ความคิดเห็นที่ 1 คิดจะตั้งกระทู้แนวนี้เหมือนกันเลย งั้นขอแจมด้วยนะครับ สัปดาห์ก่อนยังถกกันเรื่องช๊อตหรือไม่ช๊อต อาทิตย์หน้าต้องทำสอบจริงกันแล้ว ใครมีบางจากตอนนี้คงไม่ใช้แนวเก็งกำไรสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ปฎิเสธกำไรนะ กำไรจากราคาหุ้น กำไรจากปันผล กำไรจากการเติบโต จากราคาหุ้นที่ผ่านมา วิ่งเหมือนหมาไล่กัดหางตัวเอง งั้นคงหวังส่วนต่างราคา ยากหน่อย แต่ยังดีได้กำไรปันผลกลางปีปลอบใจ กำไรของบริษัทเองก็ยั่วยวนใจจนยากจะตัดใจลา จนงบไตรมาศ3ออกแจ่มเกินบรรยาย ต้นปีท่านด็อกเตอร์ก็ยังย้ำถึงนโยบายปันผล50% แต่แล้วผลก็อย่างที่เห็น ทำให้อกหักไปตามๆกัน หลังจากหยุดอารมณ์มาใช้เหตุผลยิ่งสับสนมากขึ้นอีกว่าเอาไงดี ถือต่อเพราะบริษัทกำไรมโหฬารเทียบกับราคาหุ้น ปันผลเกิน10% ทิ้งแล้วผู้บริหารทำไม่ได้อย่างที่พูด(แต่แกก็เก่งนะ ทำกำไรได้ขนาดนี้) ขายก่อนแล้วค่อยซื้อใหม่ หรือรอดูกันไป ดีนะที่งบและปันผลออกเย็นวันศุกร์ ได้ดูหนังสือเพิ่มก่อนสอบวันจันทร์ แล้วท่านเจ้าของกระทู้ละครับ มีแนวยังงัย จากคุณ : ลัคนา เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 08:05:16

ความคิดเห็นที่ 2 เสริมนิดครับ เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้กับ UMS (สุดรัก vi ) ก่อนงบออกผู้บริหารโปรยยาหอมซะจนหายเมาเรือ แต่เลวร้ายกว่าเพราะงบไม่ดีเอามากๆ ปันผลก็ไม่ ขอโทษสักคำก็ไม่มี ราคาหุ้น จาก14-15 เหลือ 8-9 บาทใน 10 วัน ตอนนั้นตัดสินกันใจง่ายเพราะองค์ประกอบครบตามตำรา จากคุณ : ลัคนา เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 08:20:10

ความคิดเห็นที่ 3 ผมก็เห็นด้วยครับ เพราะVI บอกว่าราคาหุ้นจะตามกำไรที่บริษัททำได้ ไม่ใช่ปันผลที่จ่ายออกมา ถ้าคุณลงทุนระยะยาว ผมเชื่อว่า จะปันผลมากน้อยเท่าใด ก็ไม่มีผล เพราะสุดท้าย เงินก็จะไปต่อเงินของมันเอง ถ้าผู้บริหารคุณเก่ง เพราะถ้าปันผลออกมามาก ผมก็เอาเงินไปหาทางลงทุนเองอยู่ดี สู้ให้เค้าเอาไปลงทุนในพลังงานอื่นๆต่อไปดีกว่า บ่ายนี้ ผมจะไปฟังผู้บริหารบางจากมาพูดที่ตลาดหลักทรัพย์ ใครสงสัยอะไรไปถามเค้าได้ครับ สำหรับผม ค่อนข้างพอใจครับ จากคุณ : Waroncom เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 08:37:38

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเห็นด้วยกับการปรับปรุง PQI ของ BCP มาตลอดครับ แต่การลงทุนครั้งหน้า เป็นการลงทุนเกี่ยวกับพลังงานสะอาดซะเยอะ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า ธุรกิจพลังงานสะอาดในไทย มันจะทำกำไรได้มากแค่ไหนเชียว โรงกลั่นเป็นธุรกิจวัฏจักร  กำไรขึ้นลงเป็นแทบจะเป็น sin curve  ปีนี้อาจจะกำไรร่วง  ปีหน้าอาจจะขาดทุนก็ได้   ปีที่ผ่านมา ทำประกันความเสี่ยงไว้ได้ กำไรบาน แต่ราคายังไม่ขยับ ซ้ำร้าย ปันผลยังออกมาต่ำกว่านโยบายการจ่ายปันผล หากช่วงธุรกิจดี ราคายังไม่วิ่ง  ปันผลควักมากระจิ๊ดริด แล้วช่วงธุรกิจขาลง BCP  ยังจะให้อะไรผมได้อ๊ะป่าวครับ   ฮะๆ จากคุณ : Fresh Extra เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 08:39:08

