ความคิดเห็นที่ 1 /////////////////////////////////////////////////////////////////// จงทำกับเพื่อนมนุษย์โดยคิดว่า...(ท่านพุทธทาสภิกขุ) เขาเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของเรา เขาเป็นเพื่อนเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสารด้วยกันกะเรา เขาก็ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลสเหมือนเรา ย่อมพลั้งเผลอไปบ้าง เขาก็มี ราคะ โทสะ โมหะ ไม่น้อยไปกว่าเรา เขาย่อมพลั้งเผลอบางคราวเหมือนเรา เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม เหมือนเรา ไม่รู้จักนิพพานเหมือนเรา เขาโง่ในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยโง่ เขาก็ตามใจตัวเองในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยทำ เขาก็อยากดี เหมือนเรา ที่อยาก ดี-เด่น-ดัง เขาก็มักจะกอบโกย และเอาเปรียบเมื่อมีโอกาสเหมือนเรา เขาก็มีสิทธิที่จะ บ้าดี-เมาดี-หลงดี-จมดี เหมือนเรา เขาเป็นคนธรรมดา ที่ยึดมั่นถือมั่นอะไรต่างๆ เหมือนเรา เขาไม่มีหน้าที่ ที่จะเป็นทุกข์ หรือตายแทนเรา เขาเป็นเพื่อนร่วมชาติ ร่วมศาสนากะเรา เขาก็ทำอะไรด้วยความคิดชั่วแล่น และผลุนผลัน เหมือนเรา เขามีหน้าที่รับผิดชอบต่อครอบครัวของเขา มิใช่ของเรา เขามีสิทธิ ที่จะมีรสนิยม ตามพอใจของเขา เขามีสิทธิ ที่จะเลือก (แม้ศาสนา) ตามพอใจของเขา เขามีสิทธิ ที่จะใช้สมบัติสาธารณะเท่ากันกับเรา เขามีสิทธิ ที่จะเป็นโรคประสาท หรือเป็นบ้า เท่ากับเรา เขามีสิทธิ ที่จะขอความช่วยเหลือ เห็นอกเห็นใจจากเรา เขามีสิทธิ ที่จะได้รับอภัยจากเรา ตามควรแก่กรณี เขามีสิทธิ ที่จะเป็นสังคมนิยม หรือเสรีนิยม ตามใจเขา เขามีสิทธิ ที่จะเห็นแก่ตัว ก่อนเห็นแก่ผู้อื่น เขามีสิทธิ แห่งมนุษยชน เท่ากันกับเรา สำหรับจะอยู่ในโลก ถ้าเราคิดกันอย่างนี้ จะไม่มีการขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น จาก แก่นพุทธศาสน์ (พุทธทาส อินทปัญโญ) ที่มา ธรรมจักร ////////////////////////////////////////////////////////////////// จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 08:50:13

ความคิดเห็นที่ 2 http://www.youtube.com/watch?v=eoPsJonEa54 เพลงรักกันไว้เถิด รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณีไม่มีกัดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย ท้องถิ่นแหลมทอง เหมือนท้องของแม่ เกิดถิ่นเดียวกันแท้เหมือนแม่เดียวกันใช่ไหม ยามฉันมองตาคุณ อบอุ่นดวงใจเห็นสายเลือดไทย ในสายตาบอกสายสัมพันธ์ รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณีไม่มีกัดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย ทะเลแสนงาม ในน้ำมีปลา พืชพันธุ์เกลื่อนตาตามไร่นารวงทองไสว สินทรัพย์มีเกลื่อนกล่น บรรพชนให้ไว้เราลูกหลานไทยจงร่วมใจรักษาให้มั่น รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณีไม่มีกัดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย รักกันไว้เถิด รักกันไว้เถิด รักกันไว้เถิด แหลมทองโสภาด้วยบารมี ปกเกล้าเราไทยนี้ร่มเย็นเป็นศรีผ่องใส ใครคิดบังอาจหมิ่นถิ่นทององค์ไธ้ เราพร้อมพลีใจป้องหมู่ไทยและองค์ราชันย์ รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณีไม่มีกัดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย จะเกิดชาติไหนก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณณีไม่มีกัดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:04:36

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยครับ แต่ผมโพสกี่กระทู้ก้จะโดนลบหมด หวังว่าของคูณจะไม่โดนลบ ที่เราต้องการคือการสมานบาดแผล   การปราบโหด   การเผาโหด  การเพาะบ่มความเกลียดชัง มันจะทำลายสังคมและพวกเราเอง ยามสงบเราตีกัน แต่ยามวิกฤติ   อย่าแบ่งแยก  แล้วตีกันเลยครับ รักบ้านของเรา  เมืองไทยของเรา แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 53 09:12:09 จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:10:26

ความคิดเห็นที่ 4 http://www.youtube.com/watch?v=HrZnR-RDvw0&feature=related เพลงรักเธอประเทศไทย เป็นตัวเป็นตน รวมเป็นคนขึ้นมาได้ จะโตจะตาย ไม่แน่นอน จะตึงจะตัง ขึงขัง หรือโอนอ่อน แล้วแต่ทำเพื่อใคร จะดีจะเลว เธอก็ยืนเคียงข้าง จะจำไม่จาง ยังซึ้งใจ จะเป็นจะตาย ดีร้ายสักเพียงใด ฉันทำได้ เพื่อเธอ สาบาน ว่าไม่เสียใจ เสียใคร ไม่เท่าเสียเธอ จะยอมให้ใคร มาทำร้ายเธอ เป็นไปได้ไง แม้ตายก็ต้องยอม จะดีจะเลว เธอก็ยืนเคียงข้าง จะจำไม่จาง ยังซึ้งใจ จะเป็นจะตาย ดีร้ายสักเพียงใด ฉันทำได้เพื่อเธอ ของใคร ใครก็หวง หวงเธอ ดังดวงใจ ขอเธอ ไม่ต้องหวั่นไหว หลับเถิด หลับให้สบาย สาบาน ว่าไม่เสียใจ เสียใคร ไม่เท่าเสียเธอ จะยอมให้ใคร มาทำร้ายเธอ เป็นไปได้ไง แม้ตายก็ต้องยอม สาบาน ว่าไม่เสียใจ เสียใคร ไม่เท่าเสียเธอ จะยอมให้ใคร มาทำร้ายเธอ เป็นไปได้ไง แม้ตายก็ต้องยอม สาบาน ว่าไม่เสียใจ เสียใคร ไม่เท่าเสียเธอ จะยอมให้ใคร มาทำร้ายเธอ เป็นไปได้ไง จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:12:23

ความคิดเห็นที่ 5 อยากให้จบ รอเลือกตั้งครับ เฮ้อ... จากคุณ : Pigfarm เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:17:29

ความคิดเห็นที่ 6 ขอแจมลงเพลงด้วยนะครับ ฝาก3เพลงในดวงใจผมตอนเด็กๆฟังแล้วฮึกเหิมในความเป็นไทย จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:20:02

ความคิดเห็นที่ 7 ไปอ่านนี่ดูก่อนสิ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274454415&grpid=01&catid= จากคุณ : bleed เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:21:09

ความคิดเห็นที่ 8 ความฝันอันสูงสุด ที่ทางเดินขึ้นอาการเรียนตอนป.3 มีบอร์ดเนื้อเพลงนี้ ผมเดินขึ้นลงได้อ่านทุกวัน จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:21:42

