ความคิดเห็นที่ 1 ย้อนใจความสำคัญสัปดาห์ที่แล้ว จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 04:15:06

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อมาคุณเย่หยงเทียนตอบ (ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น) v v v แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 04:18:44 จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 04:15:27

ความคิดเห็นที่ 3 และยินดีที่จะเปิดเผยผลความคืบหน้าในสินธรด้วย จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 04:16:27

ความคิดเห็นที่ 4 1 โหวต จากคุณ : rchai เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 06:52:25

ความคิดเห็นที่ 5 โหวดให้ จากคุณ : penonline เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 08:25:04

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับเรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบแล้วและกำลังดำเนินการอยู่ค่ะ แต่ก็ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณเย่หยงเทียนอีก และก็กำลังรอคำตอบจากคุณเย่อยู่ค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และขอรับรองว่าจะดำเนินการอย่างโปร่งใสแน่นอน  ยังไงถ้าคุณเย่หยงเทียนแวะมา ขอรบกวนด้วยนะคะ จากคุณ : K8888 เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 09:01:02

ความคิดเห็นที่ 7 โหวตครับ กลัวแต่ว่า แล้วก็หายไปกับสายลมสีเขียวตามระเบียบ จากคุณ : พ่อน้องบุ๊ค เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 12:19:15

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยครับ ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง2ฝ่าย จากคุณ : ข้าวงาย เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 12:22:10

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าน้องพนักงานเขายืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจแล้วจะไปทำอะไรได้คับ ทางสำนัก งานใหญ่ก็คงได้แค่ตักเตื่อน อาจมีโทรศัพท์หรือ E-mail แจ้ง ขอโทษ คุณเย่แล้วก็น่าจะจบ จากการคาดเดานะ (ก็คนไม่ได้ตั้งใจจริงๆคงไม่ต้อง ถึงให้ออกมั้งแค่นับเงินพลาด) แต่ถ้ามีลูกค้าแจ้งเข้าไปหลายราย ก็อาจมี การตรวจสอบที่เข้มข้นมากขึ้น เช่นตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ให้ผู้จัดการ เฝ้ามองพฤติกรรมเป็นกรณีพิเศษ แล้วถ้ามีเหตุการณ์ที่มันชัดเจนขึ้นมาแบงค์ ก็คงลงโทษของเขาเอง เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา 1-2 อาทิตย์ผมว่าไม่เพียง พอน่าจะเป็น 1-3 เดือนขึ้นไป แล้วเชื่อว่าถ้าผิดจริงทาง KBANK คงไม่ออก มาประกาศหรอกคับ ว่าได้ให้พนักงานท่านนั้นออกแล้ว มันเรื่องภายในเขา จากคุณ : Cattyz3838 เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 16:18:09

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าพี่ก็อย่าไปจี้เค้าเกินไปฮะ .. เค้าก็ทำตามกระบวนการอยู่แล้ว ต้องให้เวลาเค้าบ้าง ... เรื่องแบบนี้จะหาหลักฐานแน่นหนาก็ไม่ได้ ..  ได้แค่ต้องสงสัย .. จะยังไงเรื่องนี้มันก็เป็นผลประโยชน์ของแบ๊งค์เองด้วย เค้าคงไม่ยอมง่ายๆหรอกฮะ ถ้าสืบรู้ว่าผิดจริง .. ถ้าธนาคารรับเรื่องตรวจสอบแล้ว ผมคิดว่าน่าจะเพียงพอแล้วฮะ ... อย่าไปเร่งเค้าเกินไปฮะ ..   แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 19:57:15 จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 19:49:33

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องแบบนี้เราไม่ตามงานก็ไม่คืบหน้าหรอกคะ แนะนำว่าคุณควรปรึกษาทนาย  และให้ทนายเป็นฝ่ายเจรจา โหวดให้คะ เข้ามาแก้ไขคำผิดคะ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 21:34:35 จากคุณ : Cat is little...เหมี๊ยวๆ เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 21:30:57

