Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Daily VI Discussion (DVD 21) กระทู้การลงทุนแนวเน้นคุณค่า ประจำวันที่ 15/01/10{แตกประเด็นจาก I8760365}  

สวัสดีเช้าวันศุกร์ สุดสัปดาห์นะครับทุกท่าน ผมขอเป็นตัวแทนทำหน้าที่แวะมาเปิดบ้่าน VI ให้นะครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน  ลงทุนด้วยความรู้และมีความสุขในการลงทุนนะครับ

ปล. กระทู้ DVD 20 ด๋อยแบบ hard core เปิดดูไม่ได้เลยครับ ขี้แง

เก็บตกบทความคุณค่าประจำกระทู้ DVD idea  คัดลอกมาจากกระทู้ตะแกรงร่อนของคุณวิบูลย์ TVI

idea VIB007 : Posted: Fri Nov 07, 2003 10:57 am
--------------------------------------------------------------------------

เห็นด้วยกับพี่Chathcai และพี่เจ๋งครับ
ว่าเราอย่าไปซีเรียส เครียด
กับผลตอบแทนของพอร์ตของเราเลย
เราไม่ใช่กองทุนที่จะต้องแสดงผลงาน
เป็นกี่เปอร์เซนต์ ขนะดัชนีหรือเปล่า
ให้คนอื่นรับรู้เพื่อให้คนมาสนใจลงทุน
ไม่งั้นกองทุนก็เจ๊ง ถ้าคนขนเงินไปลงกองอื่นหมด

ผมบอกให้ก็ได้ครับ
กองทุนที่ทำผลตอบแทนสูงๆ ชนะดัชนีได้น่ะ
เขาก็เล่นรอบเหมือนกันครับ
ขายตัวนั้น ซื้อตัวนี้
และถือเป็นสิบเป็นร้อยตัว
ใช้หลัก EMT
ไม่ค่อยมีใครถือน้อยตัวและถือยาวสักเท่าไหร่หรอกครับ
เราทำอย่างเขา เหนื่อยตาย
เพื่อนผมเป็นผู้จัดการกองทุน
แต่ก่อนอารมณ์ดีมาก ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่
ตอนนี้เจอกัน สูบบุหรี่มวนต่อมวนเลยครับ
กินเหล้าแทนน้ำ
ผมเลยถามว่า เฮ้ย ทำไมต้องทำร้ายตัวเองขนาดนี้(ว่ะ)
เขาบอกว่า มันเครียดว่ะ
วันนี้ตูทำเงินกองทุนหายไปหลายร้อยล้าน
พรุ่งนี้ต้องเอาคืน
ผมก็เลยคิดว่า นี่เอ็งบริหารกองทุน หรือเล่นพนันว่ะเนี่ย

อาจารย์ Buffet บอกไว้ว่า
พวกกองทุนน่ะ
ทำผลตอบแทนชนะดัชนีได้
แต่ก็ทำในสิ่งที่แย่ที่สุด
ก็คือขายบริษัทที่ดีๆออกไป
เพื่อทำให้กองทุนของตัวเองดูดีตอนปิดงบ
เพียงเพราะราคาไม่ขยับเท่านั้นเอง


ผมว่าท่าจะจริงนะครับ
เพราะบางทีเราจะเห็นบริษัทดีๆถูกเทขาย
ตอนปลายปี
เพียงเพื่อจะทำให้ผลตอบแทนกองทุนดูดี
ไม่มีหุ้นขาดทุนหรือกำไรน้อยอยู่ในพอร์ต
จริงมั๊ยครับ ท่านผู้บริหารกองทุนทั้งหลาย

ผมไม่เคยพูดนะครับ
ว่าการลงทุนแนวซื้อน้อยๆตัวถือนานๆแบบของผม
จะสามารถทำผลตอบแทนได้สูงที่สุด

เพียงแต่ผมคิดว่า
มันเป็นวิธีการลงทุนที่ง่ายเหมือน
ซื้อหุ้นแล้วเอามือซุกกระเป๋าได้เลยครับ
แล้วบริษัทและผู้บริหารจะดำเนินการต่อเอง
เราก็เหมือนมีคนทำงานแทนเราเอง
เรียกว่าใช้คนอื่นทำงานแทนครับ

ผมไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ไม่ต้องดูราคาหุ้น
ตลาดปิดไปสามปี ผมก็เฉยๆ
วันๆผมก็ทำงานประจำได้ ไม่กังวล
กลางคืนผมก็นอนหลับสบาย
ตื่นมาผมก็นั่งจิบน้ำชา อ่านข่าวดีๆของบริษัทผม
มีความสุขดีครับ
จิตใจไม่ร้อนรน ไม่ดิ้นพล่านเหมือนนักเกร็งทั้งหลาย
หุ้นขึ้นผมก็ดีใจ หุ้นลงผมยิ่งดีใจใหญ่
เพราะจะมีคนขายบริษัทดีๆให้ผมถูกๆ

