ความคิดเห็นที่ 1   จชกท. บริจาคไปเมื่อวานค่ะ ขอเน้นว่าจำนวนเงินไม่สำคัญ อยู่ที่ใจ ที่เรารู้สึกว่าได้ให้และได้ตอบแทนผู้ที่ได้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่ หนึ่งบาทก็มีค่า ถ้าคนหนึ่งคนบริจาคข้าวคนละหนึ่งเมล็ด ล้านคนก็ได้ข้าวเป็นยุ้งฉางใหญ่ จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 08:33:28

ความคิดเห็นที่ 2   อ่านประวัติวีรบุรุษผู้กล้า ได้ที่นี่ http://www.oknation.net/blog/singslatan/2008/10/13/entry-1 http://www.oknation.net/blog/singslatan/2010/02/24/entry-1 จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 08:34:50

ความคิดเห็นที่ 3   อันนี้ ของพี่ kissbot จากหมู่บ้านทีเฟค (ขออนุญาตพี่คิสตรงนี้แระกันนะคะ ที่เอามาแปะโดยพลการ แต่เชื่อว่า พี่คิสคงยินดีให้จิ๊ก) จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 08:37:39

ความคิดเห็นที่ 4   เพื่อจ่าเพียรผู้กล้า ขอให้มีความสุขในสุคติภพ จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 08:38:47

ความคิดเห็นที่ 5   ขอบคุณค่ะ เข้าใจ จขกท นะคะ แต่ตรงนี้อยากให้มี centre จัดการมากกว่า หรือเป็นมูลนิธิ จะดูดีกว่านะคะ เพราะอยากให้เงินที่บริจาคไป ให้เขานำไปใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆอะค่ะ หรือไม่ทราบ จขกท มีรายชื่อ มูลนิธิ หรือป่าวคะ จากคุณ : prettykai เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 08:43:18

ความคิดเห็นที่ 6   อนุโมทนาด้วยครับ.. *********************** ตามอ่านเรื่องของ "จ่าเพียร ขาเหล็ก" แล้วอดสูวงการตำรวจรวมทั้งราชการกรมกองอื่นๆที่เน่าๆแบบนี้ เช้านี้เจอคนจริงอีกคน เพื่อนร่วมรบของ "พี่เพียร" ฝากบอกนาย   "สายไปแล้ว หุบปาก แล้วลงมือทำเสีย" ตามนี้เลย http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1268657958&grpid=01&catid= จากคุณ : Nabokov1 เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:03:55

ความคิดเห็นที่ 7   ร่วมด้วยช่วยกันคับอีกแรงคับ...........จานโล ของผมบริจาคโอนทางมือถือไปแระ....   สังคมดีไม่มีขาย............อยากได้ต้องช่วยกันสร้าง........คับ จากคุณ : pattern me เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:06:39

ความคิดเห็นที่ 8   บัญชีนี้ครอบครัวเขาได้ตรวจสอบและรับรองแล้วหรือยังครับ ใครพอมีข้อมูลบ้าง ผมไม่สนใจบริจาคผ่านมูลนิธิอะไรหรอก อยากให้ไปที่ครอบครัวโดยตรงเลยมากกว่า จากคุณ : ohlalla เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:07:07

ความคิดเห็นที่ 9   ชี้แจงเพิ่มเติมอีกนิดค่ะ เลขที่บัญชีนี้ ได้มาจากรายการคุณสรยุทธ ภรรยาของจ่าสมเพียรเป็นผู้เปิดบัญชี (มีคนโทรไปสอบถามด้วยว่าเป็นบัญชีจริงหรือไม่ อย่างเช่นกระทู้นี้http://www.thaijustice.com/webboard.asp?sub=0&id=1422805) จึงถือว่าเงินบริจาค ส่งตรงสู่ครอบครัวของท่าน ซึ่งความเห็นส่วนตัวคิดว่า ดีกว่าให้ใครหรือมูลนิธิใดๆมาจัดการให้ เรื่องนี้สุดแท้แต่ความเห็นของแต่ละท่านค่ะ ส่วนตัวเห็นว่า พอใจและสบายใจ ที่ได้สมทบทุนให้ทางครอบครัวของท่านโดยตรง จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:10:17

ความคิดเห็นที่ 10   ผมไปโอนเงินเมื่อวานนี้ พนักงานกรุงไทยสาขาโลตัสปิ่นเกล้า ดูยอดเงินผ่านออนไลน์  บอกว่า มียอดโอนเข้าแล้ว   แปดแสนกว่าบาท คิดว่ายอดโดยรวมน่าจะเกินล้านบาทอย่างแน่นอนที่สุด แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 53 09:24:07 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:21:49

ความคิดเห็นที่ 11   *-* จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:23:14

ความคิดเห็นที่ 12   จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:23:37

ความคิดเห็นที่ 13   อ่ะ เพิ่งนึกได้ว่าลืมแปะรูปรายการสรยุทธ จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:25:13

ความคิดเห็นที่ 14   ขึ้นแล้วป้าโล จากคุณ : น้องกล่องเปล่า เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:30:12

ความคิดเห็นที่ 15   ช่วยกันคนละไม้คนละมือครับ ... จากคุณ : เทพ ทับช้าง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:38:09

ความคิดเห็นที่ 16   ช่วยๆกันค่ะ ให้กำลังใจจนท.ที่ปฏิบัติงานด้วยความยากลำบากอย่างแท้จริง ขอให้ไปสู่สุขคตินะคะ จากคุณ : 007-s เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:45:21

ความคิดเห็นที่ 17   ขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุขคติ ท่านเสียสละมากถึงเพียงนี้ เห็นใจและขอให้กำลังใจครอบครัวของท่าน จากคุณ : อาเฮีย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 09:51:12

ความคิดเห็นที่ 18   ขอบคุณครับ .... ผมจะบริจาคไปครับ เพื่อขอบคุณจ่าและแสดงให้ครอบครับของจ่าเห็นว่า ความดีที่จ่าทำ มีคนเห็นจริงๆ เป็นกำลังใจให้ครอบครัวของจ่านะครับ จากคุณ : KENG76 เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 10:01:45

ความคิดเห็นที่ 19   ขอบคุณที่ช่วยแจ้งข่าว ใช้ scb โอนไปแล้วครับ และโหวตกระทู้ให้แล้วครับ ถึงท่านจากไปแล้ว ก็อยากให้ครอบครัวท่าน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะตอนท่านมีชีวิตอยู่ไม่ค่อยได้ให้เวลากับครอบครัว เวลาส่วนใหญ่ ท่านอุทิศให้กรมตำรวจและประเทศ จากคุณ : นานนานมาที เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 10:07:13