ความคิดเห็นที่ 9 เก็บปัญหาไว้ใต้พรม ระวัง!!....มันจะกลับมา เปิดเผยความจริงอย่างบริสุทธิ์ใจ คงช่วยเยียวยา รักษาแผลใจได้ ไม่มากก็น้อย จากคุณ : mairu เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:22:35

ความคิดเห็นที่ 10 http://www.youtube.com/watch?v=BYcVoY0b2ZU&feature=related ขวานไทยใจหนึ่งเดียว - Unified Axe โลกนี้มีมาก่อนผู้คน แต่โลกจะทนอยู่ได้นานสักเท่าใด ถ้าเงินหมื่นแสนล้านถูกผลาญไป ใช้สร้างอาวุธมายัดใส่มือคน ขวานนี้มีมาก่อนเราเกิด คือสิ่งประเสริฐที่มีบ้านเป็นของตน จะแยกไปทำไมไร้เหตุผล พี่น้องประชาชนจะอยู่อย่างไร แถบธงแดง ขาว น้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอย ขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ฟ้านี้ยังมีโอกาสเป็นหนึ่ง เมื่อคนนึงถึงการเสียสละ เหล่าบรรพชนพลีชีพแลกมา ต้องเสียน้ำตาเลือดเนื้อไปเท่าใด แผ่นดินยามมีคนคอยยุแหย่ ระส่ำย่ำแย่บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ถึงเวลาต้องร่วมแรงร่วมใจ หวงแผ่นดินไทยด้วยหัวใจยุติธรรม แถบธงแดง ขาว น้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอย ขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีทรงห่วงใย ลูกเอย หลานเอย ล้วนคนไทย มาสร้างฝันวันใหม่ ให้ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว ***แถบธงแดง ขาว น้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอย ขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีทรงห่วงใย ลูกเอย หลานเอย ล้วนคนไทย มาสร้างฝันวันใหม่ ให้ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว ขวานนี้มีมาก่อนเราเกิด คือสิ่งประเสริฐที่มีบ้านเป็นของตน จะแยกไปทำไมไร้เหตุผล เราล้วนเป็นคนเป็นประชาชนไทย แผ่นดินยามมีคนคอยยุแหย่ ระส่ำย่ำแย่บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ถึงเวลาต้องร่วมแรงร่วมใจ ช่วยตักน้ำมาดับไฟด้วยหัวใจสามัคคี ***แถบธงแดง ขาว น้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอย ขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีทรงห่วงใย ลูกเอย หลานเอย ล้วนคนไทย มาสร้างฝันวันใหม่ ให้ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีทรงห่วงใย ลูกเอย หลานเอย ล้วนคนไทย มาสร้างฝันวันใหม่ ให้ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:23:16

ความคิดเห็นที่ 11 ต้นตระกูลไทย จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:24:01

ความคิดเห็นที่ 12 ใต้ร่มธงไทย จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:24:38

ความคิดเห็นที่ 13 ไปขุดเพลงเก่าๆมาฟัง ... มันช่วยให้เย็นลงเยอะครับ !!! จากคุณ : What Drives U เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:25:38

ความคิดเห็นที่ 14 เราสู้ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:25:54

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนเด็กๆผมโครตภูมิใจเวลาฟังเพลงเหล่านี้  ระบบการสอน และโรงเรียนของผม ฝังหัวความรู้สึกรักชาติผ่านเพลงเหล่านี้   ผมคิดว่าทุกคนก้คงเหมือนกัน  แล้ววันนี้พวกเราจะมาฆ่ากันเองทำไม ในเมื่อทุกคนก้รักชาติเหมือนๆกัน จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:27:31

ความคิดเห็นที่ 16 ขออีกเพลง ครับชอบจริงๆ วอลซ์นาวี จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:31:17

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนเด็กๆ ความรักชาติของเรา มันเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เป็นความรักชาติโดยบริสุทธิ์ การแบ่งพรรค การแบ่งพวก ทำให้เราเปลี่ยนไป   กลับมารักกันอย่างเดิมเถอะ เราพี่น้องกันทั้งนั้น  หลักสูตรที่เรียนมาก็หลักสูตรเดียวกัน ไม่มีใครไม่รักชาติหรอกครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:32:08

ความคิดเห็นที่ 18 อีกหนึ่งเวอร์ชั่น !!! จากคุณ : What Drives U เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:32:00

ความคิดเห็นที่ 19 เพลงสมัยใหม่ แต่ก้แต่งได้กินใจ เพลงเลือดไทย จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:37:07

ความคิดเห็นที่ 20 พระเจ้าตาก ขออภัยเจ้าของกระทู้แจมเยอะไปหน่อย แต่อยากให้ฟังด้วยกันครับ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:40:41

ความคิดเห็นที่ 21 คือตอนนี้ ใครจะมาเป็นผู้นำใครไม่สน แต่ขอความจริงใจ ยุติธรรมกันทั้งสองฝ่าย หยุดการใส่ร้าย หยุดเล่นการเมือง ไม่ใช่บอกปรองดอง แต่รายการทีวีในสังกัดก็ใส่ร้าย ใส่สีฝ่ายตรงข้าม พูดจาฝ่ายเดียว มันจะปรองดองได้อย่างไร คนผิดก็ว่าไปตามผิด ใครเผาอาคารสถานที่ก็ดำเนินคดีกันไป ใครเผาเซ็นฯเวิร์ล ก็ตามจับให้ได้ กล้องวงจรปิดมีอยู่เยอะแยะ จากคุณ : ขอแฟนรวย เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 09:49:20

ความคิดเห็นที่ 22 รูป จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:02:02

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเข้าไปอ่านลิงค์คคห.ที่7 แล้ว เศร้าครับ ที่ผมได้ยินมาจากคนรอบๆตัวที่ไปชุมนุมก้เป็นอย่างนี้เหมือนกัน รถตีนตะขาบ ขับทับผู้หญิงนั่งพนมมือไหว้เละไปพื้น  ใครเข้าไปใกล้คนเจ็บหรือศพ จะถูกยิ่งกลายเป็นศพไปด้วย นึกถึงความโหดร้ายก้โกรธ  แต่เห้นการเผาห้างแล้วก็รู้สึกแย่  พ่อค้าแม่ค้า ที่ลงทุนในนั้นก้คงสิ้นเนื้อประดาตัว ฝ่ายหนึงปราบโหดเหี้ยม   อีกฝายก้เผาทำลายบ้านเมือง ผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บ พิการ  ญาติมิคร ลูกเมีย พ่อแม่ของพวกเค้าน่าสงสารมากๆ ก้ไม่รู้จะคิดอ่านอย่างไร  มองทางไหน มีแต่ความสูญเสีย   ผมสิ้นคิดครับ คิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะหยุดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร ผมสิ้นคิดจริงๆ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:07:42

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่มีทางออก แค่อยากให้หยุดคิด ทั้งผุ้มีอำนาจ ทั้งประชาชนที่โกรธแค้น เราเกลียดกันมันทำให้อะไรดีขึ้นไหม ยิงเค้าก็ยิงไปแล้ว เจ็บตายกันไปแล้ว ถ้าเราเผา ก้จะมีคนเดือดร้อนอีกมากมาย ซึงก้คือประชาชนเหมือนกับเราๆท่านๆนี่แหละ คนสั่งยิงไม่ได้เดือดร้อนไปด้วย   ผมไม่พูดดีกว่าพูดก้วนไปวนมาไม่มีทางออก ผมสิ้นคิดจริงๆ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:11:43

