ความคิดเห็นที่ 1 ต้องโทษที่ตัว พนักงาน  อย่างเดียวเลยครับ ทำให้เสีย ทั้ง ธนาคาร   ปลาเน่าตัวเดียว  ตายทั้งแข่ง จากคุณ : ครอบครัวเงินทอง เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:10:30

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องขออภัยคุณปาปารัสซี่อย่างสูงค่ะ รบกวนขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมทางหลังบ้าน ให้ SCB Thailand เป็นผู้ประสานงานให้นะคะ ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : SCB Thailand เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:12:47

ความคิดเห็นที่ 3 น้องมีความพยายามสูงมาก เป็นพี่นะ  ถ้าโทร3ครั้ง   แล้วไม่ได้เรื่องเนี่ย ส่งจดหมายลงทะเบียนตอบรับถึงกรรมการผู้จัดการเลย บอกไปเลยว่า  จะคืนเงินกู้   แล้วพนักงานบ่ายเบี่ยง เลยต้องส่งตรงถึงกรรมการผู้จัดการ จะคืนเงินต้นทั้งก้อนเนี่ย   แค่สินเชื่อแจ้งฝ่ายกฏหมาย เบิกฉโนด แล้วนัดวันไปเจอที่กรมที่ดินก็จบแล้ว ไม่เห็นต้อง approve อะไรเลย จากคุณ : มีประสบการณ์ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:21:34

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็นจริง ถือว่าทรามมากครับ ไม่ได้หยาบคายนะครับ  คำว่ามารยาททราม มีอยู่ในพจนุกรมจริงๆ จากคุณ : mwaaat เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:23:51

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้... 2 เดือนนี่นานเกินไปจริงๆครับ จากคุณ : Supremo เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:32:16

ความคิดเห็นที่ 6 นอกจาก สคบ. ธปท. แล้ว ยังมี สำนักงานวางทรัพย์ กรมบังคับคดีให้บริการได้ด้วยครับ เวลาคุณแจ้งอะไรกับธนาคารต้องมีบันทึก มีหลักฐาน แล้วถ้าแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ยอมปิด ก็ลุยเลยสำนักงานวางทรัพย์... ปล. เร็วๆ นี้มีกระทู้ พนักงานแบงค์ประจานลูกค้า โดยระบุชื่อ คราวนี้เอาคืนเหรอครับ ประจานพนักงานธนาคารแบบระบุชื่อกลับด้วย... เป็นคนฟังดูคงจะมันดีหรอก แต่ผมว่ามันส่งผลเสียในระยะยาว... ไม่ว่าธนาคารและลูกค้าเอง ต้องถามว่าทำไมเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น มีนโยบายอะไรบางอย่างที่กดดันพนักงานและลูกค้าจนทำให้เกิดปัญหาแบบนี้หรือไม่... จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:33:43

ความคิดเห็นที่ 7 น่าสงสาร จขกท ม่าก พนักงานห่วยมากๆ จากคุณ : Rovershearer เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:36:03

ความคิดเห็นที่ 8 โหวตครับ..เพื่อติดตามความคืบหน้า ! จากคุณ : Proxity เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:36:28

ความคิดเห็นที่ 9 ....ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ก็ไม่น่าเชื่อว่า SCB มีพนักงานอย่างนี้ทำงานอยู่ด้วย จากคุณ : ซาอิคุง เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:42:15

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นใจ จขท.  ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จากคุณ : เหมันต์ใบไม้ผลิ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:46:14

ความคิดเห็นที่ 11 เอ! ผมว่า SCB เนี่ย มีปัญหาเรื่อง Re-Finance สินเชื่อบ้านบ่อยจัง เข้าใจครับว่า เวลาลูกค้า Re-Finance ก็จะไปกระทบกับยอดสินเชื่อของพนักงาน แต่ก็ไม่น่าใช้วิธีการดองเรื่อง จนทำให้ลูกค้าเสียโอกาส ที่มาเรียกร้องในพันทิพ ก็อาจจะได้รับการแก้ไข แต่ลูกค้าอื่นๆหล่ะ  SCB Thailand แทนที่จะมาคอยแก้ไขเรื่องที่ร้องเรียนแต่ละราย ผมว่าแก้ไขที่นโยบายดีกว่าไหม จากคุณ : P'tone เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:46:24

ความคิดเห็นที่ 12 ปล. สำนักงานวางทรัพย์มีค่าธรรมเนียมนะครับ มักใช้กับเจ้าหนี้ที่ไม่ยอมรับชำระเงินเพื่อให้ทรัพย์หลุดจำนอง... จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:47:03

ความคิดเห็นที่ 13 คงต้องติดตามกันต่อไป เหนื่อยใจแทน จากคุณ : tongkung เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:48:34

ความคิดเห็นที่ 14 รอความคืบหน้าจากคุณ SCB Thailand ด้วยคนครับ ไม่ได้รอว่า จขกท จะได้ปิดเคสรึป่าวนะครับ  เพราะมันต้องได้อยู่แล้ว แต่รอว่าทางธนาคารไทยพาณิชย์ จะมีบทลงโทษพนักงานที่ชื่อ กนกวรรณ คนนี้อย่างไร หรือว่าจะแกล้งทำเงียบๆซะ เดี๋ยวลูกค้าก็ลืมไปเอง รอฟังอยู่นะครับ คุณ SCB Thailand จากคุณ : mwaaat เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:48:48

ความคิดเห็นที่ 15 ขอรับรองครับว่าเรื่องนี้เป็นความจริงทุกประการครับ คุณ SCB Thailand ครับ ผมได้ส่งข้อมูลไปให้แล้ว ยังไงรบกวนช่วยตามให้ด้วย เพราะรอไม่ไหวแล้วครับ จากคุณ : ปาปารัสซี่ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:52:05

ความคิดเห็นที่ 16 ได้รับข้อมูล คุณปาปารัสซี่ ทางหลังบ้านเรียบร้อยค่ะ จะเร่งดำเนินการให้นะคะ ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : SCB Thailand เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 21:53:33

ความคิดเห็นที่ 17 น่าจะให้ออกไปทำงานที่บ้านตัวเองนะ ไม่งั้นก็ไปล้างส้วม จะได้ไม่ต้องเจอลูกค้า และเสียชื่อ กินเงินเดือนเขา แต่ทำให้เขาเสียชื่อเสียงแบบนี้ จากคุณ : จบสูงยังโดน เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 22:06:32

ความคิดเห็นที่ 18 คุณอดทนมากกก เป็นผมไม่ได้รับการดำเนินการสักสองสัปดาห์ หรือวางหูใส่แฟนผม ผมลุยแล้ว การบริการ จะไม่พอใจอย่างไรก็ต้องรักษามารยาท วางสายใส่ลูกค้านี่เข้าขั้นทราม ถ้าเป็นผม ผมจะบุกสำนักงาน ขอพบกรรมการผู้จัดการแน่นอน และจะต้องเอาพนักงานแบบนี้ออกจากงานให้ได้ แต่ก็เป็นความคิดส่วนตัวนะคับ โดยส่วนตัวเป็นคนใจดีแต่เด็ดขาดครับ ตอบกระทู้ไว้เพื่อรอความคืบหน้าด้วยคนครับ อยากรู้ว่าท้ายที่สุดจะจัดการปัญหากันอย่างไร โหวตครับ!! ปล.จริงๆถ้าระบบมีปัญหาร่วมด้วย ธนาคารน่าจะพิจารณาแก้ปัญหาเรื่องระบบการบริการด้วยนะครับ สงสารคนอื่นที่พบปัญหาแล้วไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้แบบคนในห้องสินธร แก้ปัญหาจากต้นเหตุ น่าจะง่ายกว่าการตามเช็ดล้างปัญหาเยอะเลย เสนอไว้ให้พิจารณาละกันนะคับ ส่วนตัวก็เป็นลูกค้าที่นี่ตั้งแต่สมัยเป็นนิสิต ปัจจุบันเดินไปธนาคารทีก็ 10 นาที ก็ยังไปเป็นประจำ ทั้งๆที่แบ้งค์เขียวอยู่ห่างจากประตูที่ทำงานเพียง 10 เมตร อยู่กันมานานก็ยังอยากอยู่ด้วยกันต่อไป ไม่มี Royalty ก็คงไม่พิมพ์บ่นให้เมื่อยมือหรอกนะครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 53 22:25:35 จากคุณ : YF-01 เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 22:19:31

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่รู้แฮะ  รอการ ตรวจสอบจาก คุณ SCB Thailand แล้วกัน แต่ก็ ไม่อยาก ให้คิด ว่า ถ้าใครไม่ดี ทำอะไรไม่พอใจแล้ว มาประกาศเอาในพันทิปได้ แต่นะไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ได้ เอิ๊กๆ เอาเป็นว่าเอาใจช่วย จขกท ก็ แล้ว กัน นะครับ     ฝากตามเรื่องอับเดท กันบ่อยๆ หน่อยจะได้เป็นเคสไว้เผื่อผม ต้อง Refinance บ้าง อิอิ ไงก็ ใช้บริการ SCB เหมือนกันนนนน จากคุณ : คนเดินถนนกับสายลม เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 22:39:42

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องอื่นไม่รู้ แต่เรื่องโทรศัพท์ ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือผม ถึงจะมี miss call กี่ร้อยสายผมก็ไม่จำเป็นต้องโทรกลับ ถ้าผมไม่รู้ว่าเบอร์ใครหรือผมไม่อยากโทร เพราะผมถือว่าโทรศัพท์มือถือ เป็นของส่วนตัว ใครอยากจะโทรมาคุยเรื่องงานต้องโทรมาที่โต๊ะทำงานผมเท่านั้น ยกเว้นว่าที่ทำงานจ่ายค่ามือถือให้ผมแล้วถือเป็นหน้าที่ที่ต้องรับโทรศัพท์มือถือ จากคุณ : ohlalla เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 22:47:43

ความคิดเห็นที่ 21 มาอ่าน จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 22:58:52

