|
ความคิดเห็นที่ 3 |
|
Copy จาก กระทู้เก่าครับ ########################################## พูด ถึงเรื่องเล่นหุ้นเอาเงินปันผล เซียนหุ้นทั้งหลาย อาจจะร้องยี้ ไม่มัน เสียเวลา และ ไม่คุ้มกับการลงทุนที่ต้องถือนานๆๆ แถมยังต้องถูกหักภาษี ณ.ที่จ่ายอีก 10 % ได้รับจริง แค่ 90% ไม่คุ้ม แถมหุ้นที่ปันผลมากๆ ก้อมักจะมีสภาพคล่องน้อยซื้อมาแล้ว มักจะแถมกาวตราช้างมาให้ ซื้อแล้วติดมือ แกะไม่ออก
แต่ ที่จะมาชวน นี่ไม่ได้ให้เก็บหุ้น เพื่อ หวังผลตอบแทนจากเงินปันผล อย่างเดียว แต่เพื่อรับ เงิน เครดิตภาษี จาก เงินปันผล นั้น ด้วยครับ เม็ดเงินตรงนี้ไม่น้อย นะครับ ขนาดผม ลงทุนธรรมดา ไม่ได้เน้นกลยุทธนี้ โดยเฉพาะ เงินภาษี แทนที่จะต้องจ่ายเพิ่มปีละ ห้าหกหมื่น กลับกลายเป็นว่า ได้รับคืน ปีละ สองสามแสนบาท ไม่น้อยเหมือนกันนะครับ
กลยุทธการล่าเงินปันผลนี่ ไม่ยากครับ ดูเลือกหุ้น ที่จ่ายปันผล ในอัตรา ที่สูงพอสมควรและมีสภาพคล่องพอสมควร และซื้อตัวละไม่มาก(เพื่อจะได้ซื้อและขายได้ง่าย) โดยซื้อก่อนวันขึ้น XD ประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้ได้รับสิทธิ รับเงินปันผล แล้วขายออกในวันที่ขึ้น XD แล้ว ซึ่งหุ้นนั้นจะมีราคาลดลง มาพอๆ กับเงินปันผล หรือ อาจจะมา ลดลงมาน้อยกว่าเงินปันผลประมาณ 10 % เนื่องจากบางคนคิด หักภาษีณ.ที่จ่ายด้วย) แต่ถ้าช่วงไหน ตลาดวูบวาบมากก้อควรงดสะสมเงินปันผล เพราะว่าราคาอาจจะแกว่งมาก เกินไป ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของเรา เรามีเวลาในการล่าปันผลทั้งปี และ ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่มาก เพราะว่าซื้อแล้วก้อขาย ในอีก ไม่กี่วันถัดมา เงินไม่จม หมุนไปได้เรื่อยๆ (ยกเว้นส่วนที่หายไป จากราคาที่ลดไปกับปันผล แต่เราจะได้รับเป็นเงินปันผล คืนมาภายในประมาณ เดือนกว่าถัดมา)
ตามระเบียบของกรมสรรพกร เงินปันผล ที่ได้มาจากการ ลงทุนในหุ้นของบริษัทจำกัด ที่จดทะเบียนในประเทศไทย (ไม่นับพวกกองทุน และบริษัท ที่ได้รับการยกเว้นภาษี เช่นได้รับ BOI ) สามารถเครดิตภาษี(ขอคืนภาษีได้ 3/7(42.8%) ของยอดเงินปันผลทั้งหมด) เข้าใจว่า เนื่องจาก เจตนารมย์ของกฎหมายไม่อยากให้มีการเก็บภาษีซ้ำซ้อน เนื่องจาก บริษัทนั้นได้ ชำระภาษีเงืนได้ นิติบุคคล จากเงินได้สุทธิมาก่อนแล้ว ก่อนจะเอามาแบ่งให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นเจ้าของในรูปเงินปันผล
จะเห็นว่าตัวเลข ตรงนั้นไม่น้อยเลย นะครับ ทีนี้มาดูวิธีการคำนวนภาษี ใครรู้แล้วก้ออ่านข้ามไป นะครับ จะไม่พูดถึงค่าลดหย่อนอะไร นะครับ จะเอาแต่เงินได้สุทธิ ก่อนที่จะคิดภาษีแล้ว มาคิดกับ เงินปันผล ของเรา น่ะ
อัตราภาษีเงินได้ส่วนบุคคล เป็นอัตราก้าวหน้า ครับ คิดจาก เงินได้สุทธิหลังหักค่าลดหย่อน ทุกอย่างแล้ว นะครับ เสียในอัตราดังต่อไปนี้ 1-100,000 เสีย 5 % สูงสุดในขั้น = 5,000 (ปัจจุบัน รู้สึกว่า ห้าหมื่นแรก นี่ไม่ต้องเสียภาษี ครับ ได้รับยกเว้นจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ เอง) 100,001-500,000 ส่วนนี้เสีย 10% สูงสุดในขั้น = 40,000 500,001-1,000,000 ส่วนนี้เสีย 20% สูงสุดในขั้น = 100,000 1,000,001-4,000,000 ส่วนนี้เสีย 30% สูงสุดในขั้น = 900,000 มากกว่า สี่ล้าน เสีย 37%