ความคิดเห็นที่ 25 ทรงพระเจริญ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:20:58

ความคิดเห็นที่ 26 ทดสอบ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:21:10

ความคิดเห็นที่ 27 ช่วงนี้รู้ว่าบรรยากาศเครียด เรามายิ้มให้กันดีกว่านะ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:29:03

ความคิดเห็นที่ 28 ยิ้มสยาม จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:31:26

ความคิดเห็นที่ 29 รอยยิ้มเด็กๆ อนาคตของชาติทั้งนั้น จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:32:18

ความคิดเห็นที่ 30 ต่อไป จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:32:47

ความคิดเห็นที่ 31 ลุง! ยิ้มได้ใจผมจริงๆ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:34:49

ความคิดเห็นที่ 32 อ่าน คห 7 แล้วเศร้าใจ ถ้าต้องการ สมานฉันท์ สิ่งแรกที่ควรทำ คือเลิกออกแถลงป้ายสีได้แล้ว จริง ๆ ผมมีรูปที่เป็นหลักฐานให้กับ คห 7 อยู่หลายชุด แต่ตอนนี้คงต้องเก็บไว้ก่อน รอยกเลิก พรก แล้วจะเอามาให้ดู จากคุณ : Livestock เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:37:25

ความคิดเห็นที่ 33 ในช่วงภาวะปกติ เวลาบ้านเมืองเกิดภัยใด ณ ที่แห่งใดในประเทศไทย เราจะเห็นคนไทยจะไม่ทิ้งกัน จะคอยช่วยเหลือกัน ตามแต่สถานภาพของแต่ละคน ช่วงนี้ ผมเข้าใจว่าหลายๆท่านอาจจะไม่ชอบทหาร แต่เมื่อคนไทยมีภัย เราจะเห็นว่า ทหารก็จะเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่จะคอยให้ความช่วยเหลือคนไทยเราเสมอมา ผมพอหาภาพได้บ้าง แต่คงไม่มากนะครับ ถ้าใครมีภาพดีๆก็นำมาโพสก็จะดีนะครับ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:01:03

ความคิดเห็นที่ 34 ต่อไป จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:01:25

ความคิดเห็นที่ 35 อีกครับ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:02:02

ความคิดเห็นที่ 36 และต่อไป จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:02:36

ความคิดเห็นที่ 37 มีอีก จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:03:59

ความคิดเห็นที่ 38 ต่ออีกหน่อย แต่ชอบรูปนี้จัง จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:04:49

ความคิดเห็นที่ 39 อีกนิด จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:05:17

ความคิดเห็นที่ 40 อีกหน่อย จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:05:50

ความคิดเห็นที่ 41 เอาอีกหน่อยละกัน จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:06:34

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่เฉพาะแต่คนไทยนะครับ หน่วยงานภาคเอกชน พ่อค้า ข้าราชการ ประชาชนทั่วไป ก็มีน้ำใจต่อกัน เพราะเราคือคนไทย CTW ที่ถูกเผาไป บางท่านอาจจะรู้สึกสะใจที่ห้างถูกเผา แต่จริงๆแล้ว บริษัท CPN ก็มีโครงการตอบแทนสังคมเช่นกัน ลองไปดูกันสักนิดนะครับ กิจกรรมเพื่อสาธารณกุศลต่างๆ บริจาคคอมพิวเตอร์และหนังสือให้กับเรือนจำอำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:16:28

ความคิดเห็นที่ 43 จัดให้มี การรับเช็คช่วยชาติขึ้นที่อาคารดิออฟิศเศสแอท เซ็นทรัลเวิลด์ขึ้น โดยมีทีม CPN เมื่อวันที่ 26 -27 มีนาคม ที่ผ่านมาได้จัดให้มี การรับเช็คช่วยชาติขึ้นที่อาคารดิออฟิศเศสแอท เซ็นทรัลเวิลด์ขึ้น โดยมีทีม CPN อาสานำพัด ไปแจกให้กับประชาชน พร้อมทั้งนำน้ำดื่มไป ตั้งบริการให้กับประชาชนทั่วไปได้ดื่มคลายร้อน จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:18:12

ความคิดเห็นที่ 44 รูปต่อมา จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:18:34

ความคิดเห็นที่ 45 มอบสถานีอนามัยตำบลบางตลาด คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ และบริหารโครงการก่อสร้าง พร้อมด้วย ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) และผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ ให้เกียรติร่วมมอบอาคารสถานีอนามัยตำบลบางตลาด เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ ด้านการรักษาพยาบาลแก่ชุมชนตำบลบางตลาด และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีคุณมนตรี ตั้งเจริญถาวร รองนายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด เป็นผู้รับมอบ ณ สถานีอนามัย ตำบลบางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวานนี้ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:19:52

ความคิดเห็นที่ 46 รายการ 9 ร่วมใจคนไทยที่คิดถึง Date 21 ก.ค 2552 Venue  สถานี ช่อง 9   Detail ด้วยรายการ 9 ร่วมใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ออกอากาศทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ซึ่งได้ดำเนินการจัดรายการมาครบรอบ 1 ปีเต็มจึงจัดกิจกรรมมอบของขวัญ และ เลี้ยงอาหารให้กับเด็กๆจากมูลนิธิบ้านโฮมฮัก จ.ยโสธร/กลุ่มมูลนิธิแสงเทียน/เด็กคุณครูบุญชู โดยทางบริษัทฯได้สับสนุนมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับเด็กจากมูลนิธิต่างๆด้วยรายการ 9 ร่วมใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ออกอากาศทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ซึ่งได้ดำเนินการจัดรายการมาครบรอบ 1 ปีเต็มจึงจัดกิจกรรมมอบของขวัญ และ เลี้ยงอาหารให้กับเด็กๆจากมูลนิธิบ้านโฮมฮัก จ.ยโสธร/กลุ่มมูลนิธิแสงเทียน/เด็กคุณครูบุญชู โดยทางบริษัทฯได้สับสนุนมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับเด็กจากมูลนิธิต่างๆ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:20:48

ความคิดเห็นที่ 47 มอบรถเข็นนิทานสำหรับเด็ก Date 24 ก.ค 2552 Venue  โรงพยาบาลเด็ก   Detail บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมูลนิธิเด็ก, สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ และเครือข่ายโรงพยาบาลมีสุข มูลนิธิกระจกเงา จัดทำโครงการ “รถเข็นนิทานสานความห่วงใย” เพื่อจัดหารถเข็นนิทาน มอบให้แก่หอผู้ป่วยเด็กในสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ และโรงพยาบาลในเครือข่ายโรงพยาบาลมีสุข คันแรกของประเทศไทย ที่บริเวณชั้น 1 โรงพยาบาลเด็ก จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:21:35

ความคิดเห็นที่ 48 คห.7 ได้อ่านแล้วรีบเซบเก็บไว้และยังเคยเห็นป้ายผ้าของผู้ชุมนุม เขียนต่อว่ารบ. ว่า.....เรามาขอหีบบัตร แต่ท่านให้หีบศพ......แล้วรบ.ชุดนี้ยังมีความชอบธรรมที่จะปกครองประเทศอีกหรือ จากคุณ : กินลม เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:21:53