ความคิดเห็นที่ 20   ขอบคุณคุณ จขกท ที่นำเรื่องดีๆมาแบ่งปันคะ เดี๋ยวจะโอนด้วยคะ     จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 10:11:32

ความคิดเห็นที่ 21   ขอบคุณ จขกท ครับ จะร่วมโอนด้วยครับ จากคุณ : mao_supra เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 10:18:49

ความคิดเห็นที่ 22   ไปบริจาคมาแล้วค่ะ เห็นจนท.แบงก์บอกว่าได้ล้านกว่าบาทแล้ว  สงสารคนทำงาน เกลียดพวกที่เห็นประโยชน์ส่วนตัวไปแกล้งเขา มันจะนอนหลับกันมั่งมั๊ยนี่ จากคุณ : Searchlady (Searchlady) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:04:56

ความคิดเห็นที่ 23   ให้ด้วยคนครับ ไม่มากแต่ตั้งใจให้จริงๆ คนจริง คนดี ต้องเชิดชูครับ จากคุณ : Hernia เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:25:59

ความคิดเห็นที่ 24   อ่าวไม่ขึ้น จากคุณ : Hernia เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:27:17

ความคิดเห็นที่ 25   เพื่อนไปงานศพ ผมฝากทำบุญไปแล้วครับ ...การบริจาดมากน้อยได้บุญเหมือนกัน เชิญชวนอีกคนครับ จะให้กี้ฟ...แต่หมดครับ จากคุณ : 9เก้าก้าว เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 11:49:35

ความคิดเห็นที่ 26   น้ำตามันไหลออกมาแบบไม่รู้ตัวเมื่อนักข่าวเล่าให้ฟังว่าเมื่อท่านมาร้องเรียนท่านต้องขึ้นลิฟต์  แต่ท่านใช่ไม่ค่อยเป็นท่าทางเก้ๆกังๆและออกตัวว่าท่านเป็นตำรวจบ้านนอก มันรู้สึกสะท้อนใจบอกไม่ถูก  ขอให้ท่านพักผ่อนให้สบายนะคะ    อีกสักครู่จะออกไปโอนทำบุญให้ท่านเช่นกันค่ะ จากคุณ : แด่คนกล้าเทือกเขาบูโด (ขวัญชนก) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:16:42

ความคิดเห็นที่ 27   เชื่อว่าความดีที่จ่าเพียรทำมาจะส่งผลให้จ่าไปสู่ชาติภพที่ดี แต่ความอัปยศในวงการสีกากีนี่ซิเมื่อไหร่กรรมจะตามทัน จากคุณ : Noopy&Wood เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:22:11

ความคิดเห็นที่ 28   ขอบคุณท่านที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย ขอดวงวิญญาณท่าน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา รับรู้ว่ามีคนรักท่าน ขอให้ท่านหลับอย่างเป็นสุขในสรวงสวรรค์   จากคุณ : pyada เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:51:27

ความคิดเห็นที่ 29   R.I.P. ครับจ่าเพียร พวกเราติดหนี้ท่านมากมายเหลือเกิน จากคุณ : ettexo[R] เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 12:55:31

ความคิดเห็นที่ 30   น้ำตาซึมทุกทีที่อ่านข่าวครับ แม้ผมยังไม่รวย ผมก็ขอร่วมด้วยครับ จากคุณ : Neo_zeeout เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:15:12

ความคิดเห็นที่ 31   ตำรวจน้ำดีอย่างท่านหาได้ยากจริงๆในปัจจุบันนี้ ขอร่วมไว้อาลัย & บริจาคช่วยเหลือด้วยคนครับ เพิ่มเติมครับ ตอนไปกดโอนทาง atm ชื่อบัญชีผู้รับโอนรู้สึกจะเป็นชื่อของภรรยา ท่านครับ ( Phimchana Phuwapongp ) เดี๋ยวจะงงกัน แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 53 19:08:51 แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 53 19:06:33 จากคุณ : boma เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:18:31

ความคิดเห็นที่ 32   .....เป็นคนดีที่น่ายกย่องมากมาก และขอให้ครอบครัวจ่าเพียรภูมิใจเถอะครับ พวกท่านดีกว่าพวกที่สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองอีกมาก จากคุณ : ซาอิคุง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:36:24

ความคิดเห็นที่ 33   ผู้กำกับสมเพียร จะได้เงินชดเชย จาก สนง.ตำรวจแห่งชาติ 3,00,000.บาท (สามล้านบาท) ฐานะไม่ลำบากอะไร  ครอบครัวไม่ขัดสน   ดีที่จะร่วมกันบริจาค  แต่ทำไมไม่เปิดบัญชีให้ตำรวจชั้นผู้น้อย อย่างนายดาบที่ไปด้วยและได้รับบาดเจ็บสาหัส  (ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว) ตำรวจชั้นผู้น้อยอย่างนี้ละ ที่ครอบครัวเขาต้องการเงินบริจาค  เพราะชั้นประทวน เงินชดเชยจาก สนง.ตำรวจแห่งชาติ ก็ได้น้อย (น้อยกว่าชั้น พตอ.) จากคุณ : man (mandoom) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 13:56:09

ความคิดเห็นที่ 34   R.I.P. ร่วมบริจาค โอนเงินไปให้แล้วครับท่าน จากคุณ : จูล่ง - สุภาพบุรุษจากเสียงสาน เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 16:24:42

ความคิดเห็นที่ 35   ผมถือว่าเป็นเงินทำบุญช่วยงานท่านครับ 40 ปีที่ดูแลคนไทยทั้งประเทศด้วยชีวิต ผมขอแสดงออกด้วยเงินทำบุญนี้ให้ครอบครัวจ่าเพียรได้รับรู้ครับว่าคนไทยรักและไม่ทิ้งคนดีครับ จากคุณ : rerkit เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 16:53:06

ความคิดเห็นที่ 36   ดูข่าวของท่านแล้วสงสารตำรวจ ทหารดี ๆ เหลือเกิน เคยคิดจะหามูลนิธิเกี่ยวกับทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อบริจาคเงินช่วยเหลือทหาร ตำรวจ ชั้นผู้น้อย แต่โดนติงจากคนรู้จักว่า "แน่ใจหรือว่าเงินจะถึงมือพวกเขาจริง ๆ" เรายินดีบริจาคเข้าบัญชีของท่านค่ะ และถ้าใครรู้บัญชีสำหรับบริจาคช่วยเหลือที่ดี ๆ ช่วยแจ้งให้ทราบด้วยค่ะ จากคุณ : wecha เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 19:56:33

