ความคิดเห็นที่ 1 นั้นเป็นเหตุผลข้อแรกนะครับ ทำไมน้ำมันขึ้น แต่กองทุนไม่วิ่งตาม นักลงทุนหลายคนดูราคาน้ำมันดิบตามข่าวหน้าจอทีวี หรือแม้กระทั้ง website บางแห่ง เราก็มักจะดู NYMEX ด้วยคิดว่า มันคงไม่แตกต่างกัน แต่จากกราฟข้างบน จะเห็นแล้วว่า ก็มีบางช่วงเวลาที่ไม่ตามกัน แนะนำให้ดูราคาน้ำมันดิบ WTI ผ่าน website Bloomberg.com แทนนะครับ จะได้ชัวร์ๆ มาดูผลการดำเนินงานกองทุนน้ำมันซัก 2 กอง เปรียบเทียบกับ WTI กัน จากคุณ : Mr.Messenger เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 18:53:38

ความคิดเห็นที่ 2 จากกราฟใน คห.2 สาเหตุที่กองทุน Oil Fund ในไทย Underperform กองทุนแม่ ก็เพราะ เรามีความผันผวนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน (FX Risk) เข้ามาเกี่ยวข้องอีก ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เทียบกับตอนนี้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ US Dollar ดังนั้น แลกกลับมาเป็นเงินบาท ก็ได้เงินน้อยลง ส่วนกองไหนที่ Hedge FX ไว้ ก็มีต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอย่างต่ำๆก็ 0.75% ขึ้นไปครับ ดังนั้น ราคาน้ำมันขึ้น บางครั้งกองทุนก็อาจจะขึ้นน้อยกว่า (หรือบางที ติดลบให้เห็นก็มี) จากคุณ : Mr.Messenger เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 18:59:18

ความคิดเห็นที่ 3 เหตุผลสำคัญอีกอย่าง แต่น้อยคนนักจะรู้ก็คือ ราคาน้ำมันดิบ West Texas ที่มีการพูดถึงกันตามตามสื่อต่างๆ จริงๆแล้ว ไม่ใช่ราคา ณ วันทำการปัจจุบัน แต่เป็นราคาน้ำมันดิบตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีกำหนดการส่งมอบในเดือนถัดไป (สัญญาตัวใกล้) หรือเรียกว่า Front Month ซึ่งจะใช้เป็นราคาอ้างอิงทั่วไปและเข้าใจกันว่าเป็นราคาปัจจุบัน แต่กองทุน Powershare DB Oil Fund (DBO) เอง ไม่ได้ลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์ที่เป็นเดือนถัดไปเสมอ แต่ DBO จะเลือกช่วงอายุสัญญาที่เหมาะสมในการลงทุน อาจจะเลือกเปิด position ใน contact ตัวไกล 2 เดือน หรือ 6 เดือน ก็ได้ แต่ปัจจุบันนี้ กองทุน DBO จะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันที่มีการส่งมอบในเดือนมิถุนายน 2554 (อายุ 1 ปี) ซึ่งราคาน้ำมันของสัญญาตัวนี้ ไม่ได้มีประกาศตามสื่อต่างๆ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะประกาศออกมาแตกต่างจากสัญญาตัวใกล้ได้ตลอดเวลา ในสภาวะปกติแล้ว ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของเดือนที่ส่งมอบไกลออกไป จะมากกว่าราคา ณ ปัจจุบัน หรือสัญญาที่มีอายุส่งมอบใกล้กว่าเสมอ แต่การเคลื่อนไหวของสัญญาล่วงหน้าที่อยู่ในเดือนที่ใกล้กว่าก็จะเคลื่อนไหวผันผวนมากกว่าสัญญาที่อยู่ไกลออกไป ทั้งนี้เป็นเพราะราคาของเดือนปัจจุบันจะสะท้อนกับข้อมูลและข่าวสารที่มีผลกับราคาน้ำมันระยะสั้น (เช่นตัวเลขเศรษฐกิจ สต็อกน้ำมันคงเหลือที่ประกาศทุกๆสัปดาห์ เป็นต้น) ได้ไวกว่าสัญญาของเดือนที่ส่งมอบไกลออกไป อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าในแต่ละช่วง จะมีการเคลื่อนไหวที่ไม่เท่ากัน หรือในบางครั้ง อาจจะมีทิศทางที่แตกต่างกันไป จึงเป็นสาเหตุอีกหนึ่งประการ ทำไมการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ และการเคลื่อนไหวของกองทุน DBO จึงไม่เท่ากัน หรือในบางครั้ง ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จากคุณ : Mr.Messenger เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 19:06:37

ความคิดเห็นที่ 4 สรุปใครมีน้ำมันตอนนี้คือดอยครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 19:09:16