การลงทุนที่ผมทำอยู่
มันทำให้ผมรู้จักคำว่า "เพียงพอ" ครับ
คนอื่นได้มาก ก็ดีใจกับเขาด้วย ไม่ได้อิจฉาใคร
ถือว่าเขาใช้เวลา ใช้พลังงานในการตามหุ้นมากกว่าเรา
เขาขาดทุน เราก็สงสาร
ก็พยายามอธิบายให้ฟังถึงแนวทางลงทุนที่ไม่ขาดทุน
เขาจะทำตาม ไม่ทำตาม
ผมก็บังคับเขาไมได้

อันดับแรก สำหรับมือใหม่
ผมว่าเราต้องตั้งเป้าหมายของเราก่อนครับ
ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต
บางคนอยากรวยท่าเดียว
ไม่สนใจอย่างอื่นเลย
ก็กำเงินเข้าตลาด พลาดท่าเงินมลายหายไป
หรือได้เงินมา ก็"โลภ" ไม่รู้จักพอ อยากได้มากกว่าเดิม
สุดท้ายก็หมด

พี่ชายผมเป็นนักเก็งกำไรเต็มตัว
แต่เขาบอกผมว่า
สิ่งแรกที่นักเก็งกำไรต้องทำคือ "ไม่โลภ"
เขาทำเงินมากมายจากตลาดหุ้นในรอบนี้ครับ
เขาบอกว่าคนเราต้องรู้จักควบคุมตัวเอง
และ"กล้าได้" ก็ต้อง "กล้าเสีย"

เขาบอกผมว่า
วิธีลงทุนของผมไม่ผิดหรอกครับ
แต่ละคนมีสไตล์ของตัวเอง
แต่สำหรับเขา เขาบอกว่าเขาทนไม่ได้ครับ
ที่เห็นหุ้นตัวอื่นวิ่งเอาๆ แต่ตัวที่เราถือราคานิ่งเหมือนแช่แป้ง
ผมก็หัวเราะ บอก เออจริง
บางคนทนไม่ได้จริงๆ

ผมอยากจะบอกว่า
ในเวปนี้ถึงแม้จะเป็น Value Investor เหมือนกัน
แต่ละคนก็มีสไตล์ไม่เหมือนกันครับ
และผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครถูกใครผิด
หรือวิธีของใครจะดีกว่าใคร
พี่ฉัครชัย ลงทุนด้วยงบการเงินล้วนๆ ถือเพียงหนึ่งหรือสองตัว
พี่ปรัชญา ลงทุนในวอร์แรนต์
พี่พี ลงทุนในหุ้นสองร้อยตัว ได้รับ Annual Report ปีละสองร้อยเล่ม
คุณมน เก็บก้นบุหรี่สูบอย่างมีความสุข
คุณธันวา ลงทุนในกิจการที่ตัวเองเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
พี่เจ๋ง ทนไม่ไหว ลงไปหัดเก็งกำไร อิ อิ

ผมว่าทุกท่านมีวิธีการที่แตกต่างกัน
และไม่ได้ถือหุ้นตัวเดียวกัน
แต่ผมว่าสิ่งที่เหมือนกันก็คือ
เราลงทุนในธุรกิจที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าของธุรกิจนั้น
อาจารย์ Graham บอกไว้ว่า
"ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย แต่มูลค่าคือสิ่งที่คุณจะได้รับ"
การหามูลค่าของแต่ละท่านก็ไม่เหมือนกัน
ผมว่าไม่มีวิธีไหน Perfect หรอกครับ
เราอย่าไปยึดติดกับ"วิธีการ"เลยครับ
สิ่งที่สำคัญน่าจะเป็น"หลักการ"มากกว่า
เพราะในตลาด "สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่นอน" ครับ

ผมบ่นมามากพอแล้ว
บางท่านอาจจะรำคาญ
แต่อยากบอกคนที่อยากจะเป็นนักลงทุนใหม่ๆไว้ว่า
1) หาเป้าหมายชีวิตของตัวเองให้เจอ
2) ค้นหาสไตล์การลงทุนของตัวเอง
3) ไม่ออกนอกเส้นทางที่เราตั้งเป้าหมายไว้
4) ไม่โลภ
5) อย่าเครียด
6) ทำจิตใจให้สงบแล้วจะพบความสุขที่เยือกเย็น (คำพูดท่านพุทธทาสภิกขุ)

โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ

แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 08:12:27

จากคุณ : คนจนที่อยากรวย
เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:04:06




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com