ความคิดเห็นที่ 1 ความเห็นจากลุงขวดครับ 1.แสดงว่ายอมรับกันแล้วนะครับว่า หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ  การดูผู้บริหารก็ต้องไปรู้จักเขาโอกาสที่ได้รู้จักมี 2 ทางเท่านั้นคือ 1.ไปในวันประชุมสามัญหรือวิสามัญถ้ามี หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ไปยืนคุยกับเขา อย่าง NKI ผมถือปีแรกก็ไปเพียงแต่ฟังเขาเท่านั้น  ปีที่สองเริ่มหาคำถามมาถามในที่ประชุม  ปีที่สามก็ถามหนักเข้าและตีสนิทกับท่านผู้บริหาร  ผมรู้จักท่าน สุจินต์ หวั่งหลี อยากรวดเร็วเพราะไปประชุม THRE ท่านเป็นประธานอยู่  แถมยังเป็นกรรมการ ที่ TMD ผมเลยเจอท่านทุกปี เวลาเจอก็เข้าหาโอกาสทักทายแสดงความเคารพท่าน  เสียดายนะหุ้น NKI ไม่มีธนาคารหนุนหลัง ไม่อยากงั้นคงไปได้ดีกว่านี้ ผมยังถือหุ้นท่านอยู่ จนตอนนี้กว่า 10 ปีแล้วมั้ง  ส่วนจะดูว่าผู้บริหารมาทำงานเพื่อตนเองและครอบครัว หรือ มาทำงานเพื่อผู้ถือหุ้นประวัติในอดีต เป็นตัววัดครับ หรือการพูดคุย ขอความเห็นต่าง ๆ ทุกอย่างให้ความรู้สึก และตัดสินใจได้ว่า ท่านเป็นคนอย่างไร  ส่วนผู้บริหารที่ไม่ได้อยู่ในดวงใจก็เป็นผู้ที่พูดแต่ด้านดีอย่างเดียว ด้านเสียไม่พูดออกมา ด้านผิดพลาดไม่ยอมบอก ส่วนทางที่2.ก็คือไปฟัง opp days และตามดูรายการเกี่ยวกับหุ้นมาก ๆ ดูความคิดของเขาว่าจะเป็นจริงตามที่พูดหรือไม่ opp days มีโอกาสคุยนอกรอบกับผู้บริหารได้ครับ 2.ใหญ่ในเล็กย่อมดีกว่าเล็กในใหญ่ ผมลงทุนมาประมาณ 18 ปี ผมดูตลาดทุนของเราเล็กมาก ขึ้นอยู่กับเงินต่างชาติที่เข้ามา คนที่บังคับตลาดทุนได้ผมว่า เป็นเงินต่างชาติครับ รองมาเป็นสถาบัน และ ท้ายสุดก็เป็นรายย่อยแบบพวกเรา ผมเลยไม่ยอมลงทุนในหุ้นใหญ่ ๆ (มีบ้างก็แค่ระดับร้อยหรือพันหุ้นเท่านั้น เพื่ออ่านรายงานการประชุมและคิดไปกับเขา) ผมเลยชอบหุ้นเล็กมากกว่าหุ้นใหญ่  หุ้นเล็กหมายถึงหุ้นที่มี market cap ระดับไม่เกิน 3000 ล้าน และ หุ้นที่ผมลงทุนตอนนี้ อยู่ใน MAI ประมาณ 25% ผมมีเกือบทุกตัวในหุ้น MAI ใครไปศึกษาจะเห็นว่า หุ้น MAI ให้ปันผลมากกว่า