ความคิดเห็นที่ 5 คนที่ยังไม่มีหุ้น BCP อยู่คงไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่ถือ BCP อยู่แล้ว คงอยากเขวี้ยงทิ้งหนีใจจะขาด ขอแค่เอาทุนคืนมาก็พอ การที่ราคาหุ้นมันไม่วิ่ง หรือวิ่งวันเดียวแล้วนิ่งทั้งปี มันคือการสูญเสียโอกาสในการลงทุน การเล่นหุ้น เล่นหุ้นเพื่อหวังกำไร ไม่ใช่ให้บริษัทมันรวยเอาๆ  แต่คนถือหุ้นขาดทุน พอร์ตแดงทั้งปี ปันผลที่ได้ก็ช่างน้อยนิด คนที่ลงทุนรู้ดีเลยว่า เงินปันผล มันก็คือเงินต้นทุนของตรูเองนั่นแหละที่ลงทุนไป สมมุติครั้งนี้ให้ปันผล 0.8 บาท/หุ้น สำหรับหุ้นตัวนี้ราคาหลัง XD มันจะลงไป ประมาณ 1 บาท - 1.5 บาท/หุ้น  ลงไปมากกว่าที่ให้ปันผลอีก คือขาดทุนทันทีและเงินแช่นิ่งทั้งปี จะขายออกก็ไม่ได้ การวาดฝันว่ามันจะไป 18 บาท 20 บาท หรือแจก warrant ฟรี มันคือเรื่องของอนาคตที่ยังมองไม่เห็น จะเกิดหรือไม่เกิด ก็ไม่มีใครรู้ได้ แต่สิ่งที่รับรู้ได้ตอนนี้คือ มันเป็นการสูญเสียโอกาสในการลงทุนครับ ถ้ามันจะปั่นราคาขึ้นจริง แนะให้ค่อยเข้าเล่นช่วงนั้นดีกว่านะครับ   ปล. ถ้าเงินก้อนนั้นผมเอาไปซื้อ CPF ในช่วงเวลาเดียวกัน ป่านนี้รวยเละไปแล้วครับ ราคาหุ้น CPF มันวิ่งขึ้นมาเกิน 100 % แล้ว ขณะที่ BCP เวลาผ่านมานานแต่ราคายังคงที่เท่าเดิม หุ้น BCP มันมีปัญหาตรงที่ตอนหุ้นขาขึ้น มันไม่ยอมขึ้นตามเค้า แต่ตอนหุ้นขาลง มันลงตามเค้าด้วยสิครับ นี่แหละคือปัญหาของเจ้าหุ้นตัวนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 53 09:17:51 จากคุณ : เป็ก (SOMBOON9) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 09:11:11

ความคิดเห็นที่ 6 ฝากคุณ Waroncom ด้วยครับ อยู่ไกลมากๆกลางอ่าวไทย " ถ้าบางจากปันมากขึ้นอีกสักนิด พอสมเหตุสมผลเพื่อหุ้นจะได้อยู่ในมือ นักลงทุนรายย่อยมากๆหน่อย เงินลงทุนใช้กู้บางก็ได้ ความรู้สึกวัดกันเป็นเงินลำบาก ถนอมน้ำใจรายย่อยกันหน่อย เอาพอใกล้ๆกับที่ดร.พูดตามนโยบายบริษัท ค่า P/E  P/BV  จ่ายแทนเงินไม่ได้นะครับ " จากคุณ : ลัคนา เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 09:14:43

