ความคิดเห็นที่ 1 ไม้กวาดจากรถขายไม้กวาด อาจแพงกว่าในซูเปอร์สโตร์สักสิบบาท แต่เราอาจลืมไปว่า ถ้าไปห้างเพื่อซื้อไม้กวาดถูกไปสิบบาท เราต้องขับรถออกจากบ้าน เสียน้ำมัน เสียเวลา ถึงแล้วก็ต้องหาที่จอดในบรรยากาศออกแนวแก่งแย่งกับคนอื่น แล้วก็ต้องเดินจากที่จอดรถซึ่งบางครั้งไกลลิบ เข้าไปในห้าง หลังจากซื้อไม้กวาดและของอื่นๆได้แล้วก็ยังต้องแบกมันกลับมาใส่รถเพื่อขนกลับบ้าน ในขณะที่ซื้อไม้กวาดจากรถขายที่มาจอดหน้าบ้าน ก็แค่เดินมาเปิดประตู เลือกไม้กวาด แล้วถือมันกลับเข้าบ้าน แค่นั้น สิบบาทที่ว่า เป็นค่าแรงถีบซาเล้งมาบริการเราที่หน้าบ้าน และผลพลอยได้ที่ห้างไม่มี ก็คือการได้เห็นแววตาดีใจของคนขาย จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:21:25

ความคิดเห็นที่ 2 รถกับข้าวก็เหมือนกัน มาบริการถึงหน้าบ้าน ให้เราซื้อของสดได้ทุกวันโดยไม่ต้องขับรถไปซูเปอร์ โน่นนิดนี่หน่อย ผักเนื้อหมูปลา เครื่องปรุงต่างๆ ซื้ออย่างละนิดอย่างละหน่อย ห้าบาทสิบบาท ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องเหมาทั้งแพค มองหาของที่อยากได้ไม่เห็นก็ถามแม่ค้า เส้นใหญ่มีไหมจ๊ะ แม่ค้ายิ้มหวานบอกมีค่ะ พลางหยิบมาจากห่อบนชั้น ถั่วงอกล่ะ ..มี้ค่ะ นี่ไง ..หยิบมาจากตะกร้าใต้ถาดเต้าหู้ ถามอะไรมีหมด อย่าถามหาของหรูมากเกินไปก็แล้วกัน อิอิ จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:22:27

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้บอกให้เลิกไปห้างใหญ่ ไม่ได้บอกให้ต่อต้านซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะของบางอย่างก็หาไม่ได้ในร้านค้าเล็กๆ แค่อยากจะบอกว่า อย่าลืมอุดหนุนร้านเล็กๆบ้าง เพื่อให้วัฏจักรของค้าปลีกขนาดเล็ก ยังคงอยู่ได้ ให้คนธรรมดา มีอาชีพสุจริตทำ ได้เป็นนายของตัวเอง เป็นเจ้าของกิจการ(ถึงแม้มันจะมีขนาดเล็กจิ๋วเท่ารถเข็นขายต้นไม้ หรือซาเล้งไม้กวาด ก็ตามทีเหอะ) ไม่ต้องเดินเข้าโรงงานเป็นลูกจ้าง ให้กิจการเก่าแก่อย่างร้านขนมปังใกล้บ้าน ได้สืบต่อฝีมือ ขายของคุณภาพดีให้ลูกค้าต่อไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า อยากบอกแค่นี้แหละ สืบเนื่องจากขนมปังถุงเดียว หมดนี่.....50 บาทจ้า ^_^ นิ่มมากขอบอก จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:26:44

ความคิดเห็นที่ 4 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:38:24

ความคิดเห็นที่ 5 ตลาดนัดใกล้บ้านพาลูกไปเดินประจำครับ พี่yai-cho มีของเล่นใหม่มาอีกละ ชอบๆ จากคุณ : jiane เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:44:04

ความคิดเห็นที่ 6 จริงครับ จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:47:11

ความคิดเห็นที่ 7 สมัยเด็กๆ ผมโตมากับร้านค้าแบบนี้แหละครับ ------------------------------------------------------------------------- อร่อย ครับ เดี่ยวนี้เข้าแต่ 7-11 ห้างโลตู๊ด ฯลฯ อาหารก็ไม่อร่อย แพงอีก นึกถึงราดหน้าร้านเจ๊กเซียม เส้นหอมนุ่ม ร้านขายของช่ำ ที่มีคุณยายใจดีขาย ซื้อนิดก็มีของแถม ------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : ไม่ใช่รูปผมนะ ฮ่าฮ่า (superman2007) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:49:14

ความคิดเห็นที่ 8 รถกับข้าวใช้บริการบ่อย เป็นนาฬิกาปลุกตอนเช้าเลย จากคุณ : jerryja เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:51:53

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ ...... จากคุณ : ponpool1 เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:57:06