หุ้นใน SET เสียอีก  ผมได้ปันผลแถว 6% ต่อปี ในขณะที่หุ้นใหญ่ ๆ ให้ปันผลแถว 3%  หุ้นเล็ก ๆ ผมว่าฝรั่งชอบนะแต่เขามาลงทุนไม่ได้เพราะอำนาจการซื้อของเขามีมาก ซื้อครั้งสองครั้งก็เป็นเจ้าของหุ้นได้ และถ้าซื้อมาก ๆ จะไปขายให้ใครได้  หุ้นเล็กเวลาซื้อมาก ๆ ตอนขายนี้ลำบาก ผมถือยาวเลยไม่กังวลเท่าไหร่ 3.ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น ผมดูง่าย ๆ พวกต่ำกว่า book value นี่แหละผมชอบ และ ถ้ามีทรัพย์สินที่เก็บไว้ ไม่ได้มาปรับราคาก็ยิ่งชอบใหญ่ ผมเลยมีพวก สิ่งทอ แทบทุกบริษัทฯ มีบริษัทหนึ่ง มีที่ดินที่ดีและจำนวนมากชานเมือง ราคาที่ดินนับว่าสูงมากทีเดียว ราคาหุ้นซื้อกันต่ำมากกว่าครึ่งของมูลค่าที่เป็นจริง  ถ้าเขาขายในตลาดให้เราในราคาตลาด และเปลี่ยนเจ้าของเป็นเราขึ้นมา พวกเราก็จะร่ำรวยทันที โดยการขายเครื่องจักรออกไป เอาที่ดินมาขายก็กำไรโขแล้วครับ พวกนี้ผมซื้อและรอเวลาเท่านั้นเอง รอเขาออกจากตลาดนั่นแหละ คงให้ราคาอย่างยุติธรรม พวกนี้ลงทุนแบบ asset play ลงกับทรัพย์สินที่มีอยู่  ลงทุนพวกนี้ไม่สนุกครับ แต่ปลอดภัย ถ้าเลือกบริษัทที่มีปันผลเท่ากัน ทุกปี ของญี่ปุ่น ก็รับปันผลไปเรื่อย ๆ ราคาไม่เปลี่ยนแปลง แต่ปลอดภัย  ส่วนการหามูลค่าโดย p/e ก็ช่วยได้บ้าง ชอบ p/e ต่ำ ๆ  ส่วนหามูลค่าแบบ DCF (Discount Cash Flow) ผมยังทำไม่เป็นครับ เกินกว่าความรู้ที่ผมมีอยู่ 4.เครื่องหมาย 50..(O_O) หมายถึงปีแห่งความโลภ ตามันโต โลภมากจะเป็นภัยครับ  51..(O_o) แสดงถึงภัยน้อยลงแล้วครับ  ปี 52 และ 53...(o_o) ตาปกติ ลงทุนได้ไปเรื่อย ๆ  ปีหน้าอาจเปลี่ยนเป็น 54...(O_o) ก็เป็นได้ ภัยเริ่มใกล้ตัวอะไรทำนองนี้ เขียนไปสนุก ๆ คิดว่าการลงทุนมีวงจรของมัน เหมือนเศรษฐกิจที่มีวงจร รอบละ สัก 10 ปีนั่นแหละมีขึ้นมีลงครับ ขอบคุณที่ถามมา ผมไม่อยากออกความเห็นมากเท่าไหร่ หลัง ๆ นี้ชอบเก็บตัวมากกว่าครับ       ลุงขวด แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 07:51:22 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:50:30