ความคิดเห็นที่ 12 งั้นผมคงเป็น"มหาโจร"เลยมั้งครับ เพราะนับเงินลูกค้าขาดไปบ่อยๆ งั้น ลูกค้าหลายๆท่านคงเป็น"มหาโจร"ด้วยแน่ๆเลย เพราะเงินพนักงานขาดบ่อยๆ(จำนวนเงินคงมากกว่าที่ผมนับพลาดซะอีก) จากคุณ : ตามน้ำกันจัง (Vincent Tai303) เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 21:48:52

ความคิดเห็นที่ 13 #11 พี่จะแต่งทนายไปเจรจากับใคร ฟ้องใคร เรียกร้องอะไรฮะ .. คุ้มค่ากับเวลา กับเงินที่เสียไปรึเปล่า .. ถ้าพี่เป็นเจ้าทุกข์พี่จะทำมั้ย ถึงบอกให้คนอื่นทำ .. จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 22:31:23

ความคิดเห็นที่ 14 โหวตค่ะ รอ บท สรุป จากคุณ : คุณป้าพาเพลิน เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 23:02:34

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าพี่อยากจะทำพี่ก็ทำคะน้อง    แล้วน้องละคะ..   อุ๊ไม่ออกหรือคะถึงมาพาลใส่ พี่แค่แนะนำคุณเจ้าของกระทู้เท่านั้น  และพี่ก็ไม่ได้พาดพิงอะไรถึงน้องตรงไหนเลยนะคะ   การที่น้องมาพาลใส่พี่แบบนี้....   นิสัยไม่ดีเลยนะตัว จากคุณ : Cat is little...เหมี๊ยวๆ เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 23:46:56

ความคิดเห็นที่ 16 ที่บอกให้คุณ Summerman เจ้าของกระทู้ ตั้งทนายไปเจรจานี่ จะให้เจรจาในประเด็นไหน ใช้เหตุผลอะไรในการยกเรื่อง พอบอกเป็นแนวทางได้ไหมครับ จากคุณ : Knight เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 23:59:50

ความคิดเห็นที่ 17 จะกลายเป็นกระทู้แนะนำ (ป่าวหว่า) ^ ^' จากคุณ : สาวกลมกลิ้ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 00:24:25

ความคิดเห็นที่ 18 คุณKnight ในความคิดเห็นที่  16 คะ ก็ถึงบอกไงละคะว่า...  ควรปรึกษาทนาย  ไม่อย่างนั้นฉันก็คงแนะนำว่า..  ปรึกษาฉันสิคะ  เดี๋ยวฉันไปเจรจาให้ คนส่วนเวลามีปัญหาก็มักจะจัดการเอง  แต่บ่อยครั้งที่คำพูดและการกระทำหากให้ทนายเป็นที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำ  หรือเป็นคนเจรจาแทนจะดีกว่านะคะ จากคุณ : Cat is little...เหมี๊ยวๆ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 01:10:29