ความคิดเห็นที่ 10 ที่หมู่บ้านไม่มีรถใด ๆ เข้ามาขายเลยค่ะ อดอยากมาก จากคุณ : Flowerdream เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 23:21:55

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 3 แค่อยากจะบอกว่า อย่าลืมอุดหนุนร้านเล็กๆบ้าง เพื่อให้วัฏจักรของค้าปลีกขนาดเล็ก ยังคงอยู่ได้ ให้คนธรรมดา มีอาชีพสุจริตทำ จากคุณ : LiTtle_LOliTa     เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 22:26:44   ถูกใจ : maka, ponpool1, ยากแท้หยั่งถึง == ^ ^ เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ขอบคุณที่ช่วยหยิบยกมุมมองที่สังคมคนเมืองทุกวันนี้เริ่มจะมองข้ามกันไปแล้ว เนื่องจากมีร้านสะดวกซื้อที่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทำให้ร้านค้าปลีกและคนทำมาหากินด้วยอาชีพสุจริตเกือบจะถูกลืมไปแล้ว ต่อไปจะต้องพยายามช่วยอุดหนุนสินค้าเหล่านี้แล้วค่ะ ขอบคุณ จขกท มาก ๆ ค่ะ จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 23:23:27

ความคิดเห็นที่ 12 พอดีเป็นโรคแพ้เค๊กทุกชนิด ... ... จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 23:31:17

ความคิดเห็นที่ 13 บางครั้งเห็นคนแก่แบกไม้กวาดมาขาย เห็นเด็กมาขายลูกอม เห็นร้านโชห่วยแถวบ้านเก่า และร้านค้าในตลาดที่เราเคยอยู่สมัยเด็กๆ ก็ชอบไปอุดหนุน ถึงสินค้าจะมีคุณภาพไม่เลิศหรูเหมือนในห้างแต่ก็รู้สึกว่าใช้แล้วสุขใจกว่ากันเยอะได้นึกถึงอดีตที่เราเคยอยู่ตรงนั้น จากคุณ : ลงทุนด้วยใจ (ลงทุนด้วยใจ) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 23:37:38

ความคิดเห็นที่ 14 ....เห็นด้วยอย่างยิ่ง ผมเป็นคนหนึ่งล่ะ ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่เข้าพวกห้างต่างชาติ พยายามอุดหนุนร้านค้าใกล้บ้านก่อน ถึงจะแพงกว่าก็เถอะ จากคุณ : ซาอิคุง เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 23:46:39

ความคิดเห็นที่ 15 ดีใจครับ ที่มีคนคิดแบบจขกท. นับวันการค้าขายของ"คนไทย"ตัวน้อยๆทั้งหลาย(จำนวนมาก) ยิ่งจะถูกต้อนเข้ามุมอับมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งคนรุ่นใหม่ๆ ยิ่งยากเย็นแสนเข็ญขึ้นทุกๆวัน ที่จะมีกิจการเล็กๆของตัวเอง ผมเคยลำบากมาพอสมควร เลยเข้าใจ นับวันอะไรๆก็จะยากขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งคนที่ไม่มีทุน ไม่มีความรู้ ฯ ถ้าเจอคนขายของที่พอซื้อได้ก็อย่าต่อเลยครับ ไม้กวาดที่เข็ญขายแบบนี้ ผมก็บอกแม่อย่าต่อเค้าเลย สงสาร ก็ไม่รู้ว่าผู้ปกครองทั้งหลายในประเทศนี้ คิดกันอย่างไร ถ้าวันหนึ่งห้างใหญ่ทั้งหลายขยายครบทั้วทุกอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เราคงได้เห็นเด็ก(กู้เงินเรียน)เรียนจบปวช.ปวส.ป.ตรีไปเป็นลูกจ้างในห้าง หญิงวัยกลางคนถูพื้นในห้าง ผู้ชายเป็นยามในห้าง โอกาสที่จะลืมตาอ้าปาก คงเป็นเพียงความฝัน ลมๆแล้งๆ เมื่อยามที่หมดแรงทำงาน แก่ลง เขาก็ปลดออก ... จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 53 23:50:31

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วรู้สึกดีจัง คิดถึงบ้านที่ตจว. เพราะจะมีอาหารเดลิเวอร์รี่ มาทุกๆ 2 ชม. ไม่ว่าจะเป็นน้ำเต้าหู้ ขนมไทย ไอติม แต่มาอยู่กทม. ต้องพึ่งร้านสะดวกซื้อ หรือไม่ก็ตามซุบเปอร์ ไม่บอ่ยจะได้ไปเดินตลาด จากคุณ : สวยERROR เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 00:48:01

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นคำแนะนำที่ดีมากค่ะ จะพยายามซื้อของจากตลาดสดใกล้บ้านให้มากที่สุด ขอบคุณที่มาเตือนใจ จากคุณ : ใบโหระพา เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 02:12:52

