|
ความคิดเห็นที่ 17 |
1. ไม่เห็นด้วยกับการยอมรับคำสั่ง คปค. หลัก ๆ ก็คือเป็นการออกกฎ ข้อบังคับโดย ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลย์ ถึงผลดีผลเสียในด้านต่าง ๆ เฉกเช่นเดียวกับการออก กฎหมายโดยผ่านระบบรัฐสภา ประชาชนไม่มีสิทธิ์คัดค้าน
2. ว่าด้วยเรื่องสัญญาต่าง ๆ มีข้อให้สงสัยว่าทำไมจึงมีการฟ้องร้องเฉพาะอดีตนายกฯ เท่านั้น เพราะตามปกติการแก้ไขสัญญาต่าง ๆ เรื่องต้องถูกส่งขึ้นมาตามลำดับชั้น เพราะฉะนั้น เวลาฟ้องก็ควรจะฟ้องทั้งชั้นการชงเรื่อง แล้วไปพิจารณาว่าใครผิดใครถูก ไล่ลำดับกันไป ตรงนี้จึงอดตั้งข้อสงสัยถึงความมีอคติของผู้ร้องไม่ได้ ซึ่งก็โยงไปถึง คำวินิจฉัยเกี่ยวกับเรื่องการมีอคติ แต่ตรงนี้ก็อาจจะเป็นที่ทนายจำเลยชี้เป็นรายบุคคลเอง ถ้าทนายจำเลยชี้ทั้งคณะ ชี้เป็นองค์กรเลย ลักษณะการนำสืบก็น่าจะแตกต่างออกไป
3. เสียดายที่การวินิจฉัย ไม่มีการเปรียบเทียบให้เห็นโดยชัดเจนระหว่างผู้ที่ได้ประโยชน์ กับผู้ที่เสียประโยชน์ เช่นเรื่องภาษีสรรพสามิต น่าจะมีการเปรียบเทียบให้เห็นเลยว่า Advance ได้ประโยชน์เท่าไร DTAC, Truemove หรือผู้ให้บริการอื่น ๆ เสียประโยชน์หรือไม่เท่าไร เท่าที่ได้ฟัง เป็นการชี้เฉพาะที่ความเสียหายแก่รัฐ ซึ่งผมมองว่าบางครั้งการดำเนิน นโยบาย รัฐก็ต้องยอมเสียประโยชน์บ้าง หากมองแค่ว่าทำความเสียหายให้แก่รัฐ จากนี้ไป รัฐบาลไหน ลดภาษีไม่ว่าจะประเภทใด ก็ควรจะต้องถูกฟ้องทั้งหมดเช่นกัน เพราะทำให้ รัฐเสียหายเหมือนกัน
4. เงินปันผลของหุ้น เท่าที่ฟังเห็นว่ายึดหมด ซึ่งผมคิดว่าไม่เป็นธรรม ควรจะยึดตามสัดส่วน เพราะว่าเงินปันผล เป็นผลตอบแทนของเงินลงทุน ในเมื่อวินิจฉัยว่าเงินที่มีอยู่ก่อน ดำรงตำแหน่งไม่ยึด ก็ควรจะคำนวนสัดส่วนที่เงินส่วนนั้นควรจะได้รับผลตอบแทนคืนไปด้วย
5. ทราบว่ามีการฟ้องคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับ 5 ข้อกล่าวหาที่ถูกวินิจฉัยนี้ ค้างอยู่ ในศาลปกติด้วย ก็เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า อย่างนี้แล้วคดีที่ค้างอยู่ที่ศาลปกติจะถือว่า ถึงที่สุดเลยหรือไม่ ท่านใดอยู่ในแวดวงกระบวนการยุติธรรม รบกวนขอความรู้ด้วยครับ
รีบแสดงความเห็นก่อนกระทู้โดนลบ แล้วก็ในความเห็นผม มีเรื่องเกี่ยวกับหุ้นอยู่ด้วยนะ ไม่ได้ว่าด้วยเรื่องการเมืองเพียว ๆ นะ
จากคุณ |
:
แมลงเม่าทนไฟ
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.พ. 53 02:49:04
|
|
|
|
|