ความคิดเห็นที่ 1 http://www.bloomberg...wAMqGNJF0&pos=9   Shin shares gained 121 percent from when Thaksin took office on Feb. 9, 2001, to when his family sold the company on Jan. 23, 2006, compared with a 128 percent gain in the benchmark SET index, according to data compiled by Bloomberg. Siam Cement Pcl, Thailand?s fourth-biggest company, which is controlled by the monarchy?s investment arm, gained 717 percent in that time. จากคุณ : bleed เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 53 11:24:53

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ2V2O2H ผมขายก่อนละ ไม่อยากเก็บไว้ ทั้งเสียวและเซ็ง จากคุณ : ด (autonomous) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 53 11:26:04

ความคิดเห็นที่ 3 ผมก็คิดว่าน่าจะไม่มีปัณหาอะไรแล้วนะครับ แต่เป็นเพราะไม่มีคนตะกูลชินวัตรถือหุ้นอยู่ ต่างหากครับ แต่เมืองไทยอะไรก็ไม่แน่นอน ใครอยากเสี่ยงก็ลองดูได้ เงินใครเงินมัน จากคุณ : pon41me เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 53 11:30:58

ความคิดเห็นที่ 4 มีปันผล 8.30 บาท / ค่ำอยู่..... ไม่ตกแบบน่าเกลียดแน่นอน.... ถ้าปันผล 3 บาทซิครับ....ไม่แน่/อาจจะลงเหลือ 80 บาท... จากคุณ : เล้ง// (แก้วบางจาก) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 00:25:26

ความคิดเห็นที่ 5 itv ตอนนั้นก็ทำตาม มติ ครม สุดท้ายต้องจ่ายย้อนกลัง จากคุณ : Mccain เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 01:03:59

ความคิดเห็นที่ 6 http://www.posttoday.com/ข่าว/เศรษฐกิจ/13129/ไอซีทีเล็งรื้อสัญญาโทรเติมเงิน-เอาผิดไทยคม ไอซีทีรื้อสัญญาโทรเติมเงินเอาผิดไทยคม 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 19:33 น. ไอซีทีเล็งรื้อสัญญาโทรเติมเงินเอไอเอสเอาผิดสัญญาไทยคมหลังศาลยึดทรัพย์ทักษิณเอื้อชินฯ นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ไอซีทีจะนำสัญญาการปรับลดส่วนแบ่งระบบพรีเพด ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ที่ศาลวินิจฉัยว่าผิดเข้าสู่การพิจารณาการตรวจสอบการแก้ไขสัญญาของเอไอเอสจำนวน 7 ครั้ง รวมทั้งให้เหตุผลในการแก้ไขแต่ละครั้ง ก่อนเสนอให้ครม. พิจารณาว่าการแกไข้สัญญาครั้งใด เป็นการแก้ไขโดยมิชอบ แล้วสรุปว่าควรจะกลับไปใช้ฉบับเก่าหรือไม่ ส่วนเรื่องภาษีสรรพสามิต นั้นเป็นเรื่องของ ครม.ไม่เกี่ยวข้องกับทางกระทรวงไอซีที ขณะที่ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.ไอซีที กล่าวว่าจะแถลงข่าวเกี่ยวกับสัญญาของบริษัทไทยคมทั้งหมด ในวันที่ 3 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ด้านนายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลใดๆ หลังคำพิพากษาของศาล และปล่อยให้ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทากฎหมาย หากมีการฟ้องร้องหรือตรวจสอบสัญญาสัมปทาน เนื่องจากเอไอเอส ได้เตรียมการเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2549 นับตั้งแต่ ค.ต.ส. กล่าวหาในเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจของเอไอเอส โดยเฉพาะการลงทุนโครงข่าย 3 จี ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะการดำเนินธุรกิจเป็นคนละส่วนกัน จากคุณ : กะติ๊ด เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 01:29:29

