ความคิดเห็นที่ 9 |
เพิ่มเติมความเห็นของคุณ Real นะครับ
งบกระแสเงินสดประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ 1. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงาน Operating 2. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน Investing 3. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงิน Financing
ส่วนใหญ่ จะพิจารณาเป็น บวก ลบ ลบ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่เสมอไป ต้องดูความเหมาะสมอีกที)
operating จำเป็นต้องเป็นบวก เพราะเป็นทางหลักในการได้มาซึ่งรายรับในรูปของเงิน หากบริษัทไหนมีกิจกรรมนี้ติดลบ ต้องพึงระวัง
investing ส่วนใหญ่จะเป็นลบ จากการนำเงินไปลงทุนซื้อเครื่องจักร หรือสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต หากเป็นบวก อาจส่งผลไม่ดี เพราะรายได้อาจมาจากการขายสินทรัพย์บางอย่างไป (ต้องตรวจทานดูอีกที)
Financing ควรเป็นลบ ซึ่งแยกย่อยได้สองทางหลักคือ - เป็นลบเนื่องจากนำเงินไปจ่ายปันผล - เป็นลบเนื่องจากนำเงินไปใช้หนี้ระยะยาว ในส่วนนี้ไม่ควรเป็นบวก เพราะจะหมายถึงบริษัทมีการกู้เงินจากสถาบันการเงิน ซึ่งเราต้องตามดูอีกทีว่าเขากู้เงินมาเพื่อจุดประสงค์ใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การกู้หนี้ยืมสิน ถือว่าเป็นเรื่องที่นักลงทุนอย่างเราๆ ไม่สบายใจเท่าไหร่ครับ
สุดท้าย เมื่อหักลบทั้งสามส่วน เงินเหลือปลายงวดสุทธิควรต้องเป็นบวก และนั่นก็คือเงินสดปลายงวด ที่จะกลายเป็นเงินส้นต้นงวดของไตรมาสถัดไปนั่นเองครับ
หวังว่าคงช่วยให้มองภาพออกได้มากขึ้นนะครับ
จากคุณ |
:
คนจนที่อยากรวย
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ม.ค. 53 21:17:07
|
|
|
|