PANTIP.COM : I8893820 Jubile : นานๆจะมีคนบ่นถึง ขอ review หน่อยครับ{แตกประเด็นจาก I8893521} [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 3

แนวโน้นเป็นผู้ส่งออกอัญมณี ในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า

_{รัฐบาลประกาศอุ้มอุตฯอัญมณี-เครื่องประดับ ด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)ในการนำเข้าวัตถุดิบ 7% โดยหันไปจัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย 1%แทน ช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ ด้านคลังยืนยันคุ้มค่า ในอนาคต รัฐรับรายได้เพิ่มหลักพันล้าน จ้างงานเพิ่มล้านคน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่องรัฐบาลกับการนำประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2552 ว่า กระทรวงการคลังจะลดภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)นำเข้าวัตถุดิบอัญมณีจาก 7% เหลือ 0% และหันไปจัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากมูลค่าการนำเข้าจริง 1% แทน ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ เป็นการช่วยเหลือเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรมอัญมณีให้กับผู้ประกอบการที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้

"รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาให้เอกชน ซึ่งผมได้รับคำยืนยันจากผู้ประกอบการว่าหากปรับโครงสร้างภาษีได้ ก็จะช่วยกระตุ้นให้มีการนำเข้ามากขึ้น เกิดการผลิตและการจ้างงานตามมา เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในการสร้างชื่อให้กับอัญมณีไทยในระดับโลก เหมือนชื่อเสียงของทองคำของประเทศอิตาลี"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีต้องได้รับการผลักดัน 4 ด้าน ประกอบด้วย

1.การผลักดันจากภาครัฐ ที่ต้องไปแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้เอื้ออำนายต่อการค้าในระยะยาว รวมถึงดูแลให้มีการรักษาและดึงดูดให้เกิดการค้าขายเพิ่มขึ้นในอนาคต 2.ด้านแรงงาน ที่ต้องสนับสนุน รักษาองค์ความรู้ของแรงงาน รวมถึงส่งเสริมความรู้ใหม่ภายใต้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าสินค้า

3.สนับสนุนด้านการตลาด ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มตลาดใกล้ถึงจุดอิ่มตัว จึงจำเป็นต้องรักษาตลาดเดิมไว้ ขณะที่ต้องหาตลาดใหม่ เพิ่มเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า ลดการพึ่งพาตลาดหลักเพียงอย่างเดียว และ4.สนับสนุนแก้ไขปัญหาต้นทุนวัตถุดิบ โดยการปรับโครงสร้างภาษีดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ไม่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ได้

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอัญมณีมีบทบาทสำคัญในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 2% ของมูลค่าการซื้อขายในตลาดโลก และมีการซื้อขายอยู่ในลำดับที่ 14 ของโลก นอกจากนื้ ยังคิดเป็น 10% ของรายได้จากภาคท่องเที่ยวต่อปี หรือประมาณ 5 หมื่นล้านบาท

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังเชื่อว่า การปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าวัตถุดิบอัญมณี จะทำให้มีผู้มาเสียภาษีในระบบมากขึ้น และเป็นผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ในระยะยาวมากกว่าที่จะสูญเสียรายได้ภาษีลง เพราะปัจจุบันการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มนำเข้าก็อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าปรับปรุงโครงสร้างภาษีรายได้ การจัดเก็บจะเพิ่มมาอยู่ที่หลักพันล้านบาท รวมถึงจะมีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นกว่าล้านคน

นอกจากมาตรการทางภาษีแล้ว กระทรวงการคลังต้องเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการอัญมณีให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้งธนาคารเพื่อการส่งออกและการนำเข้าแห่งประเทศไทย บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเร็วๆนี้จะได้รับการเพิ่มทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ก็จะมีเม็ดเงินมาช่วยเหลือผู้ประกอบการมากขึ้น

นายวิชัย อัศรัสกร นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ กล่าวว่า จากเดิมการนำเข้าวัตถุดิบอัญมณี ผู้ประกอบการต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม7 %จากนั้นนำมาผลิตเป็นเครื่องประดับ เมื่อส่งออกจึงจะขอคืนภาษีได้ แต่การขอคืนส่วนใหญ่จะได้เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่วนรายเล็กๆ จะได้คืนภาษีน้อยมาก อีกทั้งหากมีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อมีการส่งออก เท่ากับรัฐไม่ได้ภาษี แต่เมื่อเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย รัฐบาลจะได้ภาษีโดยตรง ซึ่งในปี 2543 ได้ใช้แนวทางนี้กับสินค้าทองคำ ทำให้มูลค่าการส่งออกจาก 6.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 2.8 แสนล้านบาท

ดังนั้นหากใช้แนวทางนี้ เชื่อว่า จะทำให้มูลค่าการส่งออกจาก 5 เดือนแรกของปี 2552 อยู่ที่จำนวน 1.6 แสนล้านบาท เพิ่มเป็น 3 แสนล้านบาทในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 400,000 ล้านบาท ในปี 2553 ส่วนการขอยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่ม จะทำเฉพาะวัตถุดิบที่เป็นก้อนเพชรพลอยเท่านั้น ไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูป}

จากคุณ : superman2007

เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 21:41:46