|
คาถารวยหุ้น...แบบรายใหญ่ (บทความเก่าๆอ่านแล้วได้ประโยชน์ดี)
|
|
นำมาจาก M&W ฉบับเดือนมี.ค. 50
เสี่ยปู่ “จากเก็งกำไรสู่หุ้นที่มีคุณค่า”
น้อยคนนักจะรู้ว่า “เสี่ยปู่” ก่อนกระโดดเข้ามาในตลาดหุ้น เคยรับราชการอยู่ที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่จะออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว คือ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน
ในปี 2530 เขาตัดสินใจเดินเข้าสู่ตลาดการลงทุนอย่างเต็มตัวด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 5 แสนบาท และทันทีที่เข้ามา เขาก็ได้รับรสชาดคำว่า “ขาดทุน” เมื่อเจอกับวิกฤติการณ์ Black Monday ที่ทำให้เงินหายไปทันที 3 แสนบาท ทำให้เสี่ยปู่ถอนตัวออกจากตลาด
ทว่าเพียงแค่ปีเดียวเสี่ยปู่ตัดสินใจกลับเข้ามานั่งหน้ากระดานหุ้นอีกครั้ง พร้อมๆ กับการมองโลกในแง่ดีต่อการลงทุน และเขาไม่ได้ทำให้ตัวเองผิดหวังเมื่อพอร์ตโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการ ลงทุนแบบเก็งกำไร ด้วยการลงทุนในหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาด ในที่นี้หมายถึง ถ้าตลาดหุ้นปรับขึ้น 2% แต่หุ้นที่ลงทุนต้องปรับขึ้นมากกว่า อาจจะทยานขึ้น 4%, 5% หรือ 10% หรือตลาดหุ้นปรับลดลง แต่หุ้นที่ตัวเขาลงทุนกลับสวนทางไต่ระดับขึ้น จากพอร์ตระดับแสนบาทกลายเป็นล้านบาทและทะลุร้อยล้านบาทเสี่ยปู่ใช้เวลาไม่ ถึงทศวรรษในการสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง
เสี่ยปู่โลดแล่นอยู่กับสไตล์การลงทุนแบบเก็งกำไรเป็นเวลาเกือบ 15 ปี เขาตัดสินใจ “หยุด” และหันมาเน้นสไตล์การลงทุนในหุ้นที่มีคุณค่าและถือในระยะยาว “หุ้นที่มีคุณค่า คือ หุ้นที่มีกำไรเจริญเติบโตเป็น Growth stock ซึ่งทุกวันนี้มีหุ้นหลายตัวที่มีกำไรเจริญเติบโตดี”
วิธีการ ก็คือ เมื่อเลือกหุ้นที่ดีแล้วต้องรอจังหวะการลงทุนด้วยการซื้อในจังหวะที่ตลาด ปรับลดลงก็น่าสนใจ “หุ้นบางตัวจะมีช่วงขึ้นและลงห่างกัน 20-30% ดังนั้นถ้าซื้อช่วงที่จังหวะปรับลดลงจะดีมากๆ” เสี่ยปู่ บอก
ทุกวันนี้สไตล์การจัดพอร์ตของเสี่ยปู่ ประมาณ 80% มุ่งเน้นการลงทุนระยะยาว (3-5 ปี) ซึ่งถ้าหากราคาหุ้นยังไม่สูงเกินไปเขาจะถือไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศตลาดยุคนี้เขายิ่งถือระยะยาว และถ้าได้รับเงินปันผลจะนำเงินปันผลไปลงทุนในหุ้นเพิ่มเติม
เสี่ยปู่จะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรแบบถาวร 5-10% ต่อปี และจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยจะเลือกหุ้นเป็นรายตัวมากกว่าลงทุนเป็นรายอุตสาหกรรม เสี่ยปู่ต้องนั่งดูงบการเงินเพราะเชื่อว่าอะไรที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง เป็นอะไรที่ “ไม่หลอกลวง” พร้อมๆ กับมองว่ามีบริษัทเอกชน “หลอกลวง” เข้ามาจดทะเบียนอยู่บ้าง เช่น มีผลการดำเนินงานดีเยี่ยมและประมาณการณ์ว่าจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เมื่อเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลับไม่เป็นอย่างที่บอกนักลงทุนไว้
ทุกวันนี้เสี่ยปู่ยังเดินเข้าห้องค้าทุกวันเพื่อดูแลพอร์ตของตัวเอง เพราะในชีวิตการลงทุนของเขาแล้วนอกจากตลาดหุ้นแล้ว มีเพียงการเก็บเงินฝากไว้ที่ธนาคารพาณิชย์เท่านั้น และกำลังศึกษาการเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามเพราะมองว่าเป็นตลาดหุ้นที่ เติบโตจาก “ศูนย์” อย่างแท้จริง และคาดว่าอีก 10 ปีเป็นตลาดหุ้นที่เติบโตอย่างน่าสนใจ
จากคุณ |
:
ดร.เพียว
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.ค. 53 19:59:50
|
|
|
| |