ความคิดเห็นที่ 2 svi อิอิ ดีได้อีก จากคุณ : ono111 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:19:06

ความคิดเห็นที่ 3 . จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:22:54

ความคิดเห็นที่ 4 .. จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:23:05

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีครับพี่ WACHOVIA  สวัสดีครับพี่ kloomjai  สวัสดีครับพี่ จอมโจรแมวเหมียว  สวัสดีครับพี่ pomsamart   สวัสดีครับพี่ ภูมิทัศน์  สวัสดีครับพี่ เจ้าชายชาเย็น  สวัสดีครับพี่ bigzaa  สวัสดีครับพี่ lex999   สวัสดีครับพี่ TingTing  สวัสดีครับพี่ แมวเหนือ  สวัสดีครับพี่ ฮะ ว่าไงนะ  สวัสดีครับพี่ ยากแท้หยั่งถึง สวัสดีครับพี่ Yutaka (Real)  สวัสดีครับพี่ พ่อน้องนา  สวัสดีครับพี่ สี่คูณสอง  สวัสดีครับพี่ gunpen2010 สวัสดีครับพี่ toyti1010  สวัสดีครับพี่ Idiopathic  สวัสดีครับพี่ คลายเครียด  สวัสดีครับพี่ endophine   สวัสดีครับพี่ p.sapad  สวัสดีครับพี่ Joga Bonito   สวัสดีครับพี่ ฟองเต้าหู้ในน้ำซุป  สวัสดีครับพี่ ต้องมีวินัย สวัสดีครับพี่ The Rounder  สวัสดีครับพี่ เล่นรอบ  สวัสดีครับพี่ LittleSue  สวัสดีครับพี่ Mali_Mama สวัสดีครับพี่ wancha  สวัสดีครับพี่ หวานใจกัปตัน  สวัสดีครับพี่ bigcoms  สวัสดีครับพี่ Bobby_GN สวัสดีครับพี่ Duckcovery  สวัสดีครับพี่ ahcmos  สวัสดีครับพี่ น้ำเต้าฮวย 5 บาท  สวัสดีครับพี่ ก้อนกลม สวัสดีครับพี่ jek ae  สวัสดีครับพี่ จิ้งจกเขียว  สวัสดีครับพี่ ตัวบรรจงเต็มบรรทัด  หวัดดีครับพี่ ปลวกน้อยๆ สวัสดีครับพี่ neetnoskub  สวัสดีครับพี่ luckydog2  สวัสดีครับพี่ 9korn  สวัสดีครับพี่ เราชอบคนรักกัน สวัสดีครับพี่ มิ่งกลิ้ง  สวัสดีครับพี่ ตี๋หน้าหยก  สวัสดีครับพี่ เด็กเลี้ยงไม้  สวัสดีครับพี่ warakarnt สวัสดีครับพี่ P_ปรัชญา  สวัสดีครับพี่ คนไทยค่ะ  สวัสดีครับพี่ tua_tuanoi  สวัสดีครับพี่ mister1288 สวัสดีครับพี่ SOMBOON9  สวัสดีครับพี่ armeh  สวัสดีครับพี่ หากมีเราแค่วันนี้  สวัสดีครับพี่ Masterben สวัสดีครับพี่ kkkai525  สวัสดีครับพี่ phoncu  สวัสดีครับพี่ When you love someone  สวัสดีครับพี่ รักหวางหลุง สวัสดีครับพี่  < h r i s t i A n Vi e ri >>  สวัสดีครับพี่ Notelio  สวัสดีครับพี่  anekfund  สวัสดีครับพี่ yai-cho สวัสดีครับพี่ Iceclover  สวัสดีครับพี่ แฟน รพ  สวัสดีครับพี่ ท่าลาน  สวัสดีครับพี่ ฮิมาวาริซซัง สวัสดีครับพี่ Morning Star  สวัสดีครับพี่ Powered_Pink  สวัสดีครับพี่ นกกระจอกจอมขยัน  สวัสดีครับพี่ อัศวินสีเงิน สวัสดีครับพี่ drypoint  สวัสดีครับพี่ Ii'8N  สวัสดีครับพี่ coffee4you  สวัสดีครับพี่ ปลานิวจิ๋ว สวัสดีพี่ๆที่(แอบ)อ่านอยู่ด้วยครับ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:23:20

ความคิดเห็นที่ 6 ใครอยากเจอเสี่ยลุงขวด พอร์ตเก้าหลักกลางๆ เจอได้ตามที่ประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นครับ ผมเคยเจอที่ NNCL  เมื่อปีที่แล้ว จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:36:46

ความคิดเห็นที่ 7 มาลงชื่อ ตอกบัตรครับ @ฟุกุโอกะ  - ถ่ายแถวๆโรงแรมไหนสักแห่ง จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:44:28

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าตอนนี้ผ่านมาครึ่งปีแล้ว มาลองลงคะแนนความยากง่ายในการลงทุนของครึ่งปีหลังที่เหลือดีรึเปล่าครับ สำหรับผมในครึ่งปีหลังนี่ค่อนข้างยากกว่าเดิมมาก เนื่องจาก หุ้นที่ถือ + เคยถือ กำลังมองๆ ค่อนข้างจะเหลือ upside น้อยเต็มทีแล้ว   ให้คะแนนความยากประมาณ 8 ครับ อารมณ์ตอนต้นปีแบบว่า อยากมีหัวใจให้น้อง (หุ้น) สักสิบห้อง ^^ จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:48:12

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ก่อนเป็นแบบนี้ครับ (O_O) ตอนนี้เป็นแบบนี้แล้วครับ (o_o)  อิอิ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:51:35