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้ให้ข้อคิดดีๆ แจ๋วไปเลย อุดหนุนการค้าแบบนี้ทุกวันละจ้า  เพราะหลังบ้านข้าพเจ้าเป็นตลาดนัด ^^' จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 04:08:13

ความคิดเห็นที่ 19 ... เข้ามาโหวต และแจกกิ๊พ... เห็นด้วยครับ...ปกติผมจะนิยมซื้อของจากพ่อค้าแบบในแม่ค้า ในคห 1-3 มากกว่า (ถ้าคุณภาพสินค้าไม่ต่างกันมากนะ คือ ใช้ได้ กินได้ไม่เป็น อตร เหมือนกัน) เพราะอย่างน้อยก็ เป็นการช่วยเหลือคนในทางอ้อม... จากคุณ : เบี้ยฟ้า เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 06:21:01

ความคิดเห็นที่ 20 ผมอยู่ต่างประเทศมาครึ่งชีวิต และผมคิดถึงบรรยากาศตลาดนัดตลอด ชอบมาก และหลีกเลี่ยงที่จะเดินในศูนย์การค้า เพราะเืบื่อ และขายของแพงกว่าตลาดนัดมาก เวลาคุยกับแม่ค้าพ่อค้าแล้วมีความสุข มันกันเองดี อยากกลับบ้าาาาน จากคุณ : The Cole เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 06:29:32

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับ.....เคยดูเรื่อง food.inc มั๊ยครับ http://www.youtube.com/watch?v=R1xNerb4yE8 จากคุณ : huron เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 06:48:25

ความคิดเห็นที่ 22 ระวังจะมีคนที่มีความคิดประเภท โห ไปซื้อที่โลตู๊สถูกกว่าตั้งมากมาย ติดแอร์ด้วย ที่จอดรถก็เยอะ ไม่โดนแม่ค้าบ่นด้วย บลาๆๆ  (ทั้งๆสิ่งเหล่านี้มีเบื้องหลังเต็มไปหมด ผลกระทบต่างๆในวงกว้าง) แต่ลืมไปแล้วว่า จริงๆแล้ววิถีชีวิตจริงๆมันควรเป็นอย่างไร โดนวัตถุครอบงำไปหมด จากคุณ : photoes เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 07:27:05

ความคิดเห็นที่ 23 แถวบ้านผม โลตัสเอ็กเพรส มาเปิดตรงข้ามกับตลาดสดเลยครับ ใกล้ๆกัน มี 7-11 เปิดอีก 2 สาขา ปากซอยซึ่งก็ไม่ไกล อีก 1 สาขา โชห่วย ร้านขายของเล็กๆ ที่ท่าน จขกท.ซื้อ ไม่ต้องพูดถึงครับ เพราะไม่มีให้เห็น หรือให้ได้ซื้อแล้ว!! จากคุณ : BR Style เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 07:37:35

ความคิดเห็นที่ 24 ขอขอบคุณมากๆเลยนะครับ ที่มีกระทู้เตือนความจำ สมัยเยาว์วัย ตอนนี้ผมก็ยังคลุกคลี กับตลาด ร้านค้าเล็ก ที่ไม่ได้มาจากการร่วมทุน การลงทุน ข้ามชาติ แต่อยากได้ แต่อาจจะมาจาก การอพยพข้ามน้ำ ข้ามชายแดนมาบ้าง แบบ คนจีน คนพม่า บ้านอยู่แถวฝั่งธน จะยังมีให้เห็นอยู่ครับ >ตลาดนัด ของอร่อยก็แยะนะครับ เราไปดูวิธีชีวิตกัน...พ่อค้า แม่ค้าอาจจะไมได้แต่งตัว สะอาด สะอ้าน แบบในห้าง Supermarket แต่บรรยากาศเสียงดัง มีการพูดคุย มีเสียงแม่ค้าตะโกน เรียกลูกค้า ยังมีให้เห็นแน่นอน แถมราคายังถูกกว่า...หลายเท่าเลย แกงแถมบ้านผมเริ่ม10บาท ขนมหวานเริ่ม5บาท หมูย่าง4บาท ที่พูดถึงอยู่ที่กรุงเทพจริงๆครับ อิอิ ขอพูดแทนร้านโชห่วย ด้วยนะครับ ของใช้บางอย่างเราอาจจะต้องซื้อตามห้าง แต่สิ่งของบางอย่าง เราก็สามารถซื้อได้จากร้านโชห่วยเล็กๆ ได้ เพียงแค่ ไม่อายที่จะเข้าไปซื้อ เราแค่พูดว่าเราอยากได้อะไร หากที่ร้านมี คนขายเขาก็นำมาให้เราเลย ^^ ไม่ต้องไปเดินหาในร้านให้เมื่อย ปัจจุบันร้านโชห่วย ดำนเนินกิจการค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว ทั้งต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การให้Creditก็น้อย การมีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ หากร้านไม่มีรายได้ขึ้นมา มีแต่รายจ่ายออก ก็จะทำให้ร้านโชห่วยเล็ก ต้องปิดกิจการไปตามๆกัน เของกิจการก็ต้องปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลา ต้องหาสินค้าอื่นมาขายเพิ่มเติม นี่แหละครับความลำบากของ กิจการโชห่วย ที่ทราบดีเนื่องจาก...ผมก็ทำร้านโชห่วย ช่วยญาติๆอยู่เหมือนกันครับ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 08:02:48 จากคุณ : Awinakit0 เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 07:56:20