ความคิดเห็นที่ 37   ที่ห้องเฉลิมไทย กระทู้ของท่านสมเพียรโดนเด้งไปห้องนอกเรื่องหลายกระทู้มาก เลยเอามาฝากตามกระทู้ที่เกี่ยวข้องนะคะ ไม่ทราบว่าจริงแค่ไหน ขอไว้อาลัยระบบราชการไทยที่ไม่ว่าจะศักดินา หรือ นายทุน มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8984211/A8984211.html แฉเบื้องหลัง-เส้นทางแป้ก ของท่าน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา สำหรับตำแหน่งผกก.กันตัง จ.ตรัง ที่พ.ต.อ. สมเพียรระบุขอย้ายมารับราชการในห้วงสุดท้ายของชีวิตนั้น เป็นตำแหน่งที่ว่างลงเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 52 เนื่องจากพ.ต.อ.เติม อินทะสะระ ผกก. กันตัง ได้เกษียณอายุราชการไป ซึ่งในบัญชีรายชื่อเดิม พ.ต.อ.สมเพียรได้รับการวางตัวให้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่เนื่องจากพื้นที่ของอ.กันตัง เป็นพื้นที่ทำเลทองของนักวิ่งเต้น เนื่องจากเป็นเมืองค้าขาย และเป็นท่าเรือสำคัญของจังหวัด ดังนั้นนายตำรวจระดับพล.ต.ท.จึงส่งลูกน้องคนสนิทชื่อ พ.ต.อ.วิชัย อินทวงศ์ ผกก.สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง มาลงในตำแหน่งนี้แทน และได้โยก พ.ต.อ.สมเพียร ไปเป็น ผกก.สภ.เมืองตรังแทน ซึ่งในตำแหน่งนี้ก็เป็นตำแหน่งที่ว่าง เพราะ พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง ผกก.สภ.เมืองตรัง คน สนิทของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองผบก.จว.ตรัง ไปก่อนล่วงหน้าแล้ว ซึ่งเป็นการเลื่อนนอกวาระแต่งตั้ง แต่ยังคงรักษาราชการแทนในตำแหน่งผกก. สภ.เมืองตรังอยู่ แต่เรื่องก็ยังไม่ลงเอยด้วยดี เนื่องจากพล.ต.ท.คนหนึ่ง ต้องการย้าย พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่ใช่คนของตนเอง และรับตัวพ.ต.อ.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส มาเป็นผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แทน โดยเดิมทีจะส่งพ.ต.อ.ศุภวัฒน์ออกไปแทนพ.ต.อ.สมเพียร ในตำแหน่งผกก.สภ. บันนังสตา แต่พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ได้รับการเอื้อเฟื้อจากนักการเมืองในจ.สงขลา และในจ.ตรัง โดยเจ้าตัวไม่อยากไปอยู่สามจังหวัดชายแดนใต้ ทางเจ้านายทนแรงเสียดทางจากการเมืองไม่ไหว จึงย้าย พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ มาลงในตำแหน่งผกก.สภ.เมืองตรัง แทนพ.ต.อ.สมเพียร เป็นเหตุให้ พ.ต.อ.สมเพียร ซึ่งเป็นตำรวจบ้านนอกไม่มีเส้น ต้องกลับไปเป็นผกก.สภ.บันนังสตา จนเสียชีวิตในวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา จากคุณ : สุสานผีเสื้อ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:46:38

ความคิดเห็นที่ 38   ร่วมบริจาคด้วยครับ สังคมไทย คนดีๆ น้อยลงไปอีกคนแล้วละครับ จากคุณ : talekko เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 06:23:45

ความคิดเห็นที่ 39   ผู้กล้าและวีระบุรุษของไทยอย่างแท้จริง จากคุณ : AioLia615 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 09:00:02

ความคิดเห็นที่ 40   ขอบคุณจขกท.ที่บอกต่อเรื่องดีๆค่ะ จากคุณ : daandart เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 13:44:08

ความคิดเห็นที่ 41   ความช่วยเหลือด้านการเงิน การพิจารณาเลื่อนชั้นยศจากระดับพันตำรวจเอก เป็นพลตำรวจเอก เข้าใจว่าครอบครัวท่านคงไม่มีความจำเป็นด้านการเงินอีกเเล้ว เเต่ครอบครัวท่าน เเละชาวไทยคงอยากที่จะเห็นความเปลี่ยนเเปลงบางอย่างในประเทศนี้ ยอมรับว่าระบบอุปถัมป์ ในสังคมไทย  ไม่มีเงิน ไม่มีเส้น อยู่ในสังคมนี้ลำบาก เราจะเเก้ไขกันอย่างไร รัฐบาลนี้เหมือนทุกข์ซ้ำกรรมซัด เสื้อเเดงมันด่าเรื่องทำนองนี้พอดี ก็มาเกิดเรื่องจ่าเพียร เห็นด้วยกับคคหท.33 อย่างมาก ประเทศนี้ควรอยู่บนความเท่าเทียมกัน ระบบเส้นสายควรจะหมดไปได้เเล้ว การตายของท่านจะเปลี่ยนเเปลงประเทศนี้ได้บ้าง ขอท่านจงสู่สุคติเทอญ... จากคุณ : รัตน์ (lanna_rice) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 16:05:06

ความคิดเห็นที่ 42   ไม่มี  เอทีเอ็ม นะคะ    ไปโอนให้  ที่ธนาคารพรุ่งนี้  ค่ะ                     ขอบคุณค่ะ    ............. จากคุณ : member28 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 16:23:06