ความคิดเห็นที่ 10 คุณภูมิทัศน์ หวัดดีครับ เรื่องคะแนน ... จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผม ผมจะไม่ให้คะแนนแล้วครับ เพราะคะแนนที่เราจะให้นั้น ส่วนใหญ่ตัดสินด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ ,มะรืน ,อาทิตย์หน้า หรือเดือนหน้าเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ประมาณว่า หุ้นบวก 50-100 จุด ... คนที่ให้คะแนนว่ายากก็จะกลับเป็นง่าย (เพราะซื้อตามยังไงก็ได้กำไร) หากแต่ว่าเป็น หุ้นลบ 50-80 จุด ... คนที่ให้คะแนนว่ายาก ก็จะยิ่งบอกว่ายากกว่าเก่า (เพราะเพียงรักษาผลตอบแทนให้ไม่ลดลงมาก ก็นับว่ายากแล้ว) ดังนั้น ... ผมจึงขอใช้คำว่า Let it be แทนคะแนนความยากง่ายละกันครับ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:59:03

ความคิดเห็นที่ 11 แนวคิดแบบสำนักมวยวัด เราควรมองการลงทุนในแง่คุณภาพชีวิตโดยรวม มากกว่าวัดเป็นบริมาณตัวเลขครับ ถามตัวเองแค่ว่า เรารู้สึกพึงพอใจในการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นหรือไม่ น่าจะตอบได้ง่ายกว่าให้เป็นคะแนนครับ จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:23:00

ความคิดเห็นที่ 12 " เรารู้สึกพึงพอใจในการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นหรือไม่ ? " จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:30:31

ความคิดเห็นที่ 13 . จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:54:39

ความคิดเห็นที่ 14 วันนี้เงียบเหงาจัง โดยส่วนตัวแล้วตอนนี้ยังไม่ค่อยพอใจกับ คุณภาพชีวิตโดยรวมเท่าไรครับ  แต่ทุกอย่างมันก็คงต้องค่อยเป็นค่อยไป หวังว่าอีกไม่นานผคงจะได้ทำงานที่รัก + ท่องเที่ยวถ่ายรูปไปตามใจชอบกับคนที่รักได้ซะที ^^ อยากไปถ่ายรูป ที่ปากีสถานแบบลิ้งค์นี้จังครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9372222/E9372222.html จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:31:37

ความคิดเห็นที่ 15 #10  ผมว่าบางทีการให้คะแนนอาจจะไม่ต้องไปคาดเดาตลาดก็ได้ครับ อย่างที่ผมลงคะแนนตอนต้นปีก็คิดมาจาก  fair value ในใจกับราคาตลาด ณ.ตอนนั้น  สมมติตัวอย่าง  ก็อย่างเช่นตอนนั้น IVL & STPI ผมมองว่าถ้าที่ราคานั้น ยังไงผมก็ซื้อ ต่อให้ตลาดมันขะขึ้นจะลงก็ช่างเถอะ  แต่ตอนนี้ IVL 21 กว่า STPI 28-29  ต่อให้ผมคาดว่า SET จะขึ้นอีกแต่โดยส่วนตัวผม ผมมองว่า MOS มันแทบไม่เหลือแล้วครับ ช่วงนี้เลยต้องทำการบ้านหนักหน่อยเพื่อจะหาตัวที่ยังมี upside เหลือเยอะๆมา stock ไว้ครับ จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:35:34

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นคุณภูมิทัศน์พูดถึงเรื่องหุ้นที่มี upside สูง ผมก็เลยมานั่งคิดว่า S&P นั้น มันเป็นหุ้นที่ควรจะเรียกว่าอะไรดี ?  55+ นโยบายปันผลของ S&P ประมาณร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้ ตามงบการเงินรวมแต่ไม่เกินกว่ากำไรสะสมของงบการเงินเฉพาะกิจการ (โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม) แต่ในความเป็นจริง เงินปันผล บริษัทได้รับการอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในปี  2552   แก่ผู้ถือหุ้น   2   ครั้ง รวมหุ้นละ   2.50  บาท   ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลร้อยละ   89.3  ของกำไรสุทธิ    ทั้งนี้ใน 5 ปีที่ผ่านมา   บริษัทได้จ่ายเงินปันผลในอัตราร้อยละ 81 – 100 ของกำไรสุทธิ .... ในปี 2551  หุ้น S&P จ่ายเงินปันผล 100% ของกำไรสุทธิ ! แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 11:06:45 แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 10:51:40 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:50:46