ความคิดเห็นที่ 22 เช่นกันครับถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือผม ถึงจะมี miss call กี่ร้อยสายหรือถ้าผมไม่รู้ว่าเบอร์ใครหรือผมไม่อยากโทร ผมก็ไม่จำเป็นต้องโทรกลับ แต่เรื่องนี้เขาบอกว่า "พี่รับเรื่องมาแล้วนะ น้องมีไรโทรหาพี่โดยตรงได้เลย แต่ว่าคงไม่ทันสงกรานต์จริงๆ" ก็น่าจะถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องรับโทรศัพท์มือถือ ด้วยนะครับ ถ้ามีมิสคอลก้อต้องโทรกลับ เพราะน่าจะโทรคุยกันหลายครั้งแล้ว จากคุณ : SC25_KU50 เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 23:17:18

ความคิดเห็นที่ 23 รอทาง SCB ตรวจสอบ และชี้แจงก่อนดีกว่าครับพี่ๆ ถ้าผิดทางแบงค์น่าจะมีการลงโทษพนักงานนะครับ ใจเย็นๆครับ ผมก้อเห็นใจเจ้าของกระทู้นะครับ เพราะพนักงานคนนี้ทำเกินไปจิงๆ ผมก้อเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน (แต่ไม่ใช้ของ SCB) อีกเคสนึงพนักงานโดนไล่ออกเลยครับ เพราะทำให้ภาพพจน์บริษัทเสียหาย ลูกค้าคอมเพลนหนัก จากคุณ : ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 23:22:20

ความคิดเห็นที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำช้า ดองเรื่อง  ตำหนิได้ แต่ไม่ควรใช้คำว่ากวนตีน นะคะ มันดูไม่สุภาพ จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 23:25:22

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วนตัวผมยังไม่เคยเจอ แบบนี้เลยนะ เท่าที่เจอ CC.SCB น่ารักทั้งนั้น ถ้าจะมี บ้างก็ตามสาขา เช่น ไม่มีเงิน เบิกเท่าไรก็ไม่ได้ ก็เคยเจอ จากคุณ : Cattyz3838 เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 23:33:59

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องมันฟังดูแปลกๆไม่ตรงไปตรงมา อยากฟังเหตุผลจาก scb ด้วย จากคุณ : thrill เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 23:48:09

ความคิดเห็นที่ 27 เอามาประจานออกชื่อเสียงเรียงนามในนี้ได้ด้วยหรอคะ เหรียญล้วนมีสองด้าน รอดูด้านต่อไปค่ะ จากคุณ : อืมม..มิราเคิล เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 00:08:17

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ จากคุณ : bird2001 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 00:11:39

ความคิดเห็นที่ 29 ชัดเจนคับ จากคุณ : wutipon_c เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 00:51:25

ความคิดเห็นที่ 30 ถึง คห. 24 นะครับ  ... ผมยอมรับนะครับ ว่าส่ง SMS ไปแบบนั้นจริงๆ และก้อรู้ว่ามันไม่สุภาพ ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ อันนี้ผมยอมรับผิดแต่โดยดี สิ่งที่ผมเล่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ทุกคำพูด การกระทำที่คุณกนกวรรณทำผมก้อเล่า สิ่งที่ผมทำไม่ดี ผมก้อเล่าหมดเหมือนกัน แต่การที่พนง.ไม่รับสาย หรือกดตัดสายลูกค้าทิ้ง เป็นการสุภาพมากเหรอครับ ในเมื่อไม่สุภาพกับผมก่อน ผมก้อไม่จำเป็นต้องสุภาพกลับไป ผมแค่อยาก Re-Finance เพื่อลดดอกเบี้ย ลดค่าใช้จ่ายของผม ผมไม่ได้อยากคุยกับคุณกนกวรรณ ไม่ได้พิศมัยไรเป็นพิเศษเลย แต่มันจำเป็นจริงๆ เพราะไม่รู้จะติดต่อใคร ก้อต้องคุยผ่านกับคุณกนกวรรณเท่านั้น เพราะคุณกนกวรรณบอกเป็นคนรับเรื่องดูแลให้ผม ทุกวันนี้ผมเสียดอกเดือนนึงประมาณ 17,000 บาท ถ้า Re-Finance แล้วเสียดอกเดือนนึงไม่ถึงหมื่น (ปีแรก) เป็นคุณ คุณจะยอมปล่อยให้พนง.ไม่รับสายต่อไป แล้วให้เวลาล่วงเลยไปขึ้นเดือนที่ 3,4,5..... ไปเรื่อยๆเหรอ ถึงคห.ที่ 20 ผมก้อเล่าแล้วว่าผมโทรตามกับคุณกนกวรรณแทบทุกวัน "พี่ครับ เรื่อง Re-Finance ผมไปถึงไหนแล้วครับ" เค้าคงฟังจนเบื่อแล้วล่ะ เค้าจะเอาที่ไหนมาจำเบอร์ผมไม่ได้ แล้วถ้าจำไม่ได้ ทำไมครั้งแรกที่รับสาย (ก่อนที่จะไม่รับสายผมอีกเลย) ถึงบอกผมว่า "เรื่องของน้องพี่ปิดไปแล้วนี่"  หรือจะเป็นอีกอย่างที่คห. 20 บอกว่า ถ้าไม่อยากโทรก้อไม่โทร ลูกค้าโทรมาไม่มีอารมณ์รับ ก้อไม่รับ แล้วถ้าปีนี้ไม่มีอารมณ์รับโทรศัพท์ผมทั้งปี ผมไม่ต้องรอ Re-Finance ปีหน้าเลยเหรอครับ สรุป ผมจะ Re-Finance สำเร็จหรือไม่ อยู่ที่อารมณ์ของพนง.คนๆเดียวเหรอครับ ถ้าเป็นเรื่องเปลืองค่าโทรก้อคงไม่ใช่อีก เพราะพนง.ที่ต้องใช้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้า ส่วนใหญ่โทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานจะโทรออกเข้ามือถือลูกค้าได้ (ที่โชว์เบอร์ 02-544-1xxx หลายๆคนคงเคยเห็น) Bank ไม่เอาเปรียบพนง.หรอกครับ ปล. ผมไม่ต้องการให้มีการลงโทษใคร ไม่ใช่จุดประสงค์ ขอแค่ให้เรื่องทำ Re-Finance เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะ Promotion Bank ที่จะ Re ไปจะหมดเขตแล้ว แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 01:48:12 จากคุณ : ปาปารัสซี่ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 01:09:51

ความคิดเห็นที่ 31 ต้องให้โอกาสทั้งสองฝ่ายค่ะ เท่าที่ดูวิธีเขียนของคุณก็คิดว่าคงไม่ธรรมดา ปกติพนักงานแบงค์ก็ต้องให้บริการลูกค้าจำนวนมากอยู่แล้ว ถ้าคุณสมบัติครบมีแต่อยากทำให้ค่ะ เพราะมีผลกับการประเมิน การระบุชื่อพนักงานตรงๆ แบบนี้สหภาพ SCB ควรฟ้องหมิ่นประมาทให้เป็นตัวอย่างนะค่ะ จากคุณ : แบงค์เหมือนกัน (luckko) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 01:54:31

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่อง re-finance สินเชื่อบ้าน จากธนาคาไทยพาณิชย์ ไปธนาคารอื่น ในทำนองนี้บอกให้เลยครับว่า โดนกันเยอะ ... ผมเองก็โดน จากตอนที่จะปิดบัญชี re-finance ไป ธ.กรุงไทย ... แกล้งดองเรื่อง ทำเป็นจะเสนออัตราใหม่ให้ พอไม่เอา ก็ดองเรื่อง โยกไปโยกมา ... บอกว่าหัวหน้าไม่อยู่มั่ง ไปประชุม ไปต่างประเทศ มันเป็นคงนิสัยถาวรของฝ่ายสินเชื่อ ธนาคารนี้แหละครับ เคยเตือนใครต่อใคร แม้แต่ในนี้แล้วว่า จะขอสินเชื่อบ้านจากไทยพาณิชย์ ระวังจะปวดหัวอีตอน อยาก re-finance จากคุณ : {-WarLord-} เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 01:54:52

ความคิดเห็นที่ 33 พนักงานคนเดียว ทำเสียชื่อทั้ง บริษัท หมดเลย พนักงานบางคนดีๆก็มีเยอะครับ จากคุณ : บราวนี่ชีสเค้กท็อปปิ้งวิคครีม เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 04:32:56

ความคิดเห็นที่ 34 คุร แบงค์เหมือนกัน (luckko) ใจร้ายไปมัย ลองเอาใจลูกค้ามาใส่ใจเราบ้าง  เป็นผมน่ะ น้อยไป จขกท เขาก็บอกแล้ว บันดาลโทสะ  และสหภาพเสียหายอะไรจึงจะฟ้องเขา ถ้าคุร กนกวรรรฝ่าย สินเชื่อ จะฟ้องก็ลองดู แสดงตัวมา ที่แน่ๆ คุรทำให้เขา เสียหายหรือไม่ลองคิดดู   ถ้า จขกท เขาบอกว่าเขาเสียหาย  จะฟ้องคุรบ้างล่ะ... ตอนนี้พูดกันด้วยเหตุและผล  คนที่นี่ก็รอฟังเหตุผลอยู่ครับ อย่าเอากดหมายมาปิดปากกัน ที่ว่าประจาน... คนอ่านเขาก็รอฟังความสองด้านก่อนถึงว่าจะประจานใคร ไม่แน่ว่า  คนถูกประจานจะเป็นใคร  เอาข้อเท็จจริงมาสู้กันดีกว่าครับ จากคุณ : ด.ช.ไอติม เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 05:39:54

ความคิดเห็นที่ 35 มิน่า หุ้น SCB เลยโดน kbank แซงไปหลายบาท จากคุณ : polymerman เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 06:05:13