ความคิดเห็นที่ 43   http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1268724959&catid=02 ************************************** ตำรวจผู้กล้าชื่อ "จ่าเพียร" โดย พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ท่ามกลางความวุ่นวายสับสนทางการเมืองในขณะนี้ ไม่มีพื้นที่ข่าวสารของสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้นำเสนอให้ผู้บริโภคข่าวสนใจ แต่ละวันเหตุลอบยิง วางระเบิด หรือลอบทำร้ายหมายขวัญทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าว สื่อทุกประเภทจึงรายงานพอเป็นพิธี หนังสือพิมพ์มีเพียงข่าวอยู่ในล้อมกรอบเล็กๆ แบบเสียมิได้เพื่อให้รับรู้เท่านั้น ถ้าเลียนแบบถ้อยคำที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องบอกว่า "โลกใบนี้ไม่ได้หมุนรอบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" ข่าวการสูญเสียผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา จากการถูกลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความสั่นสะเทือนให้โลกใบนี้หยุดหมุนรอบเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีหรือหมุนเร็วเสียจนคนนั่งในตำแหน่งอาจจะต้องกระเด็นตกเก้าอี้ลงมา เหตุผลสำคัญก็คือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ไม่ใช่เป็นแค่ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา เท่านั้น แต่ พ.ต.อ.สมเพียร หรือที่ประชาชนเรียกกันติดปากว่า "จ่าเพียร" เป็นผู้กำกับการที่กำกับหัวจิตหัวใจ ความรู้สึกของประชาชน และตำรวจชั้นผู้น้อยเกือบสองแสนคนที่ถือว่า "จ่าเพียร" คือสัญลักษณ์ของความองอาจ กล้าหาญ เสียสละ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่เหนือคำโปรโมตโฆษณา ผู้เขียนรู้จัก พ.ต.อ.สมเพียร ซึ่งในที่นี้จะขอใช้คำว่า "จ่าเพียร" (ตามที่ประชาชนเรียกขาน) มาช้านาน ความสัมพันธ์ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา ครูกับลูกศิษย์ พี่กับน้องเท่านั้น เพราะความผูกพันของเราสองคนมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร ตามความเข้าใจของคนภายนอก อาจจะมองว่าผู้เขียนเป็นทั้งอดีตผู้บังคับบัญชา ครู และพี่ โดยวัยวุฒิและคุณวุฒิ แต่ในความเป็นจริง พฤติกรรมในความเป็นมนุษย์ของ "จ่าเพียร" เป็นตัวอย่างให้ผู้เขียนเรียนรู้ เข้าใจ ถึงภาวะผู้นำที่ดีว่าควรมีคุณสมบัติอย่างไร และต้องปฏิบัติอย่างไรถึงจะให้ผู้ใต้บังคับบัญชายอมรับ ศรัทธา ลงมือปฏิบัติตามแบบอย่างที่ "จ่าเพียร" ประพฤติให้เห็น ดังนั้น ในมุมกลับกัน ถือว่า "จ่าเพียร" เป็นครู เป็นแม่แบบที่ดีที่หายากอันควรแก่การยกย่อง สามารถนำไปถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นนายตำรวจหลักสูตรต่างๆ ได้รู้ซึ้งถึงจิตวิญญาณของการเป็นตำรวจที่ดีว่าควรเป็นอย่างไร ตอนยังรับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้เขียนได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องสวัสดิการตำรวจ เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นในเขต 3 จังหวัดชายแดนใต้และ 4 อำเภอของสงขลาอันประกอบด้วย จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ จะมีบัญชาให้ไปร่วมงานศพหรือเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บ ครั้งหนึ่งบริเวณริมทางรถไฟใกล้สถานีจะนะมีการลอบวางระเบิดตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ผู้เขียนจึงต้องลงไปปลอบขวัญครอบครัวและได้พบกับ "จ่าเพียร" ซึ่งขณะนั้นเป็นรองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม "จ่าเพียร" ปรารภกับผู้เขียนว่าองค์กรตำรวจ สวัสดิการช่วยเหลือครอบครัวผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ นอกจากจะช้าแล้วประโยชน์ตอบแทนในรูปของเงินสวัสดิการมีเพียงน้อยนิด เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่น เรือตรีวินัย นาวิกโยธินทหารเรือเสียชีวิตที่ตันหยง ได้รับเงินช่วยร่วม 3 ล้านบาท ของเรานอกจากแค่เงินฌาปนกิจ 2-3 แสน ก็มีเงินกองทุนเล็กกองทุนน้อยรวมแล้วไม่ถึงแสน มันเทียบกันไม่ได้เลยครับอาจารย์ คำแนะนำของจ่าเพียร นอกจากจะสะท้อนความรู้สึกของผู้ปฏิบัติงานสนามที่เสี่ยงอันตรายแล้ว ยังกระตุกให้ผู้บังคับบัญชาตำรวจหันมาสนใจผู้น้อยอย่างจริงจัง และนี่คือที่มาของการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจ ซึ่งก่อนที่ผมจะลาออกเมื่อ พล.ต.อ.โกวิท ถูกคำสั่งนายกรัฐมนตรีขณะนั้นให้ไปประจำสำนักนายกฯ สามารถรวบรวมเงินได้ประมาณ 500 ล้านบาท ได้ติดตามข่าวสารของ "จ่าเพียร" อย่างต่อเนื่อง จนเมื่อเขาได้รับแต่งตั้งเป็น ผกก.สภ.บันนังสตา ผู้เขียนได้ไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ "จ่าเพียร" ไต่ถามความต้องการว่ามีอะไรที่จะให้ช่วยสนับสนุนบ้าง จ่าเพียรไม่ตอบตรงๆ แต่ชี้ให้ดูรอบบริเวณโรงพัก "ผมเอารั้วลวดหนามที่วางรอบบริเวณโรงพักออกให้หมด เพื่อเป็นการเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ว่า ตำรวจพร้อมที่จะรับใช้ พร้อมจะเสียสละและไม่กลัว จึงไม่ต้องมีอะไรขวางกั้น เข้ามาติดต่อต้องเข้าง่ายออกง่าย เพราะตำรวจอย่างเรามีหัวใจบริการ แต่ถ้าอาจารย์จะกรุณาผมอยากได้เครื่องขยายเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ยินทั่วถึง" จึงจัดหางบบริจาคส่งไปให้"จ่าเพียร" เท่ากับจำนวนที่ขอ ครั้งสุดท้ายที่ลงไปยะลา เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2553 และสนทนากับ "จ่าเพียร" ทางโทรศัพท์ ได้รับคำตัดพ้อเรื่องแต่งตั้งว่า "อาจารย์ ผมขอแค่ไปอยู่กันตัง ไม่ใช่เมืองตรัง นายเขาก็ปฏิเสธ ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ตรากตรำทำงานมาทั้งชีวิต รู้ว่าทุกเวลาในนังตา (บันนังสตา) นั้น ทั้งเสี่ยงและเหนื่อย ที่ขอย้ายก็ไม่ได้หนี แต่ขอพักเพราะลูกเมียขอร้อง ไม่เข้าใจว่านายเขาคิดกันอย่างไร" ฟังแล้วสะอึกเหมือนมีก้อนอะไรวิ่งมาจุกคอหอย ได้แต่ปลอบ "จ่าเพียร" ไปว่าผู้บังคับบัญชากำลังแก้ไขให้ หลังจากนั้น "จ่าเพียร" ก็ขึ้นมายื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรีมีข้อความบางตอนที่สะท้อนความรู้สึกอัดอั้นตันใจ "นายบางคนต้องการเงินมากกว่าคนทำงาน อุตส่าห์ทุ่มเททำงานหนักมาตลอด เคยปะทะผู้ร้ายกว่า 100 ครั้ง บาดเจ็บ 8-9 ครั้ง วิสามัญผู้ร้าย 22 คน ... ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจกลับมองไม่เห็นหัว คงอยากจะทำเรื่องขอพระราชทานยศ พล.ต.อ.ให้ผมตอนตายแล้วมากกว่า..." แล้ว "จ่าเพียร" ก็จากไป ชีวิตของวีรบุรุษเขาบูโด จ่าเพียรขาเหล็ก นายตำรวจผู้ดำรงศักดิ์แห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร ตั้งแต่เป็นชั้นประทวนยศจ่าสิบตำรวจนั้นทรงคุณค่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับตำรวจอีกหลายนายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่าครอบครัวลูกเมียของจ่าเพียรคงไม่ได้มุ่งหวังให้จ่าเพียรได้ติดยศพล.ต.อ.ในยามที่ไม่มีลมหายใจ แต่อยากให้ได้มีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุขในบั้นปลายชีวิตหลังจากที่ได้ตรากตรำ ทำงานอย่างหนักมาตลอดชีวิตรับราชการมากกว่า ไม่อาจล่วงรู้ความรู้สึกของนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ว่าการตายของจ่าเพียร จะมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่ อย่างไร แต่สำหรับความรู้สึกของผู้เขียน ของเพื่อนข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยเกือบสองแสนชีวิต และของประชาชนที่รับทราบเรื่องราว ความเสียสละ ความองอาจกล้าหาญ ความรักและศรัทธาต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของจ่าเพียร ต้องมีผู้รับผิดชอบ เพราะในฐานะประธาน ก.ตร. และ ผบ.ตร. การแก้ไขปัญหาที่จ่าเพียรเรียกร้องความเป็นธรรมนั้นง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปาก เพียงแต่กำหนดตำแหน่ง รอง ผบก.ประจำ สตช. ในที่ประชุม ก.ตร.และใช้อำนาจของ ผบ.ตร.ตามมาตรา 56 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 แต่งตั้งให้ไปช่วยปฏิบัติราชการที่ ภ.จว.ตรัง เราคงไม่สูญเสียวีรบุรุษอย่างจ่าเพียรไป แต่ผู้มีอำนาจข้างต้นกลับเลือกที่จะใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบผายลมทางปากไปวันๆ โดยเลือกที่จะให้ยศ พล.ต.อ.เมื่อจ่าเพียรไร้วิญญาณตามคำพูดของจ่าเพียร การแก้ไขปัญหาลักษณะนี้ ถ้าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและมีภาวะผู้นำ "เขาลาออกไปแล้วครับ" จากคุณ : Nabokov1 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 19:42:20

