|
ความคิดเห็นที่ 32 |
http://thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=35645:2010-07-12-01-39-21&catid=89:2009-02-08-11-24-05&Itemid=417 ***************************************** ก.ล.ต.สกัดแก๊งปั่นหุ้นออนไลน์
ก.ล.ต.ออกสกัดขบวนการปั่นหุ้นผ่านออนไลน์ เผยพฤติกรรมนักวิเคราะห์อิสระและนักการตลาดป้อนข้อมูลทางเว็บเพจ แชตรูม มือถือ ชี้นำราคาแบบไร้ปัจจัยพื้นฐานรองรับ บุกถึงตัวเจ้าของเว็บไซต์ดังใช้ไม้นวมเจรจาก่อนงัดมาตรการทางกฎหมายเล่นงานหนัก ระบุเพราะความโลภของนักลงทุนผสมโบรกเกอร์แข่งขันเอาใจลูกค้า กระทรวงไอซีทีบอกยินดีช่วยหาหลักฐาน
เทคโนโลยีในยุคโลกไร้สายนอกจากจะอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร ช่วยเปิดโลกทัศน์ด้านข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วฉับไว และช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งกลับเป็นช่องทางสำหรับขบวนการ "ปั่นหุ้น"ที่อาศัยระบบออนไลน์ส่งผ่านข้อมูลไปยังเครือข่ายนักลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ที่เป็นอันตรายต่อผู้ที่หลงเชื่อหรือหลงรับข้อมูลโดยไม่ไตร่ตรอง
เชื้อร้ายกำลังลุกลาม นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. พบว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ข้อมูลการซื้อขายหุ้นบางส่วนอาจเข้าข่ายชี้นำราคาโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ มีเป้าหมายเพื่อหวังสร้างราคา หรือปั่นหุ้น อาทิ การแนะนำ ให้ลงทุนตามรอบ ผ่าน เว็บเพจ แชตรูม และเว็บไซต์ หลังการตรวจพบดังกล่าวในเบื้องต้นก.ล.ต.ได้เข้าพบและเจรจากับเจ้าของเว็บไซต์ในลักษณะขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายภายใต้พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นายประเวช กล่าวว่า สาเหตุของการขอความร่วมมือครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาการเผยแพร่ข้อมูลผ่านออนไลน์มีการพัฒนาอย่างแพร่หลายและมีการใช้ระบบออนไลน์เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุนในทางที่ไม่ควรด้วย ก.ล.ต.จึงประเมินว่าอาจเป็นอันตรายต่อนักลงทุนหากเข้าไปบริโภคข่าวสารและหลงเชื่อโดยมิได้ไตร่ตรองข้อมูล
***ล้วงข้อมูลเชิงลึก นอกจากนี้ก.ล.ต.ยังมีมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง อาทิ ยังส่งบุคลากรก.ล.ต.สมัครเข้าเป็นสมาชิก เพื่อขอข้อมูลคำชี้แนะจากบริการเสริมที่มีของข้อมูลออนไลน์ดังกล่าว ทั้งในรูปแบบสมาชิกเว็บไซต์ สมาชิกลูกค้าที่บางแห่งมีบริการส่งข่าวผ่านข้อความทางมือถือ(Short Massage) รวมทั้งการไปร่วมฟังการจัดสัมมนาด้วยอย่างต่อเนื่องไม่เฉพาะสื่อออนไลน์แต่ทุกๆการจัดสัมมนาที่เกี่ยวกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว *นักวิเคราะห์-ร่วมมือขาใหญ่ แหล่งข่าวจากวงการมาร์เก็ตติ้งหุ้น กล่าวว่า ที่ผ่านมามีนักวิเคราะห์หลักทรัพย์อิสระนิยมใช้วิธีการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้น โดยผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมฟังงานสัมมนา ดังกล่าวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 2,000-3,000 บาท และยังมีการสมัครเป็นสมาชิกด้วย นอกจากนี้ในงานสัมมนาจะมีการชี้นำราคาหุ้นให้นักลงทุนซื้อตามเป็นรอบๆด้วย ซึ่งก็คือการแนะนำหุ้นปั่นนั่นเอง แต่ต่อเมื่อมีวิวัฒนาการที่ทันสมัยมากขึ้น จึงได้มีการพัฒนาเป็นเว็บไซต์และส่งข้อมูลหุ้นที่เป็นหุ้นปั่นให้กับนักลงทุนที่เป็นสมาชิก รวมทั้งการส่งข้อความสั้นๆผ่านมือถือ(SMS) ด้วย แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า