ความคิดเห็นที่ 1 ขอหลักประกันไว้ซิครับ...​จำนองไว้... จากคุณ : SummerMan เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:18:02

ความคิดเห็นที่ 2 บอกว่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถครับ บอกไปเลยผ่อนบ้าน 30 ปี แต่ละเดือนไม่พอใช้ ผ่อนหมดแล้วก็อย่าไปบอกใคร ให้บอกว่าผ่อนอยู่ คงไม่มีใครขอดูหลักฐานหรอก จากคุณ : ohlalla เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:20:03

ความคิดเห็นที่ 3 ญาติผมคนนึงเหมือนพี่เลยครับ แบบใจดีมาก ๆ ใจอ่อน และปฏิเสธไม่เป็น และเพื่อนเยอะมาก ก็เสียเงินกับเพื่อนไปเป็นล้านเหมือนกันเลย มีแต่คนมายืมเงินตลอด จะบอกว่าไม่มีก็ไม่ได้ เพราะทำธุรกิจประสบความสำเร็จมาก ใคร ๆ ก็รู้ว่ามีเงิน ตอนหลังญาติผมกลุ้มมาก เงินก็เสียดาย เพราะหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง แต่จะทวงก็ไม่กล้า แถมทะเลาะกับภรรยาเรื่องนี้จนเกือบเลิกกัน แต่ตอนนี้หาทางออกได้แล้วครับ คือให้อ้างภรรยาครับ ใครมาขอยืมเงิน โยนไปให้ภรรยาก่อนเลยครับ บอกว่าเค้าคุมเงินทั้งหมด ให้ไปคุยกับภรรยาเอง หรือต้องไปปรึกษาแฟนก่อน พอปฏิเสธก็อ้างภรรยานั่นแหละ คือคุณทำตัวเป็นแค่คนกลาง คุณไม่ได้ปฏิเสธ แต่ภรรยาเป็นคนปฏิเสธ มันพูดง่ายกว่ากันเยอะเลยครับ ไม่อึดอัดใจเท่ากับบอกว่าคุณไม่ช่วยโดยตรงด้วย พอดีแฟนญาติผมโหดด้วยครับ เรื่องก็เลยจบด้วยดี ตอนนี้ไม่มีใครมาขอยืมเงินแล้วครับ เทคนิค คือ พยายาม position ตัวเองให้กลายเป็นคนกลาง แล้วจะปฏิเสธได้ง่ายขึ้นเยอะครับ ขอให้โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 53 12:21:16 จากคุณ : silver(comet) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:20:39

ความคิดเห็นที่ 4 น่าเห็นใจครับ ว่าแต่ ขอยืมสัก 2000 ได้มั้ยครับ................ล้อเล่น... คงต้องใจแข็งครับ เพื่อนผมโทรมายืม ผมก็บอกติดดอยอยู่จ้า เพราะรู้ว่าให้ไปไม่ได้คืนแน่ ๆ อีกอย่างครับ ถ้ายืมครั้งนี้ได้ ครั้งหน้าก็มาใหม่  หรือ อาจไม่มีครั้งหน้าเพราะไม่ได้คืนครับ เงินทำใหเสียเพื่อนมาเยอะแล้ว จากคุณ : ไม่รักไม่ได้แล้ว เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:23:08

ความคิดเห็นที่ 5 แหะ ๆ เข้ามาบอกว่าเข้าใจความรู้สึกครับ เคยให้เพื่อนสนิทมาก ๆ ยืมเงินไป สุดท้ายเพื่อนหนีหนี้ไป จำนวนเงินก็ หลักหมื่นเพียงแต่ตอนนั้น หลังจากผมให้ยืมไปผมเหลือเงินแค่ 2000 เอง ก็วัดใจให้กันไป  จำนวนเงินถ้าเทียบกับตอนนนี้ก็ไม่มากอะไร แต่ตอนนั้น นี่เป็นเงินเก็บทั้งหมดเลย ก็ให้กันไป   หลังจากนั้นมาใครมายืมผมก็บอกเลยว่า ขอกรูเก็บเงินสร้างอนาคตตัวเอง บ้างเหอะ  เงินที่เอามาให้ยืมเง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่ได้ประทานมาให้ ต้อง ลำบากทำงานมาเหมือนกัน แต่ถ้าผมมีเงินสักร้อยล้านมีใครมาขอยืมสักล้านนึงนี่คงพอให้กันได้ แต่มีเงินล้านนึงมาขอยืมซะ 9 แสนนี่ โทษทีคงให้ไม่ได้หรอก เข็ดแล้ว T  T จากคุณ : น้ำเต้าฮวย 5 บาท เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:23:37

ความคิดเห็นที่ 6 เหมือนกันเลยเมื่อประมาณ เกือบ 10 ปีแล้ว ตอนนั้นกลุ้มใจมาก ปัจจุบันไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เลย เพื่อนแท้ที่เข้าใจก็จะเข้าใจในที่สุด วิธีแก้คือ เขายืม 5แสนไปใช้หนี้ ถ้าเรามีตังส์เป็นร้อยล้านก็ให้เขาไปแต่ ไม่ต้องหวังคืนถ้าได้คืนเก็บเอาไว้เผื่อเขามายืมอีกถ้าเป็นคนดี แต่ถ้ามีระดับ เป็นสิบล้าน น่าจะให้เขาไปไม่เกิน 3หมื่นก็พอแล้วบอกเขาไปว่าพร้อมเมื่อไร ค่อยเอามาคืนไม่ต้องคิดมาก เพื่อนกัน  แค่นี้แหล่ะ...... จากคุณ : เด็กเอบวก เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:25:25

ความคิดเห็นที่ 7 น่าเห็นใจ  เพื่อนบางคน อาศัยความสนิท ยืม เสร็จ ผ่านไปนานๆ  ทำเป็น ลืม เฉยเลย หลบ เลี่ยง ไม่พูดไม่คุย หนีหน้าซะงั๊น จากคุณ : moonwatch เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:25:57

ความคิดเห็นที่ 8 ผมไม่เคยดูถูกค่าของเงินนะครับ   เงินหมื่นเงินพันผมก็เสียดาย  จะบอกว่ามีเงินเยอะแล้วให้เพื่อนยืม  ถ้ายืมน้อยแล้วหนี้สูญก็ให้ทำใจ   ตรงเนี้ยครับที่ผมทำใจไม่ได้           ตอนที่ผมยังเพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัวครั้งนึงเคยเปิดร้านแก๊ส ส่งแก๊สเอง   กำไรถังนึง 30-40 บาท แบกกันหลังแอ่น   เพราะฉะนั้นไม่ว่าผมมีเงินสิบล้านหรือร้อยล้าน แล้วโดนคนยืมเงินเบี้ยวไปสักห้าพัน หรือห้าหมื่น  ผมก็เสียดายครับ        จะให้ทำใจว่าเงินห้าหมื่นมันน้อยแล้วช่างหัวมัน   ผมทำใจไม่ได้หรอกครับ     ถ้าคุณเคยหาเงินอย่างยากลำบากมาก่อนจะเข้าใจและเสียดายเงินมากๆครับ    แต่ที่ให้ยืมไปเพราะความเกรงใจคำเดียวเท่านั้นแหละครับ          ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นมากนะครับ สำหรับกำลังใจและคำแนะนำ จากคุณ : จขกท. (Simboh) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:44:01

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ Simboh ตัวผมเองและท่านอื่น ๆ ไม่ได้หมายถึงเงินมันน้อยแล้วช่างหัว มัน แต่น่าจะหมายถึงว่า มันเป็นจำนวนที่สามารถให้ได้โดยไม่เดือดร้อนอ่ะ ครับ ถ้าเป็นเงินจำนวนนั้นก็ถือว่าช่วยกันไปครับ เราก็สบายใจที่ได้ช่วยเพื่อน ด้วยครับ แต่กว่าจะถึงขั้นนั้นผมคงต้องสร้างเนื้อสร้างตัวอีกนานเลยครับ ฮาาาา จากคุณ : น้ำเต้าฮวย 5 บาท เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 12:55:44

ความคิดเห็นที่ 10 เขียนตัวโตๆ  แปะไว้ที่ฝาบ้านที่โต๊ะทำงาน 1 ไม่เล่นการพนัน 2 ไม่ขอยืม(เงิน)ใคร และไม่ให้ใครยืม(เงิน) 3 ไม่ประกันใคร จากคุณ : คาถา (ป้าติ๊ก) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 13:02:45

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าใจค่ะ ... เคยโดน เบี้ยวเงิน จากเพื่อนๆนี่เเหละ หลายราย แล้วเค้าก็หลบหน้าเราไป ... เสียเพื่อนโดยปริยาย จึงตั้งกฎไว้ว่า จะไม่เป็น เจ้าหนี้ใครเป็นอันขาด แต่ ... ก็เสียรู้ เพราะ .. คนที่ ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ มาเจ็บใจตัวเองที่ ... เคยมีคนพยายามเตือนเรามาแล้ว เรากลับไม่เชื่อ .... ตอนนี้ ก็ รอดูเหยื่อ รายต่อๆไปของคนคนนี้ .... (เราไม่กล้าเตือน เพราะ ถ้าเค้าไม่เชื่อ ก็แบบที่เราเคยโกรธคนที่เตือนมาแล้ว) คนบางคนก็เกิดมาเพื่อ ยืมเงินอย่างเดียว หาเรื่องมาปรึกษาได้ทุกบ่อย  จะลงทุน จะทำธุรกิจ เค้าไม่ได้ต้องการ คำปรึกษาหรอก เค้าต้องการเงินในกระเป๋าคุณตะหาก เลิกคบค่ะ บอกไปตรงๆ ไม่มีเวลาคุยด้วย รีบขอตัว .... ตัดสาย หรือ ฟังได้ ดูว่าจะมาไม้ไหนอีก แล้วก็ เซย์ โน .... จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 13:20:59

ความคิดเห็นที่ 12 "กุไม่อยากฆ่ามรึงว่ะ จริงๆนะ มรึงจำแว่นได้มั้ย อ่อ มรึงไม่รู้จักว่ะ โทษทีมันติดกูอยู่แสนนึง ทวงมันตลอด แมร่งไม่ยอมคืนว่ะ ครบปีนึง กุยอมเสียเงินจากพวกที่ชุม ห้าหมื่น เก็บมันซะ กุไม่เอาแล้วเงิน ทำใจไม่ได้ที่เห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ว่ะ แมร่งไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ มายืมเงินกุน่ะ กุก็ใจดีให้ไป แต่มาทำแบบนี้กับกุ นี่ยังมีไ อ อ้วน อีกตัว เจ็ดเดือนแล้ว เอากุไปแสนห้า ถ้าเดือนหน้าไม่ได้กุก็ทนไม่ได้เหมือนกัน" พูดไปอย่าหยุด ให้เพื่อนฟังครับ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 13:46:21

ความคิดเห็นที่ 13 คห.12 ชอบมากมาย จากคุณ : Bombboke เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 14:15:16

ความคิดเห็นที่ 14 เราจะโดนยืมบ่อยมากๆเลยคะ   จนมีฉายาว่า ตู้ ATM   หลังๆเนี่ยบอกปัดไปเลยคะว่า  "เราไม่มีแล้ว เพื่อนๆคนนั้น คนโน้น คนนี้ ยืมไปเรายังไม่ได้คืน  เงินหมดแล้ว   เอางี้ไหม ไปเอาเงินจาก ........(ชื่อเพื่อน)  เพราะมันบอกว่ามันจะคืนให้แล้ว  ให้ไปทวงเอาเอง" จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 14:18:02

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นใจจขกทมากค่ะ เพราะคล้ายกับคุณแม่เลย แม่เป็นคนใจดี เหมือนนางฟ้า (กับญาติและคนอื่นเท่านั้น แต่กับลูก เค็มมาก สงสัยรู้ว่าสูญแน่นอน) มีคนเดือดร้อนเดินมาขอความช่วยเหลือกับแม่บ่อยมาก ส่วนใหญ่ก็เป็น ญาติ ลูกน้อง และคนที่ร่วมทำธุรกิจด้วยกัน  แม่ก็ให้ทุกครั้งแต่จะบ่นมาก  พวกนี้รู้ทาง ยอมฟังบ่นซักพัก เดี๋ยวก็ได้เงิน พวกเค้าคงคิดว่าแม่เรามีเงินมั๊ง  แม่เองก็แสดงตัวให้คนเห็นว่ามีเงิน  แต่คนในครอบครัวซิรู้อยู่เต็มอกว่า หนี้สินล้นพ้นตัว เพียงแต่ว่ายังมีกิจการที่สามารถสร้างรายได้มาชดใช้หนี้ได้  ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะหมดหนี้ซะที และคนพวกนี้นะได้เงินไป ก็หายลับไปเลย  แม่ก็หน้าบางไม่กล้าทวงเงิน  วันดีคืนดี ก็กลับมาขอยืมอีก ของเก่าไม่พูดถึง จะเอาใหม่อีก มีอะไรอ่ะเปล่า เราห้ามพฤติกรรมแม่ไม่ได้ ได้แต่พูดเวลาเค้าบ่นว่าหมุนเงินไม่ทัน  เราเองก็ช่วยหยิบจากสามี ญาติสามี เพื่อมาหมุนในธุรกิจ แต่พอแม่มีเงินก็ชอบทำตัวเป็นนางฟ้าใจดีอีก โดยลืมไปว่าหนี้เก่ายังไม่ได้คืนเค้าเลย   อยากบอกจขกทค่ะว่า มันเป็นเวรกรรมที่คุณไปทำกับเค้าเหล่านั้นไว้  เวลาคุณให้เงินคนพวกนั้น ลองอธิษฐานขออโหสิกรรมว่า ถ้าชาติก่อนหรือชาติไหนๆไปเอาของเค้ามา ก็ขอชดใช้คืนให้ในชาตินี้ให้หมดกันไป  ถ้าคุณติดหนี้เค้าจริง คงไม่ได้คืนหรอกค่ะ  แต่ถ้าไม่ใช่ เค้าก็ต้องเอามาคืนคุณแน่นอน คิดในแง่ดี คุณแม่ทำทานเยอะมาก (เพราะให้เงินไปแล้ว ไม่ค่อยได้คืน) เวลาคุณแม่มีปัญหาเรื่องเงินก็จะมีคนยื่นมือมาช่วยเสมอ ทำให้ธุรกิจสามารถดำรงอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ ส่วนเรา คนมาขอยืมเงิน ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ  เราก็ให้แต่ในใจก็คิดว่า เงินที่เราให้ด้วยความเต็มใจและเห็นใจ อยากช่วยเหลือเค้า แต่ถ้าเค้าเห็นเราเป็นหมู หลอกง่าย พูดนิดนึงก็เชื่อ หากินกับเราด้วยวิธีนี้  เราก็ขอให้เราเจริญขึ้นเรื่อย ทำมาค้าขายรุ่งเรือง  แต่ในทางกลับกัน ขอให้พวกที่หากินแบบนี้ ขอให้มีแต่เจริญลงๆๆ ทำอะไรก็เจ๊ง ไม่มีคนคบ  บางครั้งคิดว่าถ้าเงินซื้อความเป็นคนได้ เราก็ยินดีจ่ายเพื่อจะได้รู้ว่าคนๆนี้เป็นอย่างไร  ครั้งเดียวที่เค้าจะได้จากเรา จากคุณ : ปรางทราย เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 14:25:12

