|
ความคิดเห็นที่ 3 |
|
UNI ยูไนเต็ดฟูดส์ หุ้นในหมวดอาหาร
ตัวนี้เข้าไปซื้อเพราะแอบแกะงบเก้าเดือน โดยบริษัทไม่ยอมแจ้งงบไตรมาสที่สาม แจ้งแต่งบเก้าเดือน พอหักลบกับกำไรหกเดือนที่ผ่านมา ที่แท้กำไรไตรมาสสาม ดีขึ้นมาก ก็เลยเข้าไปซื้อแบบ ไม่สนในสภาพคล่องคอเหมือนเดิม ที่ราคาแถวๆ ๑๐ - ๑๑ บาท โดยคิดว่า ขอให้พีอีต่ำ พีบีวีต่ำ มียีลด์ก็พอใจแล้ว ผมเข้าไปซื้อหลังประกาศงบไตรมาสสาม
และก่อนที่จะมีการประกาศงบไตรมาสที่ ๔ บริษัทได้ออกข่าว ขอทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ที่ราคา ๒๔ บาท !!!!!!!!! จำได้ว่าคืนนั้น หลังอ่านข่าวจากเวปตลาดฯ ผมนอนหลับสบายมากๆเลย เพราะว่า โชคดีจริงๆ ที่มีอินไซด์เข้ามาแค่สิบนาทีสุดท้าย ก่อนจะปิดตลาดในวันศุกร์ ก็เลยยังงงๆ กับราคาที่กระโดดขึ้นมาแบบพรวดพราด ขายทิ้งไปแค่สิบเปอร์เซนต์ของที่ถืออยู่เท่านั้น
ยูไนเต็ดฟูดส์เอาออกจากตลาดฯไปถือเอง ส่วนเอเจพลาสท์ ซึ่งตอนนั้นผลประกอบการยังเน่าอยู่ อยู่ในตลาดฯต่อ จนผลประกอบการเริ่มดีขึ้น และราคาหุ้นได้ถูกปั่น จนขึ้นไปมากกว่ายี่สิบเท่า แถมแจกฟรีวอร์แรนท์ใช้สิทธิ์ได้ครั้งเดียวอีกด้วย
ลืมเล่าไปนิด หุ้นตัวนี้ ผมขายทิ้งในตลาดฯจนหมด เพราะบางส่วนเสียส่วนต่างแค่ ยี่สิบห้าสตางค์ ส่วนที่เหลือ มีมือดีมาตั้งซื้อเท่ากับราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ที่ ๒๔ บาท เลยขายทิ้งจนหมด ขี้เกียจจะเซนต์เอกสารกับรอรับเช็ค
UTL ยูนิไทไลน์เป็นหุ้นในหมวดขนส่ง ตัวนี้น่าจะเป็นเพียงตัวเดียว ที่ผมมั่นใจค่อนข้างมากว่า จะต้องมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพื่อออกจากตลาดฯ เพราะจากการดูผู้ถือหุ้นรายใหญ่เมื่อปี ๒๕๔๖ ปรากฏข้อมูลดังนี้
1 นาย ชวลิต เชาว์ 113,288,290 50.25 % 2 LIN HOLDINGS INC., MARSHALL ISLANDS 48,785,634 21.64 % 3 MACST TRUST INC., LIBERIA 45,587,710 20.22 % 4 CATHAY TRUST INC., LIBERIA 14,400,000 6.39 %
ดูปั๊บก็เดาได้ว่า มีซุกหุ้นแน่ๆ ก็เลยซื้อไว้ที่หกบาทปลายๆ บวกเจ็ดบาทต้นๆ เหมียนเดิม ใครๆก็บ่นว่า หุ้นไม่มีสภาพคล่องคอ
ซื้อแล้วก็ถือรอ รอ และรอ วันเวลาที่เจ้าของจะเอาหุ้นออกจากตลาด เพราะสภาพคล่องคอมันหมดแล้วจริงๆ รายย่อย ห้าร้อยกว่าคน ถือหุ้นรวมกันแค่ ๑.๕๐ % จังหวะที่คุณชวลิต เชาว์เข้ามาทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ มันเป็นวงจรขาขึ้น ของพวกหุ้นเรือประเภทเทกองพอดี ตัวนี้ไม่แน่ใจว่า จะมีอินไซด์ค่อยๆตามเก็บหรือเปล่า แต่ราคาก็กระโดดจากแถว ๘ บาทต้นๆ ขึ้นไปที่ ๑๑ ในทันทีหลังข่าวออกแล้ว ถ้ามีอินไซด์ ก็คงทำกันแค่ พอหอมปากหอมคอ ประเภทซื้อตามน้ำ ซึ่งผมก็ได้ขายตามน้ำไปในตลาดฯ ในราคาที่มีส่วนลดประมาณสองสามเปอร์เซนต์
จากราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ ๑๑.๒๐ บาท ???