ความคิดเห็นที่ 25 กับข้าวมาเเล้วครับกับข้าว อิอิ จากคุณ : etsuko เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 08:27:41

ความคิดเห็นที่ 26 หน้าออฟฟิศก็มีหนมปังก้อนละ 6 บาทขายค่ะ  สังขยาเยอะด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 08:50:44

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนอยู่เมืองไทยนี่ผมชอบเดินตลาดนัดมากกว่าห้างอีกครับ ยิ่งแถวบ้านผมมีตลาดนัดมือสองอีก เดินมันทุกอาทิตย์เลย ของถูก แถมยังมีของกินอร่อยๆขายอีก จากคุณ : Mr_Badz เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 10:15:37

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบขนมปังค่ะพี่ น่าอร่อยและถูกดี อยากทานกับโกโก้เช้าๆ จากคุณ : เหมันต์ใบไม้ผลิ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 10:41:08

ความคิดเห็นที่ 29 ตลาดนัด ตลาดสด ซื้อพวกผลไม้ กับข้าวทำสำเร็จ ปลาปิ้งใหม่ๆ ได้สดกว่าในห้าง และ สะดวกกว่า ไม่ต้องตุนเข้าตู้เย็นมาก   ถ้าห้าง ก็ต้องซื้อพวกเครื่องปรุงต่างๆ ข้าวสารถุง ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นม UHT แต่พวก ของที่ไปบีบผู้ผลิตนั้น ผมไม่ในห้างซื้อแล้ว เพราะคุณภาพโดนกดมากๆ ยิ่งถูกยิ่งไม่ดี เพราะผู้ผลิตโดนกด โดนบีบมากๆ ต้องลดต้นทุนสุดๆ อีกอย่าง ของจีนที่ถูกๆ พังเร็วๆ อย่าซื้อมาใช้เลยครับ เหมือนเอาขยะมาขายถูกๆ ให้เรา จากคุณ : KENG76 เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 10:47:34

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบความคิดคุณมากเลยค่ะ พยายามลด ละ เลิก ซื้อของจากห้างต่างชาติอยู่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : ชอบถ่ายไม่ชอบถูกถ่าย เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 10:53:48

ความคิดเห็นที่ 31 เดี๋ยวหุ้น cpall ก็ตกอ่ะค้าบ มาเห็นกระทู้นี้ อิอิ จากคุณ : net787 เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 11:48:10

ความคิดเห็นที่ 32 นึกอะไรขึ้นมาได้เลยมาเล่าเพิ่ม พูดถึงการค้าปลีก/ธุรกิจ SME แล้ว นึกถึง ประเทศอิตาลี ตอนที่ไปเที่ยวอิตาลี สังเกตอย่างหนึ่งว่า กิจการร้านค้าที่นั่น เป็นการค้าปลีกทั้งหมด ในอิตาลี ไม่มีร้านซูเปอร์โตร์ขนาดใหญ่ แบบเทสโก้ แมคโคร แม้ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ อย่าง มิลาน หรือโรม ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็น มีขนาดไม่เกิน 3 ห้องแถว บ้านเรา แถมยังหายากด้วย ไม่ค่อยมี มีแต่โชว์ห่วยเล็กๆ ร้านค้าในเมือง ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าเฉพาะ ขายสินค้าแยกประเภทอย่างมาก ไม่ใช่ค้าปลีกธรรมดานะ แบบว่าต้องใช้คำพูดว่า ขายปลีก..ปลี๊กกกก ปลีกกกก ขายปลีกสุดฤทธิ์สุดเดช 555 เช่น ร้านขายไก่ จะขายเฉพาะสัตว์ปีก ไก่เป็ด และไข่ เท่านั้น เรียกว่า Polleria Latteria เป็นร้านขายนมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส เนย ประเภทต่างๆ Panetteria ขายขนมปังและขนมอบเท่านั้น Macelliao ร้านขายเนื้อ ขายเนื้อจากสัตว์สี่ขา ไม่รวมสัตว์ปีก (เห็นมะว่ามันแยกประเภทขนาดไหน) นอกจากนั้นก็มีร้านขายอื่นๆ เช่น ร้านขายร่ม ก็ขายเเฉพาะร่มและเสื้อกันฝน ร้านรองเท้า ก็ขายแต่รองเท้าถุงเท้า ร้านขายเครื่องครัวเครื่องไฟฟ้า ก็จะเป็นร้านเล็กๆ กิจการในครอบครัว ครั้งนั้นจำได้ว่าเข้าไปซื้อถ้วยตีฟองคาปุชิโน่ ที่ร้านขายเครื่องครัวเครื่องไฟฟ้าแห่งหนึ่งในเนเปิล ได้บรรยากาศมาก ร้านเป็นร้านเก่าแก่อายุ 50 ปี  (เขียนติดไว้บนถุง) เป็นกิจการในครอบครัว เวลาเข้าไปก็จะมีตู้กระจก ตู้เคาน์เตอร์ ซึ่งมีข้าวของเครื่องใช้ สินค้า อยู่เต็มไปหมด เราก็เดินดู อยากได้อะไรก็บอกคนขาย (ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน 555) คนขายก็จะหยิบออกมา แล้วทำการสาธิตให้เราดู ถูกใจก็ซื้อไม่ถูกใจก็เก็บ ไม่ว่ากัน วันนั้นเข้าไป มีคนแน่นร้านเลย ต้องเดินดูให้ทั่วก่อน แล้วค่อยมาต่อคิวรับบริการ จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 11:48:12

