|
เห็นเขาเจาะลึก 3.9 G น่าคิด
|
|
จากที่ผมติดตามข่าวมา
เขาจะใช้ บริษัท AIS ในการเข้าประมูลแข่ง ปัญหาอยู่ที่หลังจากได้สัมปทานมาแล้ว (ซึ่งแน่นอนได้แน่ 99.99% เพราะ ใบอณุญาติ
อาจจะมีมากกว่าผู้เข้าประมูล) จะมาการจัดการอย่างไง
เขาจะจัดการอย่างนี้ครับ
1 จัดตั้งบริษัทใหม่ ในการทำกิจการ 3 จี โดยเอา AIS เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ - จัดตั้งบริษัทใหม่แน่นอนครับ ซึ่ง dtac และ true ก็เช่นเดียวกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่อง กฏเกณฑ์ใหม่ของ กทช. ส่วน AIS จะถือเต็ม 100% หรือจะมี partner เพิ่มเติมอีกหรือไม่ต้องติดตามดูกันต่อไป[/color]
2 การวางเครือข่ายของ 3 จี ก็จะใช้เครือข่ายของ 2 จีเดิม เช่นเสาถ่ายทอดสัญญาณ เพื่อลด ค่าใช้จ่ายและวางระบบเครือข่ายไวขึ้น - สามารถใช้เสาร่วมกับ 2G เดิมได้ เนื่องจาก 3G หรือ 3.9G เป็นย่านความถี่ที่แคบ 2G เดิมของ AIS ความถี่ 900 MHz เมื่อเป็น 3G/3.9G ต้องเพิ่มเสาอีก 4 เท่าตัว ถึงจะมี coverage area ครอบคลุมทั่วประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับทาง dtac และ true ที่เป็น 2G เดิม มีความถี่ 1800 MHz เพิ่มเสาอีก 2 เท่าตัว
3 การใช้ 3 จี ใหม่ๆจะยังไม่ครอบคุม ทั่วประเทศ โดยเฉพาะใน ตจว . ก็ต้องมา roamimg กับสัญญาณ 2 จีเดิมอยู่ - ครับ ช่วงเริ่มต้นก็ต้องทำ roaming ไปก่อน
4 ระบบ 2 จีเดิม จะหมดสัญญาสัมปทานปี 2557 ก็ต้องยกให้ กสท. ไป แต่เชื่อว่า กสท. จะบริหารจัดการเองไม่ได้
เพราะระบบที่ใหญ่ มีเลขหมายเป็นสิบๆล้านเลขหมาย บุคลากรที่มารองรับ การซ่อมบำรุง ปัญหาต่างๆเหล่านี้เชื่อว่า
ทางกสท. ก็ต้อง ให้ ทาง AIS บริหารจัดการต่อไป
เพราะฉะนั้น ais ก็น่าจะยังได้ประโยชน์จาก การ การเช่าเสาถ่ายทอดสัญญาณ 3จีใหม่ การroaming สัญญาณกลับมาที่ 2 จีเดิม
และการที่ได้กลับมาบริหาร 2 จีเดิม ที่คาดว่า กสท. ก็ต้องให้สัมปทานรายเก่า และผลประโยชน์จากรายได้3 จีที่ AIS ถือหุ้นใหญ่อยู่
จวบจนกระทั่ง ระบบ 3 จี สมบูรณ์ และระบบ 2 จี ไม่มีอะหลั่ย ในการซ่อมบำรุง ก็ต้องยกเลิก 2 จีไป
- ผมคิดว่าเป็นไปได้ 2 รูปแบบ 1. ส่งมอบอุปกรณ์ให้กับ TOT แล้วซื้อกลับมาด้วยราคาที่ถูกเหมาะสม คงซื้อกลับบางส่วน เช่นเสา 2G เดิมและสาย fiber ที่ลากไว้ทั่วประเทศ 2. อาจจะ ส่งมอบอุปกรณ์ให้กับ TOT แล้วเช่าอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับระบบ 3G ส่วนที่เหลือก็เปล่อยให้เป็นเศษเหล็ก เอาไว้ให้ TOT ชั่งกิโลขาย อิ อิ
แต่ๆ ais ก็ต้องลงทุนใน 3 จี เป็นหมื่นๆล้านบาท ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทใหม่ เพราะฉะนั้น ในระยะสั้น เงินปันผลก็อาจลดลง ถึงแม้
จะมีเงินสดในมือมากก็ตาม
- 3G คิดว่าจะลงทุนพอสมควรเลยแหละ เพราะจำนวนเสาเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าตัว (กรณีของ AIS) แต่ถ้ามีอุปกรณ์ repeater ที่ขยายสัญญาณได้แรง ๆ ก็อาจจะลดเสาลงได้. ต้นทุนที่เยอะน่าจะเป็นเสา (สถานีฐาน) นะ อุปกรณ์ 3G ส่วนใหญ่ซื้อจากจีนได้ ราคาถูกกว่าทางยุโรปประมาณ 50% ได้ ตัว 2G เดิมซื้อจากทางยุโรปส่วนใหญ่ ตอนฝรั่งหลอกแดกไปเยอะ
ระบบ 3G ประเทศบังคลาเทศ ที่เปิดประมูลติดตั้งโครงการมือถือ 3จี เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ต้นทุนสถานีฐานรวมค่าเสา และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทั้งหมด อยู่ที่ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ต่อลูกค้า 1 ราย หรือหากไม่รวมทาวเวอร์ จะอยู่ที่ประมาณ 75 ดอลลาร์
เลยนั่งคำนวณเล่น ๆ ลองเอามาเปรียบเทียบในไทยคร่าว ๆ ของ AIS ที่มีลูกค้า 30 ล้านคน จะใช้เงินลงทุน 3G ที่ 105,000 ล้านบาท (คิดที่ฐานลูกค้า 30 ล้านราย, 1US = 35 บาท) แต่เมื่อใช้สถานีฐาน 2G เดิมด้วย เบ็ดเสร็จลงทุน 3G จะใช้เงินลงทุนประมาณ 80,000 ล้านบาท ก็คงทยอยลงทุนปีละประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท
"การทำธุรกิจที่ดีที่สุด คือการใช้เงินคนอื่น"
จากคุณ |
:
MR.rank
|
เขียนเมื่อ |
:
8 มิ.ย. 53 13:51:31
|
|
|
| |