Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
'บ้านปู'ทุ่มอีก 6.7 หมื่นล.ฮุบเหมืองออสซี่  

"บ้านปู"ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ"เซนเทนเนียล" ผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่สุดของออสเตรเลีย มูลค่า 6.7 หมื่นล้านบาท  นักวิเคราะห์ ประเมินหากฮุบได้ 100%  บ้านปูจะรับรู้กำไรปีละ 2,000 ล้านบาท  พร้อมขยับราคาหุ้นเหมาะสมเป็น 740-754.70 บาท  
          นางสมฤดี ชัยมงคล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การเงิน บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท บ้านปู มิเนอรอลส์ (สิงคโปร์) หรือ บีเอ็มเอส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยบ้านปู มีความประสงค์จะทำคำเสนอซื้อนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของ เซนเทนเนียล โคล จากผู้ถือหุ้นในราคาหุ้นละ 6.20 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งสูงกว่าราคาตลาด 40.3% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้วสัดส่วน  19.19%
        ขณะที่มีเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก Foreign Investment Review Board (FIRB) ของออสเตรเลีย และได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของบ้านปู และบีเอ็มเอส ต้องถือครองหุ้นอย่างน้อย 50.1% ในเซนเทนเนียล โคล ซึ่งหากใช้ราคารับซื้อหุ้นคำนวณ  เซนเทนเนียล จะมีมูลค่าทั้งสิ้น 2,504 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 67,600 ล้านบาท โดยบริษัทจะต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทุกรายให้เสร็จสิ้นภายในปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 ปีนี้
             สำหรับเป้าหมายในการซื้อหุ้นทั้งหมดของเซนเทนเนียล เพื่อเปิดโอกาสให้บ้านปูได้มีส่วนร่วมต่อพัฒนาการของอุตสาหกรรมถ่านหินในออสเตรเลีย และเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อบริษัทในการขยายฐานการลงทุนของธุรกิจถ่านหินในภูมิภาค ทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตมากขึ้นจากเหมืองถ่านหินในออสเตรเลีย นอกเหนือจากเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียและจีน ขณะที่ปัจจุบันเซนเทนเนียลมีเหมือง 10 แห่ง ปริมาณถ่านหินสำรอง 419 ล้านตัน (เทียบแค่ 300 ล้านตัน ของบ้านปู) และเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ถ่านหิน 1 ใน 3 ของโลก
         นางสมฤดี กล่าวว่า เงินที่จะนำมาซื้อหุ้นดังกล่าวจะมาจากเงินสดของบริษัท 20% และการกู้เงินอีก 80% ทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนสูงกว่า 1.3 เท่า จากไตรมาสแรกมีเพียง 0.2 เท่า
        บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัสฯ ระบุว่า  กรณีที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบ้านปูเพิ่มขึ้นในระยะสั้นนั้น ไม่น่ากังวลเพราะเป็นการกู้ยืมเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวซึ่งเซนเทนเนียล มีกำไรสุทธิอยู่แล้ว และคาดว่าการเติบโตจะยังเป็นไปในเชิงรุกมากขึ้นใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะยังส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิโดยรวมของบ้านปูในระยะยาวจึงแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบ้านปู โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่ ที่ 754.70 บาท จากเดิม 682.11 บาทต่อหุ้น
            ด้านบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ฯ ประเมินว่าหากบ้านปูประสบความสำเร็จในการทำคำเสนอซื้อหุ้นเซนเทนเนียล  จะสามารถรับรู้กำไรปีละประมาณ 2,000 ล้านบาท จากเดิมที่ถือหุ้น 19.9% ซึ่งจะรับเป็นเงินปันผลปีละประมาณ 227-267 ล้านบาท  คิดเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.7-1.9% ของประมาณการผลกำไรของบ้านปู
          โดยในปี 2552 ที่ผ่านมา (งบออสเตรเลียปิดเดือนมิถุนายน) เซนเทนเนียล รายงานผลกำไร 71.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1,983 ล้านบาท (จากปริมาณการจำหน่ายถ่านหิน 16 ล้านตัน) ดีขึ้นกว่าปี 2551 ที่รายงานผลกำไรปกติ 64.3 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (และมีกำไรพิเศษอีก 222.9 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ทำให้รายงานกำไรสุทธิ 287.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ดังนั้นบล.กิมเอ็ง ฯแนะนำ"ซื้อ"หุ้นบ้านปู ให้ราคาเหมาะสม 740 บาทต่อหุ้น
  บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศ "เครดิตพินิจ" แนวโน้ม "Developing" หรือ "ยังไม่ชัดเจน" ให้แก่อันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของบ้านปู  หลังจากการประกาศที่จะเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด 100% ของเซนเทนเนียล โดยผ่าน บริษัท บ้านปู ไมเนอรัล (สิงคโปร์)
         ทั้งนี้ทริสเรทติ้ง จะวิเคราะห์ถึงผลกระทบของการลงทุนดังกล่าวที่จะมีต่ออันดับเครดิตของบ้านปูโดยละเอียดและจะประกาศระงับเครดิตพินิจ พร้อมทั้งประกาศทบทวนผลอันดับเครดิตของบริษัทเมื่อเงื่อนไขสำคัญต่างๆ ของคำเสนอซื้อกิจการดังกล่าวมีความแน่นอนแล้ว

จากคุณ : หมวยอินดี้
เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 15:34:52




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com