ความคิดเห็นที่ 1 เดย์เทรดแบบเข้มข้น ผมไม่สามารถเหมือนกัน ผมได้แต่เทรดสั้นๆวันสองวันปล่อย สั้นมั่งยาวมั่ง ยาวสุดคงซักอาทิตย์ ที่ใช้ก็กราฟบวกอารมณ์ 5555 รอพี่ kkkai525 หรือพี่นกเพนกวินอ้วน มาตอบ น่าจะข้อมูลเพียบ (แหะๆโยนซะงั้น) จากคุณ : กะโหลกกับกะลา เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:44:52

ความคิดเห็นที่ 2 หุ้นปั่นหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ทำความคุ้นเคยตัวที่จะซื้อไว้ก่อน สัก 5-6 ตัว ตัวไหนเข้ามาเป็นพรืดใน ticker ก็เรียกมาดูความเคลื่อนไหว จากนั้นถ้าตัดสินใจเข้าก็เหมือนกระโดดเชือกครับ ถือหุ้นให้สั้นที่สุด เข้าในจังหวะที่คิดว่าน่าจะได้กำไรมากที่สุด มียกกันเป็นช่องๆ นั่นแหละ หุ้นไม่วิ่งหรือซื้อแล้วลง ให้ปล่อยทันที ห้ามเสียดาย ได้กำไรแล้วเลิก หรือเทรดน้อยลงครึ่งหนึ่ง เหมาะกับหุ้นที่มีแนวโน้มลิ่งหรือกรณีที่คิดจะเล่นเป็นรายนาทีหรือวินาที ถามว่า cut loss ตรงไหน ถ้ารู้สึกผิดจากที่คาดไว้ก็ cut ครับ คำเตือน เล่นวิธีนี้ได้ไม่ทุกวันนะครับ ส่วนที่เซียนๆ เคยเล่าให้ฟังก็เทรดยาวขึ้นอีกนิด ใช้กราฟคัดหุ้นสวยๆ มาก่อนเหมือนกัน ตัวไหน ผิดปกติก็ดูจุดเข้าซื้อขายตามกราฟ บางคนมีทยอยซื้อตามสัญญาณแต่ละตัวด้วย อันนี้แล้วแต่เราเลยว่าใช้อินดี้ตัวไหนบ้าง แน่ๆ ที่อยากจะบอกคือ ไม่รู้สึกว่าเป็นการลงทุนหรือมีรายได้แน่นอนเลยครับ กับการเล่นหุ้นปั่น โดยส่วนตัว ผมไม่สามารถคาดเดาผลกำไรได้ และรู้สึกว่าเล่นยากกว่าหุ้นพื้นฐานหรือแม้แต่ tfex ครับ tfex อย่างน้อยมี set 50 รองรับ ราคามันไม่ crazy แน่ๆ แต่หุ้นปั่น มันพาเราลงไปได้ถึงไหนก็ไม่รู้ ยิ่งหุ้นปั่นยุคนี้ เจ้ามือใจป๊อดครับ ลากไม่เท่าไหร่ก็เลิกแล้ว จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:18:55

ความคิดเห็นที่ 3 เล่นแล้วดี มีแต่จน จากคุณ : sukineko เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:21:10

ความคิดเห็นที่ 4 เล่นได้เกือบทุกตัวแหละ  เดย์เทรด  ยิ่งมีหุ้นอยู่กับตัวยิ่งเล่นง่ายซะอีก เล่นได้ 2 หน้า  ขายก่อนซื้อก็ได้   ซื้อก่อนขายก็ได้    อิอิอิอิอิ จากคุณ : Duo-Core เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:25:19