กลุ่มนักวิเคราะห์หลักทรัพย์อิสระเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายข่าวหุ้นเป้าหมายที่นักลงทุนรายใหญ่หรือขาใหญ่เข้าไปซื้อเก็บโดยมีเป้าหมายเพื่อดันราคา ขณะที่นักลงทุนที่เป็นสมาชิกส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนรายย่อยหรือแมลงเม่าทั่วๆไปที่ไม่ค่อยสนใจศึกษาข้อมูลการลงทุนในหุ้น แต่มักจะชอบลงทุนด้วยวิธีการซื้อตามบรรดานักวิเคราะห์อิสระแนะนำ และสุดท้ายก็บาดเจ็บ
*** "ไอซีที"รอประสาน นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยว่า กรณีที่มีกลุ่มบุคคลอาศัยช่องทางเว็บไซต์ทำการปั่นหุ้นผู้ที่เป็นเจ้าภาพ คือ ก.ล.ต. แต่หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถแจ้งผ่านมายังกระทรวงไอซีทีเพื่อหาข้อมูลและหลักฐาน เช่นเดียวกับกรณี ขายยา ผ่านเว็บไซต์ไม่ถูกต้องตามกฎหมายทางกระทรวงสาธารณสุขเคยขอความร่วมมือมายังไอซีที เพื่อช่วยหาหลักฐานทางกระทรวงได้ประสานงานให้และสามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำผิด
***เปิดชื่อเว็บหุ้นยอดฮิต แหล่งข่าวจากวงการตลาดหุ้น กล่าวว่าปัจจุบันเว็บไซต์ ยอดฮิตของนักลงทุนในตลาดหุ้น โดยอิงข้อมูลจาก เว็บไซต์ ที่ชื่อว่า WWW.TRUEHIT.COM ซึ่งอิงจากยอดผู้เข้าชม พบว่ามีดังนั้น คือ1.WWW.SETTRADE.COM, 2.WWW.SET.OR.TH, 3.WWW.THAIVI.COM, 4.WWW.DOOHOON.COM, 5.WWW.EFINANCETHAI.COM, 6.WWW.STOCK2M.COM, และ7.WWW.STOCKWAVE.COM ส่วนเว็บเพจ หรือเว็บบอร์ด ที่นิยม อ้างอิงข้อมูลจาก เว็บไซต์ WWW.DOOHOON.COM ซึ่งแสดงตัวอย่างไว้ คือ 1.เว็บบอร์ด "ห้องสินธร" ของ WWW.PANTIP.COM 2. เว็บบอร์ด "ThaiValueInvestor" จากเว็บไซต์ WWW.THAIVI.COM 3.เว็บบอร์ด "ไทยหุ้น" จากเว็บไซต์ WWW.THAIHOON.COM 4.เว็บบอร์ด "กระทิงเขียว" 5.เว็บบอร์ด "ตลาดหุ้นดอทคอม" จากเว็บไซต์ WWW.TALADHOON.COM 6.เว็บบอร์ด "ทันหุ้น" จากเว็บไซต์WWW.THUNHOON.COM และ 7.เว็บบอร์ด "ห้องนักลงทุน" จากเว็บไซต์ WWW.SETTRADE.COM
***เผยเหตุลงโทษมาร์เก็ตติ้งหุ้น นายประเวช กล่าวต่อกรณีการลงโทษเจ้าหน้าที่การตลาดหรือมาร์เก็ตติ้งของก.ล.ต. และค่าปรับบริษัทหลักทรัพย์ หรือบล.ย้อนหลัง 1 ปีนั้นพบว่ามีต้นเหตุมาจาก 3 กรณี คือ 1.การคาดหวังผลตอบแทน(รีเทิร์น)จากการลงทุนของนักลงทุนในอัตราที่สูงเกินจริง 2.นักลงทุนคาดหวังข้อมูลจากมาร์เก็ตติ้งมากเกินไป และ3. การแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ จนทำให้มีการปรับกลุยทธ์การให้บริการเพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่มที่ต้องการลงทุนในหุ้นเพื่อหวังผลตอบแทนจากการลงทุนในอัตราที่สูงเกินจริง ซึ่งรวมถึงการปั่นหุ้นด้วย จากที่กล่าวข้างต้น เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัวจึงเกิดกรณีการร้องเรียนมายังก.ล.ต. ขณะที่ก.ล.ต.ต้องลงโทษมาร์เก็ตติ้งตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ การยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ลงทุน และการประกาศ.....ผ่านเว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) ซึ่งถือว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงระดับหนึ่ง ขณะที่มาร์เก็ตติ้งบางรายถึงขั้นถูกเพิกถอนใบอนุญาต
***เตือนอย่าโลภมาก นายประเวช กล่าวว่า ก.ล.ต.