ความคิดเห็นที่ 5 ตัวอย่าง เช่น ในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงเดือน เม.ย-พ.ค. 53 ราคาน้ำมันปรับตัวลงจาก $86 ลงมาอยู่ที่ $74.4 หรือตกลงมาประมาณ 15% ในขณะที่ช่วงเดียวกัน ราคาของกองทุน DBO ก็มีการปรับตัวลดลงมาเพียงแค่ประมาณ 10% เท่านั้น โดยในช่วงดังกล่าว เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันได้รับผลกระทบจากความกังวลในปัญหาหนี้ในสหภาพยุโรป ในขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ยังไม่แสดงถึงการฟื้นตัวอย่างชัดเจนนัก จึงกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ในทางตรงกันข้าม เมื่อราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาของกองทุน DBO ก็จะปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าราคาน้ำมันเช่นกัน เพราะมีความผันผวนที่ต่ำกว่า เช่น ช่วงต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจาก $72.58 อยู่ที่ $77.21 หรือขึ้นประมาณ 7% แต่ DBO ขึ้นแค่ 3% เท่านั้น โดยปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้นมา มาจากการที่นักลงทุนเริ่มหันให้ความสนใจการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น รวมถึงการที่ตลาดมีการคาดว่าจีนจะมีการปล่อยค่าเงินหยวนให้ยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้เงินหยวนน่าจะมีการปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้จีนสามารถนำเข้าได้มากขึ้น จึงคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จากคุณ : Mr.Messenger เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 19:12:20

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนช่วงนี้ กองทุน DBO มีการลงทุนใน Futures น้ำมันดิบซึ่งจะครบกำหนดในเดือนมิถุนายน 2554 ตัวกองทุนเองจึงอาจได้รับผลประโยชน์ในระยะยาวจากความผันผวนที่ลดลงของผลตอบแทนอันเกิดจากการที่ไม่ต้องมีการ Roll Over สัญญาเมื่อครบกำหนดไปอีกเกือบ 1 ปี เมื่อเทียบกับการลงทุนในสัญญาที่จะครบกำหนดในเดือนใกล้ ซึ่งต้องมีการ Roll Over ไปเรื่อยๆ ทุกเดือน แต่แน่นอนครับ เวลาเห็นราคาน้ำมันเหวี่ยงขึ้นลงแรงๆจากปัจจัยระยะสั้นๆ ต่อแต่นี้เป็นต้นไป เราก็จะเห็นราคากองทุนแม่ (DBO) แกว่งเบากว่า ราคาน้ำมันดิบจริงทั้งขาขึ้นและขาลง และตัวกองทุนน้ำมันในไทย ก็มีแนวโน้มจะแกว่งเบากว่า DBO ตัวกองแม่ จากเหตุผลข้างต้นทั้งหมด ยังไงก็ลงทุนด้วยความระมัดระวังและมีสตินะครับ ------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ จากคุณ : Mr.Messenger เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 19:20:35

ความคิดเห็นที่ 7 ผมลงทุนในกองทุนน้ำมันกองทุนหนึ่ง ตอนนี้ตัดขาดทุนไปแล้ว ณ ระดับราคาน้ำมันเดียวกันณ ตอนซื้อ กับตอนขาย แต่ผมขาดทุนไป 5% ตอนราคาน้ำมันลง NAV ลงแทบจะทันที แต่พอน้ำมันขึ้น NAV ขยับขึ้นนิดเดียว เผลอๆ บางทีลงอีกต่างหาก พอละครับ สำหรับกองทุนน้ำมัน  หากินแบบนี้ไม่ไหว จากคุณ : JayJekKen เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 19:31:53

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เอาแล้วเหมือนกันค่ะ ก็นึกว่าเล่นง่ายเหมือนทอง เจอแบบนี้ถอยดีกว่า ขายได้เมื่อไหร่ก็บ๊ายบาย จากคุณ : เจ้าชายน้อย (^-^) เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 20:27:17

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมาก จากคุณ : ayuhi292 เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 20:36:28

ความคิดเห็นที่ 10 เล่นกองทุนพวกนี้ต้องลุ้นตอนราคาน้ำมันมันแรลลี่ขึ้นพรวดๆอย่างเดียวเท่านั้น และก็ไม่ได้ว่าจะกำไรเยอะมากมายอีกด้วย ขนาดผมซื้อไว้ตอนน้ำมัน 74 ดอลล์ตอนนี้ยังขาดทุนบรรลัยทั้งๆที่น้ำมันตกจากเดิมแค่ 2 ดอลล์ คงต้องรอขายตอนน้ำมัน 85 ดอลล์ขึ้นไปเท่านั้น ... จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 20:37:01

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ จากคุณ : ZigZigSad เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 20:40:01