ความคิดเห็นที่ 7 เสริมอีกนิดครับ กำไรปีนี้ 5,000 ล้านมาจาก การประกันราคาน้ำมัน ซึ่งต่างจากปี 2551 ที่ขาดทุนจากตรงนี้ ซึ่งเราคงต้องมองกันต่อว่า ปี 2553 นี้ราคาน้ำมันจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่า สัญญาน้ำมันเดิมหมดไปหรือยัง ถ้ายังไม่หมด ยังไงก็รวยต่อ แต่ถ้าหมดแล้ว หากราคาน้ำมันนิ่ง กำไรของ BCP น่าจะอยู่ที่ 2,000 - 3,000 ลบ. หากราคาน้ำมันวิ่งไปที่เดิมที่ 140 $/บาเรล อันนี้จะมีกำไรส่วนนี้อีกมากครับ ซึ่งในทางตรงข้ามถ้าน้ำมันลงก็จะขาดทุนส่วนนี้ครับ จากคุณ : Mccain เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 09:29:05

ความคิดเห็นที่ 8 ถูกใจ #6 ตรงนี้ครับ " ค่า P/E  P/BV  จ่ายแทนเงินไม่ได้นะครับ " การลงทุนต้องการผลตอบแทนเป็นเงิน ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่สวยหรูครับ จากคุณ : เป็ก (SOMBOON9) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 09:30:48

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆ ปีนี้ ก็ปันผลตั้ง 12.25% นะ เผลอๆ ถ้ามีคนบ่นมากๆ ในวันที่ประชุม บางทีอาจมี เซอไพรท์ ปันผลพิเศษ ไตรมาส 1 นี้ ก็ได้ อิอิ จากคุณ : Mccain เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 09:38:29

ความคิดเห็นที่ 10 ในข้อเสียมันก็มีข้อดี ในข้อดีมันก็มีข้อดีน่ะแหล่ะ อิๆ จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 09:43:13

ความคิดเห็นที่ 11 บ่นมากๆแล้วได้ปันผลพิเศษเหมือนใครโยนเศษอาหารให้กินเลย เอาเป็นทำตามนโยบายลงทุนด้วยกัน ได้กำไรแล้วก็เอามาแบ่งกัน หรือคำขออภัยพร้อมเหตุผลอันสมควร จะดีกว่ามั้ยครับ จากคุณ : ลัคนา เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 09:58:44

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ถ้ามันไม่ดีพอก็ขายมันทิ้งเถอะครับ จากคุณ : Mccain เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 10:34:27

ความคิดเห็นที่ 13 ก้เพราะยังขายไม่ได้สิครับ ยังขาดทุนอยุ่  มันให้ปันผลมาเท่าไหร่ ราคามันก็จะตกลงไปมากกว่าปันผลที่ได้อีก สาธุ หลังปันผลรอบนี้ ขออย่าได้เห็น 13.XX บาทอีกเลย ขี้เกียจรอแล้ว จากคุณ : เป็ก (SOMBOON9) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 10:43:23

ความคิดเห็นที่ 14 ไหงจะเป็น vi ต้องไป แขวะหุ้นตัวอื่นด้วยละครับ จะเชียร์ bcp ก็ยกเหตุผลมาว่ากัน ปัญหาของ bcp ราคาไม่ไปไหนก็เพราะตลาดมองว่าการกำไรจากการเก็งกำไรน้ำมัน มันไม่ยั่งยืน ถ้า bcp ทำกำไรจากปั๋ม หรือการดำเนินการจริงๆ มูลค่ามันก็มาเอง ที่นี้จะปันมากปันน้อย ผู้บริหารต้องชี้แจงว่า ปันน้อยแล้วเอาเงินไว้ทำไร? ลงทุน หรือเก็งกำไร ลงทุนขยายสาขา หรือเก็บไว้เก็งกำไรต่อ ก็สุดแท้แต่โมเดล ส่วนน้าแอ๊ดของผม(ขอใช้สิทธิพาดพิง :) ) มันก็คนละแนวกัน เงินสดมันก็เหลือจริงๆ จากกำไร 18พันล้าน ค่าเสื่อมอีกปีละ20พันล้าน ผู้บริหารก็มีทางเลือกว่าจะเก็บเงินไว้ทำอะไรดี เมื่อลงทุนก็ทำไม่ได้ ไม่คุ้มอายุสัมปทาน ก็เอาเงินมาแจก จนกว่า จะมีการลงทุน 3g dtac ก็อารมณ์เดียวกัน ถ้าเขาลงทุนได้ ไม่ลงทุน เก็บเงินสดไว้เก็งกำไรราคามือถือล่วงหน้าสิแปลก แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 53 11:18:43 จากคุณ : Pigou เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 11:17:27