ความคิดเห็นที่ 17 S&P ตามมุมมองของผมเป็นหุ้นที่ downside ต่ำ แต่ upside คงไม่หวือหวา ใครที่ทยอยเก็บในช่วงราคา 31.xx  คงมีความสุขไปแล้ว ณ ตอนนี้ (อิอิ) p/e 12.54 p/bv 1.95 (สูงไปสักหน่อย) หนี้สินทั้งระยะสั้นและยาวน้อยมากๆเมื่อเทียบกับสินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้น รายได้เติบโตตามการขยายสาขา และเป็น brand ที่คนในครอบครัวชอบพาลูกหลานมากินข้าวในทุกเมื่อที่มีโอกาส ขนมเค้ก S&P ผมก็ซื้อมากินบ่อยๆ (โดยเฉพาะเค้กบัตเตอร์) หุ้นตัวนี้เหมาะกับนักลงทุนโดยแท้ หากซื้อได้ในราคาต่ำกว่าผู้บริหารครับ เลวร้ายที่สุดก็ได้ดอกเบี้ยมากกว่าเงินฝากและหุ้นกู้ โชคดีก็คือ ได้เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจที่เราชอบและใช้บริการเป็นประจำ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 11:17:58 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:00:10

ความคิดเห็นที่ 18 ผมไม่ได้เชียร์ หรือเป็นหน้าม้านะครับ   เผอิญว่านึกอะไรออก เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง ... จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:03:03

ความคิดเห็นที่ 19 ลืมรูป จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:16:18

ความคิดเห็นที่ 20 มาตอกบัตร จำได้ว่าหลังสุดนี่แผ่นที่ ร้อยเอ็ด ไม่ใช่หรือครับ ต๊าย จำผิดไปได้นะตัวเอง ติดจากกระทู้สาวๆเมื่อวานเลย ก็ยังมองว่าง่ายขึ้น เพราะดูแล้วไม่น่าเครียดเท่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และผลกำไรของบริษัทในไทยแข็งแกร่งผิดชาวโลกเขา ดังนั้นหากไม่เกิดพลิกผันผมก็มองว่าได้เห็น 850 แน่ๆ และอย่างว่าละนะครับ เลท อิท บี จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:36:19

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีวันที่แสนจะชุมฉ่ำค่ะ จากคุณ : น้องไผ่ (p.sapad) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:48:08

ความคิดเห็นที่ 22 ตอกบัตรฮะ .. หุ้นทรงๆนี่มันเหงามากมาย .. จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 12:22:38

ความคิดเห็นที่ 23 ในยามตลาดเหงาๆ ก็มีหุ้นบางตัวที่เกือบจะ ceiling นะครับ หลายๆตัวก็บวกเกิน 5% พร้อม volume ... จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 12:53:18

ความคิดเห็นที่ 24 ของผมโคตรจะเหงาเลยครับ 2อาทิตย์ แระครับ ขยับไม่เกิน 5ตัง น้องTRTของผม สูงสุด 5.95 ต่ำสุด 5.85 ไม่ไปใหนซักที ปล. เมื่อไหร่งบจะออกน๊า จากคุณ : กอล์ฟจ๋า17 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 13:12:24

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีค่ะ วันนี้นั่ง serch วิธีการหา Intrinsic value ใน googleเจอกระทู้เก่าที่คุณคนจนตั้งไว้ เห็นว่ามีประโยชน์ดี แต่ก็อยากรู้ต่อไปว่าตกลงสุดท้ายแล้วคุณคนจนใช้สูตรไหนคะ ถ้าดูจากตัวอย่างที่คุณเคยคิดไว้จาก ROE ขอ CPF เมือปีทีแล้วก็คิดว่าค่อนข้างตรงนะคะ เพราะสุดท้าย CPF วิ่งไป 20 แล้ว แต่ถ้าคิดจาก ROE ของปีนี้ ก็น่าจะวิ่งได้ถึง 27 บาท รึเปล่า ??   แวะเอา link เก่ามาแปะด้วย เผื่อคนอื่นจะได้ประโยชน์เหมือนกันค่ะ http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2009/09/I8312340/I8312340.html จริงๆแล้วการหา growth ค่อนข้างยากเหมือนกันนะคะ เพราะถ้าเราประมาณผิดจะเห็นว่า Intrinsic value จะสูงมาก อย่างนี้อาจจะทำให้ซือ้หุ้นมาแพงได้ เพราะเราจะเห็นว่าหุ้นเรามี upside เยอะ ลองใช้สูตรพวกนี้คิดกับหุ้นบางตัวในตลาด mai ได้ค่าหลากหลายมากมากกกก ชักงงๆๆ เหมือนกันค่ะ จากคุณ : I know who am i เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 13:18:21