ความคิดเห็นที่ 36 เท่าที่อ่านมาพอจะสรุปได้ไหมครับ ถ้าเป็นลูกค้าเงินกู้แล้วต้องการ re-fin ในช่วงปีสองปีแรกแล้วจะต้องโดนแบบ จขกท นี้ครับ เพราะข้างบนก้อเห็นมีคนเคยโดนมาก่อน คิดดอกเบี้ยโหดไป เค้าเจอที่ๆคิดดอกเบี้ยน้อยกว่าก้อหนีกันหมด ถ้าเป็นลูกค้าชั้นดีก้อน่าจะคิดดอกเบี้ยให้เค้าอยู่ได้นะ อย่าโลภมากเกินไปครับ ทุกวันนี้ผมว่าแบงค์เอาเปรียบผู้ฝากเงินมาก ปีๆนึงกำไรหลายพันล้าน แต่ให้ดอกเบี้ยเจ้าของเงินนิดเดียว เห็นแก่ตัวจิงๆ จากคุณ : ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 07:25:46

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นที่พนักงาน... หรือนโยบายธนาคาร... น่าคิดดู จากคุณ : Fire Opal เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 07:40:57

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นกันหลายราย แย่จัง  SCB แก้ไขด่วน จากคุณ : มัตสึทาเกะ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 08:18:44

ความคิดเห็นที่ 39 หากทางธนาคารบริการทุกระดับประทับใจ ได้ดีมากแค่ไหน แต่ทำให้ลูกค้าเพียงไม่กี่ราย ที่เค้าไม่ประทับใจด้วยแล้ว และนำความไม่ประทับใจนั้น มาเผยแีพร่ให้สาธาระชนได้รับรู้แบบนี้บ่อยๆ จะไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของทางธนาคารเลย สิ่งใดที่บกพร่อง ต้องเร่งปรับปรุงโดยด่วน จากคุณ : BR Style เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 08:40:13

ความคิดเห็นที่ 40 รอฟังคำชี้แจงที่ชัดเจนจาก SCB Thailand ครับ เชื่อว่าได้คำตอบในไม่เกินครึ่งวันเช้านี้ (ถ้าเหมือนพี่จุกของเรานะ) จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:04:58

ความคิดเห็นที่ 41 มีความเห็นแค่ "กนกวรรณ" ฝ่ายสินเชื่อบ้าน มีคนเดียวในประเทศหรือเปล่าคะ ถ้าคนเดียวก็คงหมิ่นได้   แต่ถ้ามีหลายคน ก็อาจไม่น่าจะเข้าข่ายหมิ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  มันอยู่ที่ว่าความจริงเป็นอย่างไรค่ะ เข้ามาให้กำลังใจ จขกท. และรอฟังความคืบหน้าค่ะ จากคุณ : ฌ เฌอคู่กัน เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:24:57

ความคิดเห็นที่ 42 แบบนี้ ต้องติดตามตอนต่อไป... จากคุณ : ซี.คิว. เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:36:02

ความคิดเห็นที่ 43 เวลามีปัญหาต้องโทรตามเป็นล้านรอบนี่มีทุกบริษัทหรือปล่าวน๊า เคยโทรตามสองเดือนแบบนี้เหมือนกันเครียดมาก เคสนี้เอามาลงพันทิปแล้วคาดว่าน่าจะจบในเร็ววัน  แล้วเคสอื่นๆล่ะ... จากคุณ : With LoVe and Golden Fish เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:42:43

ความคิดเห็นที่ 44 ลูกค้า SCB เหมือกัน เข้ามารอคำตอบด้วยคนครับ ... จากคุณ : ltf06 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:42:59

ความคิดเห็นที่ 45       ผมเคยทำเรื่อง Re-Finance จาก SCB สาขาหาดใหญ่ใน ไปเป็น SCBT เจ้าหน้าที่ประจำสาขาหาดใหญ่ใน ให้คำแนะนำพร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือดีมากครับ บอกผมว่า เค้าจะแจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานสินเชื่อบ้าน บอกว่าเราจะขายบ้านรับรองเรื่องไม่ยืดยาว ไม่เกิน 7-15   วันทำการเรื่องจะเรียบร้อย แต่ว่าถ้าแจ้งเรื่องว่าเป็น Re-Finance ก็จะเจอปัญหาแบบคุณ ปาปารัสซี่ทุกรายครับ      ขอย้ำครับว่าเรื่องลักษณะนี้ แบงค์อื่นก็เป็นแต่ไม่หนักเท่าSCB ทางที่ดีต้องการให้เรื่องเร็วๆกับแบงค์อื่นๆ ก็เช่นกัน อ้างไปเลยครับว่าจะขายบ้าน ไม่ใช่ Re-Finance แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 09:44:11 จากคุณ : Alexza เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:43:40

ความคิดเห็นที่ 46 บริการไม่น่าประทับใจเลย น่าจะขอรหัสพนักงาน เป็นผมจะไปเล่นที่ธนาคารครับ ด่าต่อหน้า สะใจดี บังเอิญโรคจิตนิดหน่อยขอโทษที จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 09:46:28

ความคิดเห็นที่ 47 ขอ ติดตามไปกับเค้าด้วย จากคุณ : xxaha เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:04:22

ความคิดเห็นที่ 48 งงนะ การรีไฟแนนท์กรณีนี้คือ เดิมกู้ scb แล้วจะไปกู้ที่อื่นเอาเงินมาคืนใช่มั้ยครับ ไม่ได้จะขอกู้จาก scb กรณีแบบนี้มันไม่น่าจะนานเลยนะครับ กดแป้นคอมฯ คำนวณยอด คำนวณค่าปรับดอกเบี้ยอะไรก็ว่ากันไป แล้วนัดวันกันได้เลยไม่ใช่เหรอ   หรือว่าธนาคารต้องมีระบบทำเรื่องขออนุญาต   ประธานธนาคารต้องอนุมัติลงมาก่อนลูกหนี้ถึงจะเอาเงินมาคืนได้? ถ้าธนาคารไม่อยากเสียลูกค้าก็น่าจะทำเรื่องเสนอเงื่อนไขใหม่มาให้ลูกค้านะ ไม่ใช่ดองเรื่องไว้ จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:08:38

ความคิดเห็นที่ 49 ุถ้าเป็นเรื่องจริงก็เข้าข่ายหมิ่นเหรอครับ? ผมว่าคนอ่านก็คงเข้าใจได้ว่าไม่ใช่ว่าเข้าข่ายปลาตายตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง ถ้าธนาคารออกมาแก้ไขก็คงรับได้ แต่ถ้ามาฟ้องลูกค้านี่คงเหม็นทั้งข้องแน่ จากคุณ : kagi เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:24:33

ความคิดเห็นที่ 50 #31 กฏหมายหมิ่นมียกเว้นว่าถ้าเรื่องที่พูดเป็นจริงไม่ถือว่าหมิ่นครับ จากคุณ : บุรุษแห่งดาวดวงที่3 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 10:30:04

ความคิดเห็นที่ 51 เอาเรื่องหมิ่นประมาทมาเล่นนี่ ถือว่าไร้สมองที่สุดครับ เห็นด้วยกับ คคห.50 ถ้าเป็นเรื่องจริง ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาทครับ ผมเคยโดนฟ้องมาแล้ว หมิ่นประมาทเรื่องส่วนตัวนี่แหระ ก็เรื่องจริง หมิ่นตรงไหน จากคุณ : ขอแฟนรวย เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 11:11:55

ความคิดเห็นที่ 52 คห. 31 คุณคงทำงานแบงค์เหมือนกันใช่มั้ยค่ะ เข้าใจว่าวันนึงๆ ต้องรับลูกค้าเยอะ แต่นั่นมันหน้าที่ของคุณ ถ้าไม่อยากบริการ ก็ไปอย่างอื่นสิ เราเคยไปยื่นที่ ธอส. สงสารป้าที่เค้ามาถามมากเลย เค้าถามว่าเค้าจะขายบ้าน คนซื้อต้องเตรียมไรบ้าง จะได้ไปบอกเค้าให้เตรียม พูดจาไม่ดีเอามากๆ ทำท่ารำคาญอีก พอเราเดินเข้าไป ทำท่ากุมขมับ ขมวดคิ้ว เราฝากประจำอยุ่จะถอนมาให้หมดเลย คอยดูเหอะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 11:29:33 จากคุณ : เล็ก (subpaly) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 11:28:07

ความคิดเห็นที่ 53 ทางคุณกนกวรรณ ได้คุยกับ คุณ ปาปารัสซี่ โดยตรงแล้วค่ะ เมื่อเวลา 11.00 น. เพื่อสอบถามและชี้แจงความคืบหน้าของการดำเนินการ เนื่องจากได้มีการติดต่อกันอยู่เป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว ซึ่งทาง SCB ไม่ได้นิ่งนอนใจและไม่ใช่ว่าไม่ดูแลลูกค้า เพียงแต่ต้องการให้ข้อมูลกับลูกค้า ได้อย่างถูกต้องและดีที่สุด เพื่อใช้ในการตัดสินใจ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความล่าช้า และความไม่สะดวกต่อลูกค้าค่ะ อย่างไรต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จากคุณ : SCB Thailand เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 11:35:42

ความคิดเห็นที่ 54 ุ^ ^ ^ อาจจะนานไปนิ๊ดดด จากคุณ : With LoVe and Golden Fish เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 11:47:36

ความคิดเห็นที่ 55 สองเดือน ! จากคุณ : oneperson เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 11:55:33

ความคิดเห็นที่ 56 นานไปอ่ะ โหวตแล้วค่ะ อยากรู้ผลเร็ว ๆ จากคุณ : TookPeeAm เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 12:26:30