ความคิดเห็นที่ 49 โครงการ “สานใจสร้างไออุ่น” สู้อากาศหนาว ให้พี่น้องชาว อ.แม่แจ่ม  จ.เชียงใหม่ บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด   มุ่งมั่นการคืนกำไรสู่ชุมชน  และ  ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนซึ่งได้ตั้งสาขาอยู่  ได้จัดโครงการ “สานใจสร้างไออุ่น”    นำเครื่องห่มกันหนาวไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนในถิ่นทุรกันดารในจังหวัดเชียงใหม่  และจังหวัดใกล้เคียงที่ประสบความเดือดร้อนจากอากาศหนาวเย็นที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ล่าสุด คุณมุกดา จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนสกุล    คุณรัตนา  นรพัลลภ   คุณวัฒน์  จิราธิวัฒน์   คุณนิพนธ์  วงษ์ตระหง่าน  ได้นำทีมผู้บริหารและพนักงาน  บริษัท  กลุ่มเซ็นทรัล  จำกัด ซึ่งประกอบด้วย    บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา  จำกัด (มหาชน) หรือ CPN   โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา  บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป  จำกัด    และ บริษัท เซ็นทรัลเรสเตอรองกรุ๊ป  จำกัด  บริษัท  เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด    บริษัท เซ็นทรัลดีพาร์ทเม้น สโตร์ จำกัด  และ  บีทูเอส  เดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่สานต่อโครงการสานใจสร้างไออุ่นในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 13    ได้จัดผ้าห่มและอุปกรณ์เครื่องเขียน,ยาสีฟันและแปรงสีฟันพร้อมด้วยขนมต่างๆมอบให้จังหวัดเชียงใหม่  โดยท่านวิบูลย์ สงวนพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รับมอบเพื่อนำไปมอบแก่ผู้ประสบภัยหนาวต่อไป จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:23:53

ความคิดเห็นที่ 50 บริจาคสร้างโรงพยาบาล 1 ล้านบาท   กอบชัย จิราธิวัฒน์ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เทิดไท้องค์ราชันย์ โรงพยาบาลบางละมุง โดยมี ประชา เตรัตน์ (ที่ 3 จากขวา) ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายแพทย์ประสิทธิ์ จิตติวัฒนพงศ์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางละมุง เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลบางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อเร็วๆ นี้ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:24:48

ความคิดเห็นที่ 51 ที่โพสรูปของ ทหาร หรือ CPN ส่วนตัวผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับทั้ง 2 นะครับ แค่เพียงอยากจะแสดงให้เห็นว่า จริงๆแล้ว ทุกๆภาคส่วนในสังคมไทย ก็คงมีความคิดคล้ายๆกัน กับเรื่องการช่วยเหลือคนไทย สังคมไทย ตามแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย คนไทยไม่เคยทิ้งกันนะครับ ผมว่าสังคมตระหนัก และเข้าใจถึงความลำบาก ความยากจน ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องคนไทยไม่ว่าจะเสื้อสีอะไร เราคนไทยก็ควรช่วยกันหยิบยื่นโอกาส ให้กับคนไทยด้วยกัน เลิกซ้ำเติมกันดีกว่า จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:32:12

ความคิดเห็นที่ 52 ^ 7 คนบ้านนอกอย่างเรา อ่านแล้วปวดร้าวไปถึงจิตวิญญาณ ... แต่ก็ไม่น่าไปเผาบ้านเมืองอย่างที่เค้าว่า น่าจะปล่อยให้เค้ายิงทิ้งให้หนำใจ เหลือกันเท่าไหร่ ค่อยแบกศพพี่น้องกลับบ้านนอก...เศร้า จากคุณ : ฝากชีวิตไว้กับดาว เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:46:24

ความคิดเห็นที่ 53 ความคิดเห็นที่ 52     ^ เห็นด้วยครับว่าการกระทำแบบนั้นมันไม่ดีเอาเสียเลย แต่ในขณะนั้น หลายคนคงต้องทำอะไรก็ได้ทุกวิถีทาง เพื่อเอาชีวิตรอด จากคุณ : Livestock เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:59:10

ความคิดเห็นที่ 54 เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นพวกขี้เหลือง กับแมงสาป สนับสนุนให้ฆ่ามัน ๆ อยู่เลย จากคุณ : เฉกตะวัน เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 12:05:33

ความคิดเห็นที่ 55 ทักษิณกลับมาจงรักภักดี ต่อพ่ออย่างแท้จริงเมื่อไหร่ คนไทยก็จะรักกันเหมือนเดิม  คนไทยหนะรักกันอยู่แล้ว แต่มีคนมาเอาเงินใส่มือแล้วชักจูงจน เข้าใจอะไรผิดไปหมดตะหาก ทำปลายเหตุไม่ได้หรอก ต้องแก้ที่ต้นเหตุ จากคุณ : tam220t เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 12:44:02

ความคิดเห็นที่ 56 อะไรก็โทษแต่ทักษิณ ถ้าบ้านเมืองมันไม่สองมาตราฐานแบบนี้พวกเค้าจะเอาข้ออ้างอะไรมาเดินขบวน จากคุณ : กินลม เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 13:25:13

ความคิดเห็นที่ 57 ผมมีโอกาสได้เล่นเกมส์หนึ่ง เมื่อสัก 3 ปีก่อน เกมส์ที่ว่าก็คือให้คนทั้งหมดที่เข้าเล่นเกมส์นั่งล้อมกันเป็นวงกลม หลังจากนั้น อาจารย์ก็ให้คนแรกสุดอ่านข้อความในกระดาษ(ข้อความก็ไม่สั้นและไม่ยาว) เมื่อคนแรกอ่านเสร็จ ก็ให้กระซิบข้อความที่อ่านต่อไปยังคนที่สอง แล้วคนที่สองก็กระซิบต่อไปเรื่อยๆ ทุกๆคน จนถึงคนสุดท้าย หลังจากนั้น ก็ให้คนสุดท้ายออกมาพูดถึงข้อความที่ได้ฟังมา ซึ่งก็เป็นไปตามที่คิดไว้ครับ ว่าข้อความที่คนสุดท้ายฟังและออกมาพูดต้องไม่ตรงกับข้อความแรกเริ่มอย่างแน่นอน แต่จะพิดเพี้ยนไปมากหรือเปล่าเท่านั้นเอง เชื่อไหมครับ ข้อความของคนสุดท้าย แทบจะผิดเพี้ยนและแตกต่างในรายละเอียด ข้อเท็จจริงอย่างมาก ประมาณว่าคนสุดท้ายฟังแล้ว ยังงงๆไม่รู้จะอธิบายหรือพูดต่อยังไง เพราะความหมายมันก็ดูเพี้ยนๆและแปลกๆ จากการเล่นเกมส์นี้ ทำให้เราเข้าใจได้ว่า การบอกต่อของข่าวสารจากคนนึงไปสู่อีกคนนึง บอกต่อๆกันไปเรื่อยๆ ยิ่งผ่านคนมากขึ้นเท่าไหร่ ข้อเท็จจริงย่อมต้องผิดเพี้ยน และยิ่งมีการใส่หรือเพิ่มข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมลงไปอีกตามความเชื่อของตัวเอง สุดท้ายข้อเท็จจริงของข้อมูลเดิมมันก็จะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จริงๆก็ได้ ซึ่งผมเชื่อว่าลักษณะอย่างนี้ มันเป็น nature ของการส่งต่อข่าวสาร คงจะไปแก้ไขไม่ได้ แต่เราก็ควรจะเข้าใจและคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยก็จะดีมากนะครับ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:04:26