ความคิดเห็นที่ 12 คนที่ติด 74 เหมือนผม ตอนนั้น DBO 26.30 ต้องรอให้ราคาน้ำมันส่งมอบเดือนมิ.ย.54  อยู่ที่ประมาณ 86-87 เหรียญ  ถึงจะขายได้  ซึ่งน้ำมันจะอยู่ระดับราคานั้นได้โดยที่ไม่มีข่าวเศรษฐกิจฟื้น  ราคาน้ำมันขึ้นแรง ๆ น้ำมันส่งมอบล่าสุด จะต้องอยู่ระดับ 80-82 เหรียญ ตามแนวโน้มส่วนต่างราคาน้ำมันปกติ กับ future ที่ประมาณ 4 เหรียญ การที่ส่วนต่างน้ำมันส่งมอบมิ.ย.ปีหน้ากับราคาล่าสุด  จะเพิ่มมากขึ้นคงต้องรอแนวโน้มข่าวดี ๆ ที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว  เพราะการคาดการณ์น้ำมันคงจะมีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น  ซึ่งจะกระตุ้นราคาไปด้วย โดยจะคาดหวังทางเทคนิค หรือปัจจัยระยะสั้นคงไม่ได้ สรุป  ถ้ารีบาวน์ดขึ้นมาเมื่อไหร่ โดยไม่มีข่าวเศรษฐกิจฟื้น  ลดพอร์ตลงได้เรื่อย ๆ เลย  พอกันทีหล่ะ กองทุนน้ำมัน จากคุณ : morst เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 21:40:56

ความคิดเห็นที่ 13 งั้นลอง ถามแบบนี้มั่ง ได้มั้ยครับ ว่า หุ้นขึ้น แต่ ทำไม บางคนไม่กำไร หุ้นขึ้น แต่ ผู้ลงทุนดันตกรถไม่มีหุ้น ก็ไม่กำไรนะครับ  หรือในช่วงหุ้นขึ้น มันก็มีสลับฟันปลา ถ้าผู้ลงทุนเข้าออกผิด ก็เจ้งได้ในขาขึ้นเช่นเดียวกัน เกี่่ยวกันบ้างหรือป่าวไม่รู้นะ จากคุณ : diego เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 21:40:57

ความคิดเห็นที่ 14 ผมโดน ไป -14 %  ครับ จากคุณ : boy2000 เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 22:20:43

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนนี้ผมอยู่ที่ -12% จากคุณ : Ashed เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 23:02:37

ความคิดเห็นที่ 16 ผม -9% ครับ ใครมีน้ำมันดอยกันถ้วนหน้า อยู่แค่ว่าดอยสูง ดอยต่ำ ^^" จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 23:36:55

ความคิดเห็นที่ 17 ติดน้ำมันที่ 75 เหรียญ (DBO 26.38) วันก่อนน้ำมันเด้งมาที่ 76 เหรียญ แต่ DBO ดันย่ำอยู่ ที่ 24 สรุป ยังอยู่บนดอย ไม่ได้ขาย ขาดทุนบรรลัย ไม่กล้าเปิดพอร์ตดูอีกเลย จนกว่าน้ำมัน 80 เหรียญจะกลับไปดูอีกที  -___-' จากคุณ : ionic เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 23:45:13

ความคิดเห็นที่ 18 สงสัยต้องขายทิ้งเหมือนกัน ไม่รู้เป็นอะไร ลงทุนกับพวกกองทุนทีไร ขาดทุนทุกทีเลย จากคุณ : wecha เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 00:06:24

ความคิดเห็นที่ 19 Crude Oil ETFs Could See Triple Digit Oil Sooner Than You Think http://etfdailynews.com/blog/2010/07/05/crude-oil-etfs-could-see-triple-digit-oil-sooner-than-you-think-uso-dbo-bno-oil-xle-oih-uhn-uco-vde-usl-uga-iye/ จากคุณ : ฐ. ฐาน เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 02:49:56

ความคิดเห็นที่ 20 จบน้ำมันคราวนี้คงจะเข็ดไปอีกนาน ... ซื้อตอน 73 แต่วันนี้เด้งมา 74 ลบไป 10% ... ทำกันไปได้ เฮ้อ หมดตัว จากคุณ : tuppee เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 10:51:37

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ จะได้เลี่ยงกองทุนน้ำมัน ไม่รู้ว่ากองทุนทองจะดีกว่ามั๊ย จากคุณ : salamis เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 14:55:35

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าขายตอนนี้ ขาดทุนยับย่นแน่ๆ เก็บไว้ยาวถึงปีหน้าล่ะ เผื่อเศรษฐกิจตื่น จาได้กำไร บ้างอ่ะ ดีหรือเปล่าล่ะเนี่ย จากคุณ : Watchword เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 18:03:04