ความคิดเห็นที่ 57 น่าจะอธิบายให้เข้าใจถึงสาเหตุที่ล่าช้าขนาดนี้นะคะ ถึงจะอ้างว่าเพื่อให้ถูกต้องและดีที่สุด ก็ควรจะรายงานความคืบหน้าบ้าง ไม่อย่างนั้น จขทก. คงไม่โทรไปหาบ่อยขนาดนั้น แล้วยิ่งบอกว่า "ค่ะๆเดี๋ยวพี่ตามให้นะ" แล้วเงียบหาย...จนต้องโทรมาถามเอง แล้วก้อตอบแบบเดิมๆ มันแสดงถึงความไม่ใส่ใจรึเปล่า? แล้ว "เรื่องของน้องนี่พี่ปิดไปแล้วนี่" หมายความว่ายังไงหว่า??? แปลว่าเค้าจำเรื่องได้ แต่ miss call 30 สาย ไม่โทรกลับเพราะไม่รู้จักว่าใครโทรมารึเปล่า >,< จากคุณ : ต้นสนใหม่สด เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 12:52:06

ความคิดเห็นที่ 58 นานไปนิ๊ดดดดดด จากคุณ : ซีเค เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 12:52:57

ความคิดเห็นที่ 59 ขอให้ จขกท. อัพเดทให้ด้วยครับ ว่าตอนนี้เป็นไงบ้างหลังจากคุยแล้ว มีท่าทีข่มขู่มั้ยหรือว่ายอมศิโรราบ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 13:06:35

ความคิดเห็นที่ 60 ขั้นตอนการขอ  Re-Finance มีอะไรมากมาย ที่นึกออก+ประสบการณ์ ก็แค่ 1.ตรวจสอบยอดคงค้าง + ดอกเบี้ยจนถึงวันที่จะไถ่ถอน (ถ้าที่ธนาคารไม่มีระบบคอมพิวเตอร์ใช้ ต้องคำนวณจากลูกคิด จดใส่กระดาษ ก็น่าจะใช้เวลาไม่เกินวันมั้ง) 2.นัดหมายเจ้าหน้าที่นิติกรรมไปดำเนินการ (เจ้าหน้าที่ไม่พอ จัดคิวไม่ลงตัว จะต้องนัดหมายล่วงหน้ากี่เดือน ก็บอกลูกค้าทั่วไปให้ทราบ) เรื่องยอดสินเชื่อที่ลดลง เจ้าหน้าที่สินเชื่อก็ตรวจสอบกับลูกค้าซิว่าผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้จากการ  Re-Finance  ทางธนาคารสามารถตอบสนองได้หรือไม่ ไม่ได้ก็ทำเรื่องให้เขาไป จะได้จบๆ ไม่ต้องมามีเรื่องร้องเรียนทำนองนี้อีก  ผลประโยชน์ของธนาคารที่ยื้อไปอีก 1-2 เดือน เทียบกับความเสียหายและความรู้สึกของลูกค้าไม่ได้หรอก ..ทีหลังอย่าทำอีกนะ จากคุณ : P'tone เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 13:18:58

ความคิดเห็นที่ 61 ตอน 11 โมงกว่าคุณกนกวรรณได้โทรเข้ามาถามว่าผมที่เป็นเจ้าของบัญชีเป็นคนตั้งกระทู้นี้และส่ง SMS ไปหาเค้าจริงหรือเปล่า เพราะคิดว่าอาจมีคนอื่นแกล้ง ผมก้อยืนยันไปว่าเป็นผมจริงๆนี่แหล่ะ อันที่จริงผมก็เคยเป็นพนง.ที่ไทยพาณิชย์มาก่อนนะ แต่ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวได้ 2 ปีกว่าแล้ว ทีแรกผมก็คิดว่าคงเห็นผมเป็นพนง.เก่า อาจจะคุยง่าย เรื่องเดินเร็ว แต่จริงๆไม่ใช่เลย ก็ทำเหมือนผมเป็นลูกค้าคนนึง ไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรเลย คุณกนกวรรณก้อให้เหตุผลว่า "ที่มันช้า เพราะพี่เห็นน้องเป็นพนง.เก่า เลยอยากให้อยู่ต่อ ไม่งั้นพี่คงปล่อยไปตั้งนานแล้ว" ผมก็ตอบไปว่า  "ไม่จริงมั้งครับพี่ ถ้าพี่อยากให้ผมอยู่ต่อจริง ทำไม Promotion ที่พี่เคยเสนอมาครั้งแรกแล้วผมปฏิเสธไป แล้วบอกพี่ว่ายืนยันที่จะ Re-Finance .. หลังจากนั้นทำไมพี่ไม่หา Promotion ที่ดีกว่ามาเสนอผมอีกล่ะ ไม่มีเลย พี่เงียบหายไม่เคยติดต่อผมอีกเลย มีแต่ผมที่ต้องเป็นฝ่ายติดต่อพี่ไป คอยตามพี่ ให้พี่ตามเรื่องให้ .. นี่หรือที่พี่อยากให้ผมอยู่ต่อ"  แล้วคุณกนกวรรณก็อธิบายว่าเรื่องผ่านจากเค้าไปแล้ว ไปอีกหน่วยงานนึง แต่เค้าเคยบอกผมแบบนี้มาหลายวันแล้ว สรุปถ้าเรื่องมันผ่านจากพี่ไปแล้ว แล้วตอนนี้มันไปติดอยู่ที่ตรงไหน ทำไมมันถึงได้นานขนาดนี้ คุณกนกวรรณก็แจ้งว่าเดี๋ยวจะมีอีกหน่วยงานนึงจะดำเนินการเรื่องของผมให้เสร็จภายใน 24 ชม. ตอนนี้ก็รออยู่ ยังไม่มีจนท.คนไหนติดต่อมาอีกเลยครับ ปล. คุณกนกวรรณไม่มีท่าทีข่มขู่ใดๆทั้งสิ้นครับ พี่เค้าก็คุยดี และขอบคุณทุกคห. ที่เอาใจช่วยผมนะครับ บางทีผมก้อคิดว่าผมทำเกินไปเหรอเปล่า แต่ผมแค่อยากให้เรื่อง Re-Finance ผมมันจบไปก้อแค่นั้น แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 13:56:48 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 13:55:12 จากคุณ : ปาปารัสซี่ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 13:53:38

ความคิดเห็นที่ 62 สรุป พนักงาน บริการห่วย????????????// ผมแปลของคุณ ปาปารัสซี่ ถูกต้องไหมครับ 2 เดือน สำหรับ Re Finance เนี้ยนะ ... จากคุณ : มองโลกกว้างผ่านเลนส์ตัวน้อย เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 14:03:11

ความคิดเห็นที่ 63 ทำงานแบงก์เหมือนกันแต่คนละแบงก์ เข้าใจความรู้สึกของจขกท. และเห็นใจแบงก์ ขอให้กำลังใจค่ะ ให้จบลงด้วยดีทั้งสองฝ่ายนะคะ จากคุณ : สุโขทัย เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 14:06:39

ความคิดเห็นที่ 64 เอาใจช่วยครับ จากคุณ : REDBULLRUN เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 14:08:13

ความคิดเห็นที่ 65 ก็เห็นเราไม่ยอมแล้วนำชื่อมาประจานจะเอาเรื่องก็เริ่มกลัวขึ้นมาละสิ ถึงยอมมาคุยดีด้วย คนแบบนี้ โดนบ้างก็ดี นึกว่าพวกเราเป็นพวกตาสี ตาสา บ้านนอกคอกนามั้ง จากคุณ : รักหวางหลุง เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 14:42:48

ความคิดเห็นที่ 66 โหวตให้แล้ว ตอนนี้ผมตามเรื่อง สปส. อยู่ ส่งเรื่องตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ เดือนนี้จะโอนทันหรือเปล่าไม่รู้ ทางสาขาแจ้งว่าเรื่องอนุมัติแล้ว รอทาง สนง. ใหญ่ อยู่ จากคุณ : meaka เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 15:58:31

ความคิดเห็นที่ 67 +++ อยากให้คุณ SCB Thailand  อธิบาย ขั้นตอนของการ รีไฟแน๊ซ ว่าตั้งแต่แรกเลย ยื่นเรื่อง ธ.รับเรื่องแล้วมีขั้นตอนอย่างไร ส่งไปไหน  ให้ใครพิจารณา ที่ไหน สนง ใหญ่หรือเปล่า  ปกติใช้เวลากี่วัน ขอขั้นตอนที่ัดเจน  ระบุจำนวนวันมาเลยว่า กรณีแบบนี้  ใช้เวลาประมาณกี่วัน  กี่อาทิตย์    จะได้ใช้เป็น บรรทัดฐาน ที่แน่นอนไปเลย สำหรับผู้ที่จะ รีไฟแนนซ์ กับ ไทยพานิชย์  ถ้าเลยเวลาจะได้ตามได้ จะได้รู้ว่าช้าผิดปกติ และในกรณี ของ เจ้าของกระทู้  สองเดือน ขั้นตอนมันไปติดตรงไหน ทำไมช้าขนาดนี้  ไม่ทราบว่าพอจะให้ข้อมูลได้ไหม  หรือเป็นความลับของทางธนาคารไทยพานิชย์  พวกเราชาวสินธรจะได้รู้ไว้ ว่มันเป็นความลับ  ขอบคุณล่วงหน้าจ้า เราก็เป็นลูกค้ากู้บ้าน ของธนาคาร นี้เช่นกัน ถ้าวันหน้า จะเปลี่ยน จะได้รู้ว่าขั้นตอนนี้ ของธนาคารจะใช้เวลากี่วัน  ขอบคุณ คุณSCB Thailand  ล่วงหน้า จากคุณ : ExtraZone เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 16:12:43

ความคิดเห็นที่ 68 อ่านเรื่องของคุณแล้วอดคิดไม่ได้ว่าเคสของผมจะมีปัญหาหรือเปล่า ปัจจุบันผมผ่อนบ้านอยู่กับ SCB แต่ประกาศขายเนื่องจากไม่มีคนอยู่แล้ว ตอนนี้มีคนสนใจและกำลังทำเรื่องขอ finance จากธนาคารอื่นอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนนี้ (เพราะจะได้ประหยัดค่าโอน ค่าจดจำนอง ฯลฯ) แล้วอย่างนี้ SCB จะยอมให้ผมขายบ้านง่าย ๆ หรือเปล่าเนี่ย? จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 16:21:35

