ความคิดเห็นที่ 1 อย่ามีเงินสดมากขนาดนีเหมือนกัน จากคุณ : บ้านหกสิบสาม เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:10:35

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเคยเล่นอยู่แล้วคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่เคย ควรศึกษาก่อนนะครับ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงมากมากครับ จากคุณ : luckydog2 เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:13:05

ความคิดเห็นที่ 3 หาที่ปรึกษาทางการเงินดีกว่าไหม จากคุณ : potojae เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:14:37

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีคำแนะนำ เพียงแต่อยากจะบอกว่า เงิน 3.2 ล้าน ถ้าลงทุนถูกจังหวะ ก็สามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินในระยะยาวได้ หรือไม่ก็ ... อาจหมดตัวเพราะติดหุ้นที่ต้นทุนสูง จนไม่กล้าขายออกมาได้เช่นกัน หากเล่นหุ้นโดยไม่ได้ใช้ความรู้ประกอบการคิดและพิจารณา ... จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:17:03

ความคิดเห็นที่ 5 แนะนำจากใจเลยว่า เอามาเลยแค่3.2แสนก่อน 10% แล้วศึกษาให้ดี อย่าเอาทั้งหมดมาเล่น เคยเป็นมาแล้วถึงเตือน จากคุณ : After เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:25:26

ความคิดเห็นที่ 6 แบ่งเงินให้เรียบร้อยก่อนครับ ลูก 2 คนต้องใข้เงินเท่าไร จนกระทั่งเรียนจบ (น่าจะ ป.ตรี อายุ ประมาณ 23) ตัวเองต้องใช้เงินเท่าไร จนกระทั่งตาย (วางเอาไว้ว่าจะตายเมื่อไหร่) แล้วดูว่าเหลือเงินเท่าไร ถึงจะนำมาลงทุนในหุ้นน่ะครับ เพราะว่า ลงทุนแบบนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน (เสี่ยงมาก ย่อมได้มาก และเสียมาก) จากคุณ : เอาถ่าน เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:32:48

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่แนะนำครับ ... สำหรับคนไม่มีความรู้ จะหมดตัว เอาง่ายๆ จากคุณ : kasimasi เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:35:44

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่แนะนำให้ "เล่นหุ้น" ครับ แต่ควรจะเป็น "ลงทุน" เป็นเจ้าของกิจการที่มีผลประกอบการที่ดี ซึ่งจะมีรายได้จาก เงินปันผล เหมือนเราเป็นเจ้าของร้านอะไรสักร้านหนึ่ง แต่แทนที่เราจะลงทุนทำเองทั้งร้อยเปอร์เซนต์ เราก็ไปขอซื้อส่วนการเป็นเจ้าของ และ รอตรวจสอบผลประกอบการ และรับเงินปันผล เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้ากิจการที่เราถืออยู่ ถ้าดีพอ ก็ต้องเจริญเติบโต เงินปันผลก็จะมากขึ้นไปด้วย ดังนั้น ผมจึงเลือกเฉพาะกิจการที่อยู่ในตลาดที่มีการเจริญเติบโตเท่านั้น ดังนั้น ตอนนี้ผมจึงซื้อขายไม่บ่อยนัก และ ไม่เน้นเรื่องราคามากเท่าจำนวนหุ้นที่ถือ และการปันผล ที่สำคัญ เวลามีปัญหา ผมมักคิดว่า "ถ้าเราเป็นเจ้าของซึ่งมีส่วนของการเป็นเจ้าของเป็นสัดส่วนที่สูง เราจะทำอย่างไร" จากคุณ : จิ้งจกเขียว เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:36:07

ความคิดเห็นที่ 9 แหมพี่เอาถ่าน..แบ่งเงินแบบพี่บอก...ก็คงไม่ได้เล่นหุ้นสิครับ...อิอิอิ.. ผมว่าเอามาเล่น ห้าแสนก่อน..เพื่อเป็นค่าเทอมค้นหาว่าเราจะเล่นแบบไหน จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:37:15

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่จำเป็นต้องใช้เงินขนาดนั้นเลย หลายๆคนเริ่มต้นลุงทุนแค่หลักหมื่น-แสน ทยอยซื้อและศึกษาไปเรื่อยๆ ตลาดหุ้นยังมีจนคุณตายล่ะครับไม่ต้องรีบร้อน ยิ่งเงินก้อนสุดท้ายกับภาระครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ไม่แนะนำให้นำเงินทั้งหมดลงที่หุ้น เอาแค่หลักหมื่นก่อนก็พอ แล้วทยอยเก็บทุกๆเดือนดูหลายๆบริษัทประกอบกัน จากคุณ : กระบี่แสวงรัก เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:58:05

ความคิดเห็นที่ 11 เริ่มด้วยเงิน 2,000 บาทครับ ถ้าหวังจะลงทุนเพื่อชีวิต ไม่ใช่การพนัน ก็ต้องศึกษาการลงทุนจริงๆจังๆ ซึ่งต้องใช้เวลาครับ เอาเงิน 2,000 ไปซื้อหนังสือด้านการลงทุนมาอ่าน แนะนำ คัมภีร์หุ้น 1, 2 ตีแตก นักลงทุนดันโด บัฟเฟตโลยี่ บัฟเฟตและการตีความงบการเงิน ฯลฯ เมื่อพอเข้าใจอะไรๆบ้างแล้ว ว่าหุ้นต่างจากการพนันอย่างไร ก็ลงเงินเปิดพอร์ตซัก 1-2 แสน ดูก่อน พอชำนาญแล้ว เข้าใจความเป็นไปแล้ว ค่อยเพิ่มทุนเป็นหลักล้านครับ จากคุณ : sukineko เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:06:50

ความคิดเห็นที่ 12 ใ จากคุณ : C_yada เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:11:58

ความคิดเห็นที่ 13 ซื้อ AUD ไว้ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกดีไหม จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:17:01

ความคิดเห็นที่ 14 เอาออกมา ห้าแสน .... อย่างคุณ ข้างฯ ว่าค่ะ น้อยกว่านี้ มันไม่เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน .... แนะนำ อ่านกระทู้ในคลังกระทู้ ให้หมด .... จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:20:49

ความคิดเห็นที่ 15 ความเสี่ยงเกิดจากความไม่รู้ ความรู้คือการกำจัดความเสี่ยง ก่อนจะนำเงินมาลงทุน แนะนำให้ลงทุนกับการใช้เวลาศึกษาอย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อนนะครับ ชาวสินธรยินดีต้อนรับครับ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 53 10:34:47 จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:27:16

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วภรรยามีรายได้หรือไม่ ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน เท่าไหร่ จนถึงลูกเรียนจบต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ จากคุณ : หมูทอง (Goldenpig) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:36:13

