ.ไม่เห็นต้องทำอย่างงั้นเลย เชื่อมะผมซื้อตอน 380 2. พี่จะต้องขายระหว่างทางน้อยมาก ไม่วอกแวกเลย ตอบ.ก็นิดหน่อย แต่ขายแล้วก็ซื้อกลับมาตลอดทาง 3. พี่จะต้องเลือกหุ้นถูกตัว ตอบ.ซื้ออะไรมันก็ขึ้น อย่างงี้ถูกหรือปล่าว (ไม่น่าเกี่ยวนะสำหรับปีที่แล้ว แค่ใจเย็นก็พอ) 4. ถ้ามีรายได้เข้ามาระหว่างปี ที่ราคาหุ้นขึ้นแล้ว พี่จะไล่ซื้ออีกรึเปล่า ตอบ.ซื้อไปเรื่อยๆ 5. ก่อนหน้าหุ้นตก พี่จะต้องล้างปอด .. และเวลาหุ้นตก พี่แทบจะไม่ซื้อหุ้นเลย ตอบ.ถูกต้องครับ ล้างตอน 780 จุด 6. พี่ต้องดวงดีเข้าตลาดถูกช่วงถูกเวลา และต้องมั่นใจลงเงินทั้งปอดซื้อ (ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ไม่เคยเข้าตลาดเลย) ตอบ.ไม่น่าจะเกี่บวกับดวงนะใครๆเค้าก็ได้กัน แต่ดวงดีตัวเดียว คือ banpu 138 บาท ที่จุด low ระหว่างวัน หากบอกว่่าซื้อหุ้นปีที่แล้วแล้วใจถึงเนี่ย ก็น่าจะเป็นได้แต่ไม่ใช้ทั้งหมด ผมแค่เห็นว่าราคามันถูกเกินไปก็แค่นั้น ก็เลยซื้อ เพราะล้างพอรท์ไปเลยตอน แถว 78x แล้วเริ่มรับกลับตอน 380 แล้วก็ซื้อ-ขายมาเรื่อยๆ เพราะตัวผมเองใจไม่เย็นเหมือนพวก vi ก็เลยเล่นมาตลอดทาง ประมาณว่าขึ้นมาระยะหนึ่งก็ขาย แต่พอเห็นไปต่อก็ซื้อกลับ ไปเรื่อยๆ แบบนี้จนตอนนี้ ติด dtac อยู่ 44 centel 4.72 (เป็นไงสูงม่ะ แต่เฉลี่ยเรียบร้อย) โชคดีที่มีแค่ 20%พอรท์ ก็เลยยังเหลือเล่นต่อเรื่อยๆ ปีที่แล้วใครได้ต่ำกว่า 40 % ผมว่าคงต้องหาตำรามานั่งอ่านกันใหม่แล้วครับ แล้วค่อยสู้ใหม่ หากไม่ปรับปรุงตัว ปีนี้คงเสร็จครับ หุ้นเริ่มเล่นยากขึ้นแล้ว  มันจะไม่ถีบตัวเหมือนปีที่แล้วอีกแล้วหล่ะครับ พยามหาตัวเองให้เจอว่าเล่นแนวไหนกันแน่ ไม่ใช่ว่าเป็นพวกเก็งกำไร พอติดแล้วบอกว่าเป็น vi อย่างนี้ยุ่งครับ เพราะแนวปฏิบัติมันขัดแย้งโดยสิ้นเชิง หรือพยายามแบ่งพอรท์ให้ชัดว่า เท่าไหร่ที่เราซื้อเก็บ  เท่าไหร่ซื้อเพื่อปันผล เท่าไหร่ที่เก็งกำไร เอาให้ชัดแล้วอย่ามั่ว แค่นี้ผมว่าทุกคนก็น่าจะประสพความสำเร็จแล้วหล่ะครับ ปล.ไม่เกี่ยวกับพวก day trade อันนี้ไม่เกี่ยว จากคุณ : winhaha เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 17:50:10

ความคิดเห็นที่ 25 Vote ที่ thaivi ไปแล้ว ไม่โหวตที่นี่แล้วกัน จากคุณ : Idiopathic เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 21:28:57

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าต้นปีคง.... แต่ปลายปีผมเจอฤทธิ์PTTARเข้าไป อ้วกเลย คือตอนแรกได้96%(เข้ากลางๆปี)แต่พอปลายๆปีนั่นแหละเหลือ88% ผมได้เยอะตรงแจ๊คพ๊อตแตกกับ STPI ที่วันเดียวขึ้นมากว่า25%ด้วยแหละครับ แถมปันผลเยอะอีก จากคุณ : Dr. Manhattan เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 22:17:18

ความคิดเห็นที่ 27 เข้าออก ข่าว 3G  dtac  กับ true จากคุณ : ckh เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 00:42:24

ความคิดเห็นที่ 28 คห.24 พูด "ปีที่แล้วใครได้ต่ำกว่า 40 % ผมว่าคงต้องหาตำรามานั่งอ่านกันใหม่แล้วครับ แล้วค่อยสู้ใหม่ หากไม่ปรับปรุงตัว ปีนี้คงเสร็จครับ หุ้นเริ่มเล่นยากขึ้นแล้ว  มันจะไม่ถีบตัวเหมือนปีที่แล้วอีกแล้วหล่ะครับ พยามหาตัวเองให้เจอว่าเล่นแนวไหนกันแน่ ไม่ใช่ว่าเป็นพวกเก็งกำไร พอติดแล้วบอกว่าเป็น vi อย่างนี้ยุ่งครับ เพราะแนวปฏิบัติมันขัดแย้งโดยสิ้นเชิง หรือพยายามแบ่งพอรท์ให้ชัดว่า เท่าไหร่ที่เราซื้อเก็บ  เท่าไหร่ซื้อเพื่อปันผล เท่าไหร่ที่เก็งกำไร เอาให้ชัดแล้วอย่ามั่ว แค่นี้ผมว่าทุกคนก็น่าจะประสพความสำเร็จแล้วหล่ะครับ" อูยยยตรงประเด็นครับ.....เห็นด้วยครับ..... รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี รักชาวสินธรต้องอย่าปลอบมากครับ อิอิ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:23:20