ความคิดเห็นที่ 33 นึกแล้วก็แปลกใจว่า ทำไมคนอิตาเลียน ถึงรักษากิจการค้าปลีกท้องถิ่นไว้ได้อย่างดีมากๆ แต่ก็คงจะเป็นวิธีเดียวกับที่เขาถนอมรักษา อนุรักษ์ศิลปะโบราณ ตึกเก่าๆ เอาไว้ได้มาเป็นพันปีแล้ว เป็นมรดกให้ลูกหลานได้เก็บเงินจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในเวนิส ได้พักใน B&B ซึ่งเป็นตึกเก่า คุณลุงเจ้าของห้อง เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่าตึกนี้อายุกว่า 500 ปี ก็เห็นจะจริง เพราะสังเกตเห็นขั้นบันไดหินที่จะขึ้นไปที่ห้องพัก แต่ละขั้นของบันไดสึกกร่อนจนหวำลงไปเป็นเส้นโค้งน่ะ อเมซซิ่งมาก บ้านเรา...แสนเศร้า คณะที่เคยเรียน มีตึกเก่าอายุกว่า 50 ปี มีห้องเล็กเชอร์สุดแสนคลาสสิค ที่เป็นเหมือน Theatre สมัยโบราณ ที่นั่งเป็นอัฒจันทร์ครึ่งวงกลม เก้าอี้พับได้เหมือนโรงหนัง แต่เป็นไม้สัก และไม่ใช่ไม้ธรรมดา เป็นไม้สักแผ่นเดียวหนาครึ่งคืบ ตึกอาจเก่า แต่ไม่ได้ชำรุดเลยแม้แต่น้อย เพราะโครงสร้างตึกโบราณมีความแข็งแรง ปัจจุบันนี้ ตึกถูกทุบทิ้งไปแล้ว เพื่อสร้างตึกใหม่ (ไม่รู้เพื่ออะไร) เดือนที่แล้ว เพิ่งไปเห็นเขาเตรียมทุบตึกแถวเก่าที่เป็นตึกแถวสองชั้นหลังคากระเบื้องว่าว ย่านเยาวราช จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 12:13:11

ความคิดเห็นที่ 34 เบิ้ลค่ะ เน็ตไม่ค่อยดี อิอิ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 12:17:02 จากคุณ : LiTtle_LOliTa เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 12:14:18

ความคิดเห็นที่ 35 มาร่วมด้วยช่วยโหวตค่ะ คิดถึงเมื่อครั้งเด็กๆเนอะ พอดีบ้านจะอยู่ในซอยที่เป็นเหมือนตลาดค่ะ จะมีร้านเล็กๆนู่นนั่นนี่ตลอดทาง ค้าขายกันเล็กๆน้อยๆ คนในซอยจะรู้จักกันตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอย เดี๋ยวนี้บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อมี 7-11 มาเปิดหัวซอย-กลางซอย-ท้ายซอย จะเปิดดักไปไหนเนี่ย.. จากคุณ : Monaliza^^ ($an-Dee) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 13:21:30

ความคิดเห็นที่ 36 บ้านที่อยู่ตอนนี้ ใกล้ตลาด ทุกอย่างมีขาย บางทีของอาจจะแพง กว่า ห้างที่เลยออกไปนิดหน่อย แต่เราก็เน้นสะดวก ซื้อใกล้บ้านมากกว่า วันไหนไม่ไปทำงาน ก็เดินช้อปตลาดแถวบ้านทุกวัน เดินจนคนขายของเค้าจำได้หมดแล้ว มีทุกอย่าง ร้านขายของโชว์ห่วย มีตั้งแต่กระถางต้นไม้ ยันท่อประปา หรือร้านของชำ มีทุกอย่างตั้งแต่ ตังฉ่าย ยันขนมจีน น้ำพริกแกงสดๆ ของพวกนี้ เราก็เดินๆซื้อเอาแถวบ้าน แต่ก็ยอมรับ ว่า มีห้าง ใกล้บ้านอีกที่อยู่ปากซอยเลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่ก็ไปช๊อปของต่างๆ  แต่อาหารสดบ้างที่แถวบ้านไม่มี ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 14:24:11