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ก่อนอาจไม่มีผล    แต่ศาลบอกเหตุผลอย่างชัดเจนแล้วว่า การเปลี่ยนและละเมิดสัญญาต่างๆของ shin advanc thcom และอาจจะรวมถึง dtac true มีมูล     ยังไงก็ระมัดระวัง ดู itv loxley เป็นตัวอย่าง ส่วนใครคิดว่าศาลไม่ยุติธรรม ก็ให้กลับไปอ่านคําพิพากษาใหม่ด้วยใจเป็นกลาง และมีเหตุผล จากคุณ : นกน้อย (bird_saimai) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 04:18:37

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเป็นผมจะยึด ดาวเทียม ipstar เป็นของรัฐ เพราะ ส่งโดยไม่ผ่านประมูล อาจว่าใช้สำรอง เอาเข้าจริงก็ใช้ประโยชน์อย่างอื่น THCOM อนาคตเหมือน ITV SHIN มูลค่าจะดิ่งทันที   ไม่รวมอย่างอื่น  ปกติสัมปทานน่าจะโดนแก้ไขอีกเยอะ จากคุณ : โตขึ้นจะเป็นเซียน เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 04:35:18

ความคิดเห็นที่ 9 แก้ไขสัญญา .... มีฉบับไหนแก้แล้วรัฐได้ประโยชน์บ้าง... รัฐ ไม่ได้เพียงมองประโยชน์ที่รัฐจะได้... รัฐ จะต้องมองด้วยความเป็นธรรม ....นะครับ จากคุณ : สุทธิสาร เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 05:43:26

ความคิดเห็นที่ 10 ในกรณีที่ ครม.มีมติ  และ บริษัทนั้นๆไม่เกี่ยวข้องกับ คนใน ครม. ถ้าหากต้องสู้กันในศาล  บริษัทมีโอกาสชนะ ครับ แต่กรณี advanc  คงยาก  เพราะศาลท่าน ตัดสินมาแล้วว่า คนใน ครม. เข้าไปเอื้อประโยชน์และมีผลประโยชน์กับบริษัท  ซึ่งอาจเป็น ไปได้ว่ามติ ครม.  อาจผิดกฎหมาย  ซึ่งอาจมีผลไปถึงการทบทวน สัมปทานให้กลับไปเก็บอย่างเดิม     นะครับ จากคุณ : ชานม เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 07:39:46

ความคิดเห็นที่ 11 sell on fact and wait Then buy on panic No reason to keep ADVANC จากคุณ : autonomous เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 08:46:36

ความคิดเห็นที่ 12 ผมก็สงสัยตรงนี้เหมือนกัน ศาลระบุว่านโยบายที่ออกมาเอื้อกับบริษัทเอกชนแน่ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมาทบทวนนโยบายกันใหม่ ให้กลับไปเหมือนเดิม น่าจะส่งผล กระทบกับตัวบริษัท เพราะถ้าไม่ปรับเปลี่ยนก็เท่ากับยอมรับว่านโยบายนั้นไม่ได้ สร้างความเสียหายให้กับประเทศ  แล้วรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรล่ะครับ จากคุณ : หัสดี เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 09:04:04

ความคิดเห็นที่ 13 เลี่ยงได้ ก็ดี หุ้นดีๆ มีให้เลือกเยอะ จากคุณ : คุณชายเฉิน เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 11:06:00

ความคิดเห็นที่ 14 ยาก.....  หากรัฐบาลต้องการดำเนินคดีเพื่อการเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานจะต้องทำตามขั้นตอนของกฏหมายเริ่มจากอนุญาโตตุลาการและศาลปกครองตาม พรบ.ร่วมทุนซึ่จะต้องใช้เวลาพิจารณาคดีอีกหลายปี กรณีเกี่ยวข้องกับADVANCคือ 1)การให้ค่าแปลงค่าสัมทานเป็นภาษีสรรพสามิตซึงผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคมได้สิทธิ์เช่นเดียวกันโดยยังจ่ายเงินจำนวนเท่าเดิมให้รัฐบาลเพียงเปลี่ยนจากเดิมที่จ่ายให้กรมสรรพสามิตมาเป็น TOTและCAT 2)การปรับลดส่วนแบ่งรายได้ของPrepaid จาก25%เหลือ20%เกิดจากการลดค่าaccess charge จากเดิมที่จ่ายในอัตราคงที่200บาท/เลขหมาย/เดือนเป็น18%ของรายได้ค่าบริการ TOTจึงต้องปรับลดส่วนแบ่งรายได้จาก25%เหลือ20%เพื่อให้เกิดการแข่งขันเสรีและเป็นธรรม จากคุณ : Kiat_Su เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 12:07:28