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับผมปันผลมากน้อยไม่ใช่ปัญหา  แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะเอาเงินไปทำอะไร  ถ้าลงทุนได้ผลตอบแทนดีก็สนับสนุน ถ้าเอาไปทำเรื่องไม่เข้าท่าก็จ่ายปันผลมาดีกว่า อีกเรื่องคือ ธรรมาภิบาลและความคิดของผู้บริหาร  เมื่อก่อนเคยพูดไว้อย่างไร ตอนนี้พูดอย่างไร อันนี้จากข่าว 2 เดือนที่แล้วนี่เอง "...นอกจากนี้ บรษัทตั้งงบลงทุนประมาณ 1.5 พันล้านบาท ในการปรับปรุงโรงกลั่น รวมไปถึงปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันประมาณ 50 แห่ง เพื่อให้เกิดความทันสมัย โดยจะนำเงินลงทุนมาจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2552 ขณะที่บางส่วนจะมาจากการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์......" http://www.stockwave.in.th/top-headline/4110-bcp-041209.html และนี่ข่าวล่าสุด "BCP เผย ตั้งงบลงทุนปีนี้ 5 พันล.         Monday, 15 February 2010 15:30   ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯได้วางงบลงทุนทั้งสิ้นจำนวน 5 พันล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นงบลงทุนในการรีแบรนด์ดิ้ง 100 สถานี และการขยายสถานีให้บริการน้ำมันเพิ่มถึง 10-15 สถานี ขณะที่ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนในโครงการใหม่ 3 โครงการได้ แก่ โครงการยูโร 4 โครงการเอทานอล และโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซล่าเซลล์ " ภายในเวลา 2 เดือน  งบลงทุนเปลี่ยนจาก 1500 ล้าน เป็น 5000 ล้านได้ แปลว่า 1. ผู้บริหารไม่รู้ว่าอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้า บริษัทของตัวเองจะทำอะไรดี หรือ 2. ผู้บริหารกลับไปกลับมาพูดจาเชื่อถือไม่ได้ จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 13:08:29

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไหร่น่ะครับ มันสิ้นเปลืองเงินทุนมากเกินไป ไฟฟ้าที่ได้กลับคืนไม่คุ้มทุนที่เสีย นอกจากนั้นค่าบำรุงทรัพย์ยังจะสูงมากอีกด้วย และนอกจากนั้นพลังงานแสงอาทิตย์ก็ยังมีข้อจำกัดทางสภาพอากาศ ในฤดูเมฆมาก ระดับการผลิตจะได้แค่ไหนกันล่ะครับ... ในช่วงที่มีความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศสูงจึงพึ่งลำบากครับ โดยมากเขาจึงสร้างกันในทะเลทรายเลยทีเดียว แต่ภูมิประเทศเรามันร้อนชื้น ที่สำคัญกว่านั้นไหงเลือกทำสัญญาคาร์บอนเครดิตกับการบินไทยล่ะเนี่ย การบินไทยเพิ่งจะสั่งซื้อเครื่องบินใหม่มากินกันส่วนหนึ่ง หนี้ก็ยังไม่หายไปไหน แล้วจะมาจ่ายอะไรให้บางจากมากมายเหรอครับ? ขืนสัญญาออกมาตันละ 300 บาท (ต่ำสุด) ก็ยิ่งจะไปกันใหญ่เลยครับ ถ้าพูดในเรื่องของพื้นฐานหุ้นนะ ดังนั้นสำหรับผม ดูแล้วสิ่งที่คำนวณไม่ได้มันมากไปหน่อยครับ ป.ล. ความเห็นส่วนบุคคล อย่าคิดจริงจังมาก... จากคุณ : redreamt เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 15:04:50

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยครับเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นจริงทางธุรกิจได้รัฐต้องใส่เงินช่วย ไม่ทางภาษีก็ต้องช่วยซื้อแพงหน่อย แต่ชอบเรื่องปรับปรุงสถานีให้บริการมี่ช่องทำเงินได้อีกเยอะ เอทานอลกับไบโอดีเซลก็คงโตขึ้นเรื่อยๆ รวมๆแล้วก็.........รอดูกันต่อไป จากคุณ : ลัคนา เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 16:10:22