ความคิดเห็นที่ 44   http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1268725668&catid=02 ********************************** แด่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา โดย วสิษฐ เดชกุญชร ผมขอร่วมกับญาติมิตรและเพื่อนตำรวจ แสดงความเสียใจกับครอบครัวของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จังหวัดยะลา คุณสมเพียรเสียชีวิตไปในตอนบ่ายวันศุกร์ที่ 12 มีนาคมนี้ เพราะต้องกับระเบิด ที่คนร้ายวางซ่อนเอาไว้ และถูกคนร้ายซุ่มยิง ในขณะที่คุณสมเพียรและเพื่อนตำรวจ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในท้องที่อำเภอบันนังสตา คุณสมเพียรไม่ใช่ตำรวจคนแรกที่เสียชีวิตในอำเภอบันนังสตา ก่อนคุณสมเพียร มีตำรวจภูธรและตำรวจตระเวนชายแดนเคยต้องกับระเบิดและถูกซุ่มยิงขณะปฏิบัติหน้าที่เสียชีวิตไปแล้วหลายต่อหลายราย แต่คุณสมเพียรต่างกับคนอื่นตรงที่เขาใช้ชีวิตราชการ 40 ปีของเขาอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด และเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสในการปฏิบัติหน้าที่มาแล้วหลายครั้ง การทำงานในพื้นที่วิกฤตอย่างยิ่งอย่างจังหวัดชายแดนภาคใค้นั้น ตำรวจและทหารอยู่ในภาวะที่เสี่ยงอันตราย เพราะตกเป็นเป้าของคนร้ายอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องเดินทางไปมาบนถนนหรือเส้นทางเส้นเดิมและเส้นเดียว มิหนำซ้ำในบางกรณีเช่นในการคุ้มครองครู ยังต้องไปกลับตามเวลาเดิมทุกวันด้วย จึงง่ายแก่การที่คนร้ายจะวางแผนซุ่ม หรือลอบทำร้ายได้ การทำงานอย่างจำเจและต่อเนื่องในพื้นที่ที่ไม่ต่างกับสนามรบ และต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น สภาพจิตของเจ้าหน้าที่ย่อมเครียดเป็นธรรมดา และผู้บังคับบัญชาควรจะต้องพิจารณาให้ย้ายออกไป เพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูสภาพกายและจิต และให้ผู้อื่นที่สดชื่นแข็งแรงกว่า ไปสับเปลี่ยนทดแทน นี่เป็นหลักธรรมดาของการรบ ไม่ว่าในสนามใด ใหญ่เล็กแค่ไหน แต่เป็นที่น่าเสียดายและน่าเสียใจ ที่ในกรณีของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา นั้น แม้เจ้าตัวจะได้แสดงความจำนงที่จะขอย้ายออกไปนอกพื้นที่ เพื่อจะได้พักก่อนถึงเกษียณอายุราชการ แต่ผู้บังคับบัญชาก็ไม่เห็นใจหรือสนใจ แม้จนกระทั่งเมื่อคุณสมเพียรอุตส่าห์เดินทางเข้าไปร้องเรียนจนถึงทำเนียบนายกรัฐมนตรีแล้ว ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องก็มิได้เห็นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการให้เป็นกรณีพิเศษ เพียงให้แต่สัญญาที่เลื่อนลอยว่าจะจัดการให้ คุณสมเพียรจึงต้องกลับไปทำหน้าที่ที่เสี่ยงอันตรายต่อไป จนกระทั่งเสียชีวิต เคราะห์กรรมที่เกิดแก่คุณสมเพียรนั้น ผมเห็นว่าเนื่องมาจากระบบบริหารงานบุคคลของตำรวจที่บกพร่องล้าสมัย และทิ้งให้หมักหมมมานานแล้ว ควรจะต้องแก้ไขโดยด่วน ผู้เกี่ยวข้องและรับผิดชอบเบื้องต้นในกรณีของคุณสมเพียรนั้น คือผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ซึ่งน่าจะบำบัดปัดเป่าปัญหาให้คุณสมเพียรได้ ด้วยการย้ายคุณสมเพียรออกจากอำเภอบันนังสตาไปไว้ในอำเภออื่น แต่ถึงคงทำได้ก็ไม่มีประโยชน์นัก เพราะจังหวัดยะลานั้นเป็นสนามรบทั้งจังหวัด ย้ายไปไว้อำเภออื่นใด คุณสมเพียรก็คงต้องเผชิญอันตรายต่อไปไม่น้อยกว่าเดิม แม้แต่ตัวผู้บังคับการเองก็อยู่ในฐานะไม่ต่างกับคุณสมเพียร ต้องอยู่ในสนามรบตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะถูกซุ่มยิงหรือวางกับระเบิดเหมือนกัน จึงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาถัดขึ้นไป คือผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศ.ช.ต.) ซึ่งกฎหมายให้อำนาจที่จะย้ายคุณสมเพียรได้ แต่ผู้บัญชาการก็มีปัญหาเหมือนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา คือมีจังหวัดในบังคับบัญชาอยู่เพียงสาม คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ทุกจังหวัดเป็นสนามรบ ย้ายคุณสมเพียรไปอยู่ที่ไหน คุณสมเพียรก็คงจะยังมีอาการหนักอย่างเดิม เพราะฉะนั้นคุณสมเพียรจึงขอย้ายออกนอกภาค ไปอยู่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งอยู่ในเขตตำรวจภูธรภาค 9 ติดๆ กันนั่นเอง มีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นผู้บังคับบัญชา การแต่งตั้งข้ามภาคนั้นทำได้ด้วยการตกลงกันระหว่างภาค เท่าที่ทราบนั้น คุณสมเพียรได้พยายามขอให้พิจารณาแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ เจ้าตัวจึงต้องเดินทางเข้าไปร้องเรียนถึงกรุงเทพฯ ถ้าอย่างนี้ก็ไม่รู้จะมีผู้บัญชาการภาคไว้ทำไม หน้าที่และความรับผิดชอบในชั้นสูงสุดเป็นของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และกฎหมายบัญญัติให้มีอำนาจหน้าที่กำกับ ดูแลการบริหารงานบุคคลของตำรวจ คำร้องเรียนของคุณสมเพียรนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีได้รับแล้ว ก็คงจะส่งต่อไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณา และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็คงจะนำเข้าสู่ที่กระชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณา ก.ตร.จะมีมติอย่างใดก็ตาม เรื่องก็คงจะต้องส่งกลับลงไปให้ผู้บัญชาการที่เกี่ยวข้องพิจารณาอีก ราชการเป็นอย่างนี้ ทุกข์ของคุณสมเพียรจึงเรื้อรัง จนจบลงด้วยการเสียชีวิต ถ้าจะบำบัดปัดเป่าทุกข์ของตำรวจอย่างคุณสมเพียร จึงจำเป็นที่ ก.ตร.จะต้องสังคายนาและปรับปรุงแก้ไขการกำกับดูแลการบริหารงานบุคคลของตำรวจโดยด่วนที่สุด มิใช่เพื่อให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ เป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรม และปลอดจากการแทรกแซงใดๆ เท่านั้น แต่เพื่อให้เป็นไปโดยไม่ล่าช้าด้วย ถ้าการพิจารณาแต่งตั้งทำอย่างเปิดเผย ไม่มุบมิบทำอยู่แต่เพียงคนเดียวสองคน และ ก.ตร.ไม่พิจารณาแบบสุกเอาเผากิน มีการชี้แจงให้ผู้ที่ไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง ทุกราย เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเขาจึงไม่ได้รับการพิจารณา ปัญหาจะน้อยกว่าที่มีอยู่ใน ขณะนี้ ตำรวจจะสบายใจและมีกำลังใจที่จะทำหน้าที่ ไม่เสียขวัญและไม่ซังกะตายทำงาน คุณสมเพียรคงจะได้เงินเดือนขึ้นหลายขั้น และได้เลื่อนยศเป็นนายพลหลังมรณกรรมของเขาแน่นอน แต่ถ้าถามภรรยาของคุณสมเพียรและลูก (ซึ่งคนหนึ่งบังเอิญเป็นนายตำรวจชั้นประทวนสังกัดตำรวจตระเวนชายแดนที่ยะลา) เธอและเขาคงพอใจที่จะให้คุณสมเพียรมีชีวิตอยู่ต่อไปมากกว่า แม้จะต้องเป็น พ.ต.อ.และรับเงินเดือนเท่าเดิม คุณสมเพียรเป็นวีรบุรุษแล้วครับ แต่เมืองไทยต้องการวีรบุรุษที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตายแล้ว จากคุณ : Nabokov1 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 19:44:23