ความคิดเห็นที่ 69 สนับสนุนเจ้าของกระทู้ครับ ผมเคยมาโพสเรื่องคล้ายๆกันและกลายเป็นกระทู้แนะนำเหมือนกันครับ รู้สึก SCB จะมีปัญหาดึงลูกค้า refinance บ่อยมาก คงเป็นนโยบายแน่ๆที่จะดึงเรื่องเพื่อกินดอกเบี้ยลูกค้าไปเรื่อยๆ อย่าลืมแจ้งไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทยนะครับ แฟกส์ไปก้อได้ ธ.มีนโยบยอย่างนี้อย่าไปสนับสนุนมัน หรือว่าโอนเงินไอ่ทรราชเข้าคลังไปแล้วกว่า 3 หมื่นล้านมันหมดตูดจะเจ๊งแล้ว เหอๆ จากคุณ : Dr.K (kreingwit) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 17:02:54

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าคุณเป็นลูกค้าชั้นดี(ชำระหนี้ ไม่มีปัญหา)จะถูกโอนไปให้งานเขตที่ไม่ค่อยดูแลลูกค้าหรือไม่ได้รับดอกเบี้ยที่ดีกว่าลูกค้าใหม่ ดอกเบี้ยต่ำไว้ล่อลูกค้าใหม่ จะได้เข้าใจ จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 17:32:42

ความคิดเห็นที่ 71 เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็นสองประเด็นครับ ประเด็นแรก คือเรื่อง re-finance  จะได้ ไม่ได้  จะช้า จะเร็ว เป็นเรื่องที่ SCB ต้องตรวจสอบ และปรับปรุงระบบการทำงานต่อไปครับ ประเด็นที่สอง คือเรื่องมารยาทของพนักงาน ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก  อยากให้ลูกค้าอยู่ต่อ (อย่างที่คุณกนกวรรณ โทรมาแก้ตัว) ไม่ใช่เหตุผลที่พนักงานจะสามารถพูดจาไม่ดี  ไม่รับสาย หรือกดสายทิ้ง  ผมว่าพฤติกรรมอย่างนี้ทรามมากๆครับ ผมยังรอฟังว่าคุณ SCB Thailand จะเข้ามาอัพเดท solution ทั้งสองประเด็นอย่างไรครับ แก้ไขเพิ่มเติม เพี่งเห็น คคห 53 ของคุณ SCB Thailand ครับ ง่ายดีจังเลยนะครับ  ทำกับลูกค้าแบบนี้ แล้วให้โทรมาลูบหลัง แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 18:01:31 จากคุณ : mwaaat เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 17:56:44

ความคิดเห็นที่ 72 ต้องเรียกพนักงานมาอบรมบ่มมะม่วงสักหน่อย จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 18:04:02

ความคิดเห็นที่ 73 อย่าว่าผมมาซ้ำเติมเลยนะครับ อ่านแล้วมันน่าเจ็บใจ "ที่มันช้า เพราะพี่เห็นน้องเป็นพนง.เก่า เลยอยากให้อยู่ต่อ ไม่งั้นพี่คงปล่อยไปตั้งนานแล้ว" .... มันส่อเจตนาอ้ะครับ     พูดมาอย่างนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ นโยบายคุณคนนี้คนเดียว ก็คงเป็นนโยบาย ธนาคารกระมังครับ จากคุณ : SC25_KU50 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 19:08:08

ความคิดเห็นที่ 74 อภัยทานเขาเถอะ  จะได้สบายใจไม่จองเวรกัน จากคุณ : maruman เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 19:28:26

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านคำชี้แจงแล้วขำ ไม่ชี้เเจงเสียดีกว่า แต่ก็นะ ไม่รู้จะตอบยังไง จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 19:37:11

ความคิดเห็นที่ 76 ส่วนตัวผมเชื่อว่าทางไทยพาณิชย์ไม่อยากให้ลูกค้ารีไฟแนซ์ เลยยื้อเคสของลูกค้าแบบนี้ ที่ผ่านมาก็เห็นมีหลายๆคนโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็เห็นใจคุณ SCB Thailand ... เพราะแม้อาจจะรู้อยู่แก่ใจ (อันนี้ผมเดาเอานะ) แต่จะให้พูดว่า..."พอดีทางธนาคารมีนโยบายไม่อยากให้ลูกค้ารีไฟแนซ์ค่ะ"...ก็คงทำไม่ได้ ก็ต้องตอบแบบขอโทษขอโพยนู่นี่ไปตามเรื่ือง ณ ตอนนี้เคสของจขกท.คงจะผ่านโดยเร็ววันแล้วล่ะครับ เรื่องกระจายออกมาขนาดนี้ ไม่ปิดเคสโดยเร็วก็คงไม่ได้ แต่ถ้าทางไทยพาณิชย์มีนโยบายไม่อยากให้ลูกค้ารีไฟแนซ์จริงๆ...เรื่องทำนองนี้ก็คงเกิดขึ้นซ้ำๆๆอีก จากคุณ : กล้าที่จะรัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 19:50:19

ความคิดเห็นที่ 77 จขกท อดทนมาก  เป็นเราคงเม้งไปนานแล้ว แต่การส่งข้อความแบบนั้นไป กลับไม่เหมาะสม และจะถูกเหม็นหน้าจาก พนง. แถมมีหลักฐานชัดแจ้งอีกว่าไปด่าเขา จริงๆ แล้ว เมื่อได้รับแจ้ง ว่าจะรีไฟแนนซ์  และหลังจากจนท.แบงค์ยื่นข้อเสนอ การตลาดใดๆก็ตาม ลูกค้ายืนยันที่จะย้ายไปแบงค์อื่น  ไม่ว่าต้องอนุมัติ ที่ไหน อย่างไร ก็ไม่น่าเกิน 15 วัน นี่ให้เวลายื้อละนะ การที่ จขกท. ต้องจ่าย ดอกเบี้ยเพื่มขึ้น มากกว่า 7000 เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว อันนี้ใครรับผิดชอบ การปฎิบัติต่อลูกค้าที่ไม่รู้เรื่อง จนท. หลายแบงค์ทำเรื่องมาก  และพูดกับลูกค้าไม่ดี อันนี้เคยเจอกับตัวเอง เช่นลูกค้าจะไถ่ถอน นัดไถ่ถอนก็จะให้เอาแคชเชียร์ตัวจริง ไปให้ดู  ท่าจะบ้า.. แค่แฟกซ์หรือแจ้งหมายเลขเช็คไปก็น่าจะเพียงพอ  คุยอยู่นาน จนต้องขอคุยกับผจก.  ผจก.จึงขอโทษ อ้างว่าพนง.ใหม่  อันนี้กรุงไทย  และที่ว่าพนง.ใหม่ ไม่รู้เรื่องมาทำงานนี้ เจริญ.. ลูกค้าจะขายบ้าน ขอไถ่ถอน สินเชื่อจะให้เอาเช็คไปให้ที่แบงค์ แล้วเอาโฉนดไปไถ่เอง  ดูซิช่างง่าย  ต้องคุยกับผจก.อีกแหละ  ว่าคุณซื้อบ้านยังไม่ได้บ้านจะยอมจ่ายตังก่อนไหม เชื่อไหมว่าคุยกับจนท.สินเชื่อแบบนี้เช่นกัน เขาไม่เข้าใจอ้างว่าแบงค์เราต้องทำแบบนี้  นี่คือออมสิน  รายนี้ตอนหลังโทรมาขอโทษลูกค้านะคะ จากคุณ : klangdad เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 19:57:10

ความคิดเห็นที่ 78 ถ้าเป็นผม คงไม่น่ารอนานขนาดนี้ เกิน 15 วัน... คงถามว่าสำนักงานSCBอยู่ไหน...และคงเข้าไปคุย และคงจะลุยถึงที่ ด้วยความเป็นกลาง ...ผมว่า จขกท. 1.การโทรหา หารู้ไหมว่าโทรไป เช้าเย็น..เจ้าหน้าที่คงเบื่อ!!! 2.เอกสารคงมีปัญหา... ลูกค้าที่โทรทุกวันเช้า-เย็น เจ้าหน้าที่คงอยากทำให้จบๆ ไม่น่าเก็บไว้ 3.ต้องยอมรับ จขกท. ท่านขี้เกียจ รู้ว่าเสียดอกเบื้อเป็นหมื่น ทำไมได้แต่โทร ทำไมไม่ลองเข้าไปคุยกับฝ่ายเจ้าหน้าที่โดยตรง ว่าติดปัญหาตรงไหน 4.ท่านควรไตรตรองการกระทำของท่าน พนังงานเค้าก็เป็นมนุษย์ปุชน ไม่ใช้อะไรก็เอะอะ ขู่ฟ้องไปทั่ว  ต้องเห็นใจเค้าบ้าง !!! ส่วนฝ่ายพนักงาน... 1.ถ้าท่านติดปัญหา น่าจะคุยกับลูกค้าโดยตรง ยิ่งถ้าโทรมาถี่ขนาดนี้ 2.ท่านต้องรู้หน้าที่ของท่าน ตราบใดที่ท่านสวมหมวกสายงานนี้อยู่ ยังไงก็ต้องอดทนอดกลั่น  ไม่ได้จริงๆน่าจะติดต่อกับเบื้องบนโดยตรง ไม่น่าให้บานปลายจนถึง 2 เดือนขนาดนี้ 3.กรณี ถาท่านยื้อเอกสารไว้ ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่มาก เพียงพอว่าไม่อยากให้ลูกค้าไปที่อื่นถึงได้กระทำอย่างนี้ สมควรโดนความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ถ้าเป็นผม ก็คงได้มีการร้องเรียกอย่างถึงที่สุด.... ตามนั้น.... แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 20:47:18 จากคุณ : ตี๋น้อยMBA เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 20:36:51