ความคิดเห็นที่ 58 มีบทความดี จาก อาจารย์ท่านนึงมาฝาก เหมาะสมกับคนในสังคมปัจจุบันของไทยในขณะนี้ หากเราจะร่วมสร้างความรัก ความปราถนาดีต่อกันกับคนในสังคมทุกชนชั้น สังคม :  ความรัก  ความรู้  และศาสนา อ.สยาม ราชวัตร สังคมเป็นเรื่องของส่วนรวมที่มีผลกระทบต่อทุกคนไม่ว่าจะมากหรือน้อยแล้วแต่ความเกี่ยวข้อง   สังคมที่เป็นอุดมคติคือสังคมที่สงบสุข    ความสงบสุขในที่นี้หมายถึงมีการดำเนินชีวิตที่ปกติสุข  มีความยุติธรรม  เอื้ออาทรเอื้อเฟื้อต่อกันและกัน   ภาพเหล่านี้มักจะพูดกันว่ามีปรากฏอยู่ในสังคมอดีต    ถามว่า  ทำไมสังคมในปัจจุบันจึงเป็นสังคมที่ไม่พึงประสงค์ ? มีปัญหาสังคมมากมาย  ที่เราทุกคนในสังคมได้ประสบพบเจอกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการก่อความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม  ปัญหาความไม่ยุติธรรม   ปัญหาโจรผู้ร้ายชุกชุม  ปัญหาเศรษฐกิจ   ปัญหายาเสพติด  ปัญหามลพิษมลภาวะ  ปัญหาการเมือง   ปัญหาเยาวชน  ปัญหาสื่อลามกอนาจาร  ปัญหาทางเพศ อีกมากมายหลายปัญหา  อะไรคือต้นตอของปัญหาเหล่านี้ ?   คงหนีไม่พ้นที่ต้องตอบว่า  คนนั่นแหละต้นตอของปัญหาทั้งหลาย  เริ่มจากตัวบุคคลที่ต่างจิตต่างใจกัน จึงมีการกระทำที่แตกต่างกันไป  เมื่อคิดดีก็ทำดี เมื่อคิดชั่วก็ทำชั่ว   ดูเหมือนความคิดชั่วทำชั่วจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  ในสังคม   สังคมจึงเต็มไปด้วยปัญหามากมายที่ต่างบุคคลสร้างขึ้นจนกลายเป็นปัญหาประจำของสังคมปัจจุบัน จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:25:33

ความคิดเห็นที่ 59 การดำรงชีวิตให้เป็นสุขในสังคมปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบากมากขึ้น  ปัญหาเรื่องปากเรื่องท้องคือเรื่องเศรษฐกิจเป็นปัญหาพื้นฐานของครอบครัว ค่าใช้จ่ายค่าครองชีพก็แพงขึ้น    คนจนในสังคมเพิ่มมากขึ้น  คนรวยก็ยิ่งเอาเปรียบคนจนในรูปแบบต่างๆ   เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมากขึ้น ความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมมากขึ้น  มีคนไม่กี่ตระกูลที่เข้าครอบครองอำนาจทางเศรษฐกิจและทางการเมือง เข้าไปสัมปทานกิจการของรัฐสร้างความร่ำรวยให้กับตนเอง   กำหนดราคาสินค้าที่เกินความเป็นจริงที่ควรจะเป็น สร้างความร่ำรวยให้กับตนเอง  แต่กลับสร้างภาระให้กับสังคมโดยเฉพาะคนจน คนปานกลาง ที่เป็นคนส่วนมากของสังคม   นับวันความแตกต่างความเหลื่อมล้ำทางสังคมเหล่านี้จะเพิ่มมากขึ้น      และความแตกต่างนี้ก็เป็นตัวกำหนดบทบาทในการเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสต่างๆ    คนที่ฐานะทางสังคมมีกำลังเงินมากกว่า ก็จะได้เข้าถึงการศึกษาความรู้ก่อนกลุ่มอื่นเสมอ ได้รับการเรียนรู้ระดับสูงขึ้นไปตามกระแสโลกวัตถุนิยม   เมื่อคนเหล่านั้นมีการศึกษาก็มีความรู้  ใช้ความรู้เข้าถึงทรัพยากรของประเทศได้มากกว่าคนที่ไม่มีการศึกษา   ย่อมมีโอกาสและได้เปรียบคนอื่นที่จะเข้าถึงผลประโยชน์ต่างๆ ในสังคม จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:26:33

ความคิดเห็นที่ 60 จึงเกิดมีคำถามขึ้นมาว่า ทำไมขณะที่ปัจจุบันเรามีแหล่งการศึกษามากขึ้นถ้านับเฉพาะมหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็มีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศประมาณ ๑๐๐ กว่าแห่ง คนได้รับการศึกษามากขึ้น แต่สังคมกลับมีปัญหา เป็นเพราะอะไรหรือ? ทำไมคนจึงใช้ความรู้เอาเปรียบคนอื่น  การศึกษาหรือความรู้ไม่ได้สร้างคนให้เป็นคนดีหรือ ?     รวยแล้วไม่โกงจริงหรือ ? โดยเฉพาะปัญหาสังคมที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือปัญหาเรื่องการคดโกงคอรัปชั่น ตั้งแต่ระดับการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศแทนที่จะเป็นตัวอย่างความซื่อสัตย์สุจริต เวลาประกาศนโยบายหรือก่อนเข้าบริหารมักจะพูดเสมอว่า จะบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองต่อสังคม  ปัญหาการทำรัฐประหารของทหารก็อาศัยเหตุผลเดียวคือการคอรัปชั่นของนักการเมืองทั้งหลายในการเข้ามาทำการรัฐประหารแต่ละครั้ง   เหล่านี้คือผลสะท้อนของการศึกษากับตัวบุคคล จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:27:16

ความคิดเห็นที่ 61 ความรู้หรือการศึกษา ในพระพุทธศาสนาจัดไว้ ๒ ประเภท  (๑) โลกียปัญญา ความรู้ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิต การเลี้ยงชีพในชีวิตประจำวันให้สะดวกสบาย เป็นความรู้ที่ยังแฝงด้วยกิเลสตัณหาความเห็นแก่ตัวการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นอยู่   (๒) โลกุตตรปัญญา  ความรู้ที่เกี่ยวกับการขัดเกลาตนเอง ให้สูงขึ้น  ขจัดความเห็นแก่ตัว ลดละกิเลศตัณหา เพิ่มความเมตตาปรารถนาดีต่อผู้อื่น เป็นความรู้ที่พึงประสงค์ เป็นเรื่องของคุณธรรมประจำจิตใจ         การศึกษาในสังคมปัจจุบันมักเน้นแต่เพียงโลกียปัญญา ความรู้ที่เลี้ยงชีวิตการทำมาหากินการประกอบอาชีพจนเกินไป และละเลยที่จะเสริมสร้างความรู้ประเภทโลกุตตรปัญญา ซึ่งเป็นเรื่องของคุณธรรมประจำใจ  ให้ความสำคัญเรื่อง “มูลค่า”  มากกว่า “คุณค่า”  การจัดหลักสูตรในระดับการศึกษาต่างๆ  ก็มักละเลยที่จะจัดกระบวนวิชาที่เสริมสร้างเรื่องคุณค่าไว้ในหลักสูตรโดยให้เหตุผลว่าหลักสูตรจะมีโครงสร้างหน่วยกิตมากเกินไป จะไปกระทบกับวิชาหลักๆ ที่จำเป็นกับวิชาชีพนั้นๆ   แม้กระทั่งในในระดับมหาวิทยาลัยก็เช่นเดียวกันก็พยายามลดตัดทอนกระบวนวิชาที่เกี่ยวกับปรัชญาและศาสนาให้น้อยลง หรือก็จัดเป็นกระบวนวิชาที่รวมเอาทั้งปรัชญาและศาสนามาไว้ในภายในชื่อวิชาเดียวกัน ด้วยให้เหตุผลว่าประหยัดงบประมาณ  พยายามตัดวิชาเหล่านี้ให้น้อยลงในหลักสูตร   ก็น่าคิดเหมือนกันว่า  ในทางปฏิบัติกลับเป็นคนละเรื่องกับนโยบายของประเทศที่กำหนดว่า  การศึกษาต้องเสริมสร้างความรู้คู่คุณธรรม  ต้องให้ผู้เรียนเป็นคนดีคนเก่งมีความสุข  ตรงกันข้ามกับในต่างประเทศซึ่งมหาวิทยาลัยต่างๆ เขาให้ความสำคัญกับวิชาที่ถือว่าเป็นแม่บทหรือเป็นหลักของวิชาทั้งหลาย คือ  ปรัชญา  คณิตศาสตร์ และศาสนา  เพราะวิชาเหล่านี้โดยเฉพาะปรัชญาและคณิตศาสตร์สอนให้คนคิดเป็นทำเป็น  เสริมสร้างให้เป็นคนมีเหตุผล มีความคิดที่ลึกซึ้ง และในขณะเดียวกันก็มีวิชาศาสนาที่จะขัดเกลาจิตใจให้เป็นคนมีเมตตามีคุณธรรมประจำใจ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:27:36