สมมุติว่าคุณมีรายได้ หลังหักค่าลดหย่อน ต่างๆ ทุกอย่างแล้วเหลือรายได้ ที่ต้องใข้คิดคำนวนภาษี 200,000 บาท ซึ่งจะต้องชำระภาษี ในอัตรา 5000+10,000 = เสียภาษีเงินได้ 15,000 บาท
ถ้าเราไป ล่าเงินปันผล ของบริษัทต่างๆ มาได้ ซัก 1,400,000 บาท เราจะถูกหัก ภาษีณ.ที่จ่ายไป 10% หรือ 140,000 บาท ทำให้ได้รับจริง มาแค่ 1,260,000 บาท (ดูเหมือนขาดทุนตรงนี้ ไป 140,000บาท)
เงินปันผลนี้เราสามารถนำมาเป็นเครดิตภาษีคืนได้ 3/7 หรือ กรณีนี้ คือ 600,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ จะถือเป็น รายได้ด้วย ต้องนำไปรวมกับเงินปันผล แล้วนำไปคิดรวมกับ เงินได้สุทธิเก่า ของเรา นำมาเป็นเงินได้ คำนวนเป็นภาษีที่ต้องเสีย
เพราะฉะนั้น เงินได้สุทธิ ใหม่ของเรา จะเป็น 200,000 + 1,400,000(ปันผล) +600,000(เครดิตภาษี) รวมเป็นเงินได้สุทธิ 2,200,000 บาท ซึ่งคำนวนภาษีที่ต้องชำระตามตารางได้ 5,000+40,000+100,000+(1,200,000X30%) = 505,000 บาท ครับ
แต่ภาษีที่หักณ ที่จ่าย (140,000) + กับเครดิตภาษี (600,000 ) = เราจ่ายภาษีไว้แล้ว 740,000 บาท
เพราะฉะนั้น ภาษี ที่ชำระเกินและขอคืนภาษี ได้ = 740,000-505,000 บาท = 235,000 บาท
แทนที่จะต้อง จ่ายภาษี 15,000 แต่กลับกลายเป็นรับเงินภาษีคืนมา 235,000 รวมเป็นเงินที่ได้มา = 250,000 บาท
จะเห็นว่าถ้ามีรายได้คำนวนภาษีเกินล้านมาแล้ว นี่จะได้ ประโยชน์น้อยลง ครับ เพราะว่า อัตราภาษีส่วนนี้สูงถึง สามสิบเปอร์เซนต์ ยิ่งถ้า เกินสี่ล้านแล้ว นี่ยิ่งแทบไม่ได้ประโยชน์เลย เพราะว่า อัตราภาษีที่เสีย 37 % เกือบเท่า กับ เครดิตภาษีที่ได้แล้วครับ
กลยุทธอีกอย่างในการลด ฐานภาษี ก้อคือ แบ่งซื้อหุ้นในชื่อ น้อง หรือ พี่ หรือ แม่ หรือ พ่อ ที่ไม่มีคู่สมรส ที่คิดรวมภาษี จะทำให้ฐานภาษีต่ำ ลง เช่น สี่ล้านแบ่งออกไป สี่คน คนละล้าน แทนทีจะเสียภาษี 30% ก้อมาเสียแค่ ไม่เกิน 20 % ครับ ทำให้เหลือเม็ดเงินได้มากขึ้น แต่ภรรยานี่ไม่ได้ครับ เพราะว่าเงินได้ส่วนนี้(นอกจากเงินเดือนประจำ) ต้องเอามารวมคำนวนภาษีด้วยกันอยู่ดี ครับ
จากตัวอย่างข้างบน ถ้าเอา ไปแบ่งให้ อีกสี่คนเพื่อให้เหลือภาษีสุทธิในการคำนวน ภาษีคนละประมาณ ไม่เกิน ห้าแสนบาท จะเสียภาษีที่ฐาน ไม่เกิน 10% ทำ ให้เสียภาษีไม่เกิน 220,000 หรือ รับภาษีคืน ถึง ประมาณ ห้าแสนกว่าบาท ครับ
สรุปอีกครั้ง นะครับ คนที่เหมาะกับการสะสม เงินปันผลเพื่อรับ เครดิตภาษี นี่ควรจะมีคุณสมบัติดังนี้
1 มีความรู้ เรื่องหุ้น พอสมควร(ให้รู้จังหวะซ้อ ขาย บ้างพอควร) 2. ไม่ควรมีรายได้ประจำ ที่ มีเงินได้ที่จะต้องคำนวนภาษีเกิน สี่ ล้านบาท(จะเสียภาษีในอัตราที่สูง จนเกือบเท่า เงินเครดิตภาษี) 3 ยอดเงินเครดีต ภาษี ถ้ามาก แบ่งซื้อในชื่อ พี่ น้อง และญาติ ที่ไว้ใจได้เพื่อลด ฐานภาษี ลง จะช่วยให้ได้รับผลประโยชน์ตรงนี้มากขึ้น 4 ประเด็นสำคัญ ที่สุด คือ คนที่จะ ขอเครดิตภาษี ห้าม หนีภาษี จากทางอื่นนะครับ จะเจ็บตัวถ้าเค้าตรวจพบ อันนี้สำหรับคน บริสุทธิ์ ทางด้านภาษีเท่านั้น ที่จะทำได้
น่าสนใจมั้ยครับ สำหรับคนอยู่ ว่าง กับ เงินก้อนนี้ ปีละ หลายแสนบาท(ยิ่งถ้ามีญาติที่ว่างๆเยอะ ยิ่งดี ครับ) และขอยืนยันว่านี่คือวิธีที่ถูกกฎหมาย และ ทำตามกฎหมายทุกประการ ครับ
จากคุณ : -=Jfk=- - [29 เม.ย. 45 12:28:47]
จากคุณ |
:
wichian_m
|
เขียนเมื่อ |
:
14 มี.ค. 53 21:54:47
|
|
|
|
|