ความคิดเห็นที่ 45   http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1268657958&grpid=01&catid= *************************************** เสียงจากนาย ตร.ใต้ เพื่อนร่วมรบ "จ่าเพียร"ฝากบอก "สายไปแล้ว หุบปาก แล้วลงมือทำเสีย" หมายเหตุ : พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เขียนบทความพิเศษลงในเว็บไซต์ เรื่อง "มันสายไปแล้ว..ครับท่านกับความเสียใจและความช่วยเหลือแก่ พ.ต.อ.สมเพียร" เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ************************************************** ผมได้รับข่าวทางโทรศัพท์มือว่านายกฯพร้อมช่วย ผกก.บันนังสตา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลื่อนยศ 7 ขั้น พ.ต.อ.สมเพียร ชดเชย 1.8 ล้านบาท และต้องมีคนรับผิดชอบโยกย้าย เหมือนจะดูดีในความห่วงใย เหมือนจะต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับผมและตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้...คงไม่ เพราะมันไม่ได้มีค่าอะไรเมื่อนักรบของชาติคนหนึ่งที่เฝ้ารอและมีความหวังที่จะได้รับความเมตตา ความปรารถนาดีเรื่องการตอบแทนให้กับเขาจากผู้บังคับบัญชา..เขาได้ตายจากพวกเราไปเสียแล้ว และในความเป็นจริง..หากเขาลุกขึ้นมาพูดได้ เขาก็คงไม่อยากได้แล้ว ทั้งๆ ที่พี่เพียรของผมได้พยายามส่งสัญญาณถึงเหล่าผู้บังคับบัญชามาตั้งแต่ วันที่ 19  กุมภาพันธ์ 2553 และเข้ายื่นหนังสือต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และ รรท.ผบ.ตร. ไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งเรื่องพี่เพียรต้องทำให้จริงจัง เพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่ได้เสียสละทุกคนทุกส่วนราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และต้องจุดประกายเรื่องพี่เพียรให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกส่วนราชการต้องตระหนักในความสำคัญ และสิ่งที่ควรจะต้องตอบแทนให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันรดน้ำศพและพิธีรดน้ำพระราชทานอาบศพ พ.ต.อ.สมเพียร ที่วัดเมืองยะลา ผมต้องกลับก่อนเพราะต้องมาจัดรายการวิทยุที่ศาลากลางจังหวัด จ.ปัตตานี แต่ก็เห็นผู้คนมากมาย ที่นั่งที่จัดไว้ไม่เพียงพอแก่ผู้ร่วมงาน มีผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งนั้น ผู้กำกับการอย่างผมดูจะกระจ้อยร่อย ไม่สลักสำคัญอะไร ระหว่างจัดรายการวิทยุมีสายโทรศัพท์เข้ามามากมายที่แสดงความเห็นเรื่องนี้ ทหารที่จัดรายการวิทยุอยู่สถานีข้างๆ เขาก็ว่าเมื่อวานหูอื้อหูชาไปหมดจากสายโทรศัพท์ที่เข้ามา ทุกคนที่โทรมา..ล้วนแล้วแต่แสดงความเสียใจ เห็นใจใน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา แต่สุดท้าย..ทุกสายก็รุมด่าผู้บังคับบัญชา ส่วนตัวผมเห็นว่าเรื่องนี้คงเป็นตราบาปของผู้บังคับบัญชาไปอีกนาน ตราบาป..จากคนที่ควรทำอะไรให้แก่ใคร แล้วกลับไม่ได้ทำ แต่ท่านผู้บังคับบัญชาเหล่านั้นคงจะตอบกันเป็นเสียงเดียวกันว่า.. "ไม่เกี่ยวกับผม" หากสิ่งที่พี่เพียรพูดถึงการแต่งตั้งโยกย้ายคราวที่แล้วเป็นจริง..ที่ไม่มีความเป็นธรรม เห็นแก่เงินแก่ทอง ข้ามหัวกันไปมา ไม่เคยเหลียวแล ไม่เคยตอบแทนคนที่ทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมว่าคงเป็นคำผรุสวาทที่เสมือนตอกย้ำ..ตราบาปในครั้งนี้ ตราบาปที่คนทำได้แต่กลับไม่ได้ทำ ยิ่งผู้บังคับบัญชาออกมาพูดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้ก่อตราบาปนี้อยู่ดี หุบปาก..หยุดพูด..แล้วทำเลยครับ ส่วนตัวผมนั้น...ยินดีรับโทษครับ หากบทความนี้ไม่เป็นที่พึงพอใจ จากคุณ : Nabokov1 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 19:46:34