ความคิดเห็นที่ 79 เดี๋ยวนี้มี CC SCB มาประจำแล้วเหรอครับ แต่ก่อนตอนผมมีปัญหา จะเป็นพี่ pjuk มาช่วยดูแลให้ด้วยน่ะครับ... แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 21:04:29 จากคุณ : zaugustra เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 21:03:46

ความคิดเห็นที่ 80 ฟัง scb thailand  ตอบที่คห 53  แล้ว อยากบอกกับ ผู้บริหาร ของscb ว่า ถ้า log in ดังกล่าว ถือเป็นตัวแทน scb แล้วละก็ เปลี่ยน คนใหม่มาทำหน้าที่  หรือไม่งั้นก็ เงียบไปเลยจะดีกว่า " เป็นนโยบาย ของ ทุกธนาคาร ที่จะดึงลูกค้าไว้ แต่ด้วยความเหนียวของผู้บริหาร  บวกกับ ความไม่ได้เรื่อง ของพนักงานบางคน จึงทำให้เกิดเรื่องขึ้น " ธนาคาร ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และ แจ้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้เรื่องดังกล่าว เรียบร้อย ขณะเดียวกัน  ได้ทำหนังสือตักเตือน พนักงานคนดังกล่าว และทำเป็นหนังสือเวียน ส่งฝ่ายสินเชื่อทั่วประเทศ เพื่อระมัดระวังไม่ให้เกิดเรื่องในลักษณะดังกล่าวอีก " ธนาคารต้องขอโทษลูกค้าท่านดังกล่าวด้วย แม้จะโยนความผิด ให้พนักงานรับไปเต็มๆได้ แต่ด้วยการที่ธนาคาร พยายาม สร้างภาพการให้บริการที่ดีมาโดยตลอด ถือเป็นความบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง  ของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ที่ทำได้แค่สร้างภาพ   แต่มิอาจปลูกฝังให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่ดีขึ้นได้ กรณีดังกล่าว  ถือเป็นภาพสะท้อน  การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ภายในธนาคารที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง   อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไข  และ ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ตอบแบบนี้  จะดีกว่าไม๊ครับ จากคุณ : มีประสบการณ์ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 21:14:52

ความคิดเห็นที่ 81 กลับมาฟังคำอธิบายของทางธนาคาร ชี้แจงได้ไม่น่าประทับใจเลยครับ โดยเฉพาะทางคุณกนกวรรณ ถ้าคุณจะรั้งลูกค้าให้อยู่ต่อ   โปรโมชั่นของการกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน คุณงัดออกมาใช้สิครับ มีโปรโมชั่นดึงดูดใจลูกค้ามากแค่ไหน เปิดเมนูให้เลือกกันเลยก็ยังได้ ไม่ใช่หลบหน้า ไม่รับสาย ไม่โทรกลับ จะชนะธนาคารอื่นก็ใช้โปรโมชั่นแข่งกันซึ่งๆหน้าดีกว่าไหม เข้าใจว่าธนาคารคงไม่อยากให้ลูกค้า Refinance หนีหาย ถ้าไม่อยากให้หายก็ลงทุนแข่งกับคนอื่นเขาหน่อยสิครับ จขกท ใจเย็นมาก เพราะถ้าเป็นผม ผมจะถามคุณกนกวรรณว่า "เดี๋ยวพี่จะดูให้นะคะ" ถือเป็นคำสัญญาว่าจะตามเรื่องให้ แล้วติดต่อกลับเพื่อรายงานความคืบหน้าหรือเปล่าครับ ถ้าทำไม่ได้อย่าสัญญาแบบส่งๆสิครับ ทำแบบนี้เข้าข่ายเจตนาเหนี่ยวรั้งให้เสียหายใช่ไหม ภาระค่าดอกเบี้ยของ จขกท ที่ผ่านมาใครจะรับผิดชอบครับ คุณกนกวรรณหรือเปล่า ต้องเป็นกรณีศึกษาให้ลูกค้าท่านอื่นอีกมากมายแบบนี้ ผมว่าธนาคารเสียมากกว่าได้นะงานนี้ ฟังดูจากการตอบของคุณ SCB Thailand และของคุณกนกวรรณ ค่อนข้างมั่นใจว่าเป้นนโยบายบริษัทแน่นอน หมายถึงก็จะมีการปกป้องอุ้มชูพนักงานแบบคุณกนกวรรณต่อไป มาถึงตรงนี้งดออกความเห็นต่อไปแล้วดีกว่าครับ เพราะว่าท่าทางธนาคารไม่คิดจะปรับปรุงนโยบาย ดีที่ผมเป้นลูกค้าธนาคารแค่ธุรกรรมเงินฝาก ไม่เคยกู้หนี้ยืมสิน เห็นแบบนี้ผมว่าถ้าผมคิดจะกู้ผมคงต้องพิจารณาธนาคารอื่นไว้ด้วยแล้วล่ะ ปล.สำหรับความเห็นที่บอกว่าจะฟ้องหมิ่นประมาท ผมว่าทานปลาเยอะๆนะครับ เผื่อจะช่วยได้บ้าง "คนดีชอบแก้ไข" ฝากไว้ให้คิดครับ จากคุณ : YF-01 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 21:16:49

ความคิดเห็นที่ 82 ดูเหมือนว่าการตอบของคุณ SCB Thailand จะเป็นการยอมรับกลายๆนะครับว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ให้การสนับสนุนและให้ท้าย พฤติกรรมของพนักงานอย่างคุณกนกวรรณ ดังนั้นผมอาจจะอนุมานได้ว่า พนักงานสินเชื่อของ SCB คงได้รับการเทรนให้เป็นแบบนี้ทุกคน ทีนี้คงขึ้นอยู่กับดวงของลูกค้า SCB แล้วมั้งครับว่า จะมีเรื่องให้ re-finance รึเปล่า แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 21:32:32 จากคุณ : mwaaat เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 21:31:14

ความคิดเห็นที่ 83 อ่านแล้วก็ยังงง   SCB THAILAND อธิบายยังไงก็ยังไม่เคลียร์นะจ๊ะ ผิดแล้วถ้าอธิบายไม่เคลียร์ มันหมายถึงว่า  หรี่ตาหนึ่งข้าง รู้เห็นเป็นใจกับพนักงาน เพื่อผลประโยชน์ของธนาคารเองนะครับ ผมก็ลูกค้า SCB นะครับ สาขาที่ใช้ประจำก็บริการดี จากคุณ : พ่อน้องบุ๊ค เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 21:46:18

ความคิดเห็นที่ 84 ให้กำลังใจ SCB THAILAND ครับ อุตสาห์มีตัวแทนของทางแบงค์มาคอยดูแลสมาชิกพันทิปในนี้แล้ว หลายๆ กรณี ก็ช่วยประสานงานให้เพื่อนสมาชิกได้แก้ไขปัญหาที่ประสบได้ลุล่วงไปด้วยดี กรณีนี้ก็เช่นกัน ความผิดอาจเป็นของพนักงาน คุณ SCB THAILAND ก็มาประสานงานให้ จนได้คำตอบ แถมคำขอโทษอีกด้วย ผมไม่รุ้ว่าการรีไฟแนนซ์มันช้ายังไง เพราะไม่เคยใช้บริการ บางความคิดเห็นที่มาว่าพนักงานท่านดังกล่าว แล้วยังแขวะคุณ SCB THAILAND เนี่ย บ้าหรือเปล่า จากคุณ : potojae เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 22:28:40

ความคิดเห็นที่ 85 ผมมีอาชีพเป็นเซลคงไปถึงสนง.เพื่อเคลียร์กันเลย  คุณเป็นคนใจเย็นนะเลยเป็นโชคดีของคุณกนกวรรณ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : capcap (CAPCAP) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 22:31:07

ความคิดเห็นที่ 86 ผมว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรแค่ตักเตือนนะ ควรไล่ออกเลยด้วยซ้ำ เพราะทำให้ภาพพจน์บริษัทเสียหาย ที่มาอ้างว่าจะดึงลูกค้าไว้แต่ดึงแบบไม่ติดต่อกลับ เงียบไป ถือว่าทุเรศมาก เอาเหตุผลนี้มาอ้างไม่ได้หรอก ถ้าจะดึงจิงจัดโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าสิ ถ้าเป็นผมนะ ลุยถึงแบงค์ตั้งแต่สามวันแรกแล้ว ๆ คนที่ดิวส์ด้วยนี้จะโดนผมด่าเละนะ บริการยังไง ห่วยแตกมากอะ จากคุณ : ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 22:45:09

ความคิดเห็นที่ 87 เห็นใจท่านจขกท.ครับ เห็นใจเจ้าหน้าที่ธนาคารในระดับหนึ่งด้วยครับ เรื่องเกี่ยวกับเงินของเราจะให้มาใจเย็นเนี่ย คงจะรับไม่ได้นะครับ เพราะเราต้องแบกรับความเสียหายที่มันเกิดขึ้นเอง ถ้าธนาคารดึงเรื่องไว้จนมันเกินกำหนดเวลาที่ควรจะเป็น อันนี้ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่น่าสงสารเท่าไหร่นักที่โดนลูกค้าตำหนิ ถ้าเป็นผม ใช้บัตรเครดิตสูงขนาด 4 แสนต่อเดือน ผมว่าท่านจขกท.น่าจะสามารถเข้าไปคุยกับผู้จัดการสาขาที่ท่านกู้เงินสินเชื่อบ้านได้นะครับ ถึงแม้ว่าเรื่องจะอยู่ที่ส่วนกลางแล้ว แต่เขาสามารถตามเรื่องในระบบได้นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : กระดาษเช็ดหน้าสีขาว เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 00:50:25

ความคิดเห็นที่ 88 ผมเคยเห็นหลายหลายครั้งแล้วครับ ในการขอรีไฟแนนซ์จากแบงก์นี้มาแบงก์อื่น ถ้าคุณเป็นลูกค้าที่ดีอยู่แล้วเขาไม่อยากจะเสียคุณไป แต่ก็ไม่สมควรที่จะมากระทำอย่างนี้กับลูกค้าซึ่งถ้าคุณบริการเขาไม่ดีอย่างไรเสียเขาก็เสียความรู้สึกกับคุณเสียลูกค้า 1 คน ไม่เท่ากับลูกค้าบอกต่อคนไปอีก 10 อีก 100 คน ปล.เห็นใจ จขกท.ครับ จากคุณ : ดร.เพียว เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 07:14:48