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณสำหรับเรื่องราว และ แง่คิดดีๆค่ะ (ปกติก็ซื้อไม้กวาดจากรถขายไม้กวาดเหมือนกัน และ ขนมอื่นๆที่มีรถเข็นผ่านมาขาย รอยยิ้มคนขาย บ่งบอกว่าดีใจ..คนซื้อก็ชื่นใจค่ะ) โหวตๆๆๆ (^_^) จากคุณ : ฟองเต้าหู้ในน้ำซุป เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:13:51

ความคิดเห็นที่ 38 ร้านเบเกอรี่แถวบ้านไมไ่ด้ขายถูกแบบนี้ แล้ว อาหารประเภท เค็ก กับ ขนมปังก็ไม่ดีต่อสุขภาพด้วย จึงกินไม่บ่อยไม่คิดอะไร ส่วนสินค้าอื่นๆ รำคาญที่ต้องบอกให้โชห่วยหยิบให้   เลยยังโอเคกับ 7 อยู่ ดีใจแทนคนที่ยังมีร้านดีๆเป็นทางเลือก จากคุณ : กินกันน้อยๆขยะๆจะได้น้อยๆนะเพ่ (รินบุญญา) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:16:12

ความคิดเห็นที่ 39 แถวๆที่บ้านไม่มีแบบนี้.. ส่งหนมปังไปให้กินหน่อยสิครับ.. จากคุณ : far gun noon (Nabokov1) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:30:32

ความคิดเห็นที่ 40 ยังจำบรรยากาศสมัยเด็กๆได้ ไปช่วยอาม่าขายของที่บ้านอาม่าประจำแถวพรานนก ร้านของอาม่าเป็นห้องแถวห้องเดียวอยู่ในซอย ขายของโชวห่วยทุกอย่าง ตั้งแต่ของใช้ในบ้าน น้ำปลา ซีอิ๊ว น้ำเก็กฮวย กล้วยหอม แตงโม แหนม   บางคนก็เอาของมาฝากขาย พวกมะยมเชื่อม ปลาหมึก ถั่วแพ็คเป็นห่อ ขายดีมากแทบจะไม่มีเวลานั่งพักตอนช่วง peak ประมาณหลัง 5 โมงเย็น ร้านเปิด 6 โมงเช้า ตอนอาม่าตื่น ปิดก็ตอนประมาณ 3-4 ทุ่ม แต่ถ้าลูกค้าเห็นว่าไฟเปิดอยู่ก็เคาะประตูสังกะสีเรียก เป็นการซื้อขายที่แปลก เพราะจะไม่เห็นหน้ากัน แต่ลูกค้าจะตะโกนบอกแล้วอาม่าก็หยิบของลอดออกมาทางรูโหว่ของสังกะสี ตอนกลางวันร้านอาม่าจะเป็นแหล่งพูดคุยของแม่บ้านในซอย แวะมานั่งมาคุยกันกับอาม่า พอแม็คโครจรัลสนิทวงศ์มาเปิด ร้านอาม่าก็เริ่มขายของไม่ดี เพราะคนบอกว่าไปซื้อที่ห้างถูกกว่า จนต้องปิดกิจการไป ตอนอาม่าแก่มากๆ เริ่มหลงลืม ก็ย้ายไปอยู่บ้านอาอีกหลังนึง ช่วงนั้นเวลาไปหาก็พยายามบอกให้เราพาออกมาขายของ ทั้งที่บ้านหลังที่ขายของแต่ก่อนหมดสัญญาเซ้งไปแล้ว แล้วก็ไม่มีร้านอีกแล้ว   ล่าสุดได้ข่าวมาว่า บริเวณตึกแถวแถวร้านเดิมอาม่าจะทุบทิ้งแล้วทำเป็นห้าง จากคุณ : payoonb เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 17:46:00

ความคิดเห็นที่ 41 #40 ยังจำบรรยากาศสมัยเด็กๆได้.. เป็นเด็กวัด วัดมหาธาตุฯ ข้ามเรือจากท่าพระจันทร์ไปพรานนก เดินกำแบ็งค์สิบจนเปียกเพราะเหงื่อซึม ทั้งเพราะร้อนและกลัวตังค์หล่นหาย สิบบาทนี้ได้จากแย่งข้าวเปลือกในพิธีแรกนาขวัญท้องสนามหลวงขายให้คนแก่ที่มากับฉิ่งฉับทัวร์ ลุงอยากได้ข้าวมงคล แต่ไม่มีปัญญาไปคลุกขี้โคลนแย่งสู้เด็กๆ ไปดูหนังโรงหนังศรีพรานนก กำเนิดกุมาร ควบ โลกนี้คือละคร 2 เรื่องไม่ถึงสิบบาท ไปถึงก่อนหนังฉาย เดินเกร่ๆ ไปร้านโชห่วยแถวๆนั้น ซื้อมะยมเชื่อมกับน้ำเก๊กฮวยจากร้านอาม่ากินแก้น้ำลายเหนียว เห็นสาวน้อยคนหนึ่ง น่ารักเป็นบ้า กำลังช่วยอาม่าขายของ ไม่นึกเล้ยยยยยย..วันนี้จะมาเจอที่สินธร โลกมันกลมเนาะ... จากคุณ : เรื่องโม้นะพี่หมุย... (Nabokov1) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 18:31:53

