ความคิดเห็นที่ 10 |
ยังไม่มีความรู้การลงทุน ผมแนะนำว่าแบ่งๆ ไป ลงทุนหลายๆ รูปแบบประมาณนี้ครับ
1. เงินฝากที่แนวๆ ว่าฝากเท่ากันทุกเดือน ติดต่อกัน 2 ปีครับ ธนาคารแต่ละที่จะใช้ชื่อไม่เหมืนอกัน และจะมีผลตอบแทนไม่เท่ากัน ***ระวังให้ดี*** อัตราโบนัสจากดอกเบี้ยที่โชว์ในใบปลิว มันคือเงินที่ได้เพิ่มจาก ดอกเบี้ยที่ได้ครับ
ยกตัวอย่างของกสิกร (เนื่องจากมีข้อมูลที่ชัดเจน) เค้าจะให้คุณเลือกว่าจะฝากเดือนละเท่าไร มีตั้งแต่ 1000-25000 และจะได้ดอกเบี้ยปีละ 2% และพอครบ 2 ปี จะได้เพิ่ม 2.5% จากดอกเบี้ย ซึ่ง 2.5% ที่เพิ่มขึ้นมาจากดอกเบี้ยจะไม่เสียภาษี (ดอกเบี้ย 2% เสียภาษี)
2. กองทุนรวม **ศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง ก่อนการลงทุน** การซื้อกองทุนรวมนั้น จะคล้ายๆ กับการซื้อขายหุ้นคือ ให้ซื้อในราคาที่ถูกกว่า แล้วขายคืนในราคาที่แพงกว่า โดยแต่ละกองทุนจะมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อ มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ตามรูปแบบการลงทุน
เช่น กองทุนที่ลงทุนในตราสารทุน (ลงทุนในหุ้น) NAV นั้นจะผันผวนไปตามแนวโน้มของตลาดหุ้น (มีขึ้น มีลง) แต่กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ NAV จะค่อยๆ เพิ่มทีละนิดๆ ช้าๆ ได้เพิ่มเรื่อยๆ (นโยบายการลงทุนมีบอกไว้ในหนังสือชี้ชวน)
สิ่งที่ต้องระวังในการลงทุนรูปแบบนี้คือ ในการซื้อขายหน่วยลงทุนนั้น เท่าที่ผมเห็น ราคาจะผูกขาดกับสถาบันการเงินแต่ละที่ ซึ่งหมายความว่า ในการซื้อหน่วยลงทุนนั้น ไม่ใช่ว่าจะซื้อ โดยอิงราคาจาก NAV ล่าสุด แต่จะอิงจากราคา bid/offer แต่ราคา bid/offer นั้นจะอิงมาจาก NAV ครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวลมาก เพียงแต่ต้องเผื่อขาดทุนไว้ด้วย
3. การลงทุนในประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ในรูปแบบนี้ส่วนมากคุณก็จะได้ทั้งการคุ้มครองชีวิต และเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ก็จะได้ผลตอบแทน ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ครับ (ศึกษาให้ละเอียด อย่าให้คำโฆษณามาหลอกเรา)
**ระวัง** การลงทุนในประกันชีวิต ไม่ใช่การฝากเงิน คุณไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้จนกว่าจะถึงระยะเวลาที่กำหนด ถ้าหากคุณเกิดมีปัญหาการเงิน แล้วต้องยกเลิก อยากได้เงินก้อนนี้มาใช้ ต้องทำการเวนคืน กธ. ซึ่งจะได้เงินค่าเวนคืนกลับมา แต่ก็ต้องยอมขาดทุนครับ นอกจากจะผ่านไปแแล้วหลายปี
ส่วนรูปแบบอื่นๆ รอให้ท่านอื่นมาเสริมบ้างครับ :P
ในขณะเดียวกัน ผมอยากแนะนำให้หัดทำงบประมาณการเงินของตัวเองครับ เพื่อที่จะได้รู้ว่า กระแสเงินสดของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง จะสามารถลงทุนในรูปแบบไหนได้บ้าง ลงทุนได้เท่าไรบ้าง โดยเริ่มจากการทำงบประมาณรายเดือน จากนั้นก็ราย 3 เดือน จนกลายเป็นรายปีครับ
ในการลงทุนนั้น ผมไม่แนะนำให้เอาเงินทั้งหมดไปลงทุนทีเดียวนะครับ อยากให้เก็บไว้ส่วนหนึ่งเพื่อรักษาสภาพคล่องด้วย และอย่าลืมที่จะสำรองเงินไว้ในการลงทุนด้วย เช่น ควรมีเงินเก็บสำรองสำหรับการจ่ายค่า กธ. ล่วงหน้า 1 งวด หรือสำรองเงินฝากล่วงหน้าสำหรับ 3 เดือน เป็นต้น
และเหตุผลที่ผมแนะนำให้ลงทุนหลายๆ รูปแบบนั้น เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า การลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับเราที่สุดครับ
**** การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน **** ความเสี่ยง = ความแปรปรวนที่อาจเกิดขึ้น มีความหมายมากกว่าโอกาสในการขาดทุนนะครับ
สู้ๆ ครับ
จากคุณ |
:
เม่าง่อย (CySpk)
|
เขียนเมื่อ |
:
23 เม.ย. 53 17:08:09
|
|
|
|