ความคิดเห็นที่ 1 ผลตอบแทนต่างกัน เพราะความเสี่ยงมันก็ต่างกันด้วยครับ ถ้าให้ดีแบ่งไป 2 ที่เลยจะดีไหมครับ เพื่อกระจายความเสี่ยง จากคุณ : ซูโม่ & ซูกัส เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 21:58:27

ความคิดเห็นที่ 2 ขอให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจดีกว่า 1. พันธบัตร มั่นคงกว่ามาก ความเสี่่ยงในเรื่องที่จะไม่ได้คืนเงินต้น แทบไม่มีเลย 2. ถ้าต้องการใช้เงิน พันธบัตรสามารถนำไปขายที่ธนาคาร ได้ตลอด ความคล่องตัวมีมากกว่า ส่วนจะได้มากกว่าหรือน้อยกว่าที่ซื้อมาก็ต้องขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยในขณะนั้น 3. หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าด้อยสิทธิ หมายถึงว่าถ้าธนาคารล้มโอกาสได้เงินคืนแทบไม่มีเลย เพราะจะได้เงินคืนในลำดับท้าย แต่โอกาสที่ธนาคารล้ม ก็มีน้อย แต่ก็ไม่แน่ ดูตัวอย่างของอเมริกา 4. หุ้นกู้ด้อยสิทธิ กำหนดอายุไว้ 10 ปีก็จริง แต่ส่วนใหญ่ bank มักไถ่ถอนเมื่อครบปีที่ 5 เพราะหุ้นกู้ตัวนี้จะไปค้ำประกันกองทุนสินทรัพย์เสี่ยง เมื่อครบ 5 ปีจะหมดความจำเป็น ธนาคารจึงมักไถ่ถอนก่อนกำหนด แต่หากในขณะนั้นดอกเบี้ยในตลาดสูงขึ้นมาก ธนาคารก็อาจไม่ไถ่ถอน แต่เราก็เสียโอกาสที่จะได้ดอกเบี้ยสูงๆ อยู่ดี 5. เมื่อคิดส่วนต่างหุ้นกู้ด้อยสิทธิกับพันธบัตรจะต่างกันอยู่ 4.5-4.17 = 0.33% x จำนวน 2 แสน = 660 บาทต่อปี ุ6. หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ซื้อแล้วติดกาวตราช้างไว้ได้เลยครับ มักไม่ค่อยมีใครรับซื้อ สถาพคล่องมีน้อยกว่าพันธบัตรมาก เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินครับ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 53 22:07:52 จากคุณ : Master (myrmts) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 22:06:19

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่แตกต่างอย่างมีนัยยะฮะ .. สำหรับผลตอบแทนคู่นี้ แต่ผมว่าถ้าพี่จะซื้อหุ้นกู้สิบปี พี่เอาตังค์ไปโยนซื้อหุ้นปตท.แถว 240-250 ดีกว่าเยอะๆ .. สิบปีผ่านไป ได้ปันผลรวมซัก 100 บาท .. ราคาหุ้นเกิน 350 แน่นอนนน จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 22:53:46

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะค่ะ @^_______^@ ถ้าให้ดีแบ่งไป 2 ที่เลยจะดีไหมครับ เพื่อกระจายความเสี่ยง จากคุณ : ซูโม่ & ซูกัส ** เงินไม่เยอะมากอ่ะค่ะ กระจายไป 2 ที่ ได้ที่ละแสน ผลต่างไม่น่าจะเยอะ (กลัวจำไม่ได้ด้วย เอกสารเยอะอ่าค่ะ) เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินครับ จากคุณ : Master (myrmts) ** ชัดเจนมากเลยค่ะ . . . เห็นภาพ / 660 บาทต่อปี >> งั้นเอาแช่ไว้ 6 ปี ก็พอ ไม่แตกต่างอย่างมีนัยยะฮะ .. สำหรับผลตอบแทนคู่นี้ จากคุณ : Duckcovery [FriendFlock] [Bloggang] ** ไม่มีเวลาตาม ไม่กล้าเล่นหุ้นอ่าค่ะ เคยตามทองแท่งได้รอบ สองรอบ ก็ไม่มีเวลาไปซื้อ ไปขาย จะเล่นเป็นกองทุนทองคำ ก็กล้าๆ กลัวๆ ไม่มีเวลาไปตาม เลยเน้นซื้ออะไรที่สามารถทิ้งไว้ได้เลย ไม่ต้องดูแลมากกว่าค่ะ ใครมีคำแนะนำดีๆ ก็บอกมาได้เลยนะค่ะ . . . ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : จขกท (= คิดผ่านสมอง ทำด้วยหัวใจ =) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 23:43:55

ความคิดเห็นที่ 5 สลากออมสินก็ดีนะครับ ได้ลุ้นดี จากคุณ : Anek300D เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 01:51:27

