ความคิดเห็นที่ 1 ซื้อไม่ค่อยจะทันอ่ะของดี ๆๆ แย่งไม่ได้อ่ะ จากคุณ : WACHOVIA เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:14:52

ความคิดเห็นที่ 2 กองทุน  ไม่ต้องใช้เงินมาก   ชื้อสะดวกกว่า   ซื้อเอง  เลือกได้ตามใจชอบ แต่อาจจจะไปไม่ทันเลือก  และต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง แล้วแต่ว่าเป็นหุ้นกู้ของ บ. อะไร  อย่างปูน  เมื่อก่อนเริ่มที่ 10 ล้าน    ส่วนใหญ่ เริ่มที่ 1 ล้าน  เดี๊ยวนี้ไม่รู้เริ่มที่เท่าไร ก็ดีทั้ง 2  แบบ  แล้วแต่ว่า  แบบไหนจะเหมาะกับตัวเรามากกว่า จากคุณ : The Gollum เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:32:32

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อดี : 1.จำนวนเงินเริ่มต้นต่ำกว่า หุ้นกู้ส่วนใหญ่เริ่มหน่วยละ 100,000 2.diversify risk จากการเกิดบริษัทเจ๊ง 3.หุ้นกู้บริษัทใหญ่ rateดีๆ มักขายให้นลท.สถาบัน, รายใหญ่ หรือมีเส้น ก่อน คนทั่วไปมักอด ข้อด้อย 1.ผลตอบแทนน้อยกว่าซื้อเองหน่อย 2.เปลี่ยนมือไม่ใด้  ความเห็นจากความรู้อันน้อยนิด โปรดพิจารณา จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:32:40

ความคิดเห็นที่ 4 อ้อ  มันเป็นอย่างนี้น่ะเอง แบบนี้ไปซื้อหุ้นกู้เลย  สะดวกกว่า  เพราะผลตอบแทนมากกว่า ถามต่อ  อย่าง กองทุนที่ลงหุ้นกู้หลาย ๆ ตัว แบบนี้ ถ้าหุ้นกู้ตัวหนึ่งเกิดเจ๊งหรือเบี้ยวไม่จ่าย   ดอกเบี้ย+เงินต้นที่เราจะได้จากกองทุน  ก็จะถูกหารออกไปตามสัดส่วนใช่หรือเปล่า จากคุณ : ไจโรสโคป เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:48:33

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าหุ้นกู้ตัวหนึ่งเกิดเจ๊งหรือเบี้ยวไม่จ่าย   .... กองทุนจะช่วยติดตามหนี้นี้กลับมาให้ครับ อาจจะช้าหน่อย หรืออาจจะได้คืนไม่ครบ แต่ก็ได้คืนมาบ้างครับ อีกประเด็น คือเรื่องภาษี ของดอกเบี้ย ถ้าเป็นการลงทุนเอง จะมีภาระต้อง ถูกหัก ภาษี ณ.ที่จ่าย 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับด้วยครับ แต่ถ้ารายได้ไม่มากถึงขั้นต้องเสียภาษี ก็อาจจะแค่เสียเวลาขอคืนจากสรรพากรได้ครับ แต่ถ้าเป็นการลงทุนผ่านทางกองทุน ผลตอบแทนจากกองทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีด้วยครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:56:42

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเคยดูกองทุนลักษณะนี้ของ SCB เหมือนกันครับ น่าสนใจดีเพราะ จองซื้อหุ้นกู้บางตัวค่อนข้างยาก แต่ผลตอบแทนเท่าที่เช็คดู น้อยกว่าลงทุนเองพอสมควรนะครับ แม้ว่า จะหักภาษีแล้วก็ตาม มาอ่านเจอที่ pjuk ตอบ ผมคิดๆดู หากดอกเบี้ยไม่โดนหักภาษีเหมือน บุคคลธรรมดาลงทุนเอง ผลตอบแทนของกองทุน หักค่าบริหารแล้ว ก็ น่าจะดีกว่าลงทุนเองสิครับ ??? หรือว่าตอนนั้นผมคำนวนผิด ... สงสัยต้องกลับไปดูใหม่เสียแล้ว จากคุณ : นิสิต เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 18:05:59

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อด้อยที่สำคัญอันหนึ่ง (หรืออาจเป็นข้อดี?) ของกองทุนหุ้นแบบกองทุนเปิดคือ ราคามันจะ mark to market นั่นหมายความว่า หากเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น จะมีโอกาสที่ NAV มีการติดลบได้ แต่ถ้าถือหุ้นกู้เอง ก็ไม่มีปัญหาอะไร ที่บอกว่าอาจเป็นข้อดี คือ หาก เป็นดอกเบี้ยขาลง บางครั้งกองทุนหุ้นกู้อาจให้ผลตอบแทน 10% ต่อปีก็มีครับ (ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง) จากคุณ : krit587 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:07:24

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเงินเยอะๆ คุณเทียบแค่ ค่าธรรมเนียมกองทุน กับ ภาษีเงินได้ ก็พอ เรื่องการลงทุนที่หลากหลาย คุณก็ทำเองได้ ไม่ต้องให้กองทุนทำให้ คิดง่ายๆ ภาษี 15% ผลตอบแทนตราสาร 4% ถ้าค่าธรรมเนียมกองทุน(และค่าใช้จ่ายอื่นๆ) คิดเป็น .6% หรือน้อยกว่า ก็ควรลงในกองทุน จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:20:43

ความคิดเห็นที่ 9 กองทุนที่อ้างถึงกรณีนี้ เป็นกองทุนที่ต้องถือจนครบอายุของตราสารหนี้นะครับ ดังนั้นผลตอบแทนที่ได้จากดอกเบี้ย จะเหมือนกับกรณีที่ซื้อเอง เพราะถือ จนครบอายุของตราสารหนี้ครับ ปัญหาของรายย่อย ที่จะซื้อหุ้นกู้เองคือ หุ้นกู้ดีๆ ซื้อยากมาก มักซื้อไม่ได้ เพราะหมดเสียก่อน จากคุณ : นิสิต เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:44:50

ความคิดเห็นที่ 10 มาอ่าน จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:01:46

ความคิดเห็นที่ 11 กลัวความวุ่นวายเหมือนกัน  ซื้อหุ้นกู้เองเลยดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาเรื่องกองทุน ปกติมีเส้นอยู่ 2 - 3 แบงก์  อิอิ เลยจองได้พอสมควร จากคุณ : ไจโรสโคป เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 23:18:02

ความคิดเห็นที่ 12 ตราสารหนี้จะซื้อขายผ่านตลาดรองก็ได้ จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 23:22:51

ความคิดเห็นที่ 13 ตราสารหนี้ที่ซื้อขายผ่านตลาดรอง เท่าที่ทราบมักจะเป็นตัวที่ rating ดีๆ จึงจะมีโอกาสขายออก มิฉะนั้นจะขายยาก หรือไม่ก็โดนกดดอกเบี้ยน่าดู เลยครับ จากคุณ : นิสิต เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 09:20:41

ความคิดเห็นที่ 14 ก็ดีกว่ากองทุนรวมที่ไม่เปิดโอกาสให้ขายคืน จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 06:56:54