ความคิดเห็นที่ 18 แต่ละโครงการที่ว่ามันเป็นเมกะโปรเจค ที่ไม่ใช่สร้างขึ้นได้เสร็จภายในในพริบตา แต่มันจะเห็นผลในอีก 10 - 20 ปี ข้างหน้า แล้วจะมีรายย่อยที่ถือหุ้น BCP อีกสักกี่คนที่จะทนถือหุ้นเน่าๆ ตัวหนึ่งๆ ที่ราคาไม่ขยับเขยื้อนแบบนี้ ไปยาวนา่นได้เป็น 10 - 20 ปีหล่ะครับ แบบนี้คงเรียกว่า SUPER VI ???  ขนาดปีนี้บริษัททำกำไรได้ตั้งมากมาย ยังเจียดเศษเงินมาให้รายย่อยได้เพียงแค่เนี๊ยะ โดยอ้างแค่เอาเงินไปลงทุน ทั้งๆที่หาเงินลงทุนจากทางอื่นได้อีกตั้งมากมาย ราคาหุ้นมันสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐาน ความเจริญเติบโตก้าวหน้าของบริษัทนะครับ ท่านผู้บริหารครับ ท่านยังไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนรายย่อยเลย นโยบายของท่านก็ยังไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน พูดจากลับไปกลับมา บริษัทจะเจริญเติบโตไปได้อย่างไร ถ้าท่านยังมองข้ามหัวของผู้ลงทุนส่วนใหญ่แบบนี้ ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ตอนนี้ยังไม่มีใคร HAPPY ขนาดปีนี้บริษัทของท่านกำไรตั้งมากมาย แต่รายย่อยอย่างผมที่ถือหุ้นของท่านยังขาดทุนข้ามปี ท่านจะแก้ภาพลักษณ์ตรงนี้ยังไง ที่คนส่วนใหญ่เรียกหุ้น BCP ว่าน้ำมันตราเต่า หล่ะครับ  อาทิตย์หน้าคงจะเห็นผลสะท้อนสิ่งที่ท่านคิดท่านทำอีกแล้วหล่ะครับ จากคุณ : เป็ก (SOMBOON9) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 20:07:26

ความคิดเห็นที่ 19 ระวังเข้าทางเขา นะครับ อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็กดหุ้นไว้ตลอด เป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งอยู่ท่าน ดร. ให้ข่าว ไตรมาสหนึ่ง ค่าการกลั่นอาจได้เฉลี่ย US$5 ...เพีิ่มจาก q4/09 ที่เฉลี่ย US$2 ..... วันเดียวโดดจาก 14.1 --> 14.8 .... อาทิตย์ถ้ามีคนขายออกมามากราคาลงมามากๆ มีคนไล่เก็บแน่นอน ... แต่ก็ไม่เห็นด้วยครับที่จะเอากำำไรไปใช้ลงทุนสุรุ่ยสุร่าย แบบนี้  ... ผมจะไม่ว่า เลยถ้าเอาไปจ่ายหนี้เงินกู้ก่อน ... แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 53 20:48:26 จากคุณ : SuperY เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 20:46:39

ความคิดเห็นที่ 20 หนี้มากกว่าส่วนผถห. เจ้าเต่ามันน่าเล่นตรงไหนเนี่ย จากคุณ : วีไอเม่า (สี่คูณสอง) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 21:06:55

ความคิดเห็นที่ 21 กฎ vi หนึ่งในนั้นคือ ผู้บริหารบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ต้องมีธรรมมาภิบาล ...... วันจันทร์ผมoffer ATO ล่ะครับ กำไรนิดหน่อยก็พอใจครับดีกว่าขาดทุนแม้ไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดไว้  ความไม่แน่นอนใดๆ ทุกชนิดคือความเสี่ยงที่บวกไปไว้ในราคาปัจจุบัน ยิ่งคาดการอนาคตไกลเพียงไรความไม่แน่นอนก็สูงขึ้นไปเท่านั้น แต่กฎนักเก็งกำไรอย่างผม ถือเงินต้องเห็นโอกาส ถือหุ้นต้องสร้างผลตอบแทน จากคุณ : วิญญาณเทวดา เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 21:27:26

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ Waroncom ไปฟังมาแล้วมีความคิดเห็นยังไงบ้างครับ จากคุณ : ลัคนา เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 06:47:28

ความคิดเห็นที่ 23 #20 ไม่น่าเล่นอย่างยิ่ง เห็นด้วยจริงๆ แต่น่าลงทุนรึป่าว ยังงงอยู่ จากคุณ : ลัคนา เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 06:52:00