ความคิดเห็นที่ 16 เหมือนว่าคนโชคดีต้องช่วยคนโชคร้ายอยู่เสมอๆเลย ^ ^" โดนเหมือนกันครับ ไม่รู้ทำไม? เงินกว่าจะหามาได้ เหนื่อยจะตายชัก เพื่อนๆบางคนอาศัยสนิทมากๆ ยืมแบบไม่อายเลย เพื่อน : "เฮ้ยเมิง.....ยืมตังค์ซัก 5,000 จะเอาไปซื้อมอเตอร์ไซค์" ผม    : "ห่ะ? แล้วที่เมิงขับอยู่อ่ะ?" -_-" เพื่อน : "มีตังค์มั๊ย?" ผม    : ...... ( หนี้เก่าตูเมิงยังไม่เครียล์เลยไอ้ตูดหมึก ) อึดอัดเหมือนกันครับ จากคุณ : mulcomp เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 14:29:28

ความคิดเห็นที่ 17 โห เพื่อนคนที่กล้ายืมเกือบล้านนี่ ด้านสุดๆเลยนะ ไม่ได้พบสนิทสนมอะไรกัน ยังออกปากซะขนาดนี้ เราเคยเจอเพื่อนแบบนี้เหมือนกัน ไม่ได้ติดต่อมาเป็น 10 ปี มาขอยืม เราบอกเลยว่าไม่สะดวก เค้าก็ไม่เซ้าซี้ แต่มีอีกคนนัดเจอกันประจำ มาเห็นหน้ากันเรื่อยๆ ก็เดือดร้อนขอยืม เราก็ดูว่าถ้าช่วยในจำนวนที่เราไม่เดือดร้อน เราก็ช่วย แล้วคิดไว้เลยว่าถ้าเค้าไม่คืนเราก็ไม่ทวง ถือซะว่าให้เลย ปรากฎว่าพอเค้ามีเค้าก็มาคืนให้ คือจะคิดไว้เลยว่า ถ้าให้ยืมเงิน เราไม่คิดทวงคืน แต่ดูเป็นคนๆ ไป จากคุณ : yuisan เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 14:39:43

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นใจ จขกท.จังค่ะ... เราก็เป็นอีกคนที่เมื่อก่อนเงินขาดมือบ่อยมาก (เมื่อก่อนนะ ตอนนี้นิสัยเสียเริ่มหายแล้ว) แต่ไม่เคยที่จะกล้าเอ่ยปากขอยืมเงินเพื่อนตัวเองเลย ซึ่งก็โชคดีหน่อย ตรงที่เพื่อนๆ หลายคนพอรู้ว่าเราลำบากก็ยื่นมือมาช่วยเหลือเอง ขนาดเพื่อนเสนอเงินให้ยืมเอง เรายังกระดากใจที่จะเอามาเลย ก็ค่อยๆ พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองจนดีขึ้น... ไม่รู้เพื่อนคุณคิดอะไรนะ ... สงสัยเตรียมใจจะไม่เป็นเพื่อนคุณแล้วมั้ง เป็นเรา ถ้าเริ่มลำบากใจกับการให้เพื่อนยืมเงิน เราก็จะไม่ให้ค่ะ อ้างว่าเอาเงินไปลงทุนนู่นนี่แล้ว ไม่มีให้แล้ว เค้าจะโกรธจะเคืองกันก็ช่างเค้า เพราะถ้าเค้ามาโกรธเราเพราะเรื่องนี้ เราก็พร้อมที่จะตัดคนแบบนี้ออกจากสารบบเพื่อนได้เหมือนกันแหละ... จากคุณ : ชื่อที่ต้องการผ่านหรือเปล่า เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 15:03:50

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนความเห็น 3 ให้อ้างภรรยาคะ แจ่มมาก พ่อเราตอนนี้ก็อ้างลูก บอกลูกคุมเงินหมด พวกผู้ใหญ่เค้าก็ไม่กล้ามาถามเด็กหรอก เราเสียเงินเพราะเพื่อนจนต้องขึ้นหัวข้อตาม hi5 fb ฯลฯ บ่นๆ เสร็จประกาศไม่ให้ใครยืมเงินอีกต่อไป จากคุณ : พี่สาวที่แสนดี เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 15:08:40

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เคยยืมใครและก็ไม่ให้ใครยืมด้วย เงินแต่ละบาทหามาด้วยความยากลำบาก บางคนพอไม่มีตังค์เอะอะก็ขอยืมๆเสียนิสัย ไม่เคยช่วยตัวเองคอยแต่จะให้คนอื่นช่วย มีเพื่อนแบบนี้ไม่มียังจะดีกว่า จากคุณ : มนต์รักกล้วยปิ้ง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 15:23:59

ความคิดเห็นที่ 21 โห แต่ละท่าน เจ็บมาเยอะทั้งนั้น อิอิ จากคุณ : น้ำเต้าฮวย 5 บาท เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 15:30:36

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนเป็นนักศึกษา ก็มียืมๆกันเรื่อยๆ ..แต่ผมพิจรณาจากความจำเป็นของแต่ละคนครับ บางคนก็ยื่นคำขาดเลยว่าไม่ให้  ...  บางคนก็ถามเลยว่าจะเอาเท่าไหร่ ผมมีการแบ่งเกรดลูกหนี้ไว้ในใจหมดแล้ว สบายใจให้คนไหนยืม ก็ให้ง่าย เพราะไม่ต้องทวง ถึงเวลามาคืนเอง บางคนให้ยาก เพราะ เบื่อทวงเหลือเกิน ... ผมก็ไม่ได้อยากทำลายน้ำใจเพื่อนโดยการทวงบ่อยๆหรอก บางคนไม่ให้เลย ... ถ้าเลือกได้(กรณีหลัง) คงไม่อยากให้ยืมอยู่แล้วล่ะ จากคุณ : ผมโหดนิดเดียว (มิ่งกลิ้ง) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 16:10:26

ความคิดเห็นที่ 23 ผมสลับกันแหะ เคยไม่มีตังเลย ลำบากสุดๆ แต่พอเพื่อนให้ตังมาเหมือนกับน้ำเย็นชะโลมใจเลยนะ อธิบายไม่ถูก ถ้าเราร่ำรวยแล้ว การช่วยเหลือผู้อื่นโดยที่เราไม่ลำบากก็เป็นสิ่งที่ควรทำนะ สิ่งที่สำคัญก็ดูด้วยว่าระหว่างเงินในกระเป๋าลดลงกับรอยยิ้มและความหวังของเพื่อนที่คุณรัก คุณจะเลือกอะไร ยิ่งให้ยิ่งได้รับนะครับ แต่ก็ต้องเลือกให้ กับผู้สมควรได้รับเช่นกัน จากคุณ : madoowai เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 16:16:56

ความคิดเห็นที่ 24 ในทางกลับกัน  ผมยืมเพื่อนผม สิบล้านครับ (ไม่มีหลักประกัน) ตอนนี้คืนแล้วบางส่วน เหลือ 2.5 ล้านบาท เพื่อนไม่เคยทวงซักคำ จริง ๆ อยู่ที่วัตถุประสงค์ของเงินยืมและก็เครดิตของตัวตน ทุกวันนี้พอมีพอกินได้เพราะเพื่อนคนนี้ไม่เคยทิ้งผม  บุญคุณท่วมหัวจริง ๆ จากคุณ : lopirap เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 16:21:09

ความคิดเห็นที่ 25 ขออนุญาต เล่าความหลังให้ฟังครับ ตอนที่ธุรกิจกำลังจะเจ๊ง ผมได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อน หลายคน เพียงพอที่จะรอดตาย ฝ่าวิกฤติมาได้แบบทุลักทุเล คนที่ 1 100,000.- พอมีตังค์ จะคืน มันบอกไม่เอา ให้หักจากค่าสินค้าที่มันซื้อจากผมไป กว่าจะหมด ประมาณ 1 ปี คนที่ 2 พาไปกู้กับนายทุน 500,000.- มันค้ำประกันให้ ผมก็จ่ายทั้งต้นทั้ง ดอก หมดใน 5 เดือนตามสัญญา คนที่ 3 10,000.- พอมีตังค์ โทรไปจะจ่าย มันบอกว่าไม่เอา ให้เอาเงินที่จะคืนมัน ไปซื้อขนม-ของเล่นให้หลาน เรื่องเกือบ 10 ปีแล้ว เฉพาะเพื่อนนะ ไม่รวมที่แก้ไขเองอีกหลายตังค์ ทั้ง 3 คน ยังคบหากันอยู่ตลอดมา บางคนเจอทีก็เมาหัวราน้ำกันเหมือนเดิม เล่าให้ฟังเฉยๆ นะ...อิอิ จากคุณ : afood เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 18:05:56

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็เคยให้เพื่อนยืมนะครับ คนแรกให้ยืม(คือเค้าเอาของของผมไป)มูลค่าเกือบหมื่น แต่โอนเงินมาให้ไม่กี่ร้อย ก็ยังคบอยู่แต่ไม่สุงสิงมาก คนที่สองให้ยืมหมื่นนึง คืนตรงตามกำหนดเป๊ะ เขาบอกผมว่า เขาไม่มีอะไรการันตี แต่ถ้าผมไม่ให้ยืม เขาก็จะไม่ว่าอะไร เพราะเขาเข้าใจ ต้องขอบคุณเพื่อนทั้งสองคน เพราะสอนให้ผมรู้ว่า ถ้าเขาเป็น"เพื่อน"ผม เขาย่อมเข้าใจว่า"เพื่อน"รู้สึกอย่างไร คนที่เป็นเพื่อนกัน ย่อมไม่ทำให้เพื่อนลำบากใจ จากคุณ : clientuser เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 18:44:48

ความคิดเห็นที่ 28 บอกเงินลงทุนอยู่ในหุ้นหมดแล้ว และ ที่สำคัญพอร์ทเป็นชื่อภรรยาด้วย ช่วยได้เล็กๆน้อยๆเท่านั้น จากคุณ : modpon เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 19:12:22

ความคิดเห็นที่ 29 คนมีหลายแบบ...เพื่อนก็มีหลายแบบ คุณไปเจอคนไม่ดี...เพื่อนไม่ดี...เห็นแก่ตัว...ไม่รับผิดชอบ.. ยืมตังค์แล้วไม่คืน....ถือเป็นโชคไม่ดี...วันหน้าอย่าให้ใครยืมเงินดีที่สุด.. ถ้าจะยืม...ต้องมีสิ่งของ/หลักทรัพย์มาค้ำประกัน..ไม่งั้นเซย์โนลูกเดียว ผมก็โดนเพื่อนยืมเงินแล้วเบี้ยวมามากพอควร... 10 กว่าปีมานี่...น่าจะเกินล้าน...เล่าไปก็ยาวววว.. ไม่เล่าดีก่า.........หุหุหุ จากคุณ : เล้ง/ (แก้วบางจาก) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 19:14:24

ความคิดเห็นที่ 30 คุณเจ้าของกระทู้ จะไปเกรงใจเพื่อนทำไมคะ? เขากล้ามายืมเงินคุณ แสดงว่าเขาไม่มีความเกรงใจคุณ สำหรับเรา เราเคยเจอปัญหาแบบนี้เหมือนกัน มีคนชอบมายืมเงินแม่เรา พอแม่เราเสียชีวิต พวกลูกหนี้หายหัวไปหมด เงินไม่ได้คืน รวมกันแล้วก็หลายแสนบาท แถมพูดให้เจ็บใจซะอีกด้วยว่า เจ้าหนี้ตายแล้วไม่ต้องคืนเงินก็ได้ หลังจากนั้น ใครมายืมเงินเรา เราบอกว่า ถ้าคิดจะคบกันเป็นเพื่อน อย่ามายืมเงินกัน ตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยมีใครกล้ามาขอยืมเงินจากเราอีกเลย สบายใจ เราคือเจ้าของเงิน กว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์ ต้องอาบเหงื่อต่างน้ำมาเท่าไหร่? อยู่ดีๆจะมาให้คนยืมเงินไปง่ายๆ ถ้าให้ยืมเงินไป ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้คืนครบทั้งหมด ตัดไฟแต่ต้นลม ปโสธไปตรงๆเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวเสียเพื่อน ไม่ต้องเกรงใจเพื่อนหรอกค่ะ จากคุณ : OKANEMOCHI เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 19:28:20

ความคิดเห็นที่ 31 อืมมมมมมม เรื่องแบบนี้บางทีก้อพูดยากเหมือนกันนะเนี่ย มาแจกกิ๊ฟให้แก้เซ็งค่ะ.. จากคุณ : Monaliza^^ ($an-Dee) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 19:44:24

ความคิดเห็นที่ 32 น่าจะบอกโยนอำนาจให้ภรรยาไปเลย  ให้ภรรยาปฏิเสธ แทน  เราก็ใช้วิธีนี้แหละ  เพื่อนบ้านมายืมเงิน ทั้งๆที่ไม่ได้สนิทกันถึงขนาดนั้น  แต่อยู่ๆก็มายืมเงิน  ยืมกับแฟนเรา  มาครั้งแรกขอยืม 5 หมื่น แฟนเรางง  ว่าอยู่ๆทำไมยืม ไม่ได้สนิทซะหน่อย  แล้วเราก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดให้ใครฟรีๆด้วย   ปกติ แฟนมักเป็นคนปากไว ชอบช่วยคนอื่น  ชอบรับปากง่ายๆ   แต่ครั้งนี้ก็ปฏิเสธไปเพราะรู้อยู่ว่าไม่ได้คืนแน่สำหรับคนนี้  เท่าไรก็ไม่ให้ยืม   มาอีกครั้งที่ 2  คราวนี้ลดจำนวนลงเหลือ 5 พัน  แฟนเราก็บอกไม่มีติดตัวเอาเข้าบัญชีไปแล้ว  คราวนี้เราเลยบอกให้แฟนโบ้ยมาที่เรา  มาอีกจริงๆด้วย  คราวนี้ 2 พัน   พอยืมเราไม่ได้  ก็ไปยืมข้างบ้าน  5 หมื่น ข้างบ้านเขาก็ให้ยืม เพราะอาศัย จอดรถกันอยู่   เห็นมาบ่นว่า ยังไม่ได้เงินคืนเลย  ไม่รู้ป่านนี้ได้คืนรึยัง   อ้อ เวลาเขาผิดหวังจากการยืม ก็มักจะแขวะแฟนเราตลอด  มีครั้งสุดท้ายคงสำนึกได้ เลยมาขอโทษ จากคุณ : ลูกนกหลงทาง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 20:24:10