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบข้อ 1 รู้นิสัยของหุ้นตัวที่จะเล่น, ดู ticker ให้เป็น, มือเร็ว ใจเร็ว ไม่ลังเล ข้อ 2-4 ตอบไม่ได้ เพราะจุด cut หรือจุดทำกำไร เรากำหนดไม่ได้ ตลาดมันกำหนดให้เอง ถ้าเราไม่รู้ว่ามันกำลังจะเอาช่องต่อไปแน่หรือเทช่องนี้แน่ ก็คือเราไม่รู้อะไรเลย ถ้าเล่นจนชินจะรู้ว่า มาอย่างนี้ได้แน่หรือแบบนี้จะโดนแล้วต้องออก จากคุณ : Mr. Nightman เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:09:22

ความคิดเห็นที่ 6 จากคุณ : ช้างทมิฬ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:27:08

ความคิดเห็นที่ 7 เข้าไปกระทู้นี้เลยครับ ผมตอบเอาไว้แล้ว แล้วก็อ่านต่อที่ link daytrade school ในกระทู้ได้เลยครับ (เครดิต อ.GANTZ) http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2010/04/I9121799/I9121799.html คำแนะนำเพิ่มเติม 1.แนะนำว่าถ้าไม่ใช่เงินเย็นอย่าเล่น และไม่ควรเกิน 20% ของเงินที่มี 2.อย่าใจร้อน อดทน และ มีวินัย (ท่องไว้หุ้นขึ้นมีทุกวัน) 3.ได้ถึงเป้าแล้วต้องปล่อยอย่าเสียดายของ(ยกเว้นจะเก็บไว้เล่นรอบ) ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : kkkai525 เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:24:57

ความคิดเห็นที่ 8 1. ดู volume ของหุ้น 2. ดูกราฟหุ้นและข่าว แต่ละตัวว่าควรรับหรือเก็งกำไร 3. ใช้ช่วง ato atc ให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะช่วงเปิดตลาดช่วงเช้า และบ่าย 4. ใช้ panic sell หรือ Stong bull ให้เป็นประโยชน์ จากประสบการณ์จะได้กำไรมากกว่าเสียหากไม่ใช่วิกฤติ 5. กำหนดจุด stop lost 6. วันไหนไม่มั่นใจไม่ควรเล่น ประสบการณ์คราวๆ ของผมครับ จากคุณ : opar156 เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 22:30:29

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าแนวทางที่เล่นอยู่ทุกวันนี้ ยังทำผลงานได้ไม่เป็นที่พอใจ ก็คงต้องหาทางพัฒนาแนวทางอื่นๆ ไป เดย์เทรดเป็นแนวทางหนึ่ง , ซึ่งโดยส่วนตัวผมไม่สนับสนุนให้เล่น ลองคิดเล่นๆ เอาเอง ว่าเราถูกเค้าขี่ขนาดไหน? รายย่อยทั่วไป ซื้อ-ขายหุ้น ต้องเสียค่านายหน้า ผ่านเนท ขั้นต่ำ 0.16% ไป*-กลับ ก็ 0.32% ผ่านมาร์ ขั้นต่ำ 0.25% ไป-กลับ 0.5% หุ้นทุกวันนี้สเปต น้อยกว่า 0.5% (ยกเว้นตัวราคาต่ำๆ) สรุปตรงส่วนนี้คือ ซื้อแล้ว ราคาต้องขึ้นไป 2 ช่วงราคา จึงจะพอมีกำไร หลังหักค่านายหน้า ไหนเรายังต้องไปแข่งกับพอร์ตโบรค ที่ไม่มีค่านายหน้าอีก เค้าเล่นส่วนต่าง ช่วงราคาเดียวก็มีกำไรแล้ว ถ้าเป็นหุ้นที่สภาพคล่องน้อย เจ้ามือคุมอยู่หมัด เค้าก็บล็อกราคา bid - offer เล่นได้เลย มีคนเคาะซื้อมากๆ ก็ offer วางเป็นล้านๆ จนคนไม่กล้าเคาะ ยอมขายขาดทุน 1 ช่อง(เค้าก็ได้กำไรแล้ว) พอมีคนขายมากๆ เค้าก็ bid รับเป็นล้านๆ คนขายก็กลัวว่าจะขึ้น ทีนี้เค้าก็เคาะนำ ไปเรื่อยๆ วางofferตามจ่อ เป็นจังหวะ พอมีคนมะรุมมะตุมเคาะตาม ก็ดูแรงซื้อ ถ้ามาก ก็ไล่ต่อไปอีก 2-3 ช่วงราคา(หุ้นเจ้ามือ พอร์ตโบรคทั้งนั้น) ไล่ราคาเสร็จ ก็ offer กดไว้ ท้ายตลาดบีบคอเอาหุ้นคืน .. สรุป รวมๆ เป็นรายย่อยธรรมดา เล่นเดย์เทรดเสียบเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง อันนี้ให้ข้อคิดเห็นเตือนใจ แต่เรื่องแบบนี้ ถ้าอยากลอง ก็ต้องลองดูจนได้ คงจะมีคนบางคน ที่เหมาะกับแนวทางเดย์เทรดทำนองนี้ จากคุณ : บุญทับ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 23:18:53