ความคิดเห็นที่ 62 การมีการศึกษาและมีความรู้นั่นก็คือการได้โอกาสในสังคม นับเป็นสิ่งที่ดีถ้าจะมองว่าเป็นความเพียรพยายามศึกษาหาความรู้ของเขา  และใช้โอกาสเหล่านี้ที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้กับตนเองและเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม      ท่านพุทธทาสเปรียบการศึกษาของเมืองไทยว่า “การศึกษาสุนัขหางด้วน”   สุนัขถ้ามันหางด้วนเสียแล้วก็ดูไม่งาม   ชีวิตที่ดีงามก็คือชีวิตที่มีการศึกษาชนิดที่ไม่เห็นแก่ตัว     การดำเนินชีวิตของบุคคลที่ได้โอกาสในสังคมแต่กลับใช้โอกาสเหล่านี้ที่จะแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง สร้างความได้เปรียบกว่าผู้อื่นในสังคม  เขากำลัง “หลงโอกาส”     คือใช้โอกาสในทางที่ผิดแทนที่จะใช้โอกาสสร้างสิ่งดีงาม      พระพุทธศาสนามองการเกิดมาเป็นมนุษย์ว่าเป็นโอกาสที่วิเศษสุด  แม้กระทั่งหมู่เทวดาที่สูงกว่ามนุษย์ก็ยังอิจฉาการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะการได้เกิดเป็นมนุษย์มีโอกาสได้บรรลุมรรคผลนิพพานได้เร็ว มีศักยภาพที่จะพัฒนาตนเองได้เร็วกว่าสัตว์ประเภทอื่น   ดังที่พระพุทธเจ้าได้จัดสิ่งที่ได้ยากยิ่งไว้ ๔ ประเภทคือ  (๑) การได้เกิดมาเป็นมนุษย์   (๒) การดำเนินชีวิตให้อยู่รอด   (๓) การได้ฟังสัทธรรม  (๔)  การเกิดอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า    จะเห็นได้ว่า พระพุทธเจ้าทรงให้ความสำคัญกับการได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นสิ่งที่ได้ยากยิ่งอันดับที่หนึ่ง โดยทรงเล็งเห็นว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาตนเองให้สูงสุดได้  ในวัฏสงสารที่ยาวนานนี้การจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่งแสนยากยิ่ง   ฉะนั้นเราทั้งหลายที่ได้มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์แล้ว  ถือว่าได้โอกาสอันวิเศษ แถมยังได้พบพระพุทธศาสนาด้วยอีกถือว่ามีโชคสองชั้นทีเดียว     บุคคลที่ได้โอกาสเกิดเป็นมนุษย์ที่ครบถ้วนแล้ว และมีโอกาสในสังคมกลับใช้โอกาสเหล่านี้เอาเปรียบผู้อื่นเห็นแก่ตัวกอบโกยผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง  เขาเหล่านั้นกำลัง “หลงโอกาส” จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:28:10

ความคิดเห็นที่ 63 การหลงโอกาสในชีวิต เขาเหล่านั้นอาจจะมีความคิดในเชิงวัตถุนิยมว่า “ชีวิตนี้มีชาติเดียวเท่านั้น ตายแล้วขาดสูญ เมื่อมีชีวิตก็จงหาความสุขให้มากที่สุด”  พระพุทธศาสนาถือว่าความคิดประเภทนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิความเห็นผิดที่เป็นอันตรายยิ่ง เป็นอันตรายต่อระบบศีลธรรมความดีงามของสังคม  ทุกคนมุ่งหวังแต่ประโยชน์ส่วนตนเอง เอาเปรียบผู้อื่น ไม่มีความเอื้อเฟื้อเอื้ออาทรต่อกัน    จะปฏิบัติอย่างไรที่จะใช้โอกาสที่เรามีอยู่แล้วหรือความรู้ความสามารถและความเก่งของเราให้เป็นไปในทางที่สร้างสรรค์จรรโลงสังคม    ในทางพระพุทธศาสนาเน้นย้ำเรื่องความไม่ประมาทในชีวิตเมื่อได้ชีวิตแล้วก็จงอย่าทอดทิ้งโอกาสนี้ไป จงใช้โอกาสที่ได้ชีวิตเพื่อจะทำความดีงามให้เกิดขึ้น ยากนักที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์สักครั้งหนึ่ง  เมื่อมีความรู้ความสามารถหรือได้โอกาสทางสังคมแล้วควรจะกำกับความรู้ด้วยความรัก   ความรักที่ปรารถนาดีต่อผู้อื่น  เอาใจเขามาใส่ใจเรา  คุณธรรมนี้ก็คือ เมตตาและทาน    รักและการให้        เมื่อใส่ความรักในหัวใจแล้ว ก็พร้อมที่จะให้   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้พระบรมราโชวาทครั้งหนึ่งว่า “ยิ่งให้ยิ่งได้”  “ขาดทุนคือกำไร”  เป็นดำรัสที่ลึกซึ้งยิ่งนัก แฝงไปด้วยปรัชญาคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่  นั่นก็คือพระองค์ทรงเน้นให้ประชาชนมองเห็นคุณค่าของการให้ การเสียสละ การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น   ปัจจุบันสังคมกำลังขาดแคลนในเรื่องการให้ การเสียสละเพื่อส่วนรวม แต่ในทางตรงกันข้ามสังคมกำลังเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น การเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ไม่มีความปรารถนาต่อกัน   เมื่อสังคมอยู่ไม่ได้ เราที่เป็นปัจเจกก็อยู่ไม่ได้  จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาสังคมเพื่อรักษาคนส่วนรวมให้อยู่รอดได้     สังคมไทยในอดีตได้เน้นย้ำเรื่องการให้การเสียสละโดดเด่นมาก ด้วยการนำเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติในชีวิตจริง เช่น ชาดกเรื่องพระเวสสันดร เป็นรูปแบบแห่งวิถีชาวพุทธ รูปแบบแห่งสังคมที่พึงประสงค์  ภูมิปัญญานักปราชญ์ไทยในอดีตได้นำเอาชาดกนี้มาเป็นประเพณีทางพระพุทธศาสนาหล่อหลอมให้ชาวพุทธไทยในอดีตมีความเสียสละแก่ผู้อื่นบำเพ็ญทานบารมีสร้างสมบุญกุศล  การปรารภชาดกพระเวสสันดรจึงเป็นรูปแบบวิถีชาวพุทธที่เน้นย้ำเรื่องการให้เพื่อให้สังคมส่วนรวมอยู่รอดและเกิดสันติสุข จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:28:33