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนเด็ก ๆ แม่เคยให้ไปขอยืมเงินอาอึ้มข้างบ้านเสมอ ๆ ครั้งละ 200-300 บาท เพื่อมาซื้อข้าวสารกรอกหม้อและซื้อกับข้าวให้ลูก ๆ กินประทังชีวิต จนกว่าเงินเดือนของพ่อจะออกหรือแม่ขายของได้จึงนำไปคืนแล้วกลับไปยืมใหม่ วนเวียนแบบนี้เป็นเวลานานหลายปี... ทุกครั้งที่แม่ให้ไปเอาเงินกับอาอึ้มจะอิดเอื้อนเพราะรู้สึกอายอาอึ้มมากตามประสาเด็ก ๆ แต่อาอึ้มช่างมีน้ำใจประเสริฐเหลือเกิน ยังจำภาพที่อาอึ้มหยิบเงินจากกล่องใส่เงินที่ได้จากการขายของชำได้แม่นยำ แล้วอาอึ้มจะยิบยื่นเงินให้ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมกับถามว่า "พอเหรอ เอาเพิ่มอีกไหม?" ทุกครั้ง ตอนนี้ลูก ๆ ของแม่เติบโตและทำงานมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้แล้ว ถ้าไม่มีอาอึ้มคอยหยิบยื่่นความช่วยเหลือในช่วงที่ลูก ๆ ของแม่ยังเด็กอยู่ในวันนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตในช่วงนั้นจะผ่านมาจนมีวันนี้ได้อย่างไร?? พวกเรารู้สึกสำนึกในบุญคุณของอาอึ้มและครอบครัวมากเหลือเกิน แม้พ่อแม่ไม่อยู่แล้วแต่เรายังไปเยี่ยมอาอึ้มเสมอพร้อมของฝากและซองอั่งเปาให้อาอึ้มไว้ซื้อขนมกิน แต่หลายปีมานี้ภาระกิจประจำวันที่วุ่นวายตามประสาคนเมือง ทำให้เราห่างเหินการไปเยี่ยมอาอึ้มทั้งที่พวกเราพี่น้องพูดกันถึงบ่อย ๆ ว่าจะต้องไปเยี่ยมอาอึ้มอีก เราได้แต่ผลัดวันประกันพรุ่ง... กระทู้นี้ทำให้คิดถึงอาอึ้มอีกครั้งหนึ่งอย่างจับใจและรู้สึกผิดมากที่ไม่ได้ไปเยี่ยมอาอึ้มมานาน เหมือนคนอกตัญญูและรู้สึกละอายใจเหลือเกิน ตอนนี้ว่างแล้ว...ป่านนี้อาอึ้มคงแก่มากเพราะอายุ 80 กว่าแล้ว... ขอสัญญาว่าภายในสัปดาห์หน้านี้จะต้องไปเยี่ยมอาอึ้มอีกครั้งหนึ่งให้จงได้ ก่อนที่จะสายเกินไปและอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอและเห็นรอยยิ้มของอาอึ้มอีก... คิดถึงอาอึ้มมากค่ะ คอยหนูอีกแป๊บเดียวนะจ๊ะอาอึ้มจ๋า!! แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 53 00:05:38 จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 20:37:18

ความคิดเห็นที่ 34 ยอมเสียเพื่อน ดีกว่าจะต้องเสียทั้งเงินและเพื่อน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็รับจำนอง, จำนำ ก็ดีครับ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ต้องขายฝากครับ จากคุณ : นายหน้าที่ดิน (mrdew) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 20:46:17

ความคิดเห็นที่ 35 ใครขอยืมเงิน.....เลิก คบ............ จากคุณ : INKI@SETTRADE (อิ๋ง ณ มอ.) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 21:08:52

ความคิดเห็นที่ 36 ทำสัญญา คิดดอกเบี้ยไปเลยครับ เพราะถ้าชักดาบ เราก็สามารถฟ้องร้องตามกฎหมายได้ หรือไม่ก็ต้องตีหน้าเศร้าเล่าความจริงว่าเราก็ไม่ค่อยมีเหมือนกัน จากคุณ : jingjoeja เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 21:15:20

ความคิดเห็นที่ 37 อยากให้กี๊ฟ   หมดตัวเลยค่ะ   แต่ขอแบ่งไว้ให้คนอื่นบ้างนะคะ จขกท......เขียนได้ตรงใจดำเป๊ะเลยค่ะ .....มันช่างเหมือน ชีวิตเรา เราอ่ะ โดนขอลืม ตลอดอ่ะ  ใจดีไง......คะ ตอนหลัง นี่  ใครยืม ถ้าคิดให้  จะไม่ถามมันแระ จะคืนเมื่อไหร่ .....หยิบให้ ง่ายๆเลย  ไม่มีลังเล.....ถ้าคิดให้นะคะ  และก็ไม่คิด จะเอาคืนอ่ะ  ...ไม่งั้น ประสาทแดร๊ก แต่ถ้า ไม่คิดให้ .....ก้ไม่ลังเลเช่นกัน.....ตอบว่าไม่ให้เลยทันที  อยากโกรธ โกรธไป ....ไม่มีโยน ให้ใครค่ะ ......เอาไง เอากัน  ....มันจะเลิก คบเรา  เพราะ เรา ไม่ให้ เงินมันยืม.....ถ้ามันคิดได้แบบนี้ ก็ นับว่าโชคดี ของเรา ที่จะไม่มีเพื่อน อย่างมัน ไว้เชยชม นะคะ   เดวนี้  เรา คิด แบบนี้แระ  ......เงินออกจากกระเป๋าปุ๊บ  ตัดเป็น คชจ. ทันที เมื่อ 5ปีที่แล้วนะคะ  (ถ้าเพื่อนคนนั้นมาอ่าน  เอ็งรู้ไว้นะ ตรู คิดถึง)..55+ เพื่อนเดือดร้อนมาก...ไม่รู้ว่ามากแค่ไหน แต่มันบอกว่า ...ถ้าไม่ได้เงิน เราช่วย มัน ไม่เป็นผู้เป็นคน แน่ๆ.....เราเลยบอกมันว่า...เอ็งเอาคอนโด ตรูไปเลย ...ขายได้เท่าไรเอาไป ...ตอนนั้น ราคา 2ล้านกว่า แต่ความเดือดร้อนมัน  5 ล้าน.... เราช่วยมันได้แค่นี้....ที่เหลือให้มันช่วยตัวเอง.....เชื่อมะ  ทุกวันนี้ ยังไม่เคยเห็นหัวมันเลย  55555........แต่มันยังนิสัยดีนะคะ ....ทุกวันเกิดเรา มันไม่เคยลืม  อิอิ.............แต่ เราอ่ะ  ไม่เคยลืม มัน ทุกวันอ่ะ  5555555555 แต่เข้าใจ เพื่อนคนนี้นะคะ เค้าไม่กล้ามาเพราะ เขิล....ไม่ใช่ลืมเราหรอก เรารู้ ปล.  เรียก "มัน"....เพราะ มันลืมหนี้เรา ....แต่เรียก "เค้า"  เพราะ ไม่เคยลืมวันเกิดเรา   .....สรรเสริญมันหน่อย.....เพื่อนรัก   55+ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 22:37:47

ความคิดเห็นที่ 38 เราก็เป็นเหมือน จขกท. เลยค่ะ  ให้ยืมแล้วไม่กล้าทวงคืน  หึหึ กลายเป็นหนี้สูญซะงั้น  แต่เราไม่ได้ให้ยืมมากเท่า จขกท. หรอกค่ะ ไม่รวยเท่า หลังๆมานี่  เลยไม่ค่อยให้ยืม  เอาเหตุผลอื่นๆมาอ้างไปซะ จากคุณ : Kibby เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 22:40:11

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าคุณให้เค้ายืมเงิน 800000 แล้วเค้าไม่คืน คุณต้องลงทุนในหุ้นเท่าไหร่ถึงจะได้ปันผล 800000 บาท จากคุณ : ลงทุนด้วยใจ (ลงทุนด้วยใจ) เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 22:40:29

ความคิดเห็นที่ 40 น่าเห็นใจ จขทก.จริงๆ เพราะเราก้อโดนมาเหมือนกัน ตอนมายืมก้อแหมม พูดซะน่าสงสารว่าเดือดร้อนอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าไม่ได้เงินก้อนนี้ต้องแย่แน่ๆ เราก้อสงสารก้อให้ไป แต่รู้สึกสะกิดใจเลยให้ไปหลักหมื่น เราก้อพูดตามมารยาทว่ามีเมื่อไหร่ก้อค่อยคืนแล้วกัน ผ่านไปปีแล้วปีเล่าไม่คืนซักที พอครบปีที่ 3 เราเริ่มทนไม่ไหว ถามถึงเงินที่ยืม ว่าเออ.. มันก้อหลายปีแล้วนะ ผ่อนคืนมาบ้างจะดีมั้ย กลายเป็นโดนพูดกลับมาให้เราเจ็บซะอีก ว่าเราไปพูดเหมือนว่าเค้าจะไม่คืน คนฟังมันฟังแล้วเสียความรู้สึกนะ... ช่างกล้าจริงๆ... เราก้อเลยบอกว่า อ้าว แล้วคิดว่าคนที่ทวงนี่ไม่เสียความรู้สึกหรือไงกัน.. เค้าก้อเลยไม่ได้พูดอะไร ปกติเราเป็นคนทวงเงินใครไม่เป็น แต่เจอคนแบบนี้มันทนไม่ไหว เลยจำเป็นต้องทวงแทบจะทุกเดือน ปัจจุบันผ่านไป 6-7 ปี ก้อยังคืนไม่หมดเลย ผ่อนคืนเป็นรายเดือน แต่ได้บ้างไม่ได้บ้าง พอไม่ทวงก้อไม่คืน ต้องทวงเท่านั้นถึงจะได้ ไม่รู้ไปทำเวรทำกรรมอะไร ถึงได้เจอคนแบบนี้ บางทีก้อเบื่อที่จะทวง คิดว่าจะยกหนี้ให้ไปเลยมั้ย จะได้ไม่ต้องทวงแล้วไม่ต้องเสียอารมณ์ แต่ก้อคิดอีกที เราทำงานหาเงินแทบตาย เรื่องอะไรจะต้องให้เงินกับคนแบบนี้ล่ะ หลังจากเจอคนนี้เราเข็ดไปเลย เลยคิดเหมือนที่คุณ OKANEMOCHI คิดเลย อันนี้ประโยคขึ้นใจเราเลย ถ้าเพื่อนเรามายืมเงิน เราจะพูดเลยว่าให้ช่วยเรื่องอะไรก้อช่วยได้นะ แต่เรื่องยืมเงินเนี่ยให้ไม่ได้จริงๆ ไม่อยากเสียเพื่อน เสียไปหลายคนละ ขอเหอะนะ ถ้ายังอยากคบเป็นเพื่อนกันอยู่ อย่าพูดเรื่องยืมเงิน เพราะเราไม่ให้ !!! ออกแนวโหด แต่ทำไงได้ ไม่อยากเจอวิบากกรรมแบบนั้นอีก จากคุณ : DreamMaster เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 22:41:05

ความคิดเห็นที่ 41 คิดแบบ  คห. 15   นะคะ เราคง เป็นหนี้เค้าไว้ ชาติก่อนค่ะ หรือไม่ ก้ คงทำกรรม อะไรกับเค้าเหล่านั้นไว้  เค้าถึงมาทวงถาม จากเราชาตินี้ ถ้าเค้า ไม่คืนเรา  แสดงว่า เราได้ชดใช้หนี้เวรในชาติก่อนแล้ว  แต่ถ้าเค้ามาคืน แสดงว่า เราไม่มีหนี้เวรต่อกัน   ก็ สบายใจค่ะ..... มันเสียไปแล้ว    ขอแค่ให้เสียแค่เงินนะคะ   อย่า ทำร้ายจิตใจ ตัวเองอีกเลย ตราบใด ที่ชีวิต และ จิตใจที่ดี ยังมีอยู่  เราคงหาได้อีก มากกว่านั้นเยอะค่ะ แต่ถ้า ใคร ทำใจแบบ คห.15 ไม่ได้ ....ก็ตัดปัญหา เลยค่ะ ไม่ต้องให้ใครยืม ให้แฟนยืม    เสีย แฟน ให้เพื่อนยืม  เสียเพื่อน ให้ญาติยืม  เสีย ญาติ ..............มันเป็นสัจธรรม เช่นนี้   ขอขอบคุณ จขกท  อีกครั้ง ที่เอาความจริง แบบที่ทุกคน ประจักษ์กันมาแล้วทั้งนั้น    มาเขียน ได้ น่าอ่าน  และ ได้จายยย ที่ซู้ดดดดดดดดดดด ค่ะ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:02:59

ความคิดเห็นที่ 42 มีอีกคน นะคะ  ญาติ ของเพื่อน ยืมเงิน เสียค่าไฟ   บอกว่า ไฟจะโดนตัด  ....ไอ้เราก้ นะ  เห็นใจ  โดนตัด คงอยู่กันลำบาก  อ่ะ  ควักให้ไป    พอเวลาผ่านไปๆๆๆๆ    ไม่เห็นมาคืนซักที เลยลองแยบๆ ไป ถึงเงินจำนวนนั้น   ไม่มากเลย....... ได้รับตอบกลับ.......อยากได้ มาเก็บเอาสิ เดือนละ 500   โหๆๆๆๆๆๆๆ   เรากลายเป็น ขอทานไปแล้ววววววววว......นี่แหละน้าาาา   ชีวิต บนโลก กลมๆใบนี้..............มีทั้งทุกข์ และ สุข ปะปนกันไป .....หาความสุข 100%  ไม่มี จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:07:51

ความคิดเห็นที่ 43 ผมคนนึงโดนยืมเงินแล้วชักดาบบ่อยมากครับ เพราะนิสัยชอบควักจ่ายก่อนชาวบ้านมั้งครับ เลยดูเหมือนมีเงิน T T หลัง ๆ เลยบอกไปว่า เงินน่ะมีแต่ติดอยู่ในหุ้นอ่ะ บางตัวติดดอยด้วย ถ้าหลุดจะขายแล้วเอามาให้ยืมนะ ถ้าคนยืมถามอีกว่าตัวไหนวะ ผมก็จะบอกว่า PTT 400 PTTAR 40 TOP 90 TTA 50 รอได้ก็จะขายให้นะ จากคุณ : RockCafe เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:16:45

ความคิดเห็นที่ 44 พวกเพื่อน ๆ ที่ยืมเงินคุณ พอได้แล้วก็มักจะไปพูดครับ ว่ายืมมาจากคุณ คนพวกที่ชอบยืมเงินคนอื่น (ส่วนมากที่ไม่ค่อยรับผิดชอบ) มักจะมีความสามารถในการกระจายข่าวสาร ให้คนประเภทเดียวกันเข้าถึงตัวคุณง่ายขึ้น คือผมก็ไม่อยากพูดครับ เพราะพี่ก็คงแก่กว่าผมมากพอควร แต่ถ้าให้พูดตรง ๆ ก็คือ พี่ .. ง่ายเกินไปครับ หมายถึง ยืมง่ายเกินไปน่ะ ไม่มีความกร้าว .. อย่างนี้ก็เสร็จคนพวกนี้ง่าย ๆ ครับ ถ้าคิดว่าเป็นเพราะกรรม ทำให้เจอปัญหาแบบนี้เยอะ ต้องมองในเชิงธุรกิจ ใช้ SWOT ลูกหนี้ คือปัญหาภายนอกที่เข้ามาทำความเดือดร้อนใจให้ตัวพี่และครอบครัว ดังนั้น วิธีแก้วิธีเดียว คือต้องหาโอกาส (โยนเรื่องให้ภรรยาจัดการ) หรือสร้างจุดแข็งของตัวเอง (ทำสัญญาเงินกู้ + ไล่ไปไกล ๆ) เท่านั้นมั๊งครับ พอพี่ถีบหัวส่งคนพวกนี้หลาย ๆ ที เค้าก็จะไปบอกต่อ ๆ กันเองแหละ ว่าพี่ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แล้วชีวิตพี่ก็น่าจะสบายใจมากขึ้น ผมคิดว่างี้นะ จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:17:05

ความคิดเห็นที่ 45 บางที   คนที่มันไม่มี ก้ไม่มีจริงๆนะคะ   อดเห้นใจ เค้าไม่ได้ ค่ะ แต่ คนที่  ไม่มีแล้ว ยังทำเกินตัว นี่ล่ะ   ไม่ควรให้ แม้แต่ จะเห้นใจ นะ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:29:00

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนนี้โดนเพื่อนยืมเรื่อย ๆ ให้ดอกเบี้ย 10% เงินที่ได้ส่วนใหญ่เราก็เอาไปทำบุญ 500,000 แรกคืนมา พร้อมดอก 50000 ...อีก 300,000 ยังติดอยู่ สักพัก ก็มายืมต่อ 5แสน แล้ว + อีก 1 แสน ตอนนี้ยอด 9 แสนแล้วจ้า..เสียว สุดสุด จากคุณ : pattayavariety เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:31:13

ความคิดเห็นที่ 47 มีคอนโด อยู่ พัทยา ป่าวล่ะ   ให้เค้ายืม อีกสิ   จะได้ ตัวเลข กลมๆ จำง่ายออก 55+ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:34:07