ความคิดเห็นที่ 17 แฟนเรา เสียหุ้นไป 30 กว่าล้าน ตอนปี 32 ดีที่เค้าคิดได้ เสียแล้วเสียไป ตอนนี้ ไม่เคยเล่นหุ้นอีกเลย จากคุณ : น้ำตาลเปรี้ยว vs มะนาวหวาน เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:42:43

ความคิดเห็นที่ 18 ขั้นแรก  แนะนำ ว่า เอา เงิน สัก 1-2 พันบาท  ไป ซื้อ หนังสือ มาอ่าน และ เมื่อ คุณ เกิด คำถาม   ค่อยเริ่ม ขั้น ที่ สองครับ ตัวอย่างคำถาม เช่น ทำไม หุ้นถึงขึ้น   ธุรกิจประเภทนี้ ก็ ดี ทำไมถึงตก เจ้าของหุ้น  กองทุน เขา จะทำแบบนั้น ทำไม  ยุโรป เมกา เกี่ยวไร กับเราด้วย ฯลฯ ขั้นที่สอง หาคำตอบ ของคำถาม   จาก เวป  จาก หนังสือ อื่น ๆ  จากผู้ ที่คุณคิดว่ารู้   เมื่อได้ คำตอบ จาก หลาย ๆ ที่ แล้ว ( แม้จะเป็นคำตอบ ที่ถูกบ้างผิดบ้าง)   กลับมาคิดดู ว่า ตรง กับ คำตอบ ที่คุณ คาดเดา ไว้ก่อนหรือไม่   ค่อยเริ่ม ขั้น 3 ครับ ขั้นที่ สาม    เงิน ของคุณ แบ่ง เป็น ค่าการศึกษาลูก ให้เรียบร้อยก่อน ถ้า เหลือ เงิน สัก   2 - 5 แสน  เจียด มา ครึ่งหนึ่ง สำหรับ ไปเปิด พอร์ต ก่อน เปิด ก็ เลือก โบรก  ที่ วางใจ มีข้อมูลดี  ถาม จาก เพื่อน ๆ ที่รู้จัก หรือ ข้อมูลในเวป ก็ได้ ขั้นที่ สี่  เลือก รูปแบบ การลงทุน ของคุณ ว่าชอบแบบไหน เร้าใจ ตื่นเต้น หรือ เรื่อย ๆ มา เรียง ๆ  ปฏิบัติ ให้เป็นแบบแผน   มีวินัย ขั้นที่ ห้า  คือ เลือกหุ้น     เฝ้าติดตาม เป็น ระยะ ๆ  ถ้า ไม่ใช่ ว่าเล่น TFEX หรือว่าขาใหญ่ เทรด วัน 10-20 ล้าน  ก็อย่าถึง กับ เฝ้าหน้าจอเลย   การมีวินัย จะช่วยคุณได้   หลังจากนี้ ก็ ติดตามข่าวสาร ตลาด และหุ้นตัวที่คุณซื้อบ้าง  ก่อนตัดสินใจ มีเพื่อน คนหนึ่ง มีเงิน จาก 10 ล้าน ตอน ดัชนี 1700 กว่า ๆ  เหลือ5 แสน เมื่อ 8 ปีที่แล้ว  ได้ รอบใหญ่ รอบเดียว ตอน สมัยทักกี้ กลับมามี 5-60 ล้าน มีหลายคน ประเภท รวยไม่ทน จนไม่นาน แต่ อีกหลายคน ยังไม่ฟื้น เป็นหนี้ เป็นสิน เลิกไปทำอย่างอื่นเลย ก็ไม่น้อย ตลาด มีให้เข้าทุกวัน ตราบใด ที่ยังมีประเทศไทย ไม่ต้องรีบ และถ้าจะเข้า ก็ดูจังหวะ แต่ อย่าถึงกับรอว่า ทุกอย่างปกติ ประเภท ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้าน จับมือ กัน พัฒนาประเทศ ถ้ารอแบบนี้ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเล่น  เพราะ เรื่องมันต้องมีเรื่อย ๆ  ไม่มีวันสงบ ไม่มีเรื่องโน้น ก็มีเรื่องนี้  ดังนั้น เวลามีเรื่อง ก็อย่า ตกใจ แต่ ก็ต้องไตร่ตรอง ดู ผลกระทบ ที่จะเกิดกับหุ้นตัวที่เราถือ ตลาด มีรอบ  ขึ้น ลง   ถ้าดูแล้วเป็นรอบลง ก็ไม่ต้องเข้า หรือดูแล้วลงเว่อร์ ก็เป็นโอกาส ในตลาดรอบขึ้น เล่นมั่วๆ ก็ได้   แต่ตลาดรอบลง ก็เล่นได้ ถ้าเข้าถูกจังหวะ ตลาดขึ้น ก็มีคนเสีย   ตลาดลง ก็มีคนได้ คนตลาด ไม่ได้กลัวหุ้นลง แต่ กลัว ตลาดนิ่ง ไม่ซื้อ ไม่ขาย ดังนั้น ถึงตลาด จะเป็นรอบลง  ก็ จะมีภาวะ ของการสวิง ให้เข้า ให้ออก รอบนี้ 3-4 เดือน ส่วนใหญ่  มอง ลง ครับ  แต่ระหว่างนี้ มีสวิง ขึ้นหลอก กินย่อย  TFEX เป็นแม่หลินฮุย (ช่วง ๆ ) ไป สุดท้าย บุญรักษา ครับ  โชคดี มีตังค์ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย จากคุณ : ใจสั่งมา เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:50:24

ความคิดเห็นที่ 19 ผมแนะนำเอาเงิน 2 ล้านมาซื้อหุ้น Big Cap ที่ได้เงินปันผลซัก 6-8% ครับ เพราะว่าดีกว่าไปฝากธนาคาร (ดอกเบี้ยต่ำมาก) ส่วนนี้คุณก้อจะได้ปันผลประมาณ 1 แสนกว่าบาทครับ และจะได้ในส่วนเครดิตภาษีด้วย ตรงนี้ถ้าหาร 12 มาก้อตกได้ประมาณเดือนละ 10,000 กว่าบาท ซึ่งผมว่าน่าจะนำมาใช้จ่ายพวกค่าสาธารณูประโภคได้ รวมถึงค่าอาหารได้ครับ ส่วนเงินอีก 1.2 ล้านกันไว้สำหรับค่าเล่าเรียนลูกๆครับ หรือจะเอาเงินซัก 2 แสนมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ วันๆนึงน่าจะได้กำไรซัก 500-1,000 ครับ จากคุณ : ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:52:04