ความคิดเห็นที่ 46   ร่วมบริจาคด้วยค่ะ จากคุณ : ฮักแพง-แบ่งปัน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 20:34:06

ความคิดเห็นที่ 47   น่าเสียดายนายตำรวจดีๆ ครับ อีกไม่นานก็คงลืมกันไป ปัญหาเดิมๆก็ยังคงอยู่ตราบเท่าที่รากเหง้าของปัญหาไม่ได้แก้ไข จากกรมมาเป็น ส.ต.ร. ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมา เลิกเถอะครับยศชั้นสัญญาบัติสำหรับตำรวจ เต็มที่ก็นายดาบก็พอ ที่เหลือเป็นแค่นาย...หัวหน้าตำรวจก็พอแล้วครับจะเป็นนายพันนายพลไปทำไมไม่จำเป็นเหมือนทหารครับ และควรขึ้นกับส่วนท้องถิ่นแทนที่จะเป็นส่วนกลาง อ้อ แล้วเงินบริจาคเนี่ยสรรพากรถือเป็นรายได้ต้องมาคำนวณภาษีไหม อยากรู้ครับ จากคุณ : นายกว้าง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 23:38:21

ความคิดเห็นที่ 48   แล้วเราจะมีวิธีไหนช่วยเหลือครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิตพร้อมๆกับ จ่าเพียร ไหมคะ จากคุณ : ขวัญชนก เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 09:13:09

ความคิดเห็นที่ 49   บัญชี "จ่าเพียรขาเหล็กนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด" โอนผ่าน charity account ที่กรุงไทยทุกสาขา ไม่เสียค่าธรรมเนียมค่ะ (ไม่ต้องบอกเลขที่บัญชี) จากคุณ : โซดาน้ำขิง เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 14:19:05

ความคิดเห็นที่ 50   คห.48 คะ ตามข่าวครอบครัวนี้ค่อนข้างลำบากเหมือนกัน สามารถช่วยเหลือได้โดยโอนเงินที่ ธนาคารกรุงไทยค่ะ บอกว่าเข้าบัญชี ด.ต. โสภณ ไม่ต้องจดเลขที่บัญชี ฟรีค่าธรรมเนียมด้วย ที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยค่ะ บัญชีของพ.ต.อ. สมเพียรก็เช่นกันค่ะ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะจัดการโอนให้ (เพื่อนไปโอนบอกมา) ขอบคุณที่อำนวยความสะดวกให้ไว้ ณ ที่นี้นะคะ จากคุณ : sk_tceu เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 22:08:59

ความคิดเห็นที่ 51   โพสซ้ำค่ะ มาลบออก ขออภัยด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 53 22:10:39 จากคุณ : sk_tceu เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 22:09:16

ความคิดเห็นที่ 52   รู้ไหม ผม search หากระทู้บริจาคเงิน แล้วมาเจอกระทู้ของคุณ นี่แหละ (ผมไม่เคยบริจาคเงินเป็นทางการแบบนี้เลย)    เมื่อทราบประวัติท่านทางสื่อ  อยากช่วยเหลือ ครอบครัวท่าน แม้จะเป็นเงินไม่มากมายอะไร จากคุณ : ranat เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 23:51:00