ความคิดเห็นที่ 42 I love this attitude . Totally agree kub. จากคุณ : thrill เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 19:15:41

ความคิดเห็นที่ 43 แถวบ้าน มีห้างฯมาเปิดตรงข้าม ทำให้ร้านค้าของชำ ล้มหาย ปิดกิจการไปหลายร้าน แต่ยังมีอยู่เหลือร้านนึง ที่มีอาม่ายังเปิดขายอยู่  เป็นห้องแถวคูหาเดียว ดูเผิน ๆ จะเป็นพวกขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม ลูกอม และเบ็ดเตล็ด มีวันนึง ขีจักรยาน ไปถามอาม่าว่า   มีหนังสติ๊กที่ด้ามเป็นไม้ ๆ เป็นรูป ตัววี แล้วก็มียาง ผูกติดมั๊ยคะ (เราต้องทำท่าประกอบด้วย)  อาม่า ก็ยิ้ม แล้วบอกว่ามี จะเอากี่อันหละ  เราอึ้งไปนิด นึกไม่ถึงว่าจะมี คิดว่าต้องขับรถไปหาซื้อแถวตลาดซะแล้วววว  ตอนนั้น จำได้ ดีใจมากเลย หาปุ๊บ มีปั๊บ แล้วมีอีก เราอยากได้ ด้ายที่เย็บเสื้อผ้า  จะมาซ่อมกระดุมที่หลุด แต่สีที่มี มันไม่เข้ากับสีผ้า เพราะความขี้เกียจของเราต้องขับรถออกไป  ก็ลองไปถามอาม่าอีกว่า อาม่า อาม่า มีด้ายขายมั๊ยคะ ในใจยังคิดว่าคงไม่มีหรอก ก็ร้านของอาม่า เล็กนิดเดียว  ทางเดินก็แทบจะไม่มีแล้ว จะเอาของพวกนี้มาขายเร้อออ  อาม่าทำให้เราอึ้งอีก พาเราไปข้างในร้าน เราต้องเดินแบบระวัง ระวังหน่อย กลัวไปเกี่ยวขนมที่แกวาง ๆ อยู่ตกลงมา โอ้โฮ เฮะ!  ไม่อยากจะเชื่อเลย ว้าวว มีให้เลือกเยอะแยะเลย ทั้งไหมพรม ด้าย เข็ม จริงแล้ว ร้านของชำแบบนี้ อยู่คู่กับบ้านเรามาช้านานแล้ว แต่คนหมัยนี้ นิยมไปเดินห้างฯ กันหมด  อะไร อะไร ก็เดินห้างฯ ลองหันกลับมาดูของใกล้ๆ ตัวเอง และอุดหนุนสินค้าเค้าบ้าง  ไม่เช่นนั้นร้านรวง คงจะค่อย ๆ หาย ไป ทีละร้าน สองร้าน จนพอถึงรุ่นหลาน เหลน โหลน คงจะไม่รู้จักแล้วมั๊ง ว่าร้านของชำหรือร้านโชว์ห่วยหน้าตาเป็นอย่างไร ขอบคุณน้องโลมากเลยค่ะ ที่เปิดกระทู้ดี ๆ อย่างนี้  โหวดให้อีกเสียงค่ะ จากคุณ : หนึ่งในดวงใจ เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 07:47:14

ความคิดเห็นที่ 44 แถวบ้านที่ย้ายมาใหม่ มีรถขายของผ่านตลอด ตอนแรกไม่รู้หรอก พอถึงวันหยุดวันแรก ที่บ้านใหม่ ก็ได้รู้เลย ตั้งแต่ตอน 08.00 น. จะได้ยินเสียงแว่ว ๆ ว่า " แตงโม มะละกอ  กล้วย ส้มโอ มาแล้วจ้าาาาาา พอสาย ๆ หน่อย ก็จะมีรถปั่นจักรยานมาขายกับข้าว น่าจะเป็นของตอนเช้านะ ถุงละ 10 ปริมาณเท่ากับถุงละ 25 บาท อย่างไข่พะโล้ ได้ไข่ 2 ใบ+ตะกั๋ว 2 + หมูมัน + ในราคา 10 บาท พอตอนเกือบเที่ยงก็จะมีรถเข็นผลไม้หลากหลายชนิดมาขาย พอตอนเที่ยงถึงบ่าย 2 จะมีส้มตำไก่ย่าง , ไส้กรอกลูกชิ้นย่าง ผ่านมาขาย ตบท้ายตอนเย็น มีรถไอติมวิ่งผ่าน ตอน 1 ทุ่มมีรถโตเกียวมาขาย และตบท้ายมื้อดึกคือ โรตี สรุปวันหยุดวันนั้นไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย อิ่มจัง  ตังอยู่ไม่ครบ 5555 จากคุณ : เด็กน้อยตัวแสบ เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 13:28:40