ความคิดเห็นที่ 64 สังคมไทยปัจจุบันมีความรู้ประเภทใด  คนที่มีความรู้นั้นใช้ความรู้ประเภทใดอยู่ ก็คงจะพอมองออกว่า เรากำลังโน้มเอียงไปทางโลกียปัญญามากเกินหรือไม่  จริงอยู่เราไม่ปฏิเสธเรื่องความรู้การทำมาหากินเรื่องของวิชาชีพ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี อุตสาหกรรมต่างๆ เป็นเรื่องจำเป็นพื้นฐานเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ แต่หากเน้นย้ำเรื่องเหล่านี้เกินไปก็จะเป็นอันตรายและกลายเป็นวัตถุนิยมแบบสุดโต่ง ประชาชนเน้นย้ำแต่เรื่องความรวยโดยไม่สนใจคนอื่น มุ่งแต่แสวงกำไรบนการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เข้าข่ายส่งเสริมตัวโลภะ โทสะ และโมหะให้มากขึ้น    จึงเกิดโจทย์คำถามว่า เราควรจะสร้างความรู้ประเภทใดในสังคม?  การเลือกความรู้ทั้งสองประเภทเป็นสิ่งที่ต้องควบคู่ไปด้วยกัน  นั่นก็คือเป็นสังคมแห่งความรู้และความรัก  ความรู้เป็นเรื่องของปัญญา ความรักเป็นเรื่องของเมตตา  ทำอย่างไรการจัดการการศึกษาในสังคมจะให้มีทั้งความรู้และความรัก  เพราะทั้งสองประการนี้เป็นพลังที่จะขับเคลื่อนให้เกิดสังคมที่พึงประสงค์และสันติสุขอยู่รอดได้ทุกภาคส่วน จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:29:03

ความคิดเห็นที่ 65 ดูเหมือนการสร้างองค์ความรู้ทางโลกียปัญญาจะไม่มีปัญหา สถาบันการศึกษาทั้งหลายต่างมีความเข้มแข็งด้านนี้กันมาก แต่ในด้านการสร้างความรู้ในด้านโลกุตตรปัญญาที่เป็นเรื่องของความรักความเมตตาการมีคุณธรรมโดยเฉพาะเรื่องการให้การเสียสละปรารถนาดีต่อผู้อื่นจะค่อนข้างอ่อนแอเหลือเกินในกระบวนการเรียนการสอนหรือการสร้างให้มีขึ้นในสังคม   รัฐธรรมนูญไทยพุทธศักราชปี ๒๕๔๐ ก็เน้นย้ำการจัดการศึกษาให้สังคมมีคนดีคนเก่งและมีความสุข เพื่อต้องการจะให้ความรู้ด้านโลกุตตรปัญญาเกิดมีขึ้นในสังคม แต่ก็เป็นเพียงนโยบายที่ไม่ค่อยมีการสนใจเท่าใดนัก  เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ มาช่วยกันเถอะสร้างความสมดุลย์แห่งความรู้ทั้งสองประเภทให้เดินไปด้วยกัน  ให้คนในสังคมมีทั้งความรู้และความรัก เป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบมีทั้งความรู้และมีทั้งความรักปรารถนาดีต่อผู้อื่นเสียสละเพื่อส่วนรวม     อะไรจะเป็นตัวสร้างองค์ความรู้ด้านโลกียปัญญาให้มีขึ้นได้  ศาสนาทั้งหลายจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ในแต่ละศาสนาทั้งหลายล้วนมุ่งสร้างให้คนเป็นมีจิตใจที่เป็นเมตตาอบรมให้มนุษย์เป็นผู้เสียสละปรารถนาดีต่อผู้อื่น จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:29:28

ความคิดเห็นที่ 66 การจะสร้างสังคมแห่งความรักและความรู้ให้เกิดขึ้นเป็นจริงได้  เราต้องตระหนักว่าชีวิตมนุษย์นั้นประกอบด้วยสองส่วนสำคัญคือร่างกายและจิตใจ     ทั้งสองส่วนต้องไปด้วยกัน กายต้องสมบูรณ์เป็นเรื่องของเศรษฐกิจการทำมาหากินมีปัจจัยสี่เพียงพอมีความรู้ที่จะเลี้ยงชีพได้ และในขณะเดียวกันจิตใจก็ต้องมีความรักความเมตตาที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้   ฉะนั้นต้องผสาน “ศาสตร์” กับ “ศาสนา” ให้เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  หากสังคมตะหนักเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้วทุกองค์กรต่างมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ ก็จะเป็นการเริ่มจุดประกายคุณค่าของชีวิต  ทุกคนในสังคมก็จะเข้าใจชีวิตของตนเองว่าเป็นอย่างไร? อะไรคือคุณค่าที่แท้จริง เขาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ จำเป็นต้องมีคนอื่นอยู่ร่วมด้วยเสมอ  จงพยายามคิดดี ทำดี และพูดดี และเขาเหล่านั้นก็จะพบแต่ความสุขเพราะในโลกนี้ ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนกับเราทั้งนั้น  เมื่อเราได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว จงดีใจว่าเราได้รับโอกาสดีแล้ว  จงใช้โอกาสนี้ที่สร้างความดีงาม รักปรารถนาดีต่อผู้อื่น  แล้วเขาเหล่านั้นจะพบว่า ชีวิตนี้มีคุณค่ายิ่งนัก จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:29:55

ความคิดเห็นที่ 67 ผู้เขียนในฐานะที่เป็นผู้ร่วมสอนท่านหนึ่งประจำกระบวนวิชา “ศิลปะแห่งการเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่า”  รู้สึกดีใจที่คณาจารย์ทั้งหลายในอดีตได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นเรื่องความรู้คู่คุณธรรมที่จะเสริมสร้างให้เกิดแก่ลูกศิษย์นักศึกษาทั้งหลายระดับมหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัดทำกระบวนวิชาดังกล่าวนี้ให้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  โดยตั้งวัตถุประสงค์ให้นักศึกษารู้และเข้าใจความหมายของความเป็นมนุษย์ที่เหมาะสมสร้างสรรค์ รู้วิธีการที่จะนำไปสู่เป้าของการเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่า ประยุกต์เป็นแนวทางนำไปปรับใช้เพื่อให้ชีวิตมีคุณค่ามากขึ้น เข้าใจตนเองทั้งในส่วนที่เป็นร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ อันจะก่อให้เกิดการดำรงชีวิตที่มีความสุข ความรัก ความสงบ และความคิดสร้างสรรค์ต่อไป  จากวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ ถือเป็นความพยายามหนึ่งที่จะประสานระหว่างศาสตร์กับศาสนาให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ให้ความรู้ไปสุดโต่งข้างใดข้างหนึ่ง ให้นักศึกษาได้ตระหนักและเข้าใจถึงการจัดการชีวิตตนเองที่ถูกต้อง นั่นก็คือ ชีวิตที่มีคุณค่าคือการสร้างทั้งความรักและความรู้เป็นหนึ่งเดียวกัน  แล้วในที่สุดสังคมก็จะเป็นสังคมแห่งความรักความรู้และศาสนา เป็นสังคมที่น่าอยู่ที่ทุกคนอยากอยู่และมีความสุขที่ได้อยู่ อ.สยาม ราชวัตร อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญาและศาสนา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ///////////////////////////////////////////////////////////////////////// จบแล้วครับ ขอบคุณสำหรับบทความดี ที่คอยช่วยเตือนสติ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 14:31:29