ความคิดเห็นที่ 6 อย่าหวังรวยเร็วไปเล่นแชร์ข้าวสาร...แชร์ก๋วยเตี๋ยว..แชร์อาหารเสริม ก็แล้วกันครับ!! จากคุณ : พาชื่น เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 07:56:41

ความคิดเห็นที่ 7 ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงซิ ของผม -พันธบัตร 10% -หุ้นกู้ 10% -หุ้นสามัญ 60% -ฝากเงินประจำ ออมทรัพย์ สหกรณ์ ประกันชีวิต ดอกเบี้ยสูง 20% แล้วแต่การบริหารเงินใครชอบแบบไหนมากกว่ากัน จากคุณ : พลทหารหน้าใหม่ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 08:57:53

ความคิดเห็นที่ 8 ตลาดรองต่างกันมากมาย หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ... ขายตลาดรองราคา discount (ขาดทุน) เกือบทั้งนั้น เพราะสถาบันบางที่เค้าก็ไม่ลงทุนหุ้นกู้ด้อยสิทธิ อาจจะมีแต่รายย่อยซื้อกันเอง ใครอยากขายก่อนก็ถูกกดราคาต่ำเป็นธรรมดา เพราะซื้อ-ขายยาก สภาพคล่องน้อย พันธบัตรออมทรัพย์ ... ขายตลาดรองอาจได้ราคา premium (กำไร) ถ้าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังตรึงอยู่อย่างนี้ และอัตราผลตอบแทน (yield) ในตลาดยังผันผวนอยู่ ... เพราะอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของพันธบัตรออมทรัพย์ มันต่างกับ yield ในตลาดของพันธบัตรรัฐบาลอายุใกล้ๆกันตั้งเกือบ 100 bps ตอนนี้พันธบัตรรัฐบาลอายุ 6 ปีผลตอบแทนแค่ประมาณ 3.1% เอง (ปกติบวกแค่ 40-50 bps) แสดงว่าซื้อไป มีโอกาสทำกำไรได้ (สามารถขายได้หลังจากช่วง IPO 6 เดือน) เอ้า ... รีบไปซื้อครับ 555 เค้าเปิดถึงตั้งวันที่ 16 แน่ะ ^^ จากคุณ : sonซัน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 09:00:37

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณนะค๊า . . . มีเงินเก็บไม่มาก ลงทุนอย่างละนิด อย่างละหน่อย มีการกระจายความเสี่ยงบางส่วนค่ะ แบบง่ายๆเลยค่ะ 1 ซื้อพันธบัตรรัฐบาล มาแล้ว 2 ชุด (ชื่ออะไรบ้าง ก็ไม่รู้ 555 แบบ 10 ปีกับ 6 ปี) 2 ซื้อทองแท่งไว้ 10.- ตั้งแต่ บาทละ 8000 3 ซื้อ LTF (ลดหย่อนภาษีได้ปีแรก) ซื้อมา 3 ปีหล่ะ 4 เงินส่วนใหญ่ ฝากเงินไว้กับ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมตำรวจ (เสี่ยงหรือเปล่า ก็ไม่รู้ . . . เห็นได้ ดอกเบี้ยเยอะดี) 5 ทำประกันชีวิต เสียเบี้ยปีละ 60000 จ่าย 15 ปี คุ้มครอง 22 ปี ทุนประกัน 2 แสน ตัว SF22/15 ของอยุธยา อลิอัลซ์ ซีพี ได้เงินคืน ปีละ 5000 เป็นเวลา 20 ปี (อันนี้ ไม่รู้คุ้มหรือเปล่า เพื่อนมาบังคับขาย เลยต้องซื้อ ตอนนั้นมีงานทำ เอาไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ . . . ตอนนี้ ตกงาน ออกมาค้าขาย นิดๆหน่อยๆ เพื่อนคนนี้ก็หายไปแล้ว T_T" เลยไม่รุ็จะทำอย่างไรดี รายได้ไม่ถึงต้องเสียภาษี ก็เลยไม่ได้ลดหย่อน) 6 ซื้อ T-Cash ของธนชาติไว้ 3 ปีแล้ว (ก็ไม่รู้ว่า กำไรหรือเปล่า)   ** สรุปว่า ไปซื้อพันธบัตรไทยเข็มแข็งนิดหน่อยดีกว่า และ . . . ขอถามเพิ่มเติม ข้อ 5 และ 6 ค่ะ ว่าควรปล่อยไว้อย่างนั้น หรือทำอย่างไรดีค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : จขกท (= คิดผ่านสมอง ทำด้วยหัวใจ =) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 10:31:35