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ได้เร่งครับ แต่อยากให้เราคิดและติดตามกันมากขึ้นและใกล้ชิดมากขึ้น อาจจบอย่างไรก็ได้ แต่ถ้าไม่ติดตามก็เงียบไปอย่างไม่มีคำตอบ ซึ่งผมว่าจบแบบนั้นไม่ได้รับความเป็นธรรมกันทั้งฝ่ายธนาคารและฝ่ายลูกค้า เพราะเหมือนข่าวโคมลอยไปวันๆ หนึ่ง มันอาจมีทางจบที่ดีทั้งสองฝ่ายก็ได้ ก็เห็นๆ อยู่ทั่วไปในสินธรนี่ครับ ทีกรณีธนาคารกรุงเทพกับตู้ CDM ที 9000 600 ยังโหวตได้ทุกอาทิตย์เลย ผมนี่แหละที่ตั้งกระทู้ตามเจ้าทุกข์กรณีมือถือให้มาแสดงความคิดเห็นด้วย ไม่ใช่ว่าจบแล้วเงียบ ทางบริษัทมือถือก็ยืนยันในกระทู้ตามเจ้าทุกข์ว่าตกลงได้อย่างนั้นจริง ๆ เป็นอันว่าทุกฝ่ายให้ข้อมูลจบแล้ว คุณผู้อ่านตัดสินกันเอง ทุกฝ่ายมีสิทธิ์ให้ข้อมูล จะเชื่อใครก็อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าผมไม่ขุดกรณีนั้น ทุกอย่างก็คงเงียบไปอย่างมีเงื่อนงำ เพราะไม่มีข้อมูลตอนจบ กลับมาเรื่องนี้นะครับ ผมเห็นว่าเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งเพราะเรื่องเกิดสดๆ ร้อนๆ ต้องติดตาม และจะเห็นว่าคุณ K8888 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าทุกข์เป็นระยะๆ อย่างน้อยจะเห็นว่า 3 ครั้งแล้ว และจะเห็นว่าเป็นการขอทางอมยิ้ม ถ้าปล่อยเลยไป เรื่องนี้คงยากแก่การสอบสวนนะครับ เหมือนเรื่องคุณ บ.ส. สีม่วง ซึ่งพ้นระยะเวลาสอบสวนไปแล้ว หลายปีมาแล้ว จบไปก็ถือว่าให้จบไป เขาไม่ได้โกงอะไรใคร แค่เป็นเรื่องปากเสียงกับลูกค้า ซึ่งเราได้รับฟังข้อมูลจากลูกค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว ก็ยังตัดสินอะไรไม่ได้ จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 06:04:46

ความคิดเห็นที่ 20 สินธรเหมือนละคร แต่เป็นละครที่มีส่วนร่วมได้ แต่เป็นละครที่คุณสามารถทำให้มันเป็นความจริง เป็นบรรทัดฐานใหม่ และไม่ใช่น้ำเน่าได้ ถ้าผมได้รับข้อความเรื่องนี้ทางอีเมล ผมกดลง junk แน่นอน เพราะมันไม่อาจพิสูจน์สอบสวนทวนความได้ แต่เมื่อมันอยู่ในสินธร ผมกดแตกประเด็นถามความคืบหน้าไปเรื่อยๆ แทน ถ้าผลออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง เหมาะแก่การเป็นบทเรียนให้คนอื่น ค่อยทำ FWD เมล แนบกระทู้ไปเป็นหลักฐานอ้างอิง จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 06:19:51

ความคิดเห็นที่ 21 อยากตามเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีเวลา ดีใจที่มีคนเหมือนทำหน้าที่นี้แทน จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 08:17:36

ความคิดเห็นที่ 22 เหมือนคห.10 privacy ก็สำคัญนะคะ ^^ จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 09:14:29

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าผมเป็นพี่เย่ ผมคงให้ข้อมูลเท่าที่ยืนยันได้ เช่น transaction วันที่ฝากเงิน เพราะตรงนี้จะระบุใครเป็นคนรับอยู่แล้ว แต่การบอกว่า นับขาด แล้วไปนับครบอีกกอง เป็นเรื่องยืนยันยาก ซึ่งพี่เย่ก็ไม่ได้เอาความอะไร เพียงแต่มาเตือนให้รอบคอบ ทางแบงค์จะก็ได้ประโยชน์ตรงที่ จะได้รู้ว่า อาจมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จะได้หามาตราการป้องกัน เช่น เตือนว่า นับเงินก่อนมาฝาก กรุณาดูพนักงานนับเงินด้วย หากพบพฤติกรรมน่าสังสัยให้เรียกผู้จัดการเลย ไม่ต้องเถียงกับพนักงาน .... .... หลังๆ นี่ไม่ค่อยได้ถือแบงค์เยอะๆแล้ว ใช้บัตรมั่ง โอนมั่ง มีแต่ตัวเลข ... ซื้อกับข้าวในตลาดก็ 4-500 ก็พอแล้ว จากคุณ : KENG76 เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 13:44:49

