 |
ความคิดเห็นที่ 2 |
2. สิทธิประโยชน์เมื่อสิ้นสมาชิกภาพ ในส่วนของเงินสะสมซึ่งจ่ายโดยลูกจ้างนั้นได้รับการยกเว้นภาษี แต่สำหรับผลประโยชน์ที่เกิดจาก เงินสะสม เงินสมทบ(ซึ่งจ่ายโดยนายจ้าง) และผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินสมทบ จะมีภาระภาษีหรือไม่นั้นเป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
2.1 ได้รับยกเว้นภาษี เมื่อสมาชิกหรือลูกจ้าง
เกษียณอายุ ตามอายุที่ระบุไว้ในข้อบังคับของบริษัทนายจ้างแต่ต้องไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี
ทุพพลภาพ ไม่ว่าสาเหตุแห่งการทุพพลภาพจะเกิดจากการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างหรือไม่ก็ตาม แต่ต้องมีแพทย์ที่ทางราชการรับรอง ตรวจ และแสดงความเห็นว่าไม่สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้
ตาย ไม่ว่าสาเหตุแห่งการตายจะเกิดจากการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างหรือไม่ก็ตาม
ลูกจ้างควรขอหลักฐานรับรองสาเหตุการออกจากงานจากนายจ้างว่า ออกจากงานเนื่องจากเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานเอกสารแนบในการยกเว้นภาษีเงินได้ ส่วนกรณีเกษียณอายุก่อนกำหนด (early retirement) ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีตามเงื่อนไขนี้นะค่ะ
2.2 เสียภาษีบางส่วน หากลูกจ้างเป็นสมาชิกกองทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่สิ้นสมาชิกภาพก่อนเกษียณอายุ ให้คำนวณเงินได้ที่จะต้องนำไปคำนวณภาษีตามสูตร ดังต่อไปนี้ (เงินสมทบ + ผลประโยชน์ของเงินสะสม + ผลประโยชน์ของเงินสมทบ )? (7,000 x ปีที่ทำงานกับ นายจ้างรายปัจจุบัน) = A แล้วให้นำจำนวนเงินได้ที่คำนวณได้(A) ดังกล่าวไปหักค่าใช้จ่ายได้อีก 50% หลังจากนั้นก็นำเอาไปรวมกับรายได้อื่นๆ เพื่อคำนวณภาษีเงินได้ในปีภาษีที่ได้รับเงินนั้นตามฐานภาษีนั้นๆ ต่อไป
2.3 เสียภาษีทั้งจำนวน หากไม่เข้าเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งจากข้างต้นก็ต้องนำเงินทั้งสามส่วน (เงินสมทบ ผลประโยชน์ของเงินสะสม และผลประโยชน์ของเงินสมทบ )ที่ได้รับทั้งหมดมารวมเป็นเงินได้เพื่อคำนวณภาษีเงินได้ในปีภาษีที่ได้รับเงินนั้นตามฐานภาษีเงินได้ต่อไป
อย่างไรก็ดีสำหรับสมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนงาน สามารถจะรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีเอาไว้ได้ด้วยการขอคงเงินไว้ในกองทุนเดิมก่อน ซึ่งสามารถดำรงเงินไว้ในกองทุนเดิมได้ไม่เกิน 1 ปี โดยมีค่าธรรมเนียม 500 บาท และเมื่อได้งานใหม่แล้วจึงค่อยแจ้งโอนย้ายเงินจากกองทุนเดิมไปยังกองทุนใหม่ ก็จะทำให้ความเป็นสมาชิกภาพในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเรายังคงอยู่ต่อไป โดยไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่และไม่ต้องเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วยค่ะ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถือได้ว่า เป็นสวัสดิการอย่างหนึ่งที่นายจ้างมอบให้กับลูกจ้างในขณะที่ทำงานอยู่ เมื่อถึงเวลาที่ลูกจ้างเกษียณอายุ เงินที่นายจ้างและลูกจ้างช่วยกันสะสมและสมทบไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้ ก็จะตกเป็นของลูกจ้างเพื่อไว้ใช้ดูแลตนเองต่อไปในยามแก่เฒ่า เป็นน้ำใจจากนายจ้าง สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ขอชื่นชม และขอเป็นตัวแทนลูกจ้างขอบคุณนายจ้างทุกรายที่สมัครใจจัดตั้ง ?กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ? ค่ะ
| จากคุณ |
:
As you know
|
| เขียนเมื่อ |
:
27 มี.ค. 53 13:20:09
|
|
|
|
 |