ความคิดเห็นที่ 20 อีกวิธีหนึ่ง ผมแนะนำเอาเงิน 2 ล้านมาซื้อหุ้นก่อนXD แล้วขายหลังXD เลือกหุ้นตัวที่เสียภาษี 25-30% ซื้อทั้งปีให้ได้ปันผล2-3ล้านบาท แต่มูลค่าหุ้นหรือเงินที่เหลือจะลดลงใกล้เคียงกับปันผลที่ได้ สิ้นปีก็เอาไปเครดิตภาษีโดยหักค่าลดหย่อนและค่าใช้จ่ายพวกประกันชีวิต LTF ฯลฯให้มากที่สุด เสร็จแล้วได้ภาษีคืน4-5แสนบาทขึ้นอยู่กับยอดเครดิตและค่าใช้จ่าย (เพราะฐานภาษีต่ำเนื่องจากไม่มีรายได้อื่นๆ) ตกลงคุณจะมีรายได้ประมาณเดือนละ4หมื่นแบบสบายๆ แต่มีความเสี่ยงเล็กน้อยจากมูลค่าที่ลดลงมากกว่าปันผลหลังXD คุณยังมีเวลาเหลือทำงานที่ชอบแบบไม่เครียด คุณจะมีเวลาอยู่กับลูก สอนหนังสือเพื่อเตรียมสอบเอ็นทรานส์ รับส่งเรียนพิเศษ จากคุณ : Rookie.T เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 11:25:10

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีครับ คุณเจ้าของกระทู้ อยากจะบอกว่า การเล่นหุ้น แตกต่างจากการทำมาหากินในรูปแบบอื่นๆ ตรงที่ว่า การเล่นหุ้น เราศึกษาจากข้อมูลต่างๆ ได้ แต่พอลงสนามจริง การปฏิบัติสำคัญกว่ามาก ถ้าคุณอยากขายกาแฟ คุณก็ไปเรียนเอา ทดลองทำ ชัวร์แล้วก็เปิดร้าน แต่ถ้าคุณอยากเล่นหุ้น คุณอ่านหนังสือเป็นร้อยเป็นพันเล่ม ทดลองเปิดพอร์ตจำลองที่ settrade ทดลองดูการเทรดหุ้นจากโปรแกรมเทรดหุ้นของโบรกเกอร์ต่างๆ ที่ให้ทดลองใช้ฟรี 3 อาทิตย์ แล้วคุณก็คิดว่า โอเคละ น่าจะได้แล้ว คุณไปเปิดพอร์ต คุณเริ่มต้นเล่นหุ้น แล้วคุณก็ขาดทุนครับ !!!! เพราะอะไร เพราะการเรียนรู้จากสนามจริง มันคือครูตัวจริง และครูคนนี้เก็บค่าเรียนแพง และสอนหลายคอร์สกว่าจะจบ ไม่ได้บอกว่าอย่าเล่นหุ้น แต่จะมาบอกว่า ถ้าจะเล่น ก็เตรียมตัวให้พร้อมก่อน ถ้าคิดว่าพร้อมแล้ว ก็เตรียมใจ ค่อยๆ เล่น ทีละน้อย กำหนด exposure limit เช่นเริ่มต้นเล่นเก็งกำไรไม่เกิน 2 แสน (บางคนคิดว่าน้อย แต่จำไว้ เล่นน้อยก็ขาดทุนน้อย) เล่นแบบ value investing ซัก 3 แสน (อย่าคิดว่าถือยาวไม่เป็นไร คุณยังขาดประสบการณ์!!!) ช่วงแรกๆ คุณก็กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ถัวเฉลี่ยแล้วถ้าได้ก็ได้ไม่เยอะ แต่โอกาสเสียก็สูง เพราะคุณมือใหม่ !!!! ไม่ได้ขู่นะครับ แต่คุณต้องเรียนรู้เอาเองหลายอย่าง ตรงนี้ไม่มีใครสอนคุณได้ และคุณต้องค้นพบสไตล์ของคุณให้ได้ สุดท้าย คุณจะเห็นว่า สิ่งที่ผมอธิบายมา มันไม่พอที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงตัวเองและเลี้ยงดูครอบครัวได้ในระยะสั้นครับ (เน้น ระยะสั้น ไม่ได้แน่นอน) เพราะฉะนั้น หางานทำด้วยครับ งานอะไรก็ทำไป หรือถ้าไม่อยากทำอะไรแล้ว ก็ต้อง "ทำใจ" ให้เยอะๆ ครับ คุณจะต้องมีความเป้นอยู่ที่กระเบียดกระเสียนไปสักระยะ ถ้าคุณมีความมุ่งมั่นสูงพอ และมีวินัยที่จะไม่ลงทุนแบบ "คนใจใหญ่" และมีใจสู้ที่จะเรียนรู้ในทุกรูปแบบ โดยทนต่อภาวะแวดล้อมที่กดดันคุณอยู่ตลอดได้ ไม่เกิน 2 ปี คุณน่าจะเริ่มต้นค้นหาสไตล์ของตัวเองเจอ เริ่มกำไรมากขึ้น ขาดทุนน้อยลง บางคนถึงกับบอกว่า ค่าครูในการเล่นหุ้นกินระยะเวลานานประมาณ 5 ปี อีกครั้งครับ ไม่ได้ขู่ แต่ฝากให้คิดครับ โชคดีครับ จากคุณ : yoshida เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 11:58:56

ความคิดเห็นที่ 22 เท่าที่อ่านดู คุณวางแผนสำหรับครอบครัวไว้หมดแล้ว น่าจะมีความรอบคอบสูง ลองศึกษาข้อมูลหุ้นแต่ละตัวดูครับ ลงทุนเหมือนเข้าไปร่วมกิจการกับเค้า อ่านหนังสือเยอะนิดนึง ยิ่งรู้มาก ยิ่งเสี่ยงน้อยครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : bugthai เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 12:00:08