เรื่องตลกร้ายที่ตามก็คือ ถึงเจ้าของจะประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ไปแล้วหนึ่งรอบ ยังมีการขยับราคาเทนเดอร์เป็นก๊อกที่สองตามมาอีก ทำเอาต้องกัดฟันกรอดๆที่เสียรู้ (แต่ได้เงิน)
ที่ตลกสุดโหดร้ายไปกว่านั้นก็คือ พวกมืออาชีพในตลาดฯ จัดการปั่นยูนิไทยตามกระแสพวกเรือเทกอง ขึ้นไปอีก จนแพงกว่าเทนเดอร์ออฟเฟอร์เกือบหนึ่งเท่าตัว ราคาสูงสุดที่ปั่นคือ ๒๑ บาท !!!!!!!
ระหว่างนั้น บรรดาแมลงเม่าที่ตามเข้าไปเล่น ตามเสียงเชียร์ในเวปบอร์ด ตามเสียงเชียร์ของมาร์เก็ตติ้ง ก็เล่นไปเสียวไปกลัวหุ้นจะโดนเอาออกจากตลาดฯ แต่ก็มีพวกกูรู้ มาชี้แนะว่า ไม่ต้องกลัว เจ้าของไม่เอาออกหรอก แค่ซื้อตามกฏของ กลต. ไม่งั้นราคาไม่ขึ้นมาขนาดนี้หรอก
ข้าพเจ้าอ่านเจอในเวปบอร์ดก็ได้แต่ปลงๆ ไม่กล้าออกความเห็น เดี๋ยวจะกลายเป็นพวกองุ่นเปรี้ยว เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง เรื่องอะไรจะเอากระดูกมาแขวนคอ และแล้วสิ่งที่แมลงเม่าหุ้น ไม่อยากจะได้ยิน ไม่อยากจะอ่านก็ตามมา
ตลาดประกาศเพิกถอนหุ้นยูนิไทไลน์ออกจากตลาดฯ ตามคำเสนอซื้อของเจ้าของกิจการ
นี่คือจุดจบที่ซ้ำชาก ของบรรดาแมลงเม่าหุ้น ที่ตกเป็นเครื่องมือของข่าว จบโดนหุ้นเล่น เข้าใจว่าแต่ละคนที่ซื้อเกินราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ คงเซนต์ขายหุ้นไป น้ำตาตกไป
TMD หุ้นในหมวดหีบห่อ บรรจุภัณฑ์
การทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ของถังโลหะไทย ดูราคาเสนอซื้อปั๊บ ฟันธงทันทีว่า เป็นการเสนอซื้อตามเทนเดอร์ออฟเฟอร์ประเภท ข. แน่นอน แต่ราคาหุ้นก็ตกทันที ตอบรับกับราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์
มีอย่างที่ไหน บุ๊คแวลู่ ๔๐ กว่า ดันประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แค่ ๙ บาท เลยทำตัวเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน
ทำนอง ใจกล้าแต่ขาสั่น ตั้งเสนอซื้อที่ราคาสูงกว่าเทนเดอร์ออฟเฟอร์ประมาณ ๕๐ สตางค์ ด้วยใจที่เต้นตุบตับ กลัวเจ๊งจากราคาหุ้น (เรื่องออกจากตลาดฯไม่กลัวอยู่แล้ว) แล้วในที่สุด อานิสงส์ของความใจกล้าแต่ขาสั่น ก็ทำให้ได้มาขายหมูหมดเล้าที่ ๑๕ บาทต้นๆ
สำหรับ safe คงเล่ากันจนเปื่อยหมดแล้ว ไม่ต้องเล่าซ้ำอีก แต่มีเกล็ดเล็กๆน้อยๆ ที่อยากจะบอกว่า
"คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต"
ตอนที่คุณปรัชญาเอาพอร์ตที่ผมลบทิ้งไปแล้วที่ห้องสินธร มาโพสที่ ทีวีไอ ผมเสียววาบเลย คิดว่าเดี๋ยวต้องมีการกดราคารับซื้อแน่ๆ แล้วก็จริงๆด้วย ราคาเริ่มไหลลงจาก ๗๐ ลงมาที่ ๖๗ ด้วยความไม่แน่ใจ เพราะจริงๆแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับราคาหุ้น ก็เลยตัดสินใจทิ้งไปก่อน หนึ่งหมื่นห้าพันหุ้น หยิบเงินล้านแรกขึ้นมาก่อน
กำลังจะตัดสินใจขายต่อดีหรือเปล่า ก็ถึงเวลาที่ต้องไปรับลูก ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันพอดี ก็เลยตัดสินใจว่า กลับมาจากรับลูกก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกที
ระหว่างทางที่ขี่จักรยาน พาลูกกลับมาจากโรงเรียน โบรกเกอร์ธนชาตได้โทรเข้ามือถือ แจ้งว่า วันนี้ เซฟ ขึ้นไปอีก สิบห้าบาท ผมเลยบอกว่า ตอนนี้กำลังอยู่นอกบ้าน เดี๋ยวกลับบ้านค่อยโทรบอก ฟ้าลิขิตมาจริงๆ กลับถึงบ้าน หุ้นโดน halt ไปแล้ว
ฟ้าคงลิขิตมา ให้ได้ส่วนต่างอีกเกือบ สองล้านกว่าบาท
จากคุณ |
:
เป็ก (SOMBOON9)
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มี.ค. 53 21:19:32
|
|
|
|
|