ขอเตือนนักลงทุนว่า การที่นักลงทุนบางรายมีแนวคิดต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อคาดหวังรีเทิร์นที่สูงเกินจริง หรือสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิด ถือว่าอันตรายและมีโอกาสขาดทุนสูงตามมาด้วย ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นนั้นแท้ที่จริงคือ การลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่มีเงินออมระยะยาวเพื่อหาโอกาสจากการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก นอกจากนี้สำหรับบัญชีหรือพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้น นักลงทุนไม่ควรให้ใครมาช่วยตัดสินใจ หรือสั่งซื้อขายให้ และควรใช้วิจารณญาณการลงทุนให้ดี รวมทั้งก่อนเปิดบัญชีก็ควรให้เวลาสำหรับการอ่านรายละเอียด และเงื่อนไขการเปิดบัญชีด้วย และหากเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงทุนในหุ้นมาก่อนควรลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ได้ส่วนลดจากภาษีมากกว่า อาทิ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) เพื่อศึกษาการลงทุนไปด้วย
โทษหนักคุก2ปี ทั้งนี้พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ระบุมาตราที่เกี่ยวกับการสร้างราคา (ปั่นหุ้น) ดังนี้ มาตรา 243 ในการซื้อ หรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือหลักทรัพย์ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ โดย1.ห้ามมิให้ผู้ใดทำการซื้อ หรือขายหลักทรัพย์โดยรู้เห็น หรือตกลงกับบุคคลอื่น อันเป็นการอำพรางเพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าขณะใด ขณะหนึ่ง หรือช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หลักทรัพย์นั้นได้มีการซื้อ หรือขายกันมาก หรือราคาของหลักทรัพย์นั้นได้เปลี่ยนแปลงไป หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลง อันไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด 2.ห้ามมิให้ผู้ใดโดยตนเอง หรือร่วมกับผู้อื่นทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะต่อเนื่องกัน อันเป็นผลทำให้การซื้อ หรือขายหลักทรัพย์นั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด และการกระทำดังกล่าวได้กระทำไปเพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปทำการซื้อ หรือขายหลักทรัพย์นั้น เว้นแต่เป็นการกระทำโดยสุจริต เพื่อปกป้องประโยชน์อันชอบธรรมของตน มาตรา 244 ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นการอำพราง เพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดตามมาตรา 243(1) ด้วย 1. ทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ซึ่งในที่สุดบุคคลที่ได้ประโยชน์จากการซื้อและขายหลักทรัพย์นั้น ยังคงเป็นบุคคลคนเดียวกัน 2. สั่งซื้อหลักทรัพย์โดยรู้อยู่แล้วว่าตนเอง หรือผู้ซึ่งร่วมกัน ได้สั่งขาย หรือจะสั่งขายหลักทรัพย์ของนิติบุคคลเดียวกัน หรือของโครงการจัดการกองทุนรวมเดียวกัน ประเภทและชนิดเดียวกัน ทั้งนี้ โดยมีจำนวนใกล้เคียงกัน ราคาใกล้เคียงกัน และภายในเวลาใกล้เคียงกัน 3. สั่งขายหลักทรัพย์โดยรู้อยู่แล้วว่าตนเอง หรือผู้ซึ่งร่วมกัน ได้สั่งซื้อ หรือจะสั่งซื้อหลักทรัพย์ของนิติบุคคลเดียวกัน หรือของโครงการจัดการกองทุนรวมเดียวกัน ประเภทและชนิดเดียวกัน ทั้งนี้ โดยมีจำนวนใกล้เคียงกัน ราคาใกล้เคียงกัน และภายในเวลาใกล้เคียงกัน สำหรับบทลงโทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกินสองเท่าของผลประโยชน์ที่บุคคลนั้น ๆ ได้รับไว้หรือพึงจะได้รับเพราะการกระทำฝ่าฝืนดังกล่าว แต่ทั้งนี้ค่าปรับดังกล่าว ต้องไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,547 11-14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
จากคุณ |
:
Nabokov1
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ก.ค. 53 14:09:48
|
|
|
|
|