ความคิดเห็นที่ 23 เพิ่มเติมอีกหน่อยครับ กลยุทธ์การเล่นหุ้น โดยหวังผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลกี่ % กี่ % ที่พูดๆ กัน เป็นกลยุทธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานสำคัญข้อหนึ่ง (อันที่จริง ต้องใช้คำว่าสำคัญมากๆๆๆ มากกว่า) นั่นคือ ซื้อแล้วถือยาวได้จริงหรือ เพราะเงินที่จะซื้อมันไม่ใช่น้อยๆ นะ เป้นหลักล้าน ลองคิดดูว่า กำเงินล้านเดินไปซื้ออะไรซักอย่าง เงินล้านออกจากมือเรา คุณใจหายวาบมั้ย อารมณ์เดียวกันแหละครับ จ่ายเงินล้านไปแล้ว เกิดระหว่างนั้นหุ้นตก คุณก็ท่องไว้ โอ๊ยยย เดี๋ยวอีกเดือนนึงปันผลก็มาแล้ว พอถึงตอนนั้น หุ้นตกต่ออีก (ดู advanc เป็นตัวอย่าง) คุณจะใจแข็งได้อีกสักเท่าไรกัน แล้วถ้าขึ้น XD แล้วขายทิ้ง ได้ส่วนต่างไม่คุ้ม เป็นไปได้นะครับ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ เงินล้านลงไป ใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ แถมมีโอกาสขายขาดทุนอีก มันเครียดนะคุณ ไม่ได้บอกว่า กลยุทธ์การสะสมหุ้นเพื่อกินปันผลไม่ถูก อันที่จริงผมชอบแนวคิดนี้มาก แต่ .... คุณต้องค่อยๆ สะสมครับ สะสมหุ้นดีที่ราคาถูกจริงๆ ใจเย็นๆ เก็บไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่า เอ้ย มีเงินสามล้านกว่า ช่วงนี้หุ้นตก ซื้อเลยๆ ไม่ใช่ ของที่ถูก มันมีถูกกว่าอีกนะ จึงต้องค่อยๆ สะสม ใจเย็นๆ ใช้ระยะเวลาครับ เมื่อถึงตอนนั้น คุณจะมีหุ้นดี ที่ต้นทุนถูกๆ เก็บไว้ในพอร์ตเยอะพอที่จะมีรายได้จากปันผล และเครดิตภาษี เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ แต่กว่าจะถึงวันนั้น คุณต้องใจเย็น ค่อยๆ สะสม ไม่ให้ลงทีเดียว เพราะไม่มีใครวิเคราะห์หุ้นได้ขาด ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องเผื่อใจ และระหว่างที่คุณสะสมหุ้นเพื่อหวังปันผล คุณจะเอาอะไรกิน กลับไปที่คำถามเดิมอีกแล้ว? บางคนแนะนำว่า ให้หาจังหวะ short against port คือถ้าคิดว่าหุ้นจะลง ก็ทะยอยขายออก แล้วไปรับคืนที่ราคาถูกกว่า ส่วนต่างคือ กำไร (จำนวนหุ้นที่ครอบครองเท่าเดิมไงครับ) แต่นี่ก็เป็นการคาดเดา ต่อให้คุณมี system ที่จะขายก็ตามทีเถอะ เช่นขายทีละ 10% ก่อน รอลงไปสองช่อง ก็ขายเพิ่ม blah blah blah ซึ่งตรงนี้มันก็ต้องอาศัยทักษะ ไหวพริบ การคาดการณ์ ไม่ได้การันตีว่าจะได้เงินแน่ๆ คิดมาถึงตอนนี้ ถามตัวเองอีกครั้ง แล้วเราจะเอาอะไรกิน จะเอาอะไรเลี้ยงครอบครัว ไม่ได้ขู่ครับ แต่ถ้ารักจะเล่นหุ้น คุณต้องหวังผลยาวๆ คือ ในระยะยาวคุณเป็นเศรษฐีนอนกินได้แน่ แต่ระยะสั้นๆ คุณอย่าหวังว่าจะจับเสือมือเปล่า อย่าหวังจะได้เงินปันผลมากพอคุ้มกับโอกาสขาดทุนจากราคาหุ้นที่ลดลง อีกครั้งครับ ขอให้โชคดี จากคุณ : yoshida เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 12:12:17

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าให้แนะนำนะครับ แบ่งเงินไว้ลงทุนประมาณ 2-3 แสนพอ ที่เหลือ ฝากธนาคาร อย่างน้อย เราก็อุ่นใจ ว่า เงินในธนาคารยังมีให้ลูก เงินที่แบ่งมา มาลงทุน การลงทุนหุ้น ไม่ค่อยจะเหมาะกับคนที่ไม่มีรายได้อะไรเพิ่มขึ้นมาซะเท่าไรอ่ะครับ คือ เงินก้อนนี้ เป็นเงินก้อนที่คุณอาจจะหาได้ครั้งสุดท้าย เพราะ ตอนนี้ตกงานใช่ไหมล่ะครับ ถ้าตกงาน ก็แปลว่า รายรับอาจจะไม่เข้ามาซะเท่าไร ถ้าเกิดหุ้นพลาดมา จะเซ็งนะครับ เพราะ เราไม่มีรายรับตัวอื่นเข้ามาช่วย ลองหาธุรกิจตัวอืนที่ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงแบบหุ้นไหมครับ พวกแฟรนไชส์อะไรพวกนี้ ผมว่า มันน่าจะระยะยาวกว่าเล่นหุ้นนะครับ กลัวว่า ถ้าหุ้นมันกิน จะไม่มีเงินเหลือให้ลูกแล้วสิครับ จากคุณ : DChef เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 12:19:19

ความคิดเห็นที่ 25 ตาม คห 24 เป๊ะเลย  คิดให้ดี ๆ หนัก ๆ เน้อ เงินก้อนสุดท้าย มีบ้าน  มีรถ  ไม่มีหนี้ หลังจากเล่นหุ้นได้ 2 ปี บ้านก็ไม่มี รถก็ไม่เหลือ หนี้สินรุงรัง หางานอย่างอื่นทำเถอะค่ะ อย่าเสี่ยงเลย จากคุณ : Liebkosen เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 12:29:58

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยกับ คห 24 ครับ น่าจะแบ่งเงินมาลงทุนในขั้นต้นซัก 2 แสนครับ มาลองหาประสบการณ์ครับ เงินที่เหลือหลังจากแบ่งเป็นค่าทุนการศึกษาเอามาลงทุนแฟรนไชส์น่าจะดีกว่าครับ พวกร้านสะดวกซื้อก็ดีนะครับ ได้รายได้ถึงไม่เยอะมากแต่ก็น่าจะอยู่ได้สบายครับ จากคุณ : JJAOF เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 12:31:45

ความคิดเห็นที่ 28 เหอะๆ คนไม่เคยเล่นหุ้น ไม่เคยเข้าตลาดหุ้นเลย หมื่นเดียวยังถือว่าเยอะไปด้วยซ้ำ ผมว่า ถ้าจะเอาจริง นับได้เลย1-2ปี อย่างน้อยๆ ต้องหมดพอร์ต หรือ พอร์ตลดไป 50-60% สักครั้ง นั่นแหละ เดี่ยวจะรู้เองว่า เงินที่เหลืออีก 3.1 ล้านกว่าๆจะเอามาเพิ่มได้ยังไง  แต่ถ้ายังไม่รู้อะไรเลย แล้วเอาเงินเป็นแสนมาเต็มพอร์ต รับรอง อาจเซ็งไปอีกนาน เวลาได้มันคงได้อยู่ แต่ของที่ไม่รู้มันไม่ยั่งยืน ถ้าจะดี มันต้องรู้ก่อนว่าทำยังไงมันถึงจะได้เรื่อยๆ แล้วตอนนั้นค่อยเต็มพอร์ตก็ยังไม่สาย จากคุณ : เริ่มเซ็งแล้วคับ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 12:46:04