ความคิดเห็นที่ 48 ถ้าจะคุย กันเรื่อง โดน ยืมตังค์ นี่นะคะ นั่งรถ จาก กรุงเทพ  ไป ถึง นครสวรรค์....ก้ยังเล่า กันไม่จบอ่ะ  มันมีขึ้นตลอดทางชีวิตนะคะ ไปนอนดีกว่า.............หลับฝันถึง ลูกหนี้ เก่าๆ  ...หนี้จ๋า.....อยุ่ไหน ??? จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:38:52

ความคิดเห็นที่ 49 เวลาจะไม่ให้ใครยืมตัง ไม่เคยพูดฝืนใจตัวเอง ้เช่นเรามีตัง ไม่น่าบอกว่าตัวเองไม่มีตัง เพราะอยู่ดีๆดันไปบอกกับตัวเองว่าไม่มีตัง แล้วสุดท้ายตัวเองจะมีตังได้อย่างไร เงินก็เสีย ใจก็เสีย เพื่อนเดือดร้อนมายืมก็เป็นเรื่องของเพื่อน จะให้หรือไม่ให้ เงินเรา ก็อยู่ที่Judgementของเราครับ เพื่อนสนิทมาก เรามักรู้ที่มาที่ไป ก็คงรู้ดีว่าควรช่วยหรือไม่ ช่วยต้องช่วยมากน้อยเท่าใด ช่วยควรช่วยถี่ห่างอย่างไร เพื่อนไม่สนิท นี่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย ปกติก็ปฏิเสธหมด จากคุณ : pomsamart เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 07:29:48

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นใจค่ะ ส่วนตัวเองเป็นคนงก บอกเลยเงินจะให้เเค่พ่อกับเเม่เท่านั้น คนอื่นพี่น้อง ญาติ เพื่อน เรื่องยืมเงินห้ามคุยกัน จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 08:24:46

ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อก่อนก้อโดนเพื่อนยืมบ่อย (หลักหมื่น) ไม่ได้คืน พอโดนบ่อยๆเริ่มมีภูมิต้านทาน แถมโดนภรรยาบ่นอีก  เลยไม่ให้ยืมอีก  ใครเดือดร้อนมาก้อให้เปล่า 500-2,000 บาท เป็นค่ารถ ค่าความเกรงใจ เห็นใจ ตามความสนิท เดี๋ยวนี้มีภูมิต้านทานแล้ว ใครมายืมก้อบอกเค้าว่าขอตังค์ภรรยาใช้รายวัน โดนยึดทรัพย์หมดแล้ว...ก้อเพราะใจดีให้เพื่อนยืมแล้วไม่ได้คืนนี่แหละ ตอนนี้มีเพื่อนน้อยลง เพื่อนกินหายไปเยอะเหลือแต่เพื่อนแท้ที่คบแล้วสบายใจปัจจุบัน ยังให้ยืมและให้เปล่า แต่ในญาติพี่น้อง เพื่อเป็นการสงเคราะห์ญาติ                    "เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก"   จขกท.   ท่องไว้ครับแล้วจะเข้มแข็งขึ้น จากคุณ : jek ae เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 08:54:26

ความคิดเห็นที่ 52 มีแต่คนแนะนำให้อ้าง "ภรรยา" ทั้งนั้น แสดงว่าการยืมเงินเมียเพื่อนนี่มีความเป็นไปได้น้อยมาก แล้วถ้าคนยืมเป็นเพื่อนภรรยาล่ะครับ จะทำยังไง ให้ภรรยาอ้างเราได้หรือไม่  เราจะกล้าปฏิเสธไหม จากคุณ : กฤษณะ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 10:18:58

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นใจนะครับ ผมเองก็ถูกยืมประจำ วงเงินไม่เยอะ แต่มาเรื่อยๆ  น้อยใจเหมือนกัน บางทีโทรมาให้โอนให้หน่อย ค่าโอนก็เงินเรา เงินนิดๆหน่อยๆบ่อยเข้าก็กลายเป็นเยอะ จริงๆอยากคิดดอกเหมือนกัน ให้มันกลายเป็นอาชีพเสริมไปเลย เฮ้อ~~ จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 10:22:26

ความคิดเห็นที่ 54 ผมชอบความเห็นที่ 33 นะครับ จริงๆผมก็เคยทั้งยืม และให้ยืมเงินเหมือนกัน ตอนยืมเงินคนอื่นช่วงนั้นผมเสียการพนันมากเกินกำลัง สุดท้ายก็ได้ที่บ้านช่วยจนทำให้มีทุกวันนี้ ผมเลยเข้าใจว่าจริงๆมีลูกหนี้อยู่ 3 ประเภท คือ 1.ประเภทที่พร้อมจะเป็นหนี้ไปได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่รับผิดชอบต่อการใช้จ่ายของตัวเองเลย จนในที่สุดก็พร้อมที่จะชักดาบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไม่มีปัญญา หรือ เหตุผลทำจนเป็นนิสัยอันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกันเลย ตัวอย่างคนประเภทนี้ก็คนที่ติดบัตรเครดิตที่มายืมคุณนั่นแหละคับ หรืออีกประเภทก็คือพวกเล่นการพนัน พวกนี้ไม่สมควรที่จะให้ยืมเด็ดขาดคับ ยิ่งถ้าจำนวนหลักแสนขึ้นยิ่งไม่น่าให้ยืมด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าน้อยๆจะลองวัดใจเพื่อนดูก็ได้คับ แต่โอกาสสูญมีเยอะ เพราะถ้าเค้ายังใช้จ่ายแบบนี้อยู่ หรือเล่นการพนันอยู่ อนาคตก็มีแต่จะยืมเงินคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเท่านั้นแหละคับ 2.ประเภทยืมเพราะจำเป็นจริงๆ และเกรงใจที่จะยืม เหมือนเรื่องเล่าความเห้นที่ 33 ตามความคิดผมผมจะให้ยืมนะคับ เหตุผลคือเหมือนช่วยเหลือกัน เป็นน้ำใจ และคนประเภทนี้เค้าจะไม่ยืมเยอะขึ้นเรื่อยๆคับ เพราะเค้าคิดที่จะใช้คืน เค้าจะยืมเท่าที่จำเป้นเท่าที่เค้าจะหามาใช้คืนให้ได้ ผมก็มีความหลังคล้ายๆความเห้นที่ 33 ผิดกันที่ผมยังเล็กมากไม่รุ้เรื่อง แต่แม่เป็นคนเล่าให้ฟัง ผมยังสำนึกในบุญคุณจนกระทั่งทุกวันนี้ทั้งๆที่จำหน้าตาผู้มีพระคุณไม่ได้เลยด้วยซ้ำคับ 3.ประเภทยืมเพราะคิดว่าจำเป็น ทีแรกคิดจะคืน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คืน เพราะสาเหตุใดๆก็แล้วแต่ พวกนี้คงจะยืมไม่มากเพราะเกรงใจ แล้วก็ไม่ได้คืน แล้วก็หลบลี้หนีหน้า ข้อดีคือคุณจะทำใจได้ง่าย เพราะเหมือนช่วยคน และก็จะไม่มีครั้งต่อๆไป ปล.การช่วยคนผมว่าดีคับ แต่ถ้าช่วยคนผิดบางทีมันก็บาปนะคับ (เช่นยืมไปใช้หนี้การพนัน แล้วก็ยังเล่นต่อ) แล้วก็อย่าลืมว่าคุณยังมีหนี้ที่ใช้ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่มีวันหมดอยู่นะคับ ก่อนจะช่วยคนอื่นช่วยคิดก่อนเถอะว่าคุณใช้หนี้พ่อแม่ได้ดีที่สุดแล้วรึยัง ถ้ายังเหตุผลที่ดีที่สุดที่จะทำให้ใจคุณเข้มแข็งก็มีอยู่แล้วนี่คับ จากคุณ : Gamblerboy เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 10:36:07

ความคิดเห็นที่ 55 ผมไม่มีเพื่อน คนไหนยืมเงิน เลย ทำงานที่บริษัทไหนก็ เวลาคุยกันผมมักบอกก่อนเลยว่า ไม่มีนโยบายให้ใครยืมเงิน แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 53 11:11:56 จากคุณ : Pigfarm เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 11:11:12

ความคิดเห็นที่ 56 คห.33 อยากให้กิ๊ฟ หมดซะแล้ว ตอนเด็กๆ แม่เราก็ยืมแบบนี้ แต่คนรอบตัวช่างใจร้ายเหลือเกิน บอกว่าไม่ให้ เขาคงคิดว่าราคงไม่มีปัญญาคืนเขาแน่ๆ แม่ต้องเอาของในบ้านไปแลกเป็นเงินมาทุกครั้ง ถึงได้มีข้าวกิน ปล. คนรอบข้างก็ญาติๆ กันนั่นแหละ ตอนนี้เรา และแม่สบายแล้วไม่ต้องยืมใคร และไม่ต้องไป ทดแทนบุญคุณ เขาก็ดีไปอีกแบบนึง จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 12:27:55

ความคิดเห็นที่ 57 ไม่ชอบให้ใครยืมเงินเหมือนกันค่ะ แต่นึกย้อนกลับไปตอนเริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ เคยลำบาก หมุนเงินไม่ทัน ไม่มีงานเข้า ต้องไปขอยืมจากญาติและพี่ที่นับถือกัน ซึ่งเขาก็ให้ยืมมา และก็ไม่เคยทวงเงินเลย นานเป็นปีเหมือนกัน กว่าเราจะเริ่มตั้งตัวได้ พอมีเงินก็เอาไปคืนเขา และก็รู้สึกเป็นพระคุณอยู่ตลอด ถ้าไม่มีคนคอยช่วยคราวนั้นก็คงลำบาก เวลาใครมายืมเงิน ก็ดูเป็นราย ๆ ไป บางรายที่เคยอาศัยไหว้วานกันมาก่อน ถ้ามายืมในจำนวนที่เราทำใจได้ ก็ให้ยืมไป แล้วพยายามไม่ไปคิดถึงเงินก้อนนั้นอีก คิดซะว่าเป็นค่าตอบแทนสิ่งที่เขาเคยช่วยเหลือเราเล็ก ๆ น้อย ๆ บางรายที่เขาลำบากจริง ๆ ก็ช่วยเท่าที่เราทำได้ค่ะ คิดซะว่าทำบุญ แต่ถ้าเป็นคนที่มายืมเป็นหนี้ที่ไร้สาระ ฟุ่มเฟือย ก็บอกไปตามตรงค่ะ อ้างสามีมั่ง อ้างเงินไปอยู่ในหุ้นติดดอยมั่ง อ้างช่วงนี้เงินหมุนไม่ทันมั่ง ต้องซื้อของเข้าร้าน ทำโปรเจ็คใหม่ใช้เงินเยอะ อะไรก็ว่าไป ถึงเป็นเพื่อนหรือคนที่สนิทกันก็เถอะ เราก็ต้องคิดถึงลูกเรา ครอบครัวเราก่อน เก็บเงินไว้ให้ลูกยังจะดีกว่า จากคุณ : Saeba Ryo เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 13:53:27

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่เห็นมีใครยืมผมเลย สงสัยเค้ารู้ว่าเล่นหุ้นแล้วเจ๊ง ไม่มีตังค์ จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 14:09:24

ความคิดเห็นที่ 59 เราเคยโดนเพื่อนโกง และบอกกับตัวเอง ละ สามี ว่า ต่อไป ถ้าเป็นไปได้ จะไม่ให้ใครยืมเงินอีกแล้ว แต่ก็มีมาจนได้ค่ะ เพื่อนคุณสามี ยืมมา 2-3 ราย แล้วค่ะ ไม่คืนเลย จนเราบอก สามีเลยว่า ถ้ามีอีก เคสต่อไป เราได้คุยกัน มากกว่านี้แน่ ประมาณ เป็นเรื่องแน่ อะไรแบบนั้นค่ะ จากคุณ : Dreams Catcher เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 14:59:44

ความคิดเห็นที่ 60 เราโดนไป แสนนึง ตั้งแต่ 44 ยังไม่ได้ซักสตางค์ จากคุณ : jovee (jovee) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 16:08:33

ความคิดเห็นที่ 61 สืบเนื่องจากความคิดเห็นที่ 33 กระทู้นี้ทำให้คิดถึงอาอึ้มอีกครั้งหนึ่งขึ้นมาอย่างจับใจและรู้สึกผิดมากที่ไม่ได้ไปเยี่ยมอาอึ้มมานาน เหมือนคนอกตัญญูและรู้สึกละอายใจเหลือเกิน ตอนนี้ว่างแล้ว...ป่านนี้อาอึ้มคงแก่มากเพราะอายุ 80 กว่าแล้ว... ขอสัญญาว่าภายในสัปดาห์หน้านี้จะต้องไปเยี่ยมอาอึ้มอีกครั้งหนึ่งให้จงได้ ก่อนที่จะสายเกินไปและอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอและเห็นรอยยิ้มของอาอึ้มอีก... คิดถึงอาอึ้มมากค่ะ คอยหนูอีกแป๊บเดียวนะจ๊ะอาอึ้มจ๋า! จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 20:37:18   ถูกใจ : nijja, osiris, mini-bee, รูปเงาะเดินสบาย, 6SilentScream ===== เช้านี้หลังจากทำภาระกิจประจำวันอาทิตย์เสร็จแล้ว ได้ชวนพี่สาวไปเยี่่ยมอาอึ้มตามสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองมาเรียบร้อยแล้วค่ะ รู้สึกดีใจและิ่อิ่มเอิบใจอย่างมากที่มีโอกาสได้เจออาอึ้มอีกครั้งหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าอาอึ้มยังแข็งแรงเหมือนเดิมแม้จะอยู่ในวัย 85 แล้ว อาอึ้มบอกคิดถึงพวกเราเสมอและดีใจมากที่มาเยี่ยมอาอึ้มในวันนี้ คำพูดและใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลาของอาอึ้มที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาที่เคยเห็นตอนเด็ก ๆ ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง!! ตอนแรกตั้งใจจะรบกวนเวลาอาอึ้มสัก 10-15 นาทีก็จะกลับเพื่อให้อาอึ้มได้พักผ่อนช่วงบ่าย แต่คุยกันเรื่องเก่า ๆ จนเพลินกว่าชั่วโมงครึ่งเพราะอาอึ้มดึงตัวไว้ไม่ยอมให้กลับ ก็เลยต้องบอกอาอึ้มว่ามีธุระและวันหลังจะพาพี่น้องคนอื่นมาเยี่ยมอาอึ้มอีก ก่อนกลับได้ฝากถุงผลไม้และซองอั่งเปาให้อาอึ้มไว้ใช้จ่ายเช่นเคย อาอึ้มได้อวยพรด้วยคำพูดที่เป็นศิริมงคลน่าปลื้มและประทับใจเหลือเกิน!! ขอบคุณมากนะคะอาอึ้มที่คอยให้ความช่วยเหลือครอบครัวพวกเรามาตั้งแต่เด็ก ๆ แม้จะเป็นเงินน้อยนิดแค่ประทังชีวิตแต่ความประทับใจยังอยู่ในความทรงจำของพวกเราไม่รู้ลืม วันนี้จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าเพราะได้ทำหน้าที่ที่พึงกระทำกับผู้มีพระคุณในครั้งนี้ สำหรับคนบางคนเราอาจจะเป็นความหวังหรือที่พึ่งที่สุดท้ายสำหรับพวกเขาก็ได้ อย่างเช่นตัวอย่างจริงในวันนี้ดังนั้นอย่าเพิ่งปฏิเสธความช่วยเหลือผู้อื่นเลยนะคะ อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้เปิดใจพิจารณาดูความจำเป็นของเพื่อนหรือญาติเป็นกรณี ๆ ไปค่ะ นี่คือภาพของอาอึ้มผู้ใจดีมีเมตตาที่กล่าวถึง.. v v (ดูจากภาพแล้วเหมือนอาอึ้มจะมีความเป็นอยู่แร้นแค้นน่าสงสาร แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ค่ะเพราะอาอึ้มมีลูก สะใภ้และหลาน ๆ คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี สภาพความเป็นอยู่คงจะเกิดจากความเคยชินที่อยู่แบบนี้มานานหลายสิบปี ณ บ้านหลังนี้ หลังที่เราเคยเดินไปยืมเงินอาอึ้มเสมอ ๆ ตอนที่ยังเป็นเด็ก แต่ในบ้านอาอึ้มที่ไปเยี่ยมมาวันนี้ได้พบเพชร 2 เม็ดในบ้านด้วยค่ะ เพชรเม็ดแรกเป็นหลานสาวที่กำลังจะรับปริญญาโทวิทยาศาสตร์เคมีฯ จากม.จุฬาฯ เดือนหน้านี้ ส่วนอีกหนึ่งเม็ดเป็นหลานชายที่กำลังเรียนวิศวกรรมเคมีฯ ม.ธรรมศาสตร์ปี 4 ค่ะ) v v จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 16:13:15