ความคิดเห็นที่ 68 ผมขออนุญาตอ้างอิงกระทู้นี้ของคุณrider mast ในกระทู้http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9283351/I9283351.html จากคุณ : ชัย สวนดอก เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 20:15:16

ความคิดเห็นที่ 69 http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=524&contentID=67365 วันนี้ได้อ่านข่าวนี้ จึงเอามาแชร์ครับ ประเด็นน่าจะอยู่ที่ว่า การจะแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย คงต้องประกอบด้วยทั้ง 2 ส่วน คือ รัฐ และ ประชาชน/ชุมชน เราจะรอ ความช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว หรือพึ่งพาตนเอง โดยรัฐ ไม่ให้ความสนใจ หรือใส่ใจที่จะช่วยเหลือเลย ก็คงไม่ได้ จากคุณ : rider_mask เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 13:20:47

ความคิดเห็นที่ 70 นางชวนพร ชัยมงคล  อายุ 55 ปี จ.เชียงใหม่ ก็ยอมเล่าถึงนาทีหนีตายเข้าไปอาศัยในวัดปทุมวนาราม ท่ามกลางวงล้อมของหมอกควันและเพลิงและกระสุนปืนที่ดังอย่างต่อเนื่องพร้อมกับผู้ชุมนุมหลายพันคนและอีก 6 ศพถูกยิงเสียชีวิตห่อด้วยเสื่อเรียงอยู่ในวัด  ว่า จะออกมาก็ออกไม่ได้เพราะว่าหลายคนที่ออกมาเพราะห่วงข้าวของเครื่องใช้ก็ถูกยิง มันไม่เหมือนประเทศไทย ที่มีการเอื้อเฟื้อกัน ทุกคนเสียใจมากไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เราเรียกร้องแค่ให้ยุบสภาเท่านั้นเองทำไมต้องมายิงเราด้วย (พร้อมกับสะอื้น)  ทุกวันนี้ไม่มีความยุติธรรมสำหรับคนจนเลย คนจนไม่มีค่า ไม่มีราคา คนจนอย่างเราไม่ได้ขออะไรมากมาย ขอให้มันถูกต้อง อะไรที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้มันจะสงบ จึงขอให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตลอด จะเป็นใครก็ได้ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างยุติธรรม   "ทุกคนกลับบ้านด้วยความเจ็บใจเพราะว่าญาติพี่น้องร่วมรบถูกยิง ถูกลากศพไปต่อหน้าต่อตา ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมาเจอแบบนี้ อยากให้บ้านเมืองได้ความยุติธรรมคืนมา มีความถูกต้อง มีกฎหมายเท่าเทียมกัน ไม่ใช่แบ่งพรรคแบ่งพวก คนรวย คนจน มีค่าเท่าเทียมกัน ต้องให้สิทธิการเป็นมนุษย์เหมือนกัน เป็นมนุษย์ขี้เหม็นเหมือนกัน แต่ถ้าขี้หอมก็ยกให้อีกระดับหนึ่ง ฉะนั้นต้องคิดว่าคุณคือมนุษย์เหมือนกัน เราไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าทุกคนรู้ที่แกนนำต้องเลิกเพื่อรักษาชีวิตผู้ชุมนุมไว้ วันนี้เราได้เพื่อนที่ไม่เข้าใจเราได้เข้าใจเรามากขึ้น แต่ที่ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจเพราะฟังข่าวด้านเดียว เห็นแต่เสื้อแดงไปทำทหาร แต่ทหารทำร้ายคนเสื้อแดงไม่มีออกทีวีเลย ไม่ว่าอะไรหรอกคนที่เป็นนายกฯขอแค่คืนความยุติธรรมให้กับสังคมเท่านั้น หากยังแบ่งแยกกันอยู่อย่างนี้มันจะแตกแยกกัน"  นางชวนพรกล่าว จาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274454415&grpid=10&catid=02 เขาไปอ่านก่อน ศอฉ จะปิดอีกเขาปิดไป 400 เวปแล้ว จากคุณ : นกเดินทาง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 22:57:48

ความคิดเห็นที่ 71 นายอนุชา ยะอนันต์ อายุ  45 ปี นปช.ลำพูน ชายร่างใหญ่หนวดเฟิ้มเล่านาทีชีวิตเป็นตายเท่ากันขณะที่เข้าไปหลบซ่อนในวัดปทุมวนาราม ว่า "อยู่ในวัดไล่ยิงคนเหมือนหมา ออกไปนอกวัดก็ไม่ได้ มีทหารอยู่บนรางรถไฟเห็นๆกันอยู่ จะไม่เห็นได้ไงไล่ยิงกันรอบวัดเลย ลึกๆในใจใครทำอะไรก็รับไปให้รู้กันเองไม่เป็นไร" นปช.ลำพูนกล่าวอีกว่า มองดูรัฐบาลตอนนี้ไม่เหมือนกับรัฐบาลทั่วโลก ขนาดเขาทำผิดนิดเดียวก็เริ่มรู้ตัวต้องออกไปแล้ว แต่ตอนนี้ประเทศเราไม่ใช่ประชาธิปไตย รัฐบาลถูกต่อต้านไปไหนไม่ได้ต้องมีทหารคอยคุ้มครองไปกันแต่ละครั้งขนตำรวจทหารไปล้อม 3-4 พันคน เข้าใจว่าความเกลียดชังคนเสื้อแดง ที่เกิดในใจหลายคน คิดว่าเกิดจากข้อมูลที่เขารับฟังข้างเดียว เราไม่ได้มองว่าเขาเป็นศัตรู แต่ถ้าวันหนึ่งเขาได้รับรู้ว่าความจริง คืออะไร เขาจะเสียใจมากยิ่งกว่าพวกเราเสียใจอีก รัฐบาลควรแสดงความจริงใจว่าส่วนใดที่เป็นจริงหรือไม่เป็นจริงต้องเอามาพูดกัน "ความจริงของเรื่องนี้ คือ รัฐบาลเอาทหารออกมาแล้วปิดกั้นไม่ให้พวกที่เข้าไปชุมนุมได้ชุมนุมกันอย่างสันติวิธี พวกเราไม่มีอาวุธมีแต่ไม้เหลาแหลมแต่ทหารอาวุธครบมือ วันหนึ่งถ้าเป็นญาติของเขาบ้างจะรู้สึกอย่างไร รัฐบาลไม่น่าทำขนาดนี้ ผมอายชาวโลก ชาวโลกรับรู้ข่าวหมด แต่ช่องทีวีของไทยยังปิดหูปิดตา มีข่าวทางอินเตอร์เน็ตที่รายงานข่าวเราบ้าง ประเทศไทยยังมัวแต่ปิดกั้นอยู่อย่างนี้เราไปไม่รอดแน่"นายอนุชากล่าวทิ้งท้ายก่อนเดินไปขึ้นรถกลับลำพูน จากคุณ : นกเดินทาง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:16:33