ความคิดเห็นที่ 29 เอาเงินฝากเเบงค์ เเล้วหางานอื่นทำค่ะ  จากคนเล่นหุ้นไม่เป็น เเฮ่ๆ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 12:59:11

ความคิดเห็นที่ 30 รอผลประกอบการของบริษัทที่มีกำไรในไตรมาส 1 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แล้วรอซื้อหากราคาลงต่ำ หรืออาจซื้อทันทีที่ทราบข่าว แต่จะต้องดูว่าบริษัทเหล่านั้น มีผลประกอบการที่ดีและจ่ายปันผลดีต่อเนื่องมาตลอด จากคุณ : เป็นได้แค่กิ๊กเท่านั้น เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 13:07:12

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ลองไม่รุ้ค่ะ ..........อย่างดี ก็ กลับไปเป็น ศูนย์ แบ่งเงินออกมา ทดลองเล่นค่ะ ถ้าอยากเป็นนักลงทุนในตลาด .....ไม่ต้องกลัวค่ะ ทุกอย่างอยุ่ที่ใจ.....คุณต้องตั้งใจเล่น เอาจริงเอาจังกับมัน....คุณไม่มีงานทำแล้ว น่าจะมีเวลา อยู่หน้าจอตลอดได้ ......ต้องคิดว่า.....การเล่นหุ้น คืออาชีพใหม่ ของคุณ ควรนั่งเล่น เหมือนคุณ กำลังนั่งทำงาน ....8.30-17.00น. แล้วพยายามศึกษา แบบเอาจิงเอาจัง    ทดลองเล่น เงินไม่ต้องมากค่ะ  กันเงินออกมาโดยคิดว่า ถ้าเงินจำนวนนี้ สูญ......มันจะไม่ทำให้ชีวิตคุณ และ ครอบครัวเปลี่ยน มาเริ่มกันเลยค่ะ ............... 1....ตั้งเป้าไว้ จะต้องทำให้ได้กำไร วันละเท่าไร 2....เล่นหุ้นแค่ตัวเดว.....และ ต้องเป็นหุ้นพื้นฐานดี ใน เซท 50 ตัว   ...เพราะ ถ้าติด คุณรอได้ ......ไม่ขาย ยังไม่ขาดทุน ท/ส ยังอยู่.....ไม่เหมือนเล่น หวย 3....ควรเป็นหุ้น ตัวที่ ชอบออกมาวิ่งเล่น บ่อยๆ  ....ขอแนะ   คือตัวที่ เป้น ฟิวเจอร์ด้วยค่ะ   มันจะวิ่ง-ขึ้นลง   ทุกวัน เพื่อ เขย่าเซท อ่ะ 4....เริ่ม สังเกตุ  ศึกษา นิสัย หุ้นตัวนี้       4.1.....รอบของการมา....คือ หุ้นตัวนี้ ส่วนใหญ่ จะวิ่งช่วงไหน       4.2......ราคา......คือ ช่วงราคา   ต่ำสุด เท่าไร  และ สูงสุดเท่าไร       4.3.......นิสัยหุ้นตัวนี้ เป้นเช่นไร.....วิ่งทีกี่ช่อง.....วิ่งแล้ววิ่งเลย หรือ วิ่งๆหยุดๆ   หรือ วิ่งแบบตบจูบๆๆๆๆ       4.4.....จับจังหวะให้ได้ ควรซื้อราคาไหน และ ปล่อยราคาไหน .....อย่าหวังว่า จะเข้าต่ำสุด....และ ปล่อยได้สูงสุด....ในกรณี ที่คุณ ยังไม่ "เก๋า พอ"  5....เมื่อได้ รู้จัก หุ้น 1 ตัวดีพอแล้ว........เข้าออกถูกจังหวะแระ.....ต่อไป เริ่ม ขยาย สาขา ค่ะ ......เก่งแล้วววว  หาตัวต่อไป เพิ่ม อีกหนึ่งตัวค่ะ   6...  ทำแบบนี้ ไปเรื่อยๆ จนกว่า คุณ จะรวยซะให้เข็ดอ่ะ แล้วคุณจะพบว่า.....วันนึงๆ  ช่างมีค่าเหลือเกิน อุ๊ยยยย....เวลาเป็นเงินเป็นทองไปหมด......แถม ชีวิตมีอิสระ  ....มีเวลาให้ครอบครัว เต้มที่......ครอบครัวก้มีความสุข...........สุดท้ายยยยย   คุณจะพบกับ ชีวิตที่มีอิสระภาพ ทางการเงิน แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 53 14:40:40 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 53 13:33:36 จากคุณ : ขอให้successful ค่ะ (dawreung51) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 13:27:23

ความคิดเห็นที่ 32 คนเก็บฝัน..... จากคุณ : เอาใจช่วยค่ะ จขกท ขอให้โชคดี (dawreung51) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 13:38:01

ความคิดเห็นที่ 33 .............33.............. นี่ก็ คือ ฝันเรา    เลขเบิ้ล..........เราจะเป็น นักล่า เลขเบิ้ล จากคุณ : และ เราก้ ทำได้ ค่ะ (dawreung51) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 13:39:15

ความคิดเห็นที่ 34 เอา 3 ล้านเก็บไว้เหมือนเดิม เปิดตัวที่ 2 แสนก่อน ก่อนซื้อหุ้นตัวแรก ให้ตอบคำถามตัวเองก่อนว่า จากเงินต้น 2 แสน ถ้าได้กำไรถึง 1 แสน แล้วจะทำอย่างไรต่อไป และจากเงินต้น 2 แสน ถ้าขาดทุนจนเหลือ 1 แสน แล้วจะทำอย่างไรต่อไป จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 13:50:20

ความคิดเห็นที่ 35 คุณพี่เจ้าของกระทู้ ครับ ต่อให้พี่ มีเงินเยอะ   พี่ก็ต้องเรียนรู้ เรื่องที่จะลงทุนครับ    ไม่งั้นทรัพย์ที่พี่สะสมมาอาจจะศูนย์ ได้ครับ จากคุณ : พิชัยสงคราม เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 13:52:31