ความคิดเห็นที่ 62 เราก็เบื่อ การยืมเงินแล้วไม่ได้คืนเหมือนกัน เงินเราหามาด้วยความลำบาก แล้วเราก็ไม่มีเหลือพอจะไปเที่ยวแจกจ่ายให้คนมายืมแบบไม่คืนด้วย   เราทำงาน เก็บเงิน อดออม กว่าจะได้สักพัน สักหมื่น ก็ต้องตัดรายจ่ายตัวเอง เก็บความอยากของตัวเอง  เพื่อเก็บเงินเป็น ก้อน แต่ไม่รู้เป็นดวงหรือเปล่า พอมีสักหลักหมื่น ต้องมีคนหาเรื่องมาขอยืมเราทุกที ตอนนี้เราก็บอกได้ว่า ไม่มีให้ยืมแล้ว  เซ็งตัวเอง จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 16:21:46

ความคิดเห็นที่ 64 ^ ^ จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 18:24:48

ความคิดเห็นที่ 65 คิดซะว่าให้คับ  ให้ได้เท่าไหร่ก็พิจารณากันไปคับ เงินไม่เยอะสำหรับเรา  อาจจะสำคัญสำหรับคนที่กำลังแย่คับ ปล แต่ส่วนมากคนยืมคิดว่าไม่เยอะ เราคิดว่าเยอะตลอด  ก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยคับ ^ ^ จากคุณ : เมืองไทย (PeBoyBan) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 19:54:09

ความคิดเห็นที่ 66 การให้โอกาส คน เป็นเรื่องที่ดีค่ะ ถ้าพอมีกำลัง และถ้าให้แล้ว เราไม่เดือดร้อน ....ให้โอกาสเค้า เถอะค่ะ ตามความเหมาะสมที่เราพึงให้ได้ โดยไม่ลำบากเราและครอบครัว   บางคน ต้องการ โอกาสอีกครั้งค่ะ  .....ผู้ให้โอกาส ด้วยความบริสุทธิ์ใจ จะได้รับผลบุญ ตอบกลับอีกหลาย เท่า ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งค่ะ จากคุณ : dawreung51 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 21:34:21

ความคิดเห็นที่ 67 กระทู้นี้เรียกให้ผมต้องเข้ามาอ่านทันทีโดยไม่รีรอเลยครับ  เพราะว่า ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นแบบ จขกท.  ที่พอจะจำได้ตอนนี้ก็มีเพื่อนที่มาขอยืมเงินแล้วไม่เคยคืนให้เลยดังนี้ครับ 1) ลูกน้องที่ทำงานยืมไป 45,000 บาท เขาก็ออกจากงานไปแล้ว 2) ลูกน้องของเพื่อนทำงานคนละที่กัน แต่เขารู้จักเราด้วย ยืมไป 13,000 บาท เขาก็ออกจากงานไปแล้วด้วย 3) คนส่งเอกสารของที่ทำงาน ยืมไป 50,000 บาท ย้ายงานหนีไปแล้ว 4) เพื่อนที่เรียนพาณิชย์มาด้วยกัน นานมากที่ไม่ได้เจอกัน อยู่ ๆ เขาเอาเสื้อทำงานมาขายให้ เราก็อุดหนุนเขาไปเกือบสามพันบาท เขาเลยขอยืมเงินไปเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว ลูกป่วย ติดหนี้นอกระบบร้อยละ 20% ผมให้ยืมไป 100,000 บาท ใช้หนี้ผมมาประมาณ 5,000 บาท (เดือนละ 500 บาท) แล้วหายไปเลยครับ เปลี่ยนมือถือหนีไปเลย  ผมก็รู้จักบ้านเขา เขาไม่ได้ย้ายไปไหน แต่ผมก็ไม่กล้าไปทวงเขาหรอกครับ  ผมอาย 5) อันนี้หนักหน่อย  เพื่อนสนิดกันจริง ๆ เคยทั้งยืมเงินเขามาหลายครั้ง และเขาก็ยืมเงินผมหลายครั้งเหมือนกัน ก็ใช้หนี้กันไปโดยไม่มีปัญหา เคยมียอดถึง 100,000 บาทก็ไม่มีปัญหา  แล้ววันหนึ่งเขาโทรมาบอกว่าเดือดร้อนหนักเลย โดนลูกค้าแอบหยิบเงินต่างประเทศไป ต้องชดใช้ให้ที่ทำงาน ยอดเป็นล้าน ผมก็เลยให้เขายืมไปเพราะเขาบอกว่าจะคืนให้ไม่เกิน 2 เดือน ยอดที่ให้ไปคือ 930,000 บาท  เขาใช้มาได้พักหนึ่ง เหลือยอดหนี้ประมาณ 650,000 บาท ตอนนี้ 2 ปีกว่าแล้ว ไม่ได้ให้มาเลยแม้แต่บาทเดียว ก็ยังคุยกันอยู่นะครับ แต่ตอนนี้เขาไม่มีจริง ๆ ก็รอจนกว่าเขาจะมีและคืนให้ผม .................... ส่วนหนี้ที่ผมเคยยืมใครไว้เมื่อ 20 ปีก่อน ผมตามไปใช้เขาหมดทุกรายเลยครับ  มีอยู่รายหนึ่ง เพือนสนิดเมื่อ 20 ปีก่อน ผมติดหนี้เขาไว้ 10,000 บาท เวลาผ่านไป 12 ปี ผมตามไปใช้หนี้เขาที่บ้าน ที่บ้านบอกว่าเขาย้ายครอบครัวไปอยู่ที่โคราชแล้ว  ผมก็ขอที่อยู่และเบอร์โทรเพื่อนมา แล้วโทรไปหาเขาก่อน ถามว่าอยู่ตรงไหน จะไปเที่ยวหา แล้วผมก็ไปนอนค้างคืนที่บ้านเขาหนึ่งคืน พอวันรุ่งขึ้นจะกลับ ผมก็หยิบเงินยื่นให้เขา 10,000 บอกว่า ตามมาใช้หนี้ที่ติดไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนี้มีเงินแล้ว ก็เลยเอามาคืนเพื่อน เพื่อนงงมาก ไม่นึกว่าจะได้เงินคืนจากผม  ทุกวันนี้เขาบอกลูกเขาทุกคนว่า ผมเป็นคนที่เหมือนพี่น้องกันกับครอบครัวเขา .....   เอ..ทำไมไม่มีใครคิดและทำอย่างเราบ้างเลยนะครับ ที่มีหนี้ก็ต้องไปชำระคืนให้เขาซะ ไม่ว่าจะกี่ปีก็ตาม   ผมเป็นคนอย่างนี้แหละครับ  เรื่องเงินดูไม่ค่อยสำคัญเท่ากับจิตใจเลยครับ ผมว่าสำคัญกว่าเงินอีก (แต่บางทีเราไม่มีเงินก็...คิดว่าเงินสำคัญนะ...) ทุกวันนี้อยู่ไปแบบไม่มีความทุกข์กับหนี้ที่เสียไปเลยครับ มันก็สบายใจดีครับ จากคุณ : ผมแดงครับ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 22:36:54

ความคิดเห็นที่ 68 เซง ตรงที่ไม่มีให้เขายืมอ่ะครับ จากคุณ : plan two เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 00:53:40

ความคิดเห็นที่ 69 ขึ้นกระทู้แนะนำได้วันเดียวเอง งั้น โหวตต่อ จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 10:16:59

ความคิดเห็นที่ 70 หัวอกเดียวกับจขกท. แต่เจ้าหนี้เป็นพี่ชาย ยืมเงินไปจ่ายหนี้ที่เกิดจากบัตรเครดิต ทุกครั้งที่โทรมารู้ทันทีเลยว่าต้องยืมเงิน และก็ต้องให้ทุกครั้ง ถ้าไม่ให้ก็ต้องไปยืมที่บ้านอีก มีบางครั้งที่น้อยใจ เพราะอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบไว้แต่งงาน ก็ต้องเอามาให้เขา ตอนนี้ก็ปลงแล้วละเงินที่ให้ยืมคงไม่ได้คืน ไม่ตายก็คงหาใหม่ได้ สู้ๆๆ จากคุณ : ข้าวงาย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 16:17:35

ความคิดเห็นที่ 71 เราเองก็คล้ายๆจขกท.เลยค่ะ เค้าเรียกว่า คนทำบุญเรื่องเงินกับคนไม่ขึ้น ต้องหาอย่างอื่นมากันไว้ ตรงใจมากๆ กระทู้นี้ ขอระบายยาวๆครั้งนะคะ เรานี่ ก็แทบขูดเงินให้เพื่อนยืมเลยนะ มีเงินไม่กี่แสน เพื่อนขอยืมก็ให้ จะไปทำงานต่างประเทศ เพื่อนโทรมาขอยืมเงินก่อนขึ้นเครื่อง วันเดียว เราก็กดแล้วโอนให้ไปเลยหลายหมื่น นี่ล่อไปจะ 5 ปี ก็ยังเลี่ยงไปเลี่ยงมา บอกจะคืนๆ แต่ขอคืนคนอื่นก่อนนะ เห็นเราไม่รีบใช้เงิน เราก็ไม่รู้จะโกรธดีมั้ย อีกคน กว่าจะได้เงินคืน ต้องขอแล้วขอีก ได้คืนที่ละหมื่น สองหมื่น ยืมไปหลายแสน เราต้องเป็นฝ่ายโทรไปขอเงินตัวเองคืน กว่าเราจะกล้าพูดได้ ก็ตอนที่เราเดือนร้อนจริงๆ เราเกลียดตัวเองตรงนี้มากๆ แต่เราก็โดนมาหลายคน หลายหนแล้วค่ะ คนดีๆที่ยืมแล้วคืนตรงเวลา ถ้ามีปัญหาโทรมาขอเลื่อน แต่ก็คืนให้ตามคำพูด เพื่อนแบบนี้ เราให้ยืมแบบไม่จำกัดเลยนะ แต่มีน้อยมากๆ แต่พวกยืมแล้ว ทำลืมเนี้ย สอนให้เราเป็นคนคิดให้เยอะๆขึ้น เอาครอบครัวมาอ้างจะได้ ไม่ต้องให้ใครยืมเงินอีก นี่กว่าเราจะตั้งหลักได้ ก็สูญไปหลายแสนเหมือนกันค่ะ โง่โดนคำว่าเพื่อนหลอกตัวเอง โทรมาคุยกันเรา ถามยืมเงินแทบไม่ให้เราตั้งตัว ไอ้เราเวลาเพื่อนโทรมาทีนี่ ดีใจหนักหนา คิดว่าคิดถึงเรา ที่ไหนได้ เท่าที่เราคบๆเพื่อนมา เพื่อนที่ดีจริงๆ จะไม่ยอมยืมเงินเพื่อนค่ะ นอกจากเราไปรู้เองว่าเค้ามีปัญหา แล้วเราเสนอช่วย เพื่อนกลุ่มนี้จะเป็นเพื่อนที่ดี คบกันได้นาน แต่เพื่อนมาถึงก็พูดเรื่องยืมเงินเลยเนี้ย ห่างได้ เป็นดีที่สุด ถ้าไม่กลัวเสียเพื่อน พวกนี้คิดว่าเรามีเงิน คืนเมื่อไหร่ก็ได้ เพื่อนแบบนี้ ถ้าเราได้เผลอให้เงินไป ไม่คิดจะทวงเลยนะ ถือว่าเอาเงินนั้นซื้อความรู้สึกดีๆเก่าๆไปแล้วกัน ครั้งหน้าไม่ต้องรู้จักกัน ยิ่งคิดยิ่งแค้นตัวเอง แต่ก็ปลอบใจตัวเองไป ว่าอย่างน้อยตอนนี้ คงยืมเงินเราอยากหน่อย เพราะอยู่ต่างประเทศแล้ว จะทำอะไรเราก็จะคิดให้มากขึ้น แต่จะว่าไป ขนาดเราอยู่ที่นี่ ก็ยังโดนขอยืมเงินไปปีที่แล้วเลย โทรข้ามประเทศมายืมเงินเลยนะ เราเหรือ ก็โอนเงินออนไลน์ส่งเข้าบัญชีไปสิค่ะ โง่ได้อีกมั้ย T T แต่ก็ช่างเถอะ ถือว่าเป็นบทเรียน ตอนนี้เอาเงินไปติดไว้ในกองทุนหมด ทำให้มันถอนยากๆ ให้ใครยากๆไป สบายใจค่ะ ;D จากคุณ : dcapar เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:29:29

ความคิดเห็นที่ 72 เป็นคนใจดี ก็โดนแบบนี้แหละครับ 1. ตัวแสบ (เพื่อนคณะเดียวกัน)   ช่วยไปเยอะมาก หลายแสน หวังให้มันตั้งตัวได้       แต่มันเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ ขี้เกียจ โกหก เล่นพนันบอล   ผมเลิกคบไปแล้ว ถือว่าทำบุญไป 2. เพื่อนห้องเดียวกัน ตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6  พอเข้ามหาวิทยาลัย หายไปเลย   ไม่เคยเจอ คุย 10 ปี  อยู่ๆก็โผล่มา  ขอ 2หมื่น ผมให้ได้นะ แต่เข็ดจาก   คนแรก เลยให้ไปแค่หมื่นเดียว  จากนั้น 2-3เดือน โทรมาประจำ   ผมก็ให้มันไปทีละ พันสองพัน  ระยะหลังโทรมาวันเว้นวัน ถ้ายังไม่โอนมัน โทรมาทุก 2 ชั่วโมงเลย  ทำยังกับ ผมเป็นหนี้มัน ผบ.ทบ.ยังรู้เลยครับ ทน ไม่ไหวปัจจุบันเลยกดไม่รับสายมันแล้ว  ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน  อย่าให้มันยืมเงินครับ.. จากคุณ : jajump เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:50:29

ความคิดเห็นที่ 73 เพื่อนสนิทตอนเรียนมหาวิทยาลัยโทรมายืมเงินบ่อยๆค่ะ ตอนแรกก็ให้ค่ะ พอหลังๆ เราถามสาเหตุว่าทำไมยืม เค้าบอกว่า คราวนี้จะเอาไปจ่ายค่ากระจกตกแต่งร้าน วันนี้ช่างจะมาเก็บตังค์ หลังจากวันนั้นเราไม่ให้ยืมเลยค่ะ เราไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเค้าไม่คิดก่อนทำ ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ควรจะทำมากกว่า ไม่ใช่หวังแต่พึ่งคนอื่นแบบนี้ หลังจากนั้นเพื่อนคนนี้ก็ไม่กล้ามายืมเราอีกเลย จากคุณ : ChemNizz เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 03:07:54

ความคิดเห็นที่ 74 กระทู้รวมเจ้าหนี้ ไม่ยักมีใครตั้งกระทู้รวมลูกหนี้ อิอิ จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:20:45

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแล้วรู้สึกหนูเต็มหัวเลยครับ (จี๊ดดดดดด) ผมก็พยายามทำตัวหลีกลี้เพื่อนฝูงมาเยอะเพราะเหตุนี้แหล่ะ สงสัยเราดูรวยมากเลยม้าง ไอ้พวกไม่คืนจะมากจะน้อยมันไม่คิดจะคืนหรอกครับ ยิ่งเราไม่ได้มีเงินมากมายมีแต่เงินออม เรื่องเสียดายเงินก็เสียดายแต่แค้นตัวเองมากว่า น่าจะเอาเงินไปให้พ่อแม่ดีกว่าเสียเงินให้พวก ... พรรค์นั้นครับ จากคุณ : miar เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:15:44

ความคิดเห็นที่ 76 เป็นกำลังใจให้ค่ะ ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่ถ้าโอกาสไม่ได้คืนเลยนิ ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ ถ้าไม่ช่วย เงินทองเป็นของนอกกายก็จริง แต่กว่าจะหามาได้ มันก็ลำบากเหมือนกัน - -* จากคุณ : เด็กน้อยบ่มีอ่หยั่ง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:56:23

ความคิดเห็นที่ 77 บางครั้ง เสียใจที่ให้ยืมแล้วไม่ได้คืน  มันยังดีกว่า เสียใจที่ไม่ให้ยืม (กับบางคน) จากคุณ : ethanority เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 14:13:59

ความคิดเห็นที่ 78 ผมใช้มุกนี้ตลอด ตอนเรียน เงินนี้ของพ่อกุ ให้ยืมไม่ได้หรอก ตอนทำงาน กูทำงานมาเหนื่อย จะมียืมง่ายๆ ไม่ได้หรอก จากคุณ : RCracing เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 14:15:25

ความคิดเห็นที่ 79 เป็นมิตรเมื่อยามมากู้ เป็นศัตรูเมื่อยามมาทวง ไม่รู้เหมือนกันว่า เมื่อเพื่อนคนนี้ให้ยืมไปแล้ว คนต่อไปก็จะตามมา เหมือนโฆษณาชวนเชื่ออย่างนั้นแหล่ะ เราเองให้เพื่อนที่ทำงานคนละแผนก ยืมเงินไป 10,000 บาท เพื่อนคนนี้ชื่อ G บอกว่าจะคืนไปตอนสิ้นเดือน ทีนี้ผ่านต้นเดือนไปแล้ว เราก็ทวง เค้าบอกว่าไม่มี จะคืนให้กลางเดือน เอออ .. ไม่เป็นไร ทีนี้พอกลางเดือนเราไปทวงอีก เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวมีแล้วก็ให้ พร้อมทั้งแสดงสีหน้าไม่พอใจ (เดี๋ยวจะมีหักมุมกว่านี้อีก) ....  เค้านัดว่าครั้งนี้เอามาให้ เค้ามาให้เราถึงที่แผนกเลย แล้วก็มีเพื่อนของ G ชื่อ A  มาด้วย แล้วให้ A รออยู่ถ้ดจากโต๊ะเราไปอีก 3 โต๊ะ เค้าเอาเงินมาให้ แล้วก็บอกว่าโทษทีนะ ที่ผิดนัด เราก็ยิ้มบอกว่าไม่เป็นไร จนเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งเดือน  เพื่อนสนิทของเราเค้ามาบอกว่า มี "ข่าวลือ" ว่าเราอ่ะไปยืมเงิน G มา 10,000 แล้วไม่ยอมใช้คืน G แถม G ยังต้องเอาเงินมาให้ เราถึงที่แผนกเลย ทั้งที่เป็นคนยืม โดยที่ยัย A เป็นพยานในตอนนั้น !!! เป็นไงหล่ะ เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด ต่อไปถ้ามีคนมายืมเงินเยอะ ๆ โดยที่ถ้าเค้ายืมเราไปแล้ว เราเดือดร้อน ปฏิเสธไปเถอะค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 14:39:10 จากคุณ : เด็กน้อยตัวแสบ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 14:17:19

ความคิดเห็นที่ 80 ให้ยืมเฉพาะ ส่วนที่เราจะพอให้เขาได้ครับ ยืม 8 แสน แล้วเพื่อนคนนั้นมีค่าพอ 8 แสนหรือเปล่า ถ้ามีค่าพอก็ให้ยืมไป ส่วนใหญ่ยืมเยอะ ๆ บอกทันทีว่า มีอยู่ 3 พันเอาเปล่าให้ไปใช้่ก่อน ถ้าเขาจะเอาแล้วไม่คืน ก็ยก 3 พันให้เขาไป และก็ยังคบเพื่อนคนนั้นต่อไป จากคุณ : ไรเฟิล เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 14:17:48

ความคิดเห็นที่ 81 ไม่มีลูก ไม่มีเมีย จะอ้างใครดีเนี่ย โดนยืมไป 50000 ตั้งแต่ปี 48 แล้วยังไม่ได้คืนเลย เซ็งเป็ด จากคุณ : บุรุษแห่งดาวดวงที่3 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 16:08:43

ความคิดเห็นที่ 82 เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร จริงๆค่ะ ช่วยถูกคนก็ถือว่าดี สร้างมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ เป็นความทรงจำดีๆตลอดชีวิตทั้งผู้ให้ยืมและผู้ถูกยืม บางครั้งถึงกับพลิกสถานการณ์ พลิกชีวิตได้ ^ ^ ช่วยไม่ถูกคนก็สูญเปล่าฟรีๆ เสียเพื่อน เสียญาติ  เสียความรู้สึก เสียมิตรภาพ เสียฯลฯ +สูญเงินด้วยค่ะ - -" (เค้าถึงว่า เงินทองของบาดใจนะคะ) จากคุณ : ฟองเต้าหู้ในน้ำซุป เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 17:06:09

ความคิดเห็นที่ 83 ซึ้งครับ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 17:31:09

ความคิดเห็นที่ 85 ขอยืมประเภทลูกหนี้ของ ค.ห. ที่ 54 คุณGamblerboy หน่อยนะคะ เราได้ไอเดียวหนึ่งแล้ว ต่อไปใครจะมายืมเรา เราจะให้เค้าอ่านประเภทลูกหนี้ก่อน แล้วก็ถามเค้าว่า คุณเป็นประเภทไหนคือเราจะได้ทำใจถูก หุหุ ลูกหนี้ 3 ประเภท คือ 1.ประเภทที่พร้อมจะเป็นหนี้ไปได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่รับผิดชอบต่อการใช้จ่ายของตัวเองเลย จนในที่สุดก็พร้อมที่จะชักดาบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไม่มีปัญญา หรือ เหตุผลทำจนเป็นนิสัยอันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกันเลย ตัวอย่างคนประเภทนี้ก็คนที่ติดบัตรเครดิตที่มายืมคุณนั่นแหละคับ หรืออีกประเภทก็คือพวกเล่นการพนัน พวกนี้ไม่สมควรที่จะให้ยืมเด็ดขาดคับ ยิ่งถ้าจำนวนหลักแสนขึ้นยิ่งไม่น่าให้ยืมด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าน้อยๆจะลองวัดใจเพื่อนดูก็ได้คับ แต่โอกาสสูญมีเยอะ เพราะถ้าเค้ายังใช้จ่ายแบบนี้อยู่ หรือเล่นการพนันอยู่ อนาคตก็มีแต่จะยืมเงินคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเท่านั้นแหละคับ 2.ประเภทยืมเพราะจำเป็นจริงๆ และเกรงใจที่จะยืม เหมือนเรื่องเล่าความเห้นที่ 33 ตามความคิดผมผมจะให้ยืมนะคับ เหตุผลคือเหมือนช่วยเหลือกัน เป็นน้ำใจ และคนประเภทนี้เค้าจะไม่ยืมเยอะขึ้นเรื่อยๆคับ เพราะเค้าคิดที่จะใช้คืน เค้าจะยืมเท่าที่จำเป้นเท่าที่เค้าจะหามาใช้คืนให้ได้ ผมก็มีความหลังคล้ายๆความเห้นที่ 33 ผิดกันที่ผมยังเล็กมากไม่รุ้เรื่อง แต่แม่เป็นคนเล่าให้ฟัง ผมยังสำนึกในบุญคุณจนกระทั่งทุกวันนี้ทั้งๆที่จำหน้าตาผู้มีพระคุณไม่ได้เลยด้วยซ้ำคับ 3.ประเภทยืมเพราะคิดว่าจำเป็น ทีแรกคิดจะคืน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คืน เพราะสาเหตุใดๆก็แล้วแต่ พวกนี้คงจะยืมไม่มากเพราะเกรงใจ แล้วก็ไม่ได้คืน แล้วก็หลบลี้หนีหน้า ข้อดีคือคุณจะทำใจได้ง่าย เพราะเหมือนช่วยคน และก็จะไม่มีครั้งต่อๆไป จากคุณ : เซอร์แมนติก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 19:44:37

ความคิดเห็นที่ 86 เห็นคุณ จขกท แล้วนึกถึงคุณพ่อ ใครมาขอยืมเงินให้ตลอด หนีหายก็มาก แต่ไม่รู้ทำไมยังให้ยืมอยู่ แบบมาหาถึงที่บ้านเลยนะคะ พอจะทวงก็เกรงใจกัน เอาแต่บอกว่าเพื่อนกันๆ ไม่หนีหรอก ล่าสุดก็ชิ่งไปเป็นล้านแล้วค่ะ บอกกิจการปั๊มน้ำมันไม่ดี ต้นทุนแพง ขอยิมเงินไปจ่ายหนี้ ผ่านไป 2 ปี เงินต้นก็หายเงียบ ปั๊มก็ให้คนอื่นเซ้งต่อ ย้ายบ้าน เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์อีกต่างหาก เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายากจริงๆค่ะ คนเป็นลูกเห็นแล้ว แหยงๆ เวลามีคนมาขอยืมจริงๆ - -'' จากคุณ : Iceclover เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 20:50:26

ความคิดเห็นที่ 87 เข้าใจความรู้สึกเลย เราไม่ได้โดนยืมเงินหรอกเพราะเราไม่มี แต่ก็จะเจอคนชอบมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งถ้าเค้าเดือดร้อนจริง เราก็เต็มใจนะ แต่บางคนเรียกว่าเอาเปรียบมากกว่า ยืมของแล้วยังจะให้เราขับรถเอาไปให้ถึงบ้าน ไรงี้ จนหลัง ๆ ต้องใจแข็งพิจารณากันเป็นราย ๆ ไป อย่าไปใจดีพร่ำเพรื่อ ถ้าเราช่วยแล้วไม่สบายใจ ก็อย่าเลยค่ะ ยิ่งเรื่องเงินๆ  ทอง ๆ ก็ให้ยืมเท่าที่ให้ได้แล้วคิดซะว่าไม่ได้คืน เสียเงินพอประมาณไม่เสียเพื่อน ไม่กระอักกระอ่วน หรือถ้าจำนวนมากก็ควรมีอะไรมาค้ำประกันกันซักหน่อย จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 20:55:26

ความคิดเห็นที่ 88 สงสัยจังค่ะ คห. ที่ 63 ของคุณ The Rounder ถูกลบทิ้งไป หลังจากกระทู้กลับมาขึ้นแนะนำใหม่เมื่อวานนี้ วันนี้ตอนก่อน 2 ทุ่ม ดีใจที่เห็นคุณ The Rounder นำข้อความเดิม กลับมาโพสใหม่ในกล่องความเห็นที่ 84 แต่โพสได้น่าจะไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็โดนลบทิ้งอีกแล้ว ไม่ทราบทำไมต้องลบกันด้วยคะ?? เพราะอ่านแล้วเป็นข้อความตัวอย่างที่เป็นแง่บวกและเป็นประโยชน์อย่างมาก เป็นการยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อนในยามต้องการที่ได้สร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างมากด้วย ถ้าคุณ The Rounder จะนำกลับมาโพสให้อ่านกันอีกที อาจจะลองทบทวนข้อมูลบางประเด็นและแก้ไขใหม่ด้วยนะคะ เผื่อว่าจะมีบางจุดที่ Sensitive เกินไปทำให้ถูกลบค่ะ จำรายละเอียดเรื่องทั้งหมดไม่ได้แต่มั่นใจว่าเป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 21:31:24

ความคิดเห็นที่ 89 ให้น้องชาย ยืมเงิน 200000 บาท กว่า20 ปี มาแล้ว เพราะพี่สาวเรา มาบอกว่า เค้าเดือดร้อนมาก ต้องกู้เงิน ร้อยละ 3 ต่อเดือน เราเป็นฝ่ายโทรไปและโอนเงินไปให้เอง โดยปลอบว่า อย่าคิดมาก เราให้ผ่อนให้เรา ทั้งต้นและดอกเบี้ยของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ทำงาน ซึ่งปกติ เราจะใช้เงินสหกรณ์ มาหมุนเงินผ่อนค่าบ้าน ของตัวเองอยู่แล้ว ได้บอกน้องชายว่า เงินแค่นี้เล็กน้อย ให้ เค้า ผ่อนเท่าที่ เค้าไหว เค้าก็บอกว่าประมาณ 3 พัน เท่ากับเงินที่ เค้าจ่ายดอกเบี้ย ทุกเดือน เค้าผ่อนมา เดือนละ 3 พันหน่อยๆประมาณ  2 -3 เดือน เข้าบัญชีให้เรา เค้าผ่อน อยู่ 2 -3 เดือน แล้วก็ไม่ผ่อน ผ่านไปเกือบปี เราโทรถามถึง เงินผ่อนจำนวนนี้ เค้าบอกว่า เค้าคำนวณดูแล้ว กว่าจะผ่อนหม-นานและรวมดอกสหกรณ์แล้ว เป็นเงิน จำนวนมาก และเราเองก็ไม่เดือดร้อน เราเองเป็นคนโทรมาขอให้ เค้ายืมเงินเราและบอกว่าเป็นเงินเล็กน้อย เราเองไม่เดือดร้อน ถามหลายครั้งว่า เราเดือดร้อน หรือเปล่า      เราถามครั้งนั้น ครั้งเดียวเดียว แต่ก็ไม่ลืม คำพูดของเค้าเลย ยังเจอกันอยู่ ตอนรวมญาติๆ กินเลี้ยง ทำบุญ แต่ลืม คำพูดไม่ลง จากคุณ : เปลี่ยนหลัก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 22:14:18

ความคิดเห็นที่ 90 พอดี กดซ้ำ เลยขอแก้ไข โดยขอเล่าต่อว่า... ตอนเรื่มต้นทำงาน เคยหมุนเงินไม่ทัน (ก็ ผ้อนบ้านแหล่ะ ) ลองยืมเพื่อนสนิท 2 คน คนละ หมื่นบาท   ( เกือบ 40 กว่าปี มาแล้ว ) บอกว่า ขอยืม สัก 2-3 เดือน เค้าให้ ทั้งสองคนแหล่ะ ก็เคลียร์คืนให้คนแรก เพราะไม่ค่อยสบายใจที่ต้องยืมเงิน ส่วนคนหลัง เค้า รวยมากๆเลย เค้าโทรมาทวง บอกว่า เค้าจะเอาเงินไปซื้อ เพชร เราก็คืนให้ แต่น้อยใจมากๆ เลย ตอนนั้น หลังจากนั้น ไม่เคย ยืมเงินใครใช้เลย แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 22:25:27 จากคุณ : เปลี่ยนหลัก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 22:14:30

ความคิดเห็นที่ 91 พ่อผมเองครับ  ประจำ ทั้งยืม ทั้งขอ ไม่เคยเห็นใครมาคืน  จนท่านเสียไปร่วม 10ปีแล้ว บางคนยังเห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  แต่ก็มีบางคน ทุกวันนี้ที่ยังส่งเงินมาใช้ให้เรื่อยๆ  ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่าไปยืมกันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จากคุณ : ค้างคาวจิ๋ว เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 22:37:24

ความคิดเห็นที่ 92 ความเห็นที่ 88 คะ  ขอแสดงความคิดเห็นถึง ความเห็นที่ 63 ว่า....  อ่านแล้ว ยกย่อง ทั้ง 2 ท่าน แต่ก็รู้สึกว่า จะเป็นการนำสิ่งที่อาจ  ระคาย เคือง ต่อผู้ได้ รับรางวัล ยกย่อง เหมือนกัน  คิดในมุมกลับ... การทำความดี ต่อสังคม ประเทศชาติ อาจ ต้อง  เสียสละ โอกาส ที่จะ ร่ำรวย..ต้องอยู่ ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี รูปภาพและ เนื้อหาน่าจะ รู้กันแค่ ในกลุ่ม..หรือเปล่า คะ  เดาเอา ค่ะ ไม่ทราบว่า จะพูดออกมาอย่างไร และไม่ทราบด้วยว่า ความเห็นดังกล่าว โดนลบ   เอาใจตัวเอง เป็นที่ตั้ง ขอรวยแบบ สุจริต เหนื่อยยาก ให้ลูกหลาน มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แต่ไม่เสียสละมากๆๆและเก่งเท่าท่านที่ได้รับรางวัล ในกลุ่ม ออกมา สู่สาธารณะ หรือ เปล่า คะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 22:45:21 จากคุณ : เปลี่ยนหลัก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 22:42:49

ความคิดเห็นที่ 93 ^ ^ ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 22:51:47

ความคิดเห็นที่ 94 ผมคิดว่าสาเหตุหลักๆคือ 1. คุณมีฐานะร่ำรวย  ไม่มีใครมายืมเงินจากคนที่เขาเห็นว่าไม่มีเงินให้เขาหรอกครับ 2. คุณให้คนยืม  คนนึงได้ เขาก็บอกต่อๆกันไป  แบบคุณข้างบนวิเคราะห์นั่นแหละครับ 3. คนมีบัตรเครดิต 17 ใบ  มาขอให้คุณช่วยเคลียร์หนี้ให้ 8 แสนเนี่ย บ้าแล้วครับ  เหอเหอ  คุณเคลียร์ให้เนี่ย  คุณจะปวดหัวแทนเขาแหงๆ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 03:53:44

ความคิดเห็นที่ 95 คราวก่อนเพื่อนคนนึง ไม่ได้เจอกันเป้นปีแล้ว โทรมายืมเงินไปซื้อหุ้น บอกช่วงนี้กำลังขึ้น ได้กำไรแล้วจะเอาทุนมาคืนให้ ไอ้ห้า.. แล้วถ้าไม่กำไรล่ะ จะคืนกุมั้ย จากคุณ : เที่ยวตามใจ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 09:00:48

ความคิดเห็นที่ 96 อยากอ่าน คห ที่โดนลบ เพราะเคยติดตามคุณ The Rounder  (ให้กิฟ)  อิอิ  อยู่พักนึง เพราะพูดอะไรตรงใจดี จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 09:47:32

ความคิดเห็นที่ 97 ผมเจ้าของกระทู้นะครับ  ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน  กระทู้ผมดันกลายเป็นกระทู้แนะนำไปซะแล้ว   ที่จริงที่ตั้งกระทู้นี้เพราะอัดอั้นตันใจเรื่องคนมายืมตังค์เท่านั้น   แต่ไม่รู้ว่ากระทู้ผมดันไปโดนใจเจ้าหนี้ทั้งหลายด้วย 555     ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำ    ผมอ่านตั้งแต่ความคิดเห็นแรกจนถึงความคิดเห็นสุดท้าย   พอจะได้ข้อสรุปสำหรับลูกหนี้ในอนาคตแล้วครับ        เชื่อมั๊ยว่าหลังจากผมตั้งกระทู้แค่วันเดียวมีเพื่อนเก่าสมัยสิบห้าปีที่แล้วที่ผมเคยทำงานบริษัทเดียวกัน  โทรมายืมเงินผมอีกแล้วครับ  จำนวนเงินไม่มากแค่สามหมื่นเท่านั้น  แต่เพื่อนคนนี้เป็นคนที่เคยให้ความช่วยเหลือผมสมัยที่ผมยังทำงานบริษัทอยู่       ผมถังแตกประจำต้องยืมเงินเค้าทีละ ห้าร้อย หรือพันนึงบ่อยๆ แต่คืนทุกครั้งนะครับ   มาวันนี้วันที่เค้าโทรมายืมเงินผมบ้างผมไม่ถามเลยว่าจะเอาไปทำอะไร หรือจะใช้คืนเมื่อไหร่   ถามเค้าแค่ว่าจะเอาเท่าไหร่  แล้วผมก็โอนเงินให้เค้าเดี๋ยวนั้นเลย          รู้สึกปลื้มใจเหมือนได้ทดแทนบุญคุณเค้าในอดีต   สำหรับรายนี้ผมเต็มใจให้ยืมเต็มที่เลยถึงแม้เค้าจะไม่ใช้เงินคืนผมๆก็ไม่เสียดายครับ         เพราะเงินห้าร้อยหรือพันนึงในอดีตตอนที่ผมเคยยืมเค้ามันมีค่ามากๆสำหรับผม  ช่วยต่อชีวิตผมได้อีกเป็นอาทิตย์      และวันนี้วันที่เค้าเดือดร้อนเงินแค่สามหมื่นบาท  ผมจึงไม่ลังเลที่จะช่วยเค้าเลยครับ       เมื่อวานนี้เองเค้าโทรมาขอเลขที่บัญชีเพื่อโอนเงินคืนผมในวันนี้    ตอนนี้ผมยังภูมิใจอยู่เลยครับที่ได้มีโอกาสช่วยคนที่เคยมีบุญคุณกับผมในอดีต       ตอนนี้เริ่มคิดได้แล้วครับว่า   เรื่องเงินเรื่องทองเป็นของบาดใจก็จริง แต่มันก็เป็นของนอกกายด้วย   ผมจะพยายามแยกประเภทลูกหนี้เพื่อดูว่าใครควรที่จะช่วยเหลือดีกว่าที่จะปฎิเสธแบบเหมารวมไปทั้งหมด       เพราะในจำนวนคนที่เข้ามาขอยืมเงินก็คงมีทั้งคนที่ตั้งใจที่คืนเราจริงๆ  และคนที่ยืมแล้วทำเงียบ หายเข้ากลีบเมฆไปเลย      ถ้าผมปฎิเสธไปทั้งหมดคนดีๆที่เค้าเดือดร้อนและเค้าตั้งใจจะยืมเงินแล้วคืนจริงๆคงเดือดร้อนไปด้วย            มีอีกเรื่องนึงที่ผมอยากเล่าให้ฟังคือ  ราวๆเกือบยี่สิบปีที่แล้วก่อนที่ผมจะทำงานบริษัท  ผมเคยตกงานอยู่ช่วงนึงระหว่างที่ไม่รู้จะทำอะไรดี   ก็ไปสมัครขับแท็กซี่เพื่อหารายได้พิเศษไปก่อน       มีอยู่วันนึงผมพยายามจะขับแท็กซี่ฝ่าไฟเหลืองเพราะจังหวะไฟเหลืองผมเป็นคันสุดท้าย ข้างหน้ามีรถวอลโว่ป้ายแดงแค่คันเดียว    แต่เค้าไม่ยอมฝ่าไฟเหลืองพี่เค้าเบรคเป็นคันแรกของไฟแดงพอดี   ผมเบรคไม่อยู่เพราะส่งมาเต็มที่เลยชนท้ายวอลโว่ป้ายแดงของพี่เค้า      ทำให้รถพี่เค้าเสียหายกันชนท้ายห้อยนิดหน่อย   ตอนรู้ตัวว่าชนผมรีบลงมายกมือไหว้พี่เค้าก่อน  เพราะรู้ตัวว่าผมผิดเต็มๆ  แถมรถพี่เค้ายังใหม่เอี่ยม ดูก็รู้ว่าเพิ่งถอยออกมาใหม่ๆ       แต่ผิดคาดพี่เค้าไม่ตกอกตกใจอะไรเลย  อาจจะเป็นเพราะผมสำนึกผิดพยายามขอโทษขอโพยเค้ายกใหญ่   เค้าเลยไม่เอาเรื่องผม   และระหว่างที่นั่งรอประกันของรถพี่เค้ามา  พี่เค้าก็นั่งคุยกับผมไปเรื่อยๆ  เค้าบอกว่าวัยอย่างผม หน้าตาอย่างผมไม่ควรจะมาขับรถแท็กซี่แบบนี้      เค้าบอกว่าผมควรจะไปหางานดีๆทำ ให้ตั้งใจหาหน่อย    มันต้องมีงานที่ผมทำได้แน่  ตอนนั้นผมเรียนรามเหลืออีกไม่กี่หน่วยกิตก็จะจบแล้ว    ผมบอกพี่เค้าไปตอนนั้นว่าผมไม่มีเงินผมจึงต้องมาขับแท็กซี่หาเงินประทังชีวิตไปก่อน         เชื่อมั๊ยครับนอกจากพี่เค้าจะไม่เอาเรื่องที่ผมขับรถชนท้ายเค้าแล้ว   เค้ายังให้เงินผมอีกสามพันบาท แล้วบอกให้ผมพยายามไปสมัครงานให้ได้          หลังจากวันนั้นผมเอาเงินที่พี่เค้าให้มาไปซื้อเสื้อผ้ากับรองเท้าเพื่อไปสมัครงาน   แล้วผมก็ได้งานบริษัททำทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบนั่นแหละ        ทุกวันนี้ผมไม่เคยลืมบุญคุณของพี่เค้าเลย    เคยติดต่อไปเพื่อเอาเงินไปคืนที่บริษัทเจ๊บเซ่น แอน เจนเซ่น ที่พี่เค้าเคยให้นามบัตรผมไว้  (พี่เค้าเป็นผู้บริหารของบริษัทนี้)   แต่ที่ทำงานพี่เค้าบอกว่าพี่เค้าลาออกไปแล้ว       ผมทำนามบัตรพี่เค้าหาย ทุกวันนี้ก็พยายามนึกชื่อพี่เค้าอยู่แต่นึกไม่ออก      ถ้าพี่ได้มาอ่านกระทู้นี้ผมอยากบอกว่า  ขอบพระคุณมากครับพี่ เงินสามพันของพี่มีค่ากับผมมากๆในวันนั้น        มันทำให้ผมได้มีโอกาสไปหางานทำ และชีวิตผมก็ดีขึ้นตามลำดับ  อย่างที่พี่บอกและสอนผมไว้    ทุกวันนี้ชีวิตผมไม่เดือดร้อนอะไรอีกแล้ว   วันนี้ผมอยากตอบแทนพระคุณพี่มาก   แต่ผมไม่รู้จะไปตามหาพี่ได้ที่ไหน      ก็ได้แต่หวังว่าพี่จะได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้    และกรุณาติดต่อผมตามอีเมล์ของผมด้วยนะครับ ผมอยากตอบแทนพระคุณพี่จริงๆ     แต่ถ้าพี่ไม่ได้เข้ามาเห็นกระทู้นี้   ผมจะขอตอบแทนพี่ด้วยการช่วยเหลือคนอื่นที่เดือดร้อนต่อไป  เหมือนอย่างพี่ที่เคยช่วยผมครับ จากคุณ : จขกท. (Simboh) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 12:13:48

ความคิดเห็นที่ 98 โอวฟังแล้วซึ้ง คคห 97 แอบอ่านมานานแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น คนยืมแล้วให้คืน หรือยังไม่คืนยังระลึกถึงบุญคุณเราก็ยังดี ก็น่าให้ยืม คนที่ยืมแล้วไม่รู้บุญคุณคนนั้นไม่สมควรให้ยืมเด็ดขาด โดยปกติคนที่ลำบากเรื่องเงิน ผมว่าเกิน 95% ทำตัวเองทั้งนั้น ใช้จ่ายเกินตัว ทำธุรกิจเกินตัว ฟุ่มเพื่อย ฟุ้งเฟ้อ อีก 5% ลำบากจริงๆ จากคุณ : กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 13:17:20

ความคิดเห็นที่ 99 สงสัยอย่างนึงว่าจะมีคนที่ชอบยืมตังค์มาอ่านกระทู้นี้ใหม อยากให้บางคนมาอ่านมากๆเลย 55 มีเพื่อนคนหนึ่งยืมเงินผมไปสิบกว่าปีแล้ว ผมก็ให้ผ่อน ดบ ไม่คิด ถ้าไม่มีให้บอก เดือนนั้นจะไม่เอา อยู่ไปอยู่มาก็หายไป ทั้งเงิน ทั้งเพื่อน  กรูงง นี่ขนาดผ่อนปรนให้ทุกอย่างนะ ส่วนเพื่อนสาวคนสวยอีกคน ยืมเงินมาตอนมัธยม แล้วก็เรียบจบไม่เจอกันนานมาก เจอกันอีกทีจะคืนเงินให้ เธอไม่เอา เราเลยบอกว่าไว้เลี้ยงข้าวละกัน ผ่านไปหลายปีแล้วไม่เคยเจอกันอีกเลย คนที่ติดตังค์เราอยู่ ถ้ามาอ่านกันก็เอาเงินมาคืนกันนะ จะเอาไปใช้หนี้ สร้างบ้าน ซื้อรถ บ่นมั่ง 555+ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 18:50:49 จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 13:26:38

ความคิดเห็นที่ 100 ^ ^ ได้อ่านความเห็นข้างต้นของ จขกท แล้วรู้สึกปลื้มปิติและยินดีด้วยอย่างยิ่งค่ะ นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำคัญของการหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือคนที่ลำบากจริง ๆ ค่ะ ที่จริงตัวเองก็มีตัวอย่างของผู้มีพระคุณนอกเหนือจากที่กล่าวใน คห. 33&61 ข้างต้นแล้วอีกหลายรายค่ะ ทุกวันนี้มีชีวิตที่ดีได้ด้วยจิตเมตตาของผู้มีพระคุณเหล่านี้จริง ๆ มีรายหนึ่งเป็นแค่คุณแม่ของเพื่อนสมัยเรียนแต่ตอนนี้มาเป็นพี่น้องบุญธรรมกันแล้ว เพราะคุณแม่ของเธอถูกชะตาและขอเป็นลูกบุญธรรม กว่า 20 ปีมานี้ครอบครัวของเราก็สนิทกันมากยิ่งกว่าญาติจริง ๆ เสียอีกค่ะ ขอเน้นย้ำอีกครั้งนะคะว่าอย่าเพิ่งปิดประตูรับฟังปัญหาของเพื่อนหรือญาติพี่น้อง หากเขามีปัญหาจริง ๆ การที่เรายื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออาจจะเป็นการช่วยต่อชีวิต และช่วยชุบชีวิตของพวกเขาและคนรอบข้างได้ การได้ช่วยเหลือคนเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ถ้าเราอยู่ในฐานะที่ช่วยเหลือได้ก็อย่าได้นิ่งนอนใจเลยนะคะ สังคมของเราจะดีและน่าอยู่ขึ้นมากหากเรามอบความช่วยเหลือและเอื้ออนาทรต่อกันค่ะ สำหรับท่านเจ้าหนี้ที่เคยมีประสบการณ์ในแง่ลบจนอาจจะรู้สึกเข็ดขยาด แต่การเปิดใจและพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นกรณี ๆ ก็เป็นการเปิดโอกาส ให้กับตัวเราเองในการที่จะสร้างกุศลซึ่งจะสะท้อนกลับมาที่ตัวเราเองค่ะ จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 13:45:17

ความคิดเห็นที่ 101 เป็นกระทู้ที่เราตามให้กิ๊ป แทบทุกคนเรย .... ไว้ จะมาตามให้ต่อ รอได้กิ๊ปเพิ่มมาก่อน อันข้างล่างนี่ อ่านแล้ว ซึ้งเลยค่ะ ... ซึ้งจิตใจมนุษย์  เราก็โดนคล้ายๆกัน พอเราบอกให้รู้ว่า รู้ทันนะ .... (มีหน้า) จะมายืมอีกเหรอ .... (มากกว่าเดิมที่หลอกเราไปแล้ว สิบกว่าเท่า) เค้าก็จะไปพูดให้เราเสีย เป็นเรื่องอื่นไป ต่อมาก็จะ มาขอร้อง อย่า บอกใคร ... กลัวตัวเองเสียชื่อ จริงๆกลัวเหยื่อรายใหม่จะรู้ตัวอ่ะ  .... แถมมาหาว่า ที่ ไม่คืน เพราะ เราไม่ทวงมั่ง .... (หลอกแล้ว หลอกอีก นีอ่า .... สงสารเลยไม่ทวง พอทวงก็ทำ พาลพาโล โกรธ เอาเรื่องนั้น เรื่องนี้ มาอ้าง)   ดู๋ ดู .... เฮ่อ .... เพื่อนคนนึง ให้ความเห็นจาก ตัวอย่างที่ทำงานเค้าว่า คนยืมเงิน บางคนไม่ได้คิดจะคืนแต่เเรก .... ทำพูดจา น่าสงสารไปวันๆ ... ตอดนิด ตอดหน่อย ได้เมื่อไรเป็นเอา ทำประจบ ประจ๋อประเเจ๋ ... กับคนที่เล็งแล้วว่า มีเงิน ถูกโกงก็ไม่(กล้า) เอาเรื่อง  เพราะ ถ้าเอาเรื่อง ต้อง เลิกคบกัน .... เพราะคิดว่า ตัวเองมีไพ่ บางอย่างเหนือกว่า .... (เม้าเก่งกว่าไง) เรื่่องเงิน บางคนเราก็เอ่ยปากให้เลยนะ .... ไม่สนใจเอาคืนใดๆทั้งสิ้น ถ้าเค้ามีความจำเป็น การช่วยเหลือก็คือ ช่วยจริงๆ   แต่เรื่อง ยืมนี่อีกเรื่องนึง ---------- ความคิดเห็นที่ 79     เป็นมิตรเมื่อยามมากู้ เป็นศัตรูเมื่อยามมาทวง ....... เราเองให้เพื่อนที่ทำงานคนละแผนก ยืมเงินไป 10,000 บาท เพื่อนคนนี้ชื่อ G บอกว่าจะคืนไปตอนสิ้นเดือน ทีนี้ผ่านต้นเดือนไปแล้ว เราก็ทวง เค้าบอกว่าไม่มี จะคืนให้กลางเดือน เอออ .. ไม่เป็นไร ทีนี้พอกลางเดือนเราไปทวงอีก เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวมีแล้วก็ให้ พร้อมทั้งแสดงสีหน้าไม่พอใจ (เดี๋ยวจะมีหักมุมกว่านี้อีก) ....  เค้านัดว่าครั้งนี้เอามาให้ เค้ามาให้เราถึงที่แผนกเลย แล้วก็มีเพื่อนของ G ชื่อ A  มาด้วย แล้วให้ A รออยู่ถ้ดจากโต๊ะเราไปอีก 3 โต๊ะ เค้าเอาเงินมาให้ แล้วก็บอกว่าโทษทีนะ ที่ผิดนัด เราก็ยิ้มบอกว่าไม่เป็นไร จนเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งเดือน  เพื่อนสนิทของเราเค้ามาบอกว่า มี "ข่าวลือ" ว่าเราอ่ะไปยืมเงิน G มา 10,000 แล้วไม่ยอมใช้คืน G แถม G ยังต้องเอาเงินมาให้ เราถึงที่แผนกเลย ทั้งที่เป็นคนยืม โดยที่ยัย A เป็นพยานในตอนนั้น !!! เป็นไงหล่ะ เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด ........ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 14:39:10 จากคุณ : เด็กน้อยตัวแสบ ----------- จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 15:07:52

ความคิดเห็นที่ 102 ให้เพื่อนยืมตลอดคะ ตั้งแต่สมัยเรียน ตอนนี้ก็ยังให้ ครั้ง ๆ ไปไม่เกิน 5000 เชื่อมั๊ย บางทีเงินไม่กี่พันของเรามันต่อชีวิตให้คนอีก 2-3 คน ไม่ได้รวย นะคะ แต่ช่วย ๆ กัน ก็ไม่เคยโดนโกงนะคะ เพราะเค้านัดวันไหนเค้าก็ให้วันนั้น จากคุณ : run to me เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 16:18:19

ความคิดเห็นที่ 103 เคยมีโทรมายืมเหมือนกันค่ะ เราก็บอกว่าเราจำเป็นต้องใช้ ไม่มี มา ขอ มากกว่ายืมค่ะ เป็นล้าน เห่อๆๆ ถึงเราไม่ให้เขาก็ไม่ผิดนะคะ เพราะเราก็เดือดร้อนเหมือนกัน เรื่องนี้เราก็เคยคิดค่ะ ส่วนใหญ่จะทำนองลำเลิกบุญคุณมากกว่า แบบว่าให้พัน จะโกงเป็นล้าน แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 18:45:11 จากคุณ : เหมันต์ใบไม้ผลิ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 18:32:13

ความคิดเห็นที่ 104 เรื่องหนี้มีประสบการณ์ที่ไม่ดีจากแม่ครับ แม่ผมเคยให้ นาง เล็ก ยืมไป 2 แสนกว่า เพราะว่าอยู่บ้านตรงข้ามกัน แถมเป็นโรงพิมพ์ ตอนมายืมแทบกราบเท้า บอกถ้ามีจะทยอยคืนให้ คืนมาคราละ 1000 -2000 แม่จดไว้เสมอทุกครัง พอคืนมาได้ 4 หมื่นกว่าๆ ก็หนีหนี้ไปภาคใต้ เจ้าหนี้หลายคนรวมหลายล้าน พอลูกสาวแต่งงานได้แฟนรวย กลับมาเปิดโรงพิมพ์ต่อ กลับบอกว่า ใ ช้ ห นี้ แ ม่ ห ม ด แ ล้ ว ก็ไม่ว่ากันถือว่าทำทาน+ทำใจ แต่มันแอบไปเล่นไพ่ต่อแล้วมายืมยายผมไปอีกแสน ชักดาบตามเคย ไปทวงที่ลูก บอกหนี้แม่ลูกไม่เกี่ยว สุดท้ายโดนเจ้าหนี้ที่ไหนไม่รู้หิ้วไปกระทืบแล้วทิ้งไว้กลางถนนจะให้รถทับ แต่ไม่ตาย ทุกวันนี้ต้องปิดบ้าน2ชั้นทำโรงพิมพ์ไม่กล้าไปไหนเหมือนติดคุก แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 19:11:14 จากคุณ : จบชลชายรุ่นไฟใหม้น้ำถ่วม เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 19:07:01

ความคิดเห็นที่ 105 ยังอ่านไม่หมด ไม่จบ เข้าใจเลยละ คนยืมๆผมมักไม่ใช่ญาติๆ แต่เป็นเพื่อนๆที่ไม่ได้อยู่กลุ่มที่ถือว่าสนิท แต่เราคุยด้วย คือจะบอกว่าไม่มีก็รู้กันทั้ง2ฝ่ายว่าโกหก บางทีไม่ได้คืนก็เสียดายเงินบ้างนิดหน่อย แต่ที่รู้สึกแย่กว่านั้นคือการที่ใครมองว่าเราเป็นคนง่ายๆ ใครจะมาเอาอะไรก็เอา แล้วไม่คืน ไม่ได้เสียดายเงินเท่าความรู้สึก ... แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 19:21:50 แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 19:21:11 จากคุณ : ZERO Initiated เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 19:20:12

ความคิดเห็นที่ 106 มันช่างเข้ากันกับดรามานี้มาก ๆ http://ดราม่า-addict.com/?p=15636 จากคุณ : Don't think u are. Know u are. เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 20:41:13

ความคิดเห็นที่ 107 ไม่ได้เจอกันมานานแล้วจู่ๆมายืมเงิน สันนิฐานไปเลยว่า : ยืมใครไม่ได้แล้วหรือยืมเพื่อนทุกคนแล้ว จึงมายืมเรา จากคุณ : สาวตาคมผมยาวขาวสวยรวยมากด้วย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 09:05:46

ความคิดเห็นที่ 108 คุณลองทำขายตรงอะไรก็ได้ซักตัวสิครับ เป็นยันต์ป้องกันตัวอย่างดี ใครมาขอยืมตังเราก็ ชวนทำขายตรงเลย ส่วนใหญ่จะไม่มาเซ้าซี้อีกเลย ของผมใช้เองและได้ผลมาแล้ว ........ พูดจริง ไม่ได้มุข จากคุณ : ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 09:08:09

ความคิดเห็นที่ 109 เข้ามาร่วมชะตากรรม..... ผมเสียเพื่อนไปหลายคนแล้วววววว  ... ถ้าอยากเป็นเพื่อนกันต่อ ก้ออย่าให้เขายืมตังค์ เลย แง๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง๊ จากคุณ : witjoe เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 11:53:38

ความคิดเห็นที่ 110 เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เราต่างก็บอบช้ำเพราะเพื่อนเหมือนกัน จากคุณ : nooswu เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 16:35:56

ความคิดเห็นที่ 111 ไม่ชอบให้ใครยืม ไม่ชอบยืมใคร ไม่ชอบสร้างหนี้บุญคุณ สบายใจสุด :D จากคุณ : Nong-KiD เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 19:26:53

ความคิดเห็นที่ 112 ไม่คิดจะให่ให้ยืมเงินครับ ไม่ใช่ใจจืดใจดำ เพราะมีประสบการณ์ที่แย่ๆมากกับการให้คนอื่นยืมเงิน ตอนนี้อย่างมากก็ช่วยเเหลือให้ไปสัก500-1000บาท ไม่คิดจะเอาคืน เพราะว่าหวังว่าจะได้คืนแล้วผิดหวัง เสียความรู้สึกเปล่าๆ เงินของเราแท้ๆ แต่ต้องมาเจอแบบนี้ ให้ไปเลยเล็ฌกน้อยๆสบายใจกว่าเยอะ กลยุทธ์หนึ่งของพวกชอบยืมที่ผมเจอคือ ครั้งแรกยืมน้อยๆก่อน แล้วคืนตรงเวลา แล้วก็ยืมมากขึ้นเรื่อย จนเป็นเงินก้อนใหญ่ คราวนี้เบี้ยวก้อนใหญ่เลย เคยเจอมาแล้วกับตัวเอง ทวงก็โกรธ บอกว่ามีเมื่อไหร่จะจ่าย แต่ไม่เคยจ่ายเลย จากคุณ : พ่อน้องนา เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 22:46:41

ความคิดเห็นที่ 113 ผมมักจะโดน กับ คนไม่รู้จักมากกว่า แบบเดินมากับเด็ก แล้วบอกไม่มีเงินกินข้าว หรือไม่มาบอกว่าไม่มีเงินกลับบ้าน กลับถึงบ้านแล้วจะโอนเงินมาคืน ทุกครั้งก็จะบอกตัวเองว่าจะไม่ให้อีกแล้ว ... แต่ก็ให้ทุกที จากคุณ : พ่อมดกระป๋อง เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 23:34:57

ความคิดเห็นที่ 114 ผมอ่านกระทู้นี้แล้วซีดเลย ตรงกับประสบการณ์ที่เจอเลย อยากจะบอกว่าเมือเรารู้สึกไม่เต็มใจที่จะให้ยืมควรที่จะ "ปฏิเสธ" คนเสียบ้าง ผมเคยแคร์เพื่อน+คนที่รู้จักกันไม่ถึงปี ถ้าไม่ช่วยเขาก็กลัวว่าเขาจะมองตนว่าเป็นคนไม่ดี ตอนนี้อย่าจะบอกว่าอย่าได้แคร์เลย จะแคร์เขาทำไมในเมื่อเราไม่ได้ขอเงินเขาใช้ ตัวเราเองทำดีหรือชั่วเราย่อมรู้อยู่แก่ใจกันทุกคน ถ้าจะมาผิดใจเรื่องนี้ก็เลิกคบกันตอนนี้จะสบายใจกว่าที่จะฝืนคบกันต่อ เงินเราเองแท้ ๆ กับทำให้เราเป็นทุกข์ เสียอารมณ์ เสียสุขภาพจิต เสียเพื่อน เสียมิตรภาพ ถ้าเขาเห็นเราเป็นเพื่อนเขาคงไม่ทำกับเราอย่างนี้ สุดท้ายมาถ้าเราจะตายจริง ๆ เขาก็ไม่ได้ช่วยอะไร มีแต่ครอบครัวเราเอง พ่อ แม่ ที่คอยประคับประครองให้เราอยู่ได้จนทุกวันนี้ อยากให้คิดถึง พ่อ แม่ ครอบครัวตนเองบ้าง ตอบแทนพระคุณพ่อ แม่ คนในครอบครัวตนเองให้ดีที่สุดดีกว่าจะไปทำดีกับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของตัวเรา เหมือนกับเราเอาดินไปถมทะเลนั้นแหละเมื่อไหรหละมันจะเต็ม จงทำดีกับผู้มีพระคุณและก็ตอบแทนบุญคุณคนที่เคยช่วยเหลือเรามาจะดีกว่า จากคุณ : นักมายากลเงา เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 11:01:26

ความคิดเห็นที่ 115 กำลังเจอกับตัวเองอยู่ ขอยืมเงินหมื่น   เราก็ให้ไป แล้วก็บอกเค้าไปว่าให้ใช้จ่ายระวังหน่อย โดนคนขอยืมโกรธ   บ่นใส่ว่าเรานะมีเงิน   ส่วนเค้านะลำบากจะแย่   จะหามาคืนให้     แต่ที่ผ่านมานี่ก็ยังไม่มีคืนให้    รวมแล้วหลายหมื่นอยู่นะ จากคุณ : salamis เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 11:42:52

ความคิดเห็นที่ 116 เคยตั้งกระทู้ทำนองนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเคยคิดว่าเกิดเป็นคน อยู่แล้วไม่ช่วยเหลือใครอยู่ไปก็รก แต่ตอนนี้ ได้ซาบซึ้งถึงความทรามของสังคมแบบเข้ากระดูกดำ ไอ้ที่ไม่เคยจินตนาการว่าลูกหนี้จะทำได้ลงคอ ก็ยังทำได้แบบเนียนๆ เฉยๆ ก็ทำบุญล่วงหน้ามาเยอะแล้วหลังจากนี้ก็คงไม่ทำบุญอีกแล้วละครับ ดีใจอยู่อย่างก็ตรงที่ได้รู้ว่า ที่เคยรู้น่ะมันลวงทั้งนั้นเนี่ยแหละ เหอะๆ จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 12:53:12