ความคิดเห็นที่ 1 NAV หรือ ราคาต่อหน่วย ไม่ควรถูกรวมมาเป็นปัจจัยว่ากองทุนไหนดีกว่ากองทุนไหนนะครับ เหตุผลก็เพราะ กองทุนรวมทุกประเภทในตลาด จัดตั้งขึ้นมาโดยวันแรกที่ IPO เท่ากับ 10 บาทต่อหน่วย เท่ากัน แต่ข้อแตกต่างก็คือ แต่ละกองทุน ออกเสนอขาย ณ เวลาที่แตกต่างกัน คาบเวลาก็ต่างกันแล้ว เอาแค่ NAV มาเปรียบเทียบ อย่างนี้ กองไหนออกมาหลายปี NAV แพง ก็ไม่มีใครซื้ออย่างนั้นหรือ? ไม่ยุติธรรมนะครับ ลองยกตัวอย่างง่ายๆอีกซักอัน เช่นหุ้น PTT ณ ราคา 250 บาท กับ หุ้นปั่นถูกๆ ตัวละ 2.50 บาท แน่นอนว่า ใช้เงิน 25,000 บาทซื้อหุ้น PTT ได้แค่ 100 หุ้น แต่ซื้อหุ้นปั่นได้ 10,000 หุ้น ถ้างั้น เราจะซื้อหุ้นปั่น?? เราจะซื้อ PTT หรือ หุ่นปั่น เราดูที่โอกาสในการสร้างผลกำไรครับ ไม่ได้ดูว่าได้จำนวนหุ้นมากหรือน้อย เพราะ 10% ของ PTT มันก็เท่ากับ 10% ของหุ้นปั่น อยู่ดี ถูกไหม?? สรุปคือ เราดูที่ ผลการดำเนินงานเปรียบเทียบกัน แต่หากใกล้เคียงกัน เราจะไปดูที่นโยบายการลงทุน ว่าแตกต่างกันอย่างไร และเลือกนโยบายที่เหมาะกับสภาพตลาด และเหมาะกับตัวเรา ส่วน NAV จะถูกจะแพงกว่ากัน ไม่มีผลเลยครับ ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 15:31:53

ความคิดเห็นที่ 2 ผมอาจสงสัยเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ กรณีเอาเงินไปลงทุนเท่ากัน กองที่มีจำนวนnav สูง จะได้จำนวนหุ้นน้อยกว่า มันจะมีผลเกี่ยวกะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ลดลงหรือไม่ ส่วนแนวทางการเลือกกองทุน หรือหุ้น ที่ท่านอธิบายมา ชัดเจนครับท่าน ! ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Boonggy เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 16:10:59

ความคิดเห็นที่ 3 ค่าธรรมเนียมการจัดการ คิดเป็น % จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนครับ แปลว่า หากกองทุน A ซึ่ง NAV 15 บาท กับ กองทุน B มี NAV ที่ 40 บาท ประกาศว่าคิดค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนที่ 1% เท่ากับ ก็จะเท่ากับ หัก 1% ออกจาก 15บาท และ 40 บาท ตามลำดับซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเท่ากันอยู่ดีครับ แต่ในทางปฏิบัติ กองทุนแต่ละกองเก็บค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน เราต้องเข้าไปหาในหนังสือชี้ชวน หรือ Fund Fact Sheet เองอยู่ดีครับผม จากคุณ : Mr.Messenger เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 16:32:44

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าลองไปดูที่ www.morningstarthailand.com day change ในแต่ละวันนั้น คิดเป็น % จาก NAV แต่ละกองแล้วครับ เช่น กอง A ถ้า NAV เมื่อวาน=10 ถ้า day change = 10% สรุปวันนี้ NAV=11 บาท กอง B ถ้า NAV เมื่อวาน=100 ถ้า day change = 10% สรุปวันนี้ NAV=110 บาท ดังนั้น ไม่ต้องสนใจ NAV ก็ได้ครับ ถ้าหากกองที่เราสนใจสามารถทำ return ได้ดีกว่ากองอื่น ถึงแม้กองนั้น NAV จะแพงแล้วก็ตาม ก็ยังถือว่าดีกว่ากองทึ่ NAV ถูกแต่ได้ return ที่ต่ำกว่าครับ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในระยะยาว NAV และ return ย่อมผันผวนไปได้ เราควรจะสังเกตด้วยครับว่า กอง A และ B นั้น เริ่มตั้งกองทุนตั้งแต่เมื่อไร ? ถ้าหากเริ่มในเดือน/ปีเดียวกัน แต่ราคาปัจจุบันต่างกันมาก แสดงว่า เราก็ย่อมอยากลงทุนในกองทุนที่สามารถทำให้ NAV โตได้อย่างต่อเนื่องครับ จากคุณ : monomaniac }:-] เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 17:08:52