ความคิดเห็นที่ 36 หากิจการทำเล็กๆ ไปก่อนครับพี่ ... อะไรที่เราถนัดสุดก่อน ถ้าเก่ง บ/ช ก็รับทำบ/ช  , ถ้ามาสายเทรดดิ้งสินค้า ก็ลองโป้วสินค้ามาขาย ในลักษณะบริษัท , ถ้าเก่งด้านออกแบบ ก็ลองรับออกแบบอิสระ , ถ้าเก่งทำอาหารก็ลองขายอาหาร , ถ้าเก่งเรื่องเที่ยว ก็ลองทำทัวร์ สมัครทำทัวร์ ฯลฯ แล้วมันจะแตกแขนงได้อีกเยอะครับ ในแต่ละอย่างนั้นๆ ทำธุรกิจ อะไรก็ตามต้องมีแผนธุรกิจครับ แผนธุรกิจก็เหมือนยันต์กันผี เข้าป่าช้าต้องมีไว้เพื่ออุ่นใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าผีจะไม่หลอก นะครับ แต่ถ้าเล่นหุ้น ล่ะก็ ตอนนี้ผมมองว่าเสี่ยงสำหรับมือใหม่ที่อยากเ่ล่นโดยมีเงื่อนไขแบบพี่ จขกท นะครับ เพราะว่าเป็นเงินเก็บที่พี่มี โดยไม่มีรายได้จากด้านอื่นๆแล้ว ดัชนี ตอนนี้ 7xx ถ้าจะไป 8xx , 9xx กลับอีกด้าน 6xx , 5xx ผมว่าอย่างหลังเกิดขึ้นง่ายกว่าครับบบบบบบบบบบบบบบบ แต่หัดมองหัดดูไว้ ด้วยเงินสัก 5 - 10 % ที่เรามี แล้วค่อยๆ รอเมื่อดัชนี ลดลงๆ แล้วซื้อเพิ่มในหุ้นที่มีปันผลดี ๆ ก็น่าสนใจคัรบ อย่างไรแล้ว คงไม่มี คห ไหน ตอบได้ครอบคลุมทั้งหมดครับ พี่ จขกท มึความสามารถใช้ชีวิต มาได้ถึงขั้นนี้แล้ว คงสามารถที่จะประยุกต์ ความเห็นต่างๆ ข้างต้นได้เป็นอย่างดี ว่าอะไรเหมาะหรือไม่ กับตัวอย่างไรครับ แต่อย่าปฎิเสธ โอกาสนี้ของพี่เลยนะครับ ผมว่ามีอีกมากที่มาไม่ถึงจุดที่พี่ยืน ตอนนี้พี่ได้เลือก ได้คิด ได้ลอง ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ อย่างเต็มทีครับ จากคุณ : MK_RED เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 14:30:53

ความคิดเห็นที่ 37 หุ้นบางตัวกลายเป็นกระดาษ เครดิษภาพจากห้องนี้ครับ เอาไว้เตือนใจ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 53 14:32:31 จากคุณ : MK_RED เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 14:32:04

ความคิดเห็นที่ 38 พี่คิดว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนของ ดัชนี จากคุณ : MK_RED เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 14:33:40

ความคิดเห็นที่ 39 มีแต่คนบอกให้กลัว แต่ผมคิดให้สู้ครับ เตรียมสติมาดีๆ แบ่งก้อนหนึ่งไว้เผื่อฉุกเฉิน อีกก้อนค่าส่งเสียลูก ตีซะว่าเหลือมาซักล้าน อย่าพึ่งซื้อหมดล้าน แบ่งมา 2-3แสน หาความรู้มากๆแล้วลองซื้อ แนะนำให้หาเพื่อนที่มีความรู้ช่วยพิจารณาเลือกหุ้นด้วยนะครับ คนที่อยู่ในตลาดมานาน ความรู้มากกว่าย่อมมองรอบด้านกว่า ทำใจเผื่อขาดทุนไว้ด้วย และอย่าทิ้งงานประจำ ห้ามฝากอนาคตกับหุ้นนะครับถ้ายังไม่แกร่งพอ ไม่งั้นตัวคุณและครอบครัวจะเดือดร้อนหากพลาด อย่ากังวลนักกับภาวะตลาด ผมเป็นคนนึงที่สี่ห้าปีที่ผ่านมาถือหุ้นเกือบ 100% ตลอด แล้วไม่เจ๊ง + ใกล้ถึงจุดที่คิดว่ามีอิสระทางการเงินแล้ว ต้องมีวินัยกับตัวเองและมองหาโอกาสตลอดนะครับ จากคุณ : Dr.G เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 15:06:38

ความคิดเห็นที่ 40 พวกที่บอกให้ลงก่อน 2-3 แสน น่ะ ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก โมเมนท์ตอนหุ้นแรลลี่แล้วลงทุนในหุ้นแค่ 10% มันเจ็บพอๆกะหุ้นขาลงขณะเต็มพอร์ท แหละจ้ะ เพราะความโลภเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมี สรุปว่า เล่นแนว VI ดีสุด ศึกษาให้ดี เลือกหุ้นที่ undervalue แล้วอัดไปเลย 80% อย่าืลืมกระจายฟามเสี่ยงด้วย ลงซัก 5 ตัวเป็นอย่างน้อย หุ้นขึ้นหรือลง ยังไงก็มีปันผล จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 15:19:20

ความคิดเห็นที่ 41 สนับสนุนความเห็นที่ 31และ 39 ครับ จากคุณ : KidLeo เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 18:09:48

ความคิดเห็นที่ 42 เอามาลงทุนสัก 10%  ทยอยลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี มีปันผล ส่วนเงินก้อนอื่นก็ลงทุนในที่ๆมีความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล ประกันชีวิต ธุรกิจที่ถนัดแบบค่อยเป็นค่อยไป และ มีเวลาดูแลลูก แค่นี้ก็สุขแล้วครับ จากคุณ : ลงทุนด้วยใจ (ลงทุนด้วยใจ) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 19:09:45