ความคิดเห็นที่ 89 อ่านกระทู้นี้ แล้วรู้สึกตกใจเล็กน้อยครับ ............... ด้วยที่ผมเป็น ลูกค้าธนาคารมานานมาก เป็นที่หลักในการเก็บเงินเลยก็ว่าได้ ยิ่งได้เจอ พี่จุก  พี่ SCB Thailand มาช่วยเคลียร์ปัญหาให้ลูกค้าในนี้มานาน ก็ยิ่งรู้สึก ชอบแบงค์นี้มากยิ่งขึ้นครับ .............. แต่บางครั้ง ปัญหาเชิงนโยบาย อาจจะเกินขีดความสามารถ ในการประสาน งาน ของพี่ๆ  ก็เข้าใจครับ ............. แค่รู้สึกตกใจ นิดๆ ครับ ลึกๆแล้ว นโยบาย SCB คิดอะไรอยู่ จากคุณ : maxtao เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 09:29:47

ความคิดเห็นที่ 90 ผมเป็นลูกค้าระดับเหนียวแน่นคนหนึ่งของ SCB ครับ ใช้เป็นBankหลักในการทำธุรกิจและลงทุนส่วนตัว --------------------------------------------------------------------------------------------- ผมว่าเรื่องเงินและโอกาสที่สูญเสียไปของ จขกท.เป็นเรื่องใหญ่หากมองในแง่การลงทุน ถ้าSCBมีนโยบายแบบนี้ไม่ไหวนะครับ อย่างน้อยถ้าเป็นความต้องการของลูกค้าอย่างน้อยBankก็ควรดำเนินการไปตามระบบ -------------------------------------------------------------------------------------------- งานนี้ทำเอาลูกค้าอย่างผมหวั่นใช้ได้ครับ จากคุณ : KOKISME เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 12:03:49

ความคิดเห็นที่ 91 โห สรุปว่า มีจริง ๆ ใช่ไหมเนืีี่ย การยื้อลูกค้าไว้เพื่อหวังดอกเบี้ย!!!! อำมหิต ทำนาบนหลังคน จากคุณ : zaffer เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 12:36:07

ความคิดเห็นที่ 92 อิอิ รอดไม่ได้กู้กับ scb เพราะ bank อื่นให้ดีกว่า จากคุณ : jessiez เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:26:36

ความคิดเห็นที่ 93 โหวตให้ค่ะ จากคุณ : ดาวสีส้ม เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:56:09

ความคิดเห็นที่ 94 แฟนเจอพนักงานฝ่ายสินเชื่อบ้านของไทยพานิชย์ดูแลไม่ดีเหมือนกันครับ นัดไม่เป็นนัดเลย  บอกกกู้ผ่านให้ของแถมเป้นเครื่องดูดฝุ่น พอกู้เสร็จผ่านไปสองเดือนเงียบเลยไม่มีของแถม พอโทรไปถามก้อบอกว่า เครื่องดูดฝุ่นไม่ตรงสเปคอะไรไม่รู้ก้อโบ้ยไปบอกว่าเดี๋ยวดูให้ เงียบไปอีก สองเดือน โทรไปถามก็บอกว่าจะเปลี่ยนเป็นกิ๊ฟ โวเชอร์ เท่าไหร่เดี๋ยวแจ้งอีกที ก็เงียบไปอีกเดือนนึง แฟนผมต้องโทรไปถามเอง ก็บอกว่าจะให้กิ๊ฟโวเชอร์ เซนทรัล 3000 บาท แล้วเงียบไปอีกเดือนนึง ต้องโทรไปตาม พอส่งมาให้ก็ส่งมาให้แค่ 2500 พอโทรไปถามว่าไหนตอนแรกบอกว่าจะให้ 3000 ไง เค้าก้อบอกว่าขอเชคดูก่อนจะโทรบอก แล้วก็เงียบหายไปอีก นับจากวันที่โอนจนถึงวันที่ได้ของแถม รวมเวลา แปดเดือน   ตอนก่อนจะกู้ ตามมาหาถึงที่ทำงาน ทุกอย่างพร้อมสุดๆ  แต่พอเสร็จเรื่องเรียบร้อย ต้องให้โทรตามเรื่องเองตลอด เซ็งจริงๆ พนักงานชื่อ คุณนง.......... จากคุณ : ไม่ได้มาป่วนน่ะ เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 22:52:30

ความคิดเห็นที่ 95 เป็นแบงค์เดียว ที่ทำบัตร เครดิตไม่ผ่าน ทั้งๆ บริษัท ก็จ่ายเงินเดือนผ่าน แบงค์นี้ รายได้ ก็เกินขั้นต่ำ ที่เขาให้สมัครได้ ทำอะไรไม่เคยผ่านสักอย่าง.... แต่ข้ามไป อีกฝั่งถนน กับแบงค์รวงข้าว... ได้ทุกบัตร ทุกเครดิต ทุกสินเชื่อ แถมกองทุนอีก พอสิ้นเดือนปุ๊บ ก็กดโอนไปอีกแบงค์ ไม่ชอบ ก็ไม่ใช้ จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 23:26:01

ความคิดเห็นที่ 96 เห็นตัวแทน scb ออกมายอมรับแล้ว ... แสดงว่าทั้งหมดคงเป็นเรื่องจริง ... บอกได้คำเดียวครับ ... ห่วย!!! ทำงานกันแบบนี้ ใช้ไม่ได้เลย (จะดึงจะอะไร ไม่ทำให้มันเนียนกว่านี้หน่อยล่ะครับ ฮา...) จากคุณ : The ApPreNTiCe เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 00:23:27

ความคิดเห็นที่ 97 Update ครับ มีจนท.ท่านใหม่โทรมาบอกให้รอคุณ..... จะติดต่อมาภายในอาทิตย์หน้า (รออีกและ ไหนตอนแรกบอกเรื่องจะจบภายใน 24 ชม. นี่ใช้เวลาเป็นอาทิตย์อีก สงสัยจะเพิ่งเริ่มเดินเรื่อง ...เฮ่อ) แต่จนท.คนนี้รับปากว่าจะติดตามให้ครับ เรื่องมาขนาดนี้แล้ว ผมว่าอาทิตย์หน้าคงจะจบชัวร์ แต่ทำไมยังต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์อีก ไม่เข้าใจ จากคุณ : ปาปารัสซี่ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 04:41:10

ความคิดเห็นที่ 98 เฮ้อตกลงเป็นยื้อเอาดอกหรือนี่ เซ็งแทน จากคุณ : rchai เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 07:09:45

ความคิดเห็นที่ 99 น่าผิดหวังครับ กับธนาคารใบโพธิ์ รั้งลูกค้าไว้แบบนี้  เสียมากกว่าได้อยู่แล้ว การที่ลูกค้าตัดสินใจปิดบัญชีสินเชื่อ นั่นแสดงว่า เขาได้พิจารณาแล้วว่า ที่ใหม่ต้องดีกว่าแน่ๆ มันสายไปแล้วครับที่จะรั้งลูกค้าเอาไว้ จากคุณ : ซี.คิว. เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 08:31:43

ความคิดเห็นที่ 100 คุณ Paparusy ส่งจดหมายลงทะเบียนตอบรับถึงกรรมการผู้จัดการเลย โดย print เอดสารในกระทู้นี้แนบไปด้วย การทำเช่นนี้  คุณจะได้ประโยชน์ คือ 1) เป็นหลักฐานว่า ผู้บริหาร scb รับทราบ หาก เรื่องนี้ เป็นประเด็นต่อเนื่อง และทำให้  scb เสียหาย บอร์ดของธนาคาร จะเอาผิด กรรมการผู้จัดการได้ทันที ดังนั้น เรื่องจะจบได้ไวขึ้น   2) เป็นหลักฐานในกรณี ที่ คุณ จะร้องเรียน ศาลผู้บริโภค หรือ อื่นๆ  เพื่อเป็นบรรทัดฐาน  ให้ธนาคารต่างๆหลาบจำ อันนี้ ก็จะเป้นประโยชน์ต่อส่วนรวม ขอให้เรื่องจบโดยเร็วครับ จากคุณ : มีประสบการณ์ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 08:50:27

ความคิดเห็นที่ 101 เคยเหมือนกัน เรื่อง refinance จาก SCB เรื่องราวมากมาย... แต่พอดีว่า ขี้เกียจทำเรื่อง จำนองใหม่เลยอยู่ต่อ ดบ ที่ใหม่กับที่ SCB ไม่ต่างกันมาก เลยหยวนค่ะ แต่ถ้าหมดเมื่อไหร่ก็จบ กู้ครั้งใหม่คงไม่ใช่ SCB เหอๆ จากคุณ : .. (beta888) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 10:37:28

ความคิดเห็นที่ 102 เฮ้อ ของเรายังไม่รู้ลูกผีลูกคน เป็นลูกค้า NPA SCB คนซื้อโทรมาบอกว่ากู้ผ่านแล้วอยากขอยอดปิดเพื่อทำเช็ค โทรไปแจ้งสินเชื่อไทยพาณิชย์สาขา เมืองใหม่บางพลี SCB บอกว่า ให้รอ 2 อาทิตย์ จึงจะทำเรื่องปิดได้ ตายห่ะ ทำไมใช้เวลานานขนาดนี้ เลยต่อรองขอให้ช่วยเหลือหน่อย ต้องบอกพนักงานไปว่าคุณดูประวัติพี่หรือยัง พี่น่ะลูกค้าประนอมหนี้นะ คุณไม่อยากได้เงินหรือไง ผู้ซื้อนัดโอนบ้าน วันที่ 19 นี้ ยังไม่รู้ว่า SCB จะว่างัยเลย เห็นกระทู้นี้แล้ว หนาว เลย เฮ้อ................ ขอกู้SCBใช้เวลาก็นาน หาเงินคืนใช้หนี้เงินกู้ SCB กลับนานยิ่งกว่าอีก จากคุณ : สามโลร้อย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 10:55:46