ความคิดเห็นที่ 16 ตาม คห 15 จะกลายเป็นว่า ถูก ในสมัยหนึ่ง แล้วไป ผิด ในอีกสมัยหนึ่ง ยุ่งจัง จากคุณ : Joey999 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 13:04:20

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 15 แล้วต่อไป รัฐบาลไหนจะกล้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเหล่านี้ ในเมื่อการเมืองเป็นเช่นนี้ จากคุณ : หล่อน้อย แต่น่ารัก เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 17:15:14

ความคิดเห็นที่ 18 ศาล ตัดสิน ตามตัวบทกฏหมาย กฏหมายลูกใด ขัดกับ กฏหมาย รัฐธรรมนูญ  กฏหมายลูกจะอยู่หรือไป ? ถ้ากฏหมายลูก ที่ขัด ต้องตกไป แสดงว่า กฏหมายรัฐธรรมนูญ สำคัญกว่า แต่กฏหมายรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ไหม ? ถ้าแก้กฏหมายรัฐธรรมนูญ แล้ว มีความขัดแย้งกันกับกฏหมายลูก ที่เคยมีอยู่ จะใช้กฏหมายใดเป็นหลัก ? ถ้าใช้กฏหมายรัฐธรรมนูญ เป็นหลัก แล้ว คนที่เขียนกฏหมายรัฐธรรมนูญ ก็มีอิทธิพลต่อการใช้กฏหมายหรือเปล่า?  มีอิทธิพลต่อการตัดสินโดยทางอ้อมหรือเปล่า ? เพราะศาลต้องตัดสินตามตัวบทกฏหมาย จากคุณ : pork เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 21:06:52

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมาก จากคุณ : ayuhi292 เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 22:54:18

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกะพี่ราวเด้อที่สุดเรยค่ะ คือ มันก่ายกันมั่วไปหมดแล้วววว ประชาธิปไตย เขาออกแบบมาให้ สามส่วนต้องถ่วงดุลย์กันเอาไว้ มะช่าย ใครขึ้นมา ยุคใคร คนนั้นรื้อในส่วนอื่นกันสนุกสนาน เข้าๆออกๆ ชักหน้าชักหลังกัน ย่ำๆ เดินหน้า ถอยหลัง ย่ำไปย่ำมา ทำไมประเทศมันแผ่นเสียงตกร่องแบบนี้เนี่ยยยยยยยยยย รัฐธรรมนูญ กฏหมายสูงสุดของระบบนะนั่น แต่ฉีกกันเป็นว่าเล่น กลายเป้นว่า แท้จิงแล้ว ขึ้นอยู่แค่ว่า ใครถือปืน คนนั้นเป็นคนกำหนดกติกาสูงสุด บ้าแล้วววววววววว เป็นประชาธิปไตยที่ บ้าบอคอแตกมากๆ โอยๆๆๆๆๆ จากคุณ : 007-s เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 17:34:29

ความคิดเห็นที่ 21 คือ ประมาณว่า ประเทศเรานี่ อำนาจสามส่วนที่มีไว้ถ่วงดุลย์ ไม่เคยมีอยู่จริงเลย อำนาจที่สี่ คือ คนถืออาวุธ คือ ผู้กำหนดตัวละครลงไปในเกมอำนาจสามส่วน ที่ว่านั่น แล้วทั้งสามตัวละคร ก็ร่ายรำกันไป ตามบทหลัก ที่อำนาจที่สี่ เป็นคนกำหนดขึ้น บ้าที่สุด อะไรอ่ะ จากคุณ : 007-s เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 17:39:31