ความคิดเห็นที่ 53   จริงเหรอ คะว่าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ทำไมเมื่อวานไปโอนเงินบริจาคมา ที่แบงค์กรุงไทยเจอไปบัญชีละ 30 หละคะ บริจาค ให้ทั้ง 2 คนเลยเจอไป 60 บาทสำหรับค่าธรรมเนียม แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 53 08:35:08 จากคุณ : ค้อกเกอร์สีทอง เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 08:32:03

ความคิดเห็นที่ 54   บริจาคเงินให้ 2 ครอบครัวนักสู้แดนใต้ที่ธนาคารกรุงไทยโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ I9008565 จากคุณ : โซดาน้ำขิง เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 09:44:26

ความคิดเห็นที่ 55   คห.53ครับ ความรู้สึกktbคงช้าน่ะครับ จากคุณ : stdn เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:42:06

ความคิดเห็นที่ 56   เสียงหลังโลงของ...จ่าเพียร(2) ประเด็น:จ่าเพียรนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ************************************** ความเจ็บปวดในชีวิตจากการกระทำของผู้มีอำนาจ เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ "จ่าเพียร" ก็ไม่เคยออกมาปริปาก ความเจ็บปวดในชีวิตราชการของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา จากการกระทำของผู้มีอำนาจ เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ "จ่าเพียร" ก็ไม่เคยออกมาปริปาก เพราะยึดมั่นในระเบียบวินัยของข้าราชการตำรวจที่น้อมรับทุกคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่มีเหตุการณ์อยู่ สองครั้ง ที่ "จ่าเพียร" ถูกฝ่ายการเมืองเล่นงาน สร้างความเจ็บปวดฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบูโด พล.ต.อ.สมเพียร ครั้งแรกขณะดำรงตำแหน่งนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรในพื้นที่ที่มีผลประโยชน์สูง ซึ่งนอกจาก "จ่าเพียร" จะไม่ยอมเรียกเก็บผลประโยชน์ในพื้นที่ หรือ "ส่วย" เพื่อส่ง ผู้เป็นนาย แล้ว ก็ยังเข้าไปขัดขวางการแสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบของ "นักการเมืองขาใหญ่" ในพื้นที่ที่เคยได้รับผลประโยชน์จากธุรกิจมืดเป็นเม็ดเงินมหาศาล ก่อนจะลงเอยด้วยคำสั่ง ย้ายด่วน "ผู้กองเพียร" ออกจากพื้นที่ โดยไม่มี ผู้เป็นนายคนใดออกมากางปีกปกป้องนายตำรวจผู้ซื่อสัตย์ของกรมตำรวจในขณะนั้น ครั้งที่สอง "จ่าเพียร" ต้องเผชิญกับวิบากกรรมในชีวิตราชการอีกครั้ง โดยฝ่ายการเมืองกดดันให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงมีคำสั่งห้าม "จ่าเพียร" ออกนอกพื้นที่รับผิดชอบของตนเองโดยเด็ดขาด เพราะการทำงานแบบกัดไม่ปล่อยของ "จ่าเพียร" และไม่ยอมนิ่งดูดายกับสิ่งผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นในเวลาราชการหรือนอกเวลาราชการ ไม่ว่าจะอยู่ในท้องที่ของตัวเองหรือนอกพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นการทำงานที่เกินกว่าค่าตอบแทนที่ได้รับจากแผ่นดิน และควรจะได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญ แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ของผู้มีอำนาจ ทั้งนี้ เพราะการทุ่มเททำงานโดยไม่สนใจว่าอยู่ในท้องที่ไหน ได้กระทบผลประโยชน์ของ ผู้มีอำนาจ เหนือตำรวจ"จ่าเพียร" จึงถูกใบสั่งห้ามล้ำเส้นเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขุมทรัพย์เหล่านั้น หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น "จ่าเพียร" ก็ได้รับมอบหมายให้ไปรับผิดชอบในอีกหลายพื้นที่ จนกระทั่งปี 2549 ขณะที่ "จ่าเพียร" ปฏิบัติหน้าที่รอง ผกก.หน.สภ.มะนัง จ.สตูล เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา กลุ่มโจรใต้ได้ออกมาลอบทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนในพื้นที่คิดถึง จ่าเพียร ขาเหล็ก นายตำรวจที่ทุกคนศรัทธาและไว้วางใจ เพราะในช่วงที่ "นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบูโด" รับราชการอยู่ที่ สภ.บันนังสตา สามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในระดับที่ประชาชนพึงพอใจ แต่เพียงแค่ความศรัทธาของประชาชน ไม่เพียงพอที่จะนำ "จ่าเพียร" กลับมาที่ สภ.บันนังสตา ได้ เพราะชื่อของ"จ่าเพียร" เป็นของแสลงสำหรับ "นาย" "จ่าเพียร" ถูกกีดกันไม่ให้ได้รับโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานครั้งแล้วครั้งเล่า จนชินชากับอนาคตในหน้าที่ราชการ หลายครั้ง "จ่าเพียร"ตัดพ้อกับคนใกล้ชิดถึงท่าทีของผู้มีอำนาจในอดีตว่า "ไม่รู้กูไปทำอะไรกับเขาไว้เขาถึงเกลียดกูนัก" สุดท้ายก็ ได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม แต่ด้วยคุณงามความดีของ "จ่าเพียร" นักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ยะลาจึงเล็งเห็นศักยภาพและปรารถนาที่จะนำ "จ่าเพียร" กลับมาที่ สภ.บันนังสตา โดยรู้ดีว่าหากดำเนินการตามขั้นตอนปกติของระบบราชการ ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มีทางนำ"จ่าเพียร" กลับมาบันนังสตาได้ นักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวจึงตัดสินใจเข้าพบ "บิ๊กแอ้ด" พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เพื่อขอตัว "จ่าเพียร" จาก สภ.มะนัง จ.สตูล กลับมาที่บันนังสตาซึ่ง "บิ๊กแอ้ด" ก็ได้พิจารณาและอนุมัติตามที่ร้องขอ นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาบูโด จึงได้กลับคืนถิ่นเดิมท่ามกลางความยินดีของชาวบันนังสตา อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ประชาชนจะให้การต้อนรับและพร้อมให้ความร่วมมือกับ "จ่าเพียร" แต่การทำงานก็ไม่ได้ราบรื่น โดยต้องเผชิญกับปัญหาที่ "จ่าเพียร" คาดไม่ถึง เรื่องเล่าหลังโลงศพของ "จ่าเพียร" ยังมีอีก จากคุณ : Nabokov1 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 53 16:52:08