ความคิดเห็นที่ 43 แชร์ประสบการณ์นะครับพี่ ทุนผลใกล้เคียงพี่มากเลยครับเพียงแต่ ลดจากพี่ลงมา 2 แสน แต่ปัจจุบัน ขยายไป 1 เท่ากว่า แล้วครับ ผมพยายามศึกษาระบบหุ้นการเงินและการไหลของเงิน ตั่งแต่ ป.ตรี ปี1อ่านไปไม่เข้าหัว ไม่รู้เรื่อง ทุกครึ่งปีอ่านใหม่อีกรอบ ประมาณ 2-3 ปีกว่าจะพอเข้าใจ ไม่รีบร้อนประกอบกับเล่นเกมส์หุ้น ไปในตัว พยายามศึกษา พอปี4 ก็เริ่มศึกษาราคาทองคำ  จนจบก็เรียนต่อโทต่อ ตอนนี้ได้จับรอบทองขึ้นครั้งแรกและเตือนพ่อว่าทองจะขึ้นจาก 8พันบาทไปหมื่นกว่าบาท ซึ่งเขาไม่เชื่อหรอกครับจนมันเป้นจริงประมาณ 2 ปีพ่อจึงยอมเล่นทองกับผมเปิดการลงทุนครั้งแรกตอนเรียนโท(ช่วงนั้นสิง อยู่ที่thaigold) จบการลงทุนทองได้กำไรในการเรียนโท+ตรีฟรี ช่วงนั้นบ่นกับพ่ออยากเล่นหุ้นแต่หุ้นมันพีคไม่กล้าเล่น จนจบโทแล้วทำงานกับพ่อ ผ่านไป ครึ่งปีเจอวิกริตแฮมเบอเกอร์พอดี แล้วขอพ่อเล่นหุ้นและขอทุน ซึ่งมีทุนใกล้เคียงกับพี่ครับ เมื่อปีก่อน หุ้นตัวแรกเข้าซื้อ GSTEEL ด้วยความฮ้าว ลงทุนไป .27 ขายได้ .42-.44 ได้ภายในไม่นาน นอกนั้นแบ่งport เข้า PTT ได้กำไรมากมายจากเงินลงทุน 270,000 ไปเป็นเงิน 4แสนกว่าพริบตาเดียว บอกตรงๆเครียดครับ เพราะพื้นฐานคือหุ้นปั่น หลังจากนั้นแบ่งรับแบ่งสู้จนทำกำไรล้านแรกสำเร็จ และมาหมดในพริบตากับ THAI ทำให้เข้าใจถึงหลักการดู กราฟครั้งแรก ต่อมาซื้อ TOP 31ต้นๆ เปลี่ยน SWAP ไป PTTCH จบการจับกราฟสัญญานขอขึ้นของที่ TTA  ได้ จาก 22 ไป 30กว่าบาท ช่วงนั้นติดมอเตอร์ เพิ่มการซื้อ FUTURE ไปด้วยพอมันลงช่วงข่าวของนายหลวงก็ไม่รู้จักวิธีออกหุ้นกำไร FUTURE ติดลบ 1.2ล้านบอก(ตรงๆโครตเข็ด เขามีแต่ปลูกเห็ด ผมมีแต่กำไรแล้วเพิ่มจำนวนFUTURE ตลาดมีTTA FUTURE 600 สัญญาอยู่กับผมเกือบ 200สัญญา) เบ็ดเสร็จเหลือกำไรไม่กี่แสน เรียนรู้วิธีตั่งCUT LOSS ปิ้ง ไอเดียกับ อาจารย์ปลานิลจิ๋ว หลังจากนี้มีซื้อๆขายๆกำไรสะสมไปเรื่อยๆ ช่วงนี้เล่น OPTION กับหมอสัจจะ ได้กำไร115% จาก OPTION เงินลงทุนแสนกว่า ต่อมาพบกับหุ้นTHAI ซื้อจาก 19-20บาทขาย 29 ได้ปันผล .25 ค้างไว้(ได้คืนจาก THAI แล้วเย้) หลุด CUT LOSS ออกได้ใช้ครั้งแรก ต่อมา ADVANCE ก่อนปันผลพิเศษได้ไปอีกนิด ใช้ CUT LOSSเหมือนกัน และ AP ได้ไปอีกหน่อยพร้อมปันผล ต่อมามีซื้อๆขายๆขาดทุนกำไรไปนิดๆหน่อยๆจน ตอนนี้อยู่ในตัว....ไม่บอกครับ อิอิ ที่รู้ๆตลาดลงมันก็ยังสวนขึ้น จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ผมมองโอกาสสัญญานที่มันจะขึ้นและตั่งCUT LOSS ถ้าตอนมีหุ้น ไม่ดูกราฟ แต่ดูราคาและตั่ง CUT LOSS ถ้าตอนไม่มีหุ้น ดูแต่กราฟสัญญานประเภทไหนน่าเข้า สำคัญคือวินัยในการCUTLOSS สำคัญสำหรับผู้เริ่มต้น ควรศึกษาตลาดอดีตปัจจุบัน เพื่อสร้างความสามารถในการคาดคะเนอนาคตโดยมีแผนรองรับว่าหากไม่เป็นดั่งคาดจะเป็นอย่างไร มาถึงจุดนี้แล้วคิดจะเริ่มเล่น หมายถึงคุณไม่ได้ทำการบ้านมาอย่างหนักก่อนคิดจะเล่นซึ่งมันเสี่ยงต่ออนาคตครอบครัวคุณ กรุณากลับไปทำการบ้านศึกษาก่อนคิดจะลงทุนครับ ทำไมเขาเรียกว่าตลาดหุ้นว่าบ่อน ตลาดขาขึ้น 70%ได้ 30% เสียหรือเท่าทุน ตลาดขาลง 75%เสีย 25%ได้หรือเท่าทุน รวมเบ็ดเสร็จทั้งขึ้นและลง จะมีคนได้หรือเสีย เสีย 82.5% ได้ 17.5% ยังแยกได้มากน้อยหรือเท่าทุนอีกนะครับ โอกาสครบรอบเสียขนาดนั้นแล้วถ้าไม่ทำการบ้านมาอย่างหนักคุณเอาเงินมาทิ้งเปล่าๆครับ จากคุณ : Pongacku เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 19:47:04

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ ^ เห็นด้วย ว่า   ต้องทำการบ้านมากๆค่ะ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 20:02:19

ความคิดเห็นที่ 45 PTT 6,000หุ้น ที่เหลือเก็บไว้ใช้ และ ฝากประจำบางส่วนไม่ควรเกิน1ปี จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 22:07:49

ความคิดเห็นที่ 46 อายุ 48 ปี...มีลูก 2 ยังเรียน...เล่นหุ้นแค่ 10% ก็พอครับ จากคุณ : kraikria เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 22:59:26

ความคิดเห็นที่ 47 แหมประเทศไทย คนรวยนี้มีคนสนใจเยอะแบบนี้ นี้เองมิน่าใคร ๆ ถึงอยากรวย ถ้าผมมีเงิน 32,000 และมาต้้งกระทู้ถามคงจะมีคนตอบไม่เกิน 5 คน จากคุณ : MR.rank เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:18:06

ความคิดเห็นที่ 48 ^ ^ ผมเชื่อว่า มีเป็น 10 ที่จะตอบให้คุณครับเพียงแต่ ถ้าระดับนั้นคงต้องมีข้อจำกัดในการลงทุนสูงครับ จากคุณ : Pongacku เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:52:48

