|
กูรูหุ้นพันล้าน : ตอนที่ 16 Sell on Fact
|
|
ในชีวิตการลงทุนของ เสี่ยยักษ์ วิชัย วชิรพงศ์ ผ่านประสบการณ์ เจ็บๆ มานับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะค้นพบหนทางแห่งความสำเร็จด้วยตัวเอง ทำให้ เสี่ยยักษ์ เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือคุณไม่ได้หรอก ตัวคุณเท่านั้นที่ต้องช่วยตัวเอง
คำว่า ข่าวลือ คุณต้องแอบพูดในที่ ลับ ถ้ามากระจายให้มหาชนรับรู้
มาบอกนักข่าว แสดงว่า จบรอบ แล้ว
คุณต้องทิ้ง
โชคชะตาจะเลือกช่วยเหลือเฉพาะคนที่มีความพยายาม (มากกว่า) เท่านั้น เสี่ยยักษ์ เชื่อเช่นนั้น
ผมจำได้ว่า ตอนที่หุ้นกำลังเริ่มขึ้นช่วงปี 2536 ก่อนดัชนี SET จะขึ้นไป 1,789 จุด (ต้นปี 2537) ตอนนั้นผมมีเงินอยู่ 15 ล้านบาท ช่วงนั้น ขับรถผ่านวัดหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็อธิษฐานว่าถ้าหากผมหาเงินได้ 35 ล้านบาท จะถวายเงินให้วัด 3 แสนห้า ไม่ถึงปีผมมีเงิน 35 ล้านบาท จริงๆ
แต่ช้าก่อน นี่ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ เพราะตอนอธิษฐาน เสี่ยยักษ์ ไม่ได้บอกให้หลวงพ่อปานช่วยเหลือ (แบบทางลัด) แต่เขาบอกท่านว่า
ถ้าผมชนะก็ให้ชนะด้วยฝีมือของตัวเอง ผมปวารณาตัวเองว่า ถ้าทำได้ผมจะถวายเงินวัด
เสี่ยยักษ์ มีทัศนคติว่า คนที่ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอนั่นขอนี่ นั่นคือการฝึกให้เราเป็นคอร์รัปชัน การที่คุณเอาหัวหมูไปไหว้แล้วขอให้มีเงินร้อยล้าน พันล้าน คิดว่าไม่ใช่วิธีที่จะทำให้ใครร่ำรวยได้
นักลงทุนรายใหญ่เท่าที่รู้จักหลายคน เขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้
จากนั้น เสี่ยยักษ์ ก็เล่าหนังถึงเรื่องหนึ่งที่ตัวเองชอบมากที่สุด คือ เรื่อง Bruce AL MIGHTY (นำแสดงโดยดาราตลก จิม แคร์รี่ ในบท บรูซ โนแลน นักข่าวโทรทัศน์ ที่ถูกไล่ออกจากงานและท้าทายต่อพระเจ้าจนพระองค์มอบพลังอำนาจพิเศษให้เป็นเวลา 7 วัน) เขาได้เป็นเทวดา 7 วัน เพราะเขาโทษเทวดาว่าเทวดาไม่ช่วยเขา เทวดาก็เลยให้เขาเป็นเทวดาเสียเลย แต่เมื่อคนเรายิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งจะคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง และเมื่อได้พบปาฏิหาริย์ก็หลงละเลิง
แท้จริงแล้วปาฏิหาริย์ที่แท้จริงก็คือ การทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดต่างหาก
บทสรุปของเรื่องนี้ คนเราจะประสบความสำเร็จ คุณต้องช่วยเหลือตัวเอง และในที่สุด บรูซ โนแลน ก็ค้นพบสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา นั่นคือ ทำสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีที่สุด
เสี่ยยักษ์ เชื่อว่า คนที่เล่นหุ้นแล้วได้กำไร เพราะเขาคิดด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่การปักใจเชื่อแบบงมงาย แต่ไม่ปฏิเสธว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจริง แต่ไม่สามารถดลบันดาลให้คุณดีขึ้นได้ ถ้าคุณไม่ค้นหาด้วยตัวคุณเอง
เซียนหุ้นรายนี้ยังย้ำความคิดเดิมว่า ถ้าจะเล่นหุ้นให้รวยจริงๆ แล้ว ต้องเล่น รอบใหญ่ อย่างเดียว ถ้าเล่นเอาค่ากับข้าว ก็ซื้อๆ ขายๆ เชื่อผมเถอะ! ไม่รวยหรอก
จากประสบการณ์ของผม คนที่รวยหุ้นมากๆ ต้องมีหุ้นเด็ด ถือยาว และกำไรหนัก ต้องหาหุ้นอย่างนี้ให้เจอ
เมื่อเป็นต้นไม้ใหญ่ในวงการก็มักจะมี เจ้าของหุ้น เข้ามาหา เสี่ยยักษ์ ยอมรับว่า เคยมีมาขอให้ช่วยดูแลหุ้นให้ แต่จะบอกเจ้าของหุ้นไปว่า ถ้าคุณทำผลงานของคุณให้ดีๆ แล้ว คนทั้งตลาดก็จะช่วยคุณเอง
การที่เราจะไปจัดการหุ้นให้กับใคร หรือ เป็น มาร์เก็ตเมคเกอร์ ให้ใคร คุณต้องขายหุ้นให้คนอื่น คุณถึงจะรวย แล้วขายให้ใคร
ในเมื่อวงที่เล่นกันมันไม่ใหญ่ สุดท้ายคุณก็ต้องขายหุ้นให้คนรอบๆ ข้าง (ก๊วน) คุณเอง
ภาษาเหนือเขาบอกว่า จูงหมาน้อยขึ้นดอย คุณรวย เพื่อนคุณตาย คุณจะมีความสุขได้ยังไง
ในมุมมองของผม เล่นหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานดีกว่า เราเล่นหุ้นมวลชน ได้-เสียไม่ต่อว่ากัน
ก่อนจะบอกว่าที่ผ่านมาเห็นมาเยอะ ที่จับมือเป็นพันธมิตรกัน สุดท้ายก็ทะเลาะกัน หุ้นหลายตัวในชีวิต เสียเพื่อนกันไปก็เยอะ
เวลาขายหุ้นผมจะขายหนัก สมมