ความคิดเห็นที่ 1 เครดิตบูโรไม่ใช่ผู้พิพากษา เขาแค่เก็บประวัติเท่านั้น คนพิพากษาคือคนที่คุณไปขอกู้เงิน จากคุณ : HereWeGo เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:10:11

ความคิดเห็นที่ 2 คิดอีกแง่นึงครับ ผิดชำระมากน้อยแค่ไหนก็ถือว่าผิดชำระนะครับ ก็ต้องยอมรับในผลที่ตามมา ผมคิดว่าปีๆ นึงผ่านไปไวมากๆ ครับ ฉะนั้นสามปีอาจไม่นานอย่างที่คิดก็ได้ครับ จากคุณ : zylinz เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:16:30

ความคิดเห็นที่ 3 ก็เอาเงินไปจ่ายซะสิ จะได้จบเรื่อง จากคุณ : EarthQuakeZa เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:20:00

ความคิดเห็นที่ 4 3000 บาท ยังผิดชำระเลย แล้วถ้ามากกว่านี้ ... แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 10:25:02 จากคุณ : ละลายใจ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:24:45

ความคิดเห็นที่ 5 จ่ายแล้วครับ ปี 2551 ทั้งต้นดอก ที่ผ่านมา มอไซค์ก็ต้องซื้อเงินสด คอมก็ต้องซื้อเงินสด แต่ว่าบ้านผมซื้อเงินสดไม่ไหว จากคุณ : chum_kuan เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:26:28

ความคิดเห็นที่ 6 ทนเอาหน่อยครับ จากคุณ : Mushroom Man เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:31:59

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้ามีคนขอยืมเงินคุณ แต่เขาเคยยืมเพื่อนคุณมาก่อน แถมเบี้ยวหนี้อยู่บ่อยครั้ง คุณจะให้เขายืมไหม จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:37:58

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนที่ผมยังไม่ตกงาน ผมก็ส่งมาตลอดถึงจะหลายอย่าง ก็แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่เคยตกบกพร่อง จนมาตกงานนี้แหละครับ ไอ้เงินที่ได้มาตอนจ้างออกมันก็หมดไปเลื่อนๆ ช่วงปีนั้นผมต้องส่งหลายอย่างมาก มันรุมเร้าเข้ามาพร้อมๆกันผมต้องแบ่งจ่าย  แต่ช่วงนั้น มันลำบากจริงๆ   พอได้งานใหม่อะไรมันก็ดีขึ้น ก็เริ่มไปใช้หนี้จนหมดทั้งนอกระบบในระบบ สำหรับคนอื่นพออยากได้มอไซค์ผ่อนก็ไม่ได้ อยากได้ที่นอนผ่อนก็ไม่ได้ สุดท้ายก็หันไปหานอกรระบบ  ส่วนของผมจะทำโอเก็บเงินเพื่อซื้อสด ถึงจะนานและลำบาก ก็ดีกว่านอกระบบที่ดอกเบี้ยแพงๆ จากคุณ : chum_kuan เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:42:08

ความคิดเห็นที่ 9 ความอยาก ... มันทำให้เราลำบากแบบนี้แหละครับ จากคุณ : RCracing เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:51:01

ความคิดเห็นที่ 10 เงินจำนวนเท่าไรไม่สำคัญหรอกครับ จะมากหรือจะน้อยก็คือเงิน ความสำคัญอยู่ที่การใช้ หรือการบริหารเงินมากกว่า ทุกวันนี้คนทำงานพอเริ่มมีงานทำก็เริ่มอยากสร้างเนื้อสร้างตัว วาดหวัง อยากได้ บ้าน คอนโด รถยนต์ บัตรเครดิต โดยไม่ได้สนใจการบริหารเงินมากนัก ทำให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัว ต้องผ่อนหลายอย่าง โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น นั่นก็คือ การตกงาน หรือการย้ายงานแล้วไม่มั่นคง รวมถึงความเสี่ยงจากการทำธุรกิจส่วนตัว ถ้าหากไม่มีความเสี่ยงเหล่านี้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเจอความเสี่ยงเหล่านี้ ผลสุดท้ายก็คือ เป็นหนี้ พอเป็นหนี้แล้วไม่จ่ายก็ติดเครดิตบูโร พอทำธุรกรรมการเงินในระบบไม่ได้ ก็ต้องไปพึ่งนอกระบบ หนี้ก็เพิ่มขึ้นเพราะดอกเบี้ยที่มหาโหด ผมคิดว่าคนเราควรจะต้องเรียนรู้การบริหารเงินให้มากกว่านี้ เช่น ตอนมีงานทำอยู่ ก็อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ควรจะออมเงินส่วนหนึ่ง และถ้าอยากได้อะไรที่ต้องผ่อน เช่น บ้าน คอนโด รถยนต์ ก็ควรผ่อนทีละอย่าง ไม่ควรผ่อนทีละหลายๆ อย่าง การใช้บัตรเครดิตก็เช่นกัน ควรจะใช้แบบมีลิมิต และควรจ่ายตรงกำหนดทุกงวด ผมเห็นคนเดี๋ยวนี้ พอเริ่มทำงาน ก็มักอยากจะได้รถยนต์เป็นอันดับแรกก่อน หลังจากนั้นถ้าเงินเดือนสูงขึ้น ก็จะเริ่มมองถึง บ้าน หรือคอนโดกันแล้ว โดยไม่ดูถึงกำลังทรัพย์ที่มี ถ้าบ้านมีฐานะดี สามารถซื้อเงินสดได้ อันนี้ก็ถือว่าเป็นข้อยกเว้น แต่ถ้ามีฐานะปานกลาง จำเป็นต้องกู้แบงค์ ก็ควรละเอียดรอบคอบมากๆ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 10:59:10 จากคุณ : bigzaa เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:57:38

ความคิดเห็นที่ 11 นี่แหล่ะครับ โจทย์ที่รัฐต้องแก้ให้ได้ คนแค่กลุ่มเท่านั้นแหล่ะที่เข้าถึงช่องทางการกู้ยืมในระบบได้ กู้นอกระบบถึงได้เบิกบานเป็นดอกเห็ดอย่างที่เห็นไงครับ จากคุณ : kitipan เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:27:08

ความคิดเห็นที่ 12 ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:42:35

ความคิดเห็นที่ 13 หมายความว่า จขกท จ่ายหนี้หมดแล้วใช่มั๊ยคะ แต่ในเครดิตบูโร ยังไม่ได้ถอนชื่อออก ต้องรอ 3 ปีใช่หรือเปล่า ที่เคยได้ยินมา ก็ให้เอาหลักฐานที่เราชำระหนี้แล้ว ไปที่ สนง เครดิตบูโร เลยค่ะ ให้เค้าแก้ไขในระบบ ชื่อจะถูกถอนออกไป (อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ แต่ว่าเคยได้ยินมา) คราวนี้จะซื้อพวกเงินผ่อนอะไรก็คงไม่มีปัญหา ยกเว้นซื้อบ้านกับพวกธนาคารที่เค้าจะไม่ให้ เพราะถือว่าเครดิตไม่ดี จากคุณ : yuisan เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:44:17

ความคิดเห็นที่ 14 สงสัยค่ะแล้วบัตรเครดิตค่าธรรมเนียมรายปี ที่คนส่วนใหญ่พอได้บิลมาก็โทรไปขอยกเว้น แบงก์บอกว่าไม่ต้องจ่ายรอบิลถัดไปจะหักกลบให้ อันนี้จะแจ้งบูโร ว่าเราติดเงินเค้าอยู่ไหมตอนเดือนที่บิลเรียกเก็บมา เคยมีคนบอกว่าติดอ่ะ จากคุณ : noknannew เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:45:45

ความคิดเห็นที่ 15 คห 14  ไม่น่าจะติดนะครับ ไม่งั้น ผมแย่เลย ขอเวฟกระจาย :) จากคุณ : PenaltyKick เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:54:22

ความคิดเห็นที่ 16 อยู่บ้านใหญ่กันหลายคน ต้องมีกติกา ล้ำเส้นฟาวครับ จากคุณ : nomeny เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 12:27:07

