![](/cafe/image/w40px.gif) |
ความคิดเห็นที่ 3 |
กรณีที่ 2 รถที่ผลิตในประเทศไทย
ผูผลิต จะนําชิ้นสวนรถยนตเขามาจากตางประเทศเปนบางรายการ ซึ่งปริมาณและสัดสวนการนําเขา มากหรือนอยก็ขึ้นอยูกับนโยบายของบริษัทผูผลิต โดยรถแตละรุนภาระภาษีของผูผลิตจะมีความ แตกตางจากการนําเขารถทั้งคัน ดังนี้ 1. อากรขาเขา จะถูกจัดเก็บตามอัตราที่กรมศุลกากรกําหนด ทั้งนี้ขึ้นอยูกับชนิด หรือพิกัดของชิ้นสวน นั้น ซึ่งปจจุบันอยูที่ประมาณ 30% ของราคา CIF ถาใชชิ้นสวนภายในประเทศทั้งหมดก็จะไมเสียภาษี ในสวนนี้
2. ภาษีสรรพสามิต จะถูกจัดเก็บอัตราเดียวกับการนําเขารถทั้งคันจากตางประเทศ โดยคํานวณจาก ราคาหนาโรงงาน และกรมสรรพสามิตจะพิจารณารับราคาหนาโรงงานนี้ไมต่ํากวา 76% ของราคาขาย ปลีกที่ขายใหกับผูบริโภค คือ ถาราคาขายปลีกอยูที่ 100 บาท (รถยนตไมเกิน 2000 ซีซี) ก็จะใชราคา หนาโรงงานที่ 76 บาท มาคํานวณตามสูตร ?ฝงใน? เพื่อใหไดภาษีสรรพสามิต
3. ภาษีมหาดไทย คิดที่อัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิต เพื่อสงใหกระทรวงมหาดไทย
4. ภาษีมูลคาเพิ่ม 7% กรมสรรพากรเปน ผูจัดเก็บ เหมือนกรณีที่ 1
สม มุติใหรถขนาดไมเกิน 2,000 ซีซี ราคารถหนาโรงงานอยูที่ 100 บาท ภาษีสรรพสามิตก็จะอยูที่ 80.60 บาท บวกดวยภาษีมหาดไทย 8.1 บาทและภาษีมูลคาเพิ่ม 13.2 บาท ก็จะไดราคาขายปลีก เทากับ 201.9 บาท หรือถาคิดในมุมกลับภาษีรวมของรถที่ผลิตในประเทศจะมีมูลคาประมาณ 40-70% ของ ราคาขายปลีก ซึ่งจะขึ้นอยูกับขนาดของเครื่องยนต ยิ่งปริมาตรกระบอกสูบมาก มูลคาภาษีก็จะสูง ตาม
ตัวอยางเชน ถาซื้อรถที่ผลิตในประเทศ เครื่องยนต 1800 ซีซี ในราคา 7 แสนบาท หมายความวา เรา ไดจายภาษีใหรัฐประมาณ 2.8-3 แสนบาท
ในขณะที่ภาษีรวมของรถนํา เขาจะคิดจากราคาขายปลีกไมไดเพราะยังไมไดรวมกําไรและคาดําเนินการ ของผูนําเขา ฉะนั้นตองคิดจากราคาทุน ซึ่งจะมูลคาภาษีอยูที่ประมาณ 200-300 % ของราคาตนทุน ตัวอยาง เชน ถารถราคา 1 ลานบาทในตางประเทศ เมื่อนําเขามาขายที่เมืองไทย ตองเสียภาษีรวม ประมาณ 2 ลานบาท ดังนั้น ผูนําเขาจึงตองขายที่ราคา 3 ลานขึ้นไปเพราะตนทุนภาระภาษีที่สูงนี่เอง เพียงเทานี้พอจะทําใหเขาใจกันไดวา ทําไมเราถึงตองซื้อรถที่แพงกวาประเทศอื่นๆ อยางมากมาย
แลวภาษีทั้งหมดเปนจํานวนเทาไหร?
ตัวเลข แทจริงเราไมอาจทราบได แตเมื่อมองถึงมูลคาตลาดรวมเฉพาะที่รถขายในประเทศ สมมุติ ยอดขายรถทั้งปที่ 600,000 คัน (ในความจริงขายมากกวานี้) ทุกคันราคาคันละ 500,000 บาท (หา แสนบาท ราคาสมมุติ) มูลคาตลาดจะเทากับ 300,000,000,000 บาท (สามแสนลานบาท ยอดสมมติ แตยอดจริงมากกวานี้) และคิดภาษีที่ยอดต่ําสุดที่ 40% ของราคาขายปลีกเทากับวารัฐจะไดภาษีจาก ประชาชนที่ซื้อรถไปทั้งสิ้น 120,000,000,000 บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นลานบาท) ขณะที่งบประมาณรายจายประจําป49อยูที่ 1.36 ลานลานบาทดังนั้นแลวประมาณ 10% ของรายได ภาษีที่จะนํามาจายในงบประมาณมาจากเงินที่ประชาชนซื้อรถ แลวรัฐเอาเงินภาษีของเราไปทําอะไร หวา ประเทศถึงไดเจริญ ฮวบ ฮวบ อยางนี้ ?
ขอมูลบางสวนจากวารสาร เชฟวี่ทอลค
จากคุณ |
:
โชคดีร่ำรวย
|
เขียนเมื่อ |
:
12 พ.ค. 53 08:57:20
|
|
|
|
![](/cafe/image/w40px.gif) |