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าคนไทยสักครึ่งหนึ่งคิดได้ จขกท. คงดีไม่น้อยนะคะ มาร่วมด้วยช่วยโหวตค่ะ จากคุณ : chalan เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 15:28:44

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณค่ะป้าโล.. ที่ช่วยกระตุ้นจิตสำนึกของหนูออกมาได้อีกระลอก 555 จริงๆหนูก็ไม่ได้ชอบของในห้างอะไรเท่าไรเลย .. แต่อากาศมันร้อนมั้งเลยไปขอใช้แอร์ฟรีหน่อย ขออนุญาตเอาไปกระทู้ไปแปะที่อื่นด้วยนะคะ จะได้ช่วยให้หลายๆคนคิดได้และช่วยเหลือกันเองไม่มากก็น้อย อิอิ อยากกินบัวลอยไข่หวานหน้าปากซอยจัง T_T จากคุณ : m i l k - T เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 20:37:44

ความคิดเห็นที่ 47 น้อยมากที่ผมจะให้ 3 คะแนนกับใคร ขอมอบให้ จขกท. ละกัน ในฐานะที่ทำให้ระลึกถึงวัยเด็ก อิอิ จากคุณ : xczar เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 00:10:54

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านกระทู้แล้วสุขใจจริงๆ ที่มีคนส่วนหนึ่งคิดแบบนี้ แถวที่ทำงาน มีร้านขายของชำ อยู่ติดกับ 7-11 เลย เห็นอาม่าขายของอยู่คนเดียว ถ้าจะซื้อน้ำแข็งไม่รู้ว่า จะมีซักกี่คนที่ไปอุดหนุนร้านอาม่า ถ้าจะซื้อเป๊ปซี่ขวดใหญ่ อาจจะน้อยคนนักที่จะเข้าไปร้านอาม่า เวลาไปซื้อทีไร ก็จะเห็นอาม่าซึ่งอายุมากแล้ว เดินหลังค่อมๆ ช้าๆ มาตัดน้ำแข็ง หยิบเป๊ปซี่ อาจจะแพงกว่าซักบาท สองบาท แต่อุดหนุนอาม่านิดหน่อยไม่เป็นไร หุหุ จากคุณ : tkroot เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 01:06:23

ความคิดเห็นที่ 49 55 ทู้นี้ป้าโลเก็บกีฟไปเต็มๆ อิจฉาจัง :) แต่อย่างว่าสมัยนี้หลายๆอย่าง เราหลงลืมอะไรบางอย่างไป จากคุณ : กระบี่โลหิต เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 08:55:58

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับ   ทำให้นึกถึงสมัยเด็ก  ที่ไปช่วยอาม่าขายของ   อาม่าทำร้านกาแฟ + โชห่วย    ...คิดถึงอาม่าจังเลย  ท่านเสียไป 7 ปีกว่าแล้ว จากคุณ : เอี่ยมน้อย (เอี่ยมน้อย) เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 17:42:49

ความคิดเห็นที่ 51 สนับสนุนครับ  การอุดหนุนร้านค้าเล็กทำให้เขาอยู่ได้   เขาจะได้มีกำลังใจหาสินค้ามีขายให้หลากหลายมากๆขึ้น จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 22:36:19

ความคิดเห็นที่ 52 ขนมขบเคี้ยวเห็นด้วยมากๆ ค่ะ การอุดหนุนร้านคนไทยกันเอง ให้เค้ามีรายได้เลี้ยงปากท้อง เลี้ยงครอบครัว เพราะถ้าซื้อกันแต่ โลตัส คาร์ฟู บิ๊กซี ที่เป็นของต่างชาติ นอกจากเงินจะไหลออกนอกประเทศแล้ว ต่อไป.. ถ้าห้างใหญ่บีบร้านเล็กๆ(ของคนไทย) จนอยู่ไม่ได้แล้ว เค้าคงไม่มีโปรโมชั่นลดราคา(แบบหลอกๆ ลดบางชิ้น)แน่ๆค่ะ เพราะยังไงเราต้องซื้ออยู่ดี จากคุณ : ขนมขบเคี้ยว เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 23:39:25

ความคิดเห็นที่ 53 คิดถึง ''จีฉ่อย'' จากคุณ : จากสยามถึงสามย่าน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 53 20:10:45