ความคิดเห็นที่ 10 กองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน T-CASH ไปดูผลตอบแทนได้ครับ เฉลี่ย 1 ปีที่ผ่านมาประมาณ 0.94% ถ้าเป็นเงินเย็น ลองมองหากองทุนพันธบัตรเกาหลี เช่น ยกตัวอย่าง กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ฟอร์เรน โนท 14M3S (SCBFN14M3S) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี อายุโครงการประมาณ 14 เดือน ผลตอบแทนสุทธิ 2.10% ต่อปี (ตัวนี้ขายหมดไปแล้วนะครับ) มีมาขายเรื่อย ๆ รอจังหวะสลับไปได้ครับ ผลตอบแทนมากกว่าT-CASHเท่าตัวเลยทีเดียว จากคุณ : JZS161-V300 เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 10:53:06

ความคิดเห็นที่ 11 - ถ้าเงินฝากออมทรัพย์ ลองดูของ Tisco Super Saving เป็นเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ถอนได้เดือนละ 2 ครั้ง แต่ต้องคงยอดไว้ 1 แสน ห้ามปิดบัญชีภายใน  6 เดือน หลังจากเปิด มีับัตร ATM ให้ฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียม โอนเงินต่างจังหวัดไม่เสียค่าธรรมเนียม เขาให้ดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ฝากไว้เป็นทางเลือกอีกทาง - "ตอนนี้ ตกงาน ออกมาค้าขาย นิดๆหน่อยๆ" ผมว่าเป็นโอกาสที่ดีเลย การลงทุนต่างๆ ที่บอกมา ยังไง ก็สู้การค้าขายไม่ได้ เพียงแต่ต้องออกแรงหน่อย ผมเห็นที่เมืองทอง เวลามีงาน พวกขายอาหารคนแน่น ขายดี ลองดูว่าจะเข้าไปได้ยังไง ถ้าเข้าไปได้ ผมว่าดีกว่าทำงานอีกนะ จากคุณ : Master (myrmts) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 11:05:40

ความคิดเห็นที่ 12 ประกันชีวิต ถ้าไม่ได้นำไปลดหย่อนภาษี ... จะไม่คุ้มหรอกครับ คิดตามมูลค่าเงินตามเวลา เราจ่ายออกไปตั้งแต่ปีที่ 1 จนถึง ปีที่ 15 ... กว่าเราจะได้เงินต้นคืนตั้งปีที่ 22 (เงินคืนปีละ 5 พัน กะจ่ายออก 6 หมื่นนี่เทียบกันแทบไม่ได้) แต่ถ้าเอาไปลดหย่อนได้ทุกปีที่ส่ง จะคุ้มค่าครับ ถ้าตั้งใจจะทำต่อไป ไม่ซีเรียสก็โอเค ... ถ้าจะยกเลิกต้องดูว่าเราเอาเงินไปทำอย่างอื่นต่อได้ดีกว่ารึป่าว ส่งมานานรึยัง ถ้ายกเลิกก็จะไม่ได้เงินที่ส่งไปแล้ว ... ต้องศึกษาดีๆก่อนอ่ะ ว่ามีข้อกำหนดอะไรบ้างครับ ส่วนเงินที่อยู่ใน t-cash (อยู่มานานมาก แสดงว่าขังลืมไปเลย เหอๆ) ขังไว้งั้นก็แทบไม่ได้ประโยชน์ เพราะถ้าแบบนี้แสดงว่าคุณไม่ต้องการสภาพคล่องเยอะ แนะนำกองทุนเกาหลีอ่ะแหละครับ ผลตอบแทนดีกว่า จากคุณ : sonซัน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 16:25:06

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกๆความเห็นเลยนะค่ะ ไม่ผิดหวังจริงๆที่มา post ถามที่นี่ ก็คิดหนักเหมือนกันเรื่องประกันชีวิต เพราะจ่ายทีก็กรอบไปเหมือนกัน เริ่มจ่ายมาตั้งแต่ปี 48 ค่ะ ออกจากงานมาค้าขายได้ 3 ปีแล้วคะ ยังไม่ค่อยอยู่ตัวเท่าไหร่เลย เหนื่อยมากคะ . . . แต่ก็ต้องสู้คะ มีท้อบ้าง แต่ถอยไม่ได้ . . . คนที่ลำบากกว่าเรามีเยอะ เค้ายังสู้ได้เลย @^_^@ ขอถามเพิ่มเติมเรื่องประกันชีวตนี่ ควรจะทำอย่างไรดีค่ะ โทรไปที่บริษัทประกันหรือค่ะ ตัวแทนตั้งแต่มาขายให้ก็หายไปเลย ไม่เคยเจอ ไม่เคย claim มัวแต่วิ่งหาของขาย พอมารู้ตัวอีกที ก็ถึงเวลาส่งเบี้ยอีกแล้ว T_T" คือก็ยังอยากทำประกันสุขภาพไว้อยู่ อายุ 39 แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : จขกท (= คิดผ่านสมอง ทำด้วยหัวใจ =) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 10:14:48