ความคิดเห็นที่ 10 ประมาณวันที่ 15 มิย 53 (อาจจำวันที่ผิด) ถ้าเล่นตามอารมณ์ ก็ลองดู thcom วันที่เปิด 7.95 แล้วพาไป 8 บาท สังเกตอารมณ์ดูว่า คนในตลาดอยากซื้อ หรืออยากขาย ถ้ามีปริมาณคนอยากขาย มากกว่า อยากซื้อ นั่นก็ย่อมทำให้ราคาไม่ผ่าน 8 บาทกว่าๆ (จำตัวเลขไม่ได้) ถัดมาบริเวณ 7.75 จะสังเกตว่ามีแรงขาย และมีแรงซื้อ เข้ามากระทำ และดูเหมือนว่ามีบิดมารับเรื่อยๆ แต่ลักษณะการวางบิดดูเหมือนจะรับไม่อยู่ (ใช้อารมณ์เข้าตัดสินใจ) และในที่สุดมันก็ลงต่ำกว่า 7.2 ถัดมาทำนิวโล น่าจะ 7.05 (หรือ 7.1 จำไม่ได้) แล้วมีแรงซื้อสวนทันที ผนวกกับแรงขายเริ่มหมด ทำให้แรงซื้อมากกว่าแรงขาย จึงทำให้ราคามาปิดแถว 7.2 สรุป เตรียมซื้อเมื่อหมดแรงขาย เตรียมขายเมื่อหมดแรงซื้อ ส่วนกำไรกี่ช่องนั้น (ผม) คงตอบไม่ได้ เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่า ณ ราคาขายใด แรงซื้อหรือแรงขายจะชนะ >>> จึงวกกลับไปที่คำสรุปด้านบน ส่วนระยะเวลาการถือก็เหมือนกัน (ไม่รู้ได้ว่าจะต้องถือไว้นานเท่าไหร่) ส่วนการตั้ง stop loss ก็ลองประเมินคร่าวๆ เช่น แรงขายเริ่มหมดที่ 7.1 แล้วเข้าซื้อ และตั้ง stop loss ไว้ 7 บาท ซึ่งยอมขาดทุน 2000 บาท ดังนั้น จะซื้อหุ้นที่ราคา 7.1 ได้จำนวน = 2000/(7.1-7) = 20000 หุ้น (ไม่รวมคอมฯ) จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 02:08:51

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไม่ได้เทรดนะครับ...ได้แต่ดู จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 02:22:29

ความคิดเห็นที่ 12 สรุปได้รู้เพิ่มเรื่อง  กราฟ  อารมณ์ตลาด(คนอยากซื้อกับคนอยากขาย) ซื้อเมื่อหมดแรงขาย  ขายเมื่อหมดแรงซื้อ  ต้องดูหุ้นตลอดเวลา  ใช้ประโยชน์ ATO-ATC   ฯลฯ สุดท้าย  จะนำมาปรับใช้กับวิธีเล่นของผม  เป็นแนวของตัวเองต่อไป ขอบคุณครับ จากคุณ : พลทหารหน้าใหม่ เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 08:56:12