ความคิดเห็นที่ 17 มันไม่ได้เกี่ยวกับเงินจำนวนเท่าไหร่หรอก ไม่งั้นบางคนถึงบอกว่าปล้นเงินล้าน กับเงินแค่บาทเดียวก็ผิด รับโทษเท่ากันไง เจตนาเป็นสิ่งสำคัญครับ ตอนนั้นเงินแค่3000 ทำไมไม่จ่ายให้เรียบร้อยก่อนละครับ หากกลัวว่าจะติดเครดิตบูโร คุณเองยังมองว่าน้อยเลยแล้วทำไมไม่จ่ายละครับ และยังมีคนที่คิดว่าเป็นการให้กับคนส่วนน้อยได้เปรียบ (ทำไมไม่คิดว่าเขากำลังก้าวเข้าไปติดบ่วงหนี้อยู่นะ) ทำไมไม่คิดว่าสิ่งที่คุณอยากได้จำเป็นจริงๆไหม (ส่วนมากคิดเข้าข้างตัวเองว่าจำเป็นขาดไม่ได้) อย่างโืทรศัพท์ เครื่องที่แค่รับโทรออกได้ไม่ซื้อ จะต้องไปผ่อนแบบที่มันเกินความจำเป็นของตัว แค่ใช้ให้น้อยกว่าที่รายรับเข้าคุณก็ไม่เดือดร้อนแล้ว รัฐไม่สามารถแก้ไขได้หรอก เป็นเรื่องของจิตสำนึกของตัวเอง ที่ต้องควบคุมการใช้จ่าย อะไรๆก็อย่าโทษแก๊สโซฮอลล์เรื่อย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 12:27:27

ความคิดเห็นที่ 18 ทำใจและรอเวลาครับ บทเรียนครั้งนี้แสนแพง จากคุณ : shure-man เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 13:18:35

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับคำตอบจาก คห.หลายคนที่ให้กำลังใจและคำแนะนำที่ดี ถึงแม้จะมี คห. ที่อ่านดูแล้วเหมือนจะซ้ำเติมก็ตาม ก็เข้าใจว่าเป็นห่วง ถ้าใครที่เกิดปัญหาขึ้น แล้วไมสามารถพึ่งในระบบได้ ปัญหาที่ตามมา ก็คือนอกระบบ แล้วตอนนี้รัฐก็หนี้ไม่พ้นที่จะต้องเข้ามาช่วยอยู่ดี มีวิธีอื่นไม่ สำหรับคนที่ชำระหนี้หมดแล้ว (ที่ไม่ได้หนีหนี้) ลดระยะเวลาในเครดิตบูโลลงได้บ้าง 3 ปีสำหรับคนที่มีเจตนาดีที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันนานไปครับ จากคุณ : chum_kuan เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 14:02:31

ความคิดเห็นที่ 21 3 ปีไม่นานหรอกนะ สมมุติว่าปีเดียวข้อมูลถูกลบ คนจะกลัวกันเหรอคับ เหมือนกฎหมาย ถ้าโทษไม่รุนแรงคนจะกลัวกันหรอ ลองออกกฎหมายมาสิ ว่า ปล้น ฆ่า ข่มขืน ติดคุกแค่เดือนเดียว อาชญากรรม ในประเทศคงสูงขึ้น จากคุณ : Cattyz3838 เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 14:25:27

ความคิดเห็นที่ 22 ยินดีด้วยกับ จขกท ที่คิดได้ครับ ความอยากเป็นสิ่งที่ต้องประเมินเทียบกับความสามารถในการหารายได้ของเรา ข้อสำคัญคือ การใช้เงินไม่เกินตัว ครับ จากคุณ : KaTem (kun_kasem) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 15:58:37

ความคิดเห็นที่ 23 ให้กำลังใจ จขกท ค่ะ นับถือ ที่อดทน ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆให้ตลอด จากคุณ : ใบโหระพา เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 17:39:30

ความคิดเห็นที่ 24 เข้าใจและให้กำลังใจครับ เคยผ่อนมาแล้วทั้งบ้านและรถ บ้านนับวันยิ่งจะแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่ละปีก็ขึ้นกันหลักแสนบาท ขอให้หาทางออกได้เร็วๆครับ จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 18:23:39

ความคิดเห็นที่ 25 ในระยะเวลา 3 ปีนี่ลองเก็บเงินทุกๆ เดือนให้เท่ากับจำนวนที่ จขกท. จะต้องผ่อนอะไรซักอย่างดูซิคะ  ครบ 3 ปี คุณจะมีเงินต้นพร้อม ได้ดอกเบี้ย แทนที่จะต้องจ่ายหนี้คืนพร้อมดอกเบี้ย 3 ปีเราว่าไม่นานนะ อดทนรอนิดหน่อย กับวินัยทางการเงิน ถึงตอนนั้น เวลาจะกู้จะผ่อนอะไรก็มีเงินต้นทุนอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง : แก้ไขพิมพ์ผิด แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 22:31:21 จากคุณ : แมวเหนือ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 22:30:08

ความคิดเห็นที่ 26 ดูจากการตั้งกระทู้ ผมยังสงสัยว่าเค้าคิดได้จริงหรือเปล่า.... จากคุณ : กัดจัง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 08:40:58