ความคิดเห็นที่ 24 กรณีนี้ มันจะฟ้องได้อย่างไรครับ หลักฐานก็ไม่มี ผู้เสียหายก็ไม่มี มีเพียงคำบอกเล่า และเสียความรู้สึก บวกกับ อคติที่คิดไปเอง ... ระวังแต่ แบงค์ จะฟ้องกลับ เพราะ หลักฐาน ก็มัดตัว ... ผู้เสียหาย ก็เต็ม ๆ ...เอะอะ จะฟ้อง จะฟ้อง นี่ ระวังโดนสวนหมัดน๊อค อย่าทำให้มากความเลย .... จะไปแหวกหญ้าให้งูตื่นทำไม รอเงียบ ๆ จับได้คาหนังคาเขา ดีกว่า จากคุณ : อาหนิว เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 02:59:17

ความคิดเห็นที่ 25 ช่วยโหวตนะคะ จากคุณ : Absolutely love เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 08:22:01

ความคิดเห็นที่ 27 เข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องนับเงินผิดนะครับ มันมีพฤติกรรมที่ชวนสงสัยอยู่ด้วย (อ่านได้จากกระทู้ต้นเรื่องของพี่เย่) ผมก็อยากรู้ข้อสรุป จึงขอโหวตให้ จากคุณ : น้องเอยแก้มอ้วน เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 20:29:53

ความคิดเห็นที่ 28 พี่ติ่งหูแมว เค้าขึ้นหน้า 1 ดราม่าเรยนะเธอว์ จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 20:48:45

ความคิดเห็นที่ 29 เ่่อ่อ...ผมเห็นคำตอบคุณ cat แล้วงงครับ ปกติ การจะไปปรึกษาทนาย ก็หมายถึงว่า คนที่เขาไป ก็ต้องมีประเด็นอยู่อยู่แล้ว และต้องการให้ทนายเขาดำเนินการให้ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบทางกฎหมาย การที่ไม่มีประเด็นอะไรเลย แล้วไปยืมมือให้ทนายเขาจัดการ ถ้าพูดภาษาชาวบ้่านก็คือ "แบบนี้...หาเีื่รื่องกันนี่หว่า" แล้วเรื่องนี้ คุณ cat จะแนะนำให้คุณ Summerman เจ้าของกระทู้ ไปตั้งทนายตามเรื่องจากธนาคาร คงจะเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องจริงๆ คือ คุณเย่ฯ และถ้าธนาคารจะตอบชี้แจง ก็จะตอบเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น การแนะนำของคุณ cat ให้คุณ Summerman ไปตามเรื่อง ทั้งๆ ที่ไม่มีประเด็น และไม่ได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ไม่มีคนปกติที่ไหนเขาทำกันครับ จากคุณ : Knight เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 22:45:44

ความคิดเห็นที่ 30 การกระทำความผิดใดๆมันต้องมีเจตนา  ถึงจะถูกลงโทษตามกฎหมาย  นั่นมันโทษในทางคดีอาญาระหว่างรัฐกับประชาชน     แต่ case นี้  หากพิสูจน์ออกมาแล้ว  ถึงแม้พนักงานเขาจะขาดเจตนา  แต่ถ้าสอบแล้วได้ข้อสรุปว่ากระทำไปโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายหรือชื่อเสียง     สำหรับภาคเอกชนเขาคงคาดโทษแน่นอน          คงไม่ต้องเร่งกันหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 53 21:42:40 จากคุณ : ปีศาจValkyrie เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 53 21:22:15

ความคิดเห็นที่ 31 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 19:19:28

ความคิดเห็นที่ 32 ...เข้ามาดม จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 20:20:34