ความคิดเห็นที่ 49 พี่อายุ 48 แล้ว และคำถามของพี่ฟังดูพอเดาออกว่าไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อน  ผมว่าให้พี่หาลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวดีกว่าครับ เพราะพี่อายุขนาดนี้แล้ว แถมยังไม่มีรายได้จากทางอื่น มันเสี่ยงเกินไป ถ้าหมดตัวไป ลูกๆพี่จะทำยังไง แต่ถ้าพี่ทำธุรกิจส่วนตัว มันสามารถตกทอดไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานได้นะครับ ให้พี่ลองศึกษาวิธีใช้เงินทำงานแทนเรานะครับ หาธุรกิจส่วนตัวทำ จัดระบบให้ดีแล้วจ้างคนอื่นมาทำงานแทนเรา อย่าไปจมปรักอยู่กับที่ๆเดียวนะครับ ที่ให้คนอื่นมาทำงานแทนเรา เพราะเราจะได้เปิดสาขาอื่นได้ ค่อยๆเปิดสาขาไปเรื่อยๆ หลายๆสาขา จนพี่สามารถมีรายได้ 2 แสนบาทขึ้นไปต่อเดือน ถึงวันนั้นถ้าพี่จะลองหันไปเล่นหุ้นก็ยังทันครับ เพราะอย่างน้อยหมดตัวยังไง พี่ก็ยังมีรายได้มากกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน ยังไงพี่ก็ไม่อดตาย และที่สำคัญ ธุรกิจส่วนตัวเป็นมรดกตกทอดไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานได้ แค่สอนให้เค้ารู้จักธุรกิจที่เราทำอยู่ เค้าก็ดูแลต่อไปได้ ธุรกิจแรกที่ผมแนะนำนะครับ ถ้าพี่มีที่ดินที่อยู่ใกล้ๆมหาลัย ให้พี่ลงทุนทำหอพักเลยครับ เพราะหอพักเป็นธุรกิจที่พี่สามารถมีเวลาว่างไปทำงานอย่างอื่นได้ และก็ดูแลง่าย (แต่ปัญหาจุกจิกเยอะ ต้องมีช่างประจำหอ) เมื่อ 2 ปีก่อนผมเพิ่งลงุทนทำหอพักหมดไป 16 ล้าน (เป็นราคารวมที่ดินด้วย ซึ่งก็ถือว่าเยอะแล้วสำหรับผมตอนนี้) ได้รู้จักกับพี่ที่ทำหอพักด้วยกันคนนึงอายุประมาณ 40 กว่าแล้ว ถามเรื่องหอพักของเค้า เค้าบอกหอเค้าลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท (อยู่แถวมธ. รังสิต) ผมได้ยินผมก็สะอึกนะ แต่ผมจะไม่มัวมาสงสัยว่าทำไมเค้าถึงทำได้ขนาดนี้ ไม่มานั่งเปรียบเทียบว่าผมกับพี่เค้าต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่คิดแต่ว่าซักวันนึงผมจะต้องทำให้ได้อย่างพี่เค้า ในเมื่อพี่เค้ายังทำได้เลย เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน อายุเรายังน้อยกว่าพี่เค้าเยอะ (คือพยายามคิดในแง่ที่สร้างกำลังใจให้กับตัวเราเอง ให้เรามีแรงผลักดันที่จะทำอะไรต่อไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่) วันนึงข้างหน้าถ้าผมอายุเท่าพี่เค้าตอนนี้ ถึงตอนนั้นหอผมอาจจะลงทุนเยอะกว่าพี่เค้าก็เป็นได้ พอดีผมไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลย และก็ไม่เคยคิดจะเล่นหุ้นเลยซักนิด (เพราะไม่ค่อยมีดวงในเรื่องการเสี่ยงดวง) แต่ผมเริ่มต้นลุงทุนทำธุรกิจที่ผมถนัดตั้งแต่ผมอายุ 21 เลยครับ เงินเริ่มต้น 1 แสนบาทเอง ตอนนี้ผมอายุ 31 แล้ว คำนวณทรัพย์สินผมที่มีอยู่ตอนนี้คร่าวๆที่ผมหาได้ประมาณ 20 กว่าล้านแล้ว รายได้เดือนนึงตอนนี้ไม่เคยต่ำกว่า 7 แสนต่อเดือน ทำธุรกิจอยู่ 3 อย่าง (เพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ทำธุรกิจเดียวซ้ำๆ) ทุกอย่างไม่ได้มาจากการเล่นหุ้นซักนิด (เพราะเล่นไม่เป็นและพ่อผมเคยเสียหุ้นเกือบหมดตัวไปล้านกว่าๆ ขยาดมาก) และธุรกิจของผมทุกอย่าง สามารถตกทอดให้รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปได้ด้วยนะครับ ถ้าพี่มีเงินขนาดนี้และอายุยังน้อย และไม่มีลูกเมียต้องคอยเลี้ยงดู ผมว่าก็น่าลองเล่นหุ้นดู แต่อายุขนาดนี้และยังมีลูกเมียต้องเลี้ยงดูอีก หาไรทำดีกว่าครับ อย่าเสี่ยงดวงเลย ปล. จะโดนว่าไหมครับเนี่ย ผมสวนกระแส เข้าใจว่าห้องนี้ห้องคนเล่นหุ้น ยังไงขออภัยเพื่อนๆด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 01:35:45 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 01:34:44 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 01:31:02 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 01:08:05 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 01:05:12 จากคุณ : ปาปารัสซี่ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 01:04:07

ความคิดเห็นที่ 50 ดูจากอายุ และความต้องรับผิดชอบในครอบครัวของคุณพี่ คิดว่า ไม่ควรรีบร้อนเล่นหุ้นค่ะ เพราะเวลาเจ็บเนี่ย มันเจ็บจริงนะคะ 3.2 ลบ. ของคุณพี่ อาจเหลือแค่ 32,000บาท ก็ได้นะคะ ไม่ได้ล้อเล่น เจอมาแล้ว ลองดูพวกที่ความเสี่ยงต่ำ เช่นกองทุนรวม หรือเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ของพวกหน่วยงานรัฐบาลดูก่อนมั้ย พวกนี้ไม่มีเจ็บตัว มีแต่ได้ แต่ช้าหน่อย แต่คิดว่า คุณพี่น่าจะหากิจการอะไรทำก่อนก็ดีนะคะ แล้วเงินเหลือเย็น ๆ ค่อยดูลู่ทางการลงทุนต่อไป จากคุณ : MeaoNoi เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 00:50:13