ความคิดเห็นที่ 103 กะว่าจะสมัครบัตรเครดิต SCB Platinum กัวเลยอ่ะ เด๋วนาน จากคุณ : GolfTJ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 18:22:12

ความคิดเห็นที่ 104 แปลกใจที่ คุณ pjuk หายตัวไปจากกระทู้นี้ สงสัยแกงานยุ่งมากๆ จากคุณ : น้องนิค เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 19:31:17

ความคิดเห็นที่ 105 อาทิตย์หน้ามีห้าวัน  ถ้าโทร.มาวันศุกร์บ่ายๆ เจ้าของกระทู้รับได้เปล่าครับ งงกับSCB เรื่องมาถึงขนาดนี้ ยังให้รอต่อไป หรืออาทิตย์หน้าจะครบจ่ายดอกเบี้ยอีกเดือนนึง จากคุณ : jk (016) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 19:32:53

ความคิดเห็นที่ 106 กำลังจะ Re-Finance พอดีเลยค่ะ ช่วยแนะนำด้วยว่าจะไปที่ไหนดีคะ จากคุณ : I' m deawdai (happylove) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 20:24:32

ความคิดเห็นที่ 107 ผมก็รอดูคำตอบอยู่ครับ จากคุณ : Buree เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 08:04:20

ความคิดเห็นที่ 108 สรุปว่าเรื่องยังไม่จบ จขกท. ยังเคลียร์สิ่งที่คาใจไม่เรียบร้อย ตอนนี้รอความคืบหน้าครับ เปลี่ยนคนแล้วคนที่โดนเปลี่ยนตอนนี้ได้รับผลอะไรหรือยังครับจากการกระทำของเค้า จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 08:52:12

ความคิดเห็นที่ 109 ธนาคารใคร่ขออภัยและขอขอบพระคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นพร้อมให้คำแนะนำมา ณ ที่นี้ ธนาคารจะปรับปรุงกระบวนการทำงานและการให้บริการของพนักงานเพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุดต่อไปค่ะ จากคุณ : SCB Thailand เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 11:21:23

ความคิดเห็นที่ 110 กำลังจะขอสินเชื่อ กับSCB แล้วจะเจออุปสรรคอันใดหรือเปล่าหนอ ............... จากคุณ : จอบบ้อน เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 12:14:20

ความคิดเห็นที่ 111 คุณ SCB Thailand  ไม่คิดจะตอบความเห็น ความคิดเห็นที่ 67  หน่อยเหรอ เราว่ามันมีประโยชน์กับทุกคนนะ  หรือว่ามันเป็นความลับ ของ ธ.จริงๆ ขั้นตอนการ รีไฟแนซ์อะ จากคุณ : a (ExtraZone) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 14:57:13

ความคิดเห็นที่ 112 Update ครับ... มีจนท.โทรมาขอให้ Fax ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตเดือนล่าสุดไปให้เค้าด้วย .. มันต้องใช้ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตเดือนล่าสุดด้วยเหรอครับ พอดีผมเพิ่งเคยทำ Re-Finance เป็นครั้งแรก ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตด้วย เค้าบอกว่าถ้า Fax ไปให้เค้าช้า เรื่องก็จะช้าอีก คงต้องรีบ Fax ไปแหล่ะ แต่ในใบแจ้งหนี้มีข้อมูลบัตรเครดิตหมดเลย จะเป็นไรไหมครับ เพื่อนๆท่านใดมีประสบการณ์บ้างครับ ต้องใช้ใบแจ้งหนี้ด้วยเหรอเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 53 15:21:36 จากคุณ : ปาปารัสซี่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 15:19:31

ความคิดเห็นที่ 113 ตั้งแต่ทำเรื่องกู้ , Refinance กับแบงค์ไหนๆ ก็ไม่เคยต้องส่ง Credit card statement กับกับแบงค์ซะที มีแต่ส่ง bank statement เพื่อยืนยันเรื่องเงินเดือนที่เข้าบัญชี กับ slip เงินเดือนต้องตรงกัน ดูมันจะแปลกๆ นะ จากคุณ : member no.805 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 15:39:04

ความคิดเห็นที่ 115 ทำ Refinance ถึงกับต้องส่ง Statement บัตรเครดิตด้วยหรอ ถ้าจะเช็คเครดิตบูโร ทางธนาคารก็เช็คเองได้ไม่ใช่หรอครับ ดูแปลกๆดี ปล. ผมว่าถ้าเป็น pjuk เรื่องคงเรียบร้อยไปแล้วนะครับ แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีของน้องใหม่ "SCB Thailand" จากคุณ : micaho2 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 19:17:25

ความคิดเห็นที่ 116 #112 ระวังตัวปลอมเข้ามาอ่านกระทู้แล้วติดต่อไปครับ ลองหลัง SCB หรือ Pjuk ก่อนดีกว่ามั้ง จากคุณ : rchai เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 20:05:05

ความคิดเห็นที่ 117 Update !! พนง.โทรมาบอกใหม่ครับ ว่าไม่ต้องส่งใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตแล้วก็ได้ เค้าคุยให้แล้ว ก็เลยไม่ต้องส่งไป (ยอดบัตรเครดิตผมใช้เยอะจริง แต่ผมก็จ่ายเต็มทุกเดือนและไม่เคยมีปัญหาเป็นหนี้บัตรเครดิตเลยซักครั้ง ) ส่วนเรื่องนี้ได้รับคำอธิบายจากคุณ SCB Thailand ประมาณว่าพอดีเงินกู้กับบัตรเครดิตอยู่ Bank เดียวกัน ทาง Bank เลยต้องดูบัตรเครดิตด้วย ว่าเป็นหนี้ Bank อยู่เหรอเปล่า เพราะถ้าเป็นหนี้ Bank อยู่อีกเยอะ Bank จะได้ไม่ปล่อยหลักประกันไป (ประมาณนี้เหรอเปล่า คุณ SCB Thailand อธิบายส่วนหนึ่ง แต่ผมคิดต่อเอง) แต่ที่ให้ส่ง Fax ไป เพราะว่าเร็วกว่าการ Check จากเครดิตบูโร (จริงเหรอ ทำไมทำบัตรเครดิต HomePro หรือ Lotus อนุมัติภายใน 1 ชม.เอง เค้าก็ Check เครดิตบูโรเหมือนกันมะช่ายเหรอ) ตอนนี้ธนาคารนัดวันพุธที่ 19 นี้แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 53 21:20:54 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 53 21:18:59 จากคุณ : ปาปารัสซี่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 21:17:47

ความคิดเห็นที่ 118 image ที่บริการดีรวดเร็วของแบงค์สีม่วงหายไปไหนแล้วเนี่ย จากคุณ : ไม่หมูนะครับ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 23:08:23

ความคิดเห็นที่ 119 ถึงเป็นหนี้บัตรเครดิตจริง ก็ไม่มีสิทธิ์จะไม่ให้ re-finance ได้นี่ครับ เพราะตอนทำบัตรเครดิตไม่ได้เอาบ้านไปค้ำประกันไว้ซะหน่อย ผมว่านี่ก็เป็นการดึงเวลาอีกเรื่องหนึ่ง เอวัง.. จากคุณ : kamas เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 07:08:31

ความคิดเห็นที่ 120 เรื่องนี้ยาวแน่ๆ ถ้ามีการสอบสวนแล้วพบว่า เป็นจริงตามที่เจ้าของกระทู้เล่ามา ต้องไล่ออกสถานเดียว เพราะ "ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เสียทั้งข้อง" แต่เอ้ หรือว่าปลามันเน่าหลายตัวเพราะทั้ง call center ก็รับสายหลายครั้งไม่ได้เรื่องเลยนี่น่า จากคุณ : ronnapob_w เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 09:05:43

ความคิดเห็นที่ 121 เอาให้กระจ่างเลยครับสำหรับcaseนี้ สุดท้ายจบเรื่องรบกวนทาง จขกท. หรือทาง SCB สรุปเรื่องราวความผิดพลาดต่างๆครับ เพื่อท่านอื่นจะได้นำข้อมูลไว้ประกอบการพิจารณาต่อไปครับ จากคุณ : KOKISME เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 09:59:40

ความคิดเห็นที่ 122 มีอย่างที่ไหน เอาประเด็นเรื่องบัตรเครดิตมาโยงกับสินเชื่อบ้านที่มีอยู่ ธนาคารจะเอาหลักทรัพย์บ้านมาเป็นหลักประกันบัตรเครดิตได้ไง ตอนทำก็ทำบัตรเครดิตแบบปกติ ไม่ได้เอาบ้านไปค้ำประกันสินเชื่อบัตรเครดิตซะหน่อย มั่วกันไปใหญ่แล้ว SCB ผมเองก็มีเคสที่จะรีไฟแนนซ์ไป SCB แต่พอจะเซ็นสัญญา แล้วดูสัญญาทุหน้า ดันไม่มีข้อความที่เคยออกโปรให้ผมเช่น ยกเว้นค่าปรับจ่ายเกิน 2 เท่าของเงินงวด, งดค่าปรับปิดบัญชีก่อน 3 ปี ฯลฯ ในสัญญา เลยไม่เซ็นและยกเลิกไป Re-finance ไป SCB ในที่สุดครับ จากคุณ : As you know เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 10:43:49

ความคิดเห็นที่ 123 แนะนำให้ยกเลิกบัตรเครดิต scb ไปเลยครับ ถ้า scb มั่วได้เข้าขั้นขนาดนี้ หรือนี่จะเป้นเพราะเอานักการตลาดมาเป็น MD ธนาคาร เลยชักนำให้ พนักงาน  มั่ว ลื่นไหล  เหมือนพวกนักขายได้ขนาดนี้ จากคุณ : มีประสบการณ์ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 12:26:39