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นคุณคนจนพูดถึงหุ้นที่มี downside ต่ำ  ในพอร์มผมเองก็มีการกระจายความเสี่ยงเหมือนคือ บางส่วนลงทุนในหุ้นที่ค่อนข้างมีรายได้ไม่ผันผวน downside  ต่ำ กำไรสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ^^   ราคาก็ลดลงๆ -*- ตัวนี้ upside คงมีไม่มากนักในระยะสั้น แต่ก็ถือเพื่อกระจายความเสี่ยงครับ --*-- (แต่กลายเป้นกระจายรายได้ไปงั้น 55+) แต่อย่างไรก็ยังเชื่อมั่นอยู่ครับ  ทยอยลดต้นทุน ^^ โชคดีที่เราได้ต้นทุนถูกกว่าคนอื่นอีกเยอะเลย จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 13:31:33

ความคิดเห็นที่ 27 มาลงชื่ออ่านกระทู้ค่ะ ณ วันนี้  รู้สึกพอใจและมีความสุขกับการลงทุนในหุ้น แม้จะได้ไม่ได้กำไรมากมายหลายเด้ง  อิอิ *Let Profit Run.* จากคุณ : Powered_Pink เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 13:39:29

ความคิดเห็นที่ 28 โอ้ว ... คุณI know who am i ยังไปขุดซากโบราณเจอได้อีก อิอิ ช่วงนั้นผมเป็นนักลงทุนใหม่แกะกล่องครับ อะไรที่เป็นความรู้ ผมอ่านหมด - -" สำหรับ CPF นี้ ... ไม่รู้เหมือนกันครับ  แต่ร้อยละ 70% คงเป็นความฟลุ๊คของผม ประมาณว่าหนึ่งในสิบครั้งของช่วงการลงทุน  จะเจอสักครั้งหรือสองครั้ง .. จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 13:50:39

ความคิดเห็นที่ 29 คุณภูมิทัศน์ครับ " ทยอยลดต้นทุน "   ยังไงหรอครับ ? จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 13:53:59

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วจริงๆแล้วคุณคนจนคิดว่าสูตรไหนน่าจะใกล้เคียงที่สุดคะ ?? จริงๆๆ เราก็เพิ่งเริ่มลงทุนมาได้แค่เดื่อนเดียวเอง เลยต้องศึกษามากกๆๆ น่ะค่ะ ยังไม่รู้แนวตัวเองเหมือนกัน แต่พอลองซื้อๆขายๆซักพัก คิดว่าแนว VI เหมาะกับนิสัยตัวเองที่สุด จากคุณ : I know who am i เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 14:09:59

ความคิดเห็นที่ 31 อ่อ ผมอาจจะพูดผิดไปหน่อย เรียกว่า "ถัวเฉลี่ย" ก็ได้ครับ  ^^" จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 14:13:37

ความคิดเห็นที่ 32 ทยอยลดต้นทุน  VS  ถัวเฉลี่ย ความหมายคนละโยดเลยนะครับ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 14:45:19

ความคิดเห็นที่ 33 อ้าว 555+  งั้นผมก็เข้าใจผิดมาตลอดสิเนี่ย - -" พอดีเห็นว่าการซื้อถัว มันทำให้ต้นทุนของผมลดลงด้วยอ่ะ แหะๆ บางทีก็แอบ short นิดหน่อยๆ  เลยเรียกๆรวมๆว่าลดต้นทุนอ่ะครับ จากคุณ : Landscape (ภูมิทัศน์) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 20:59:01

ความคิดเห็นที่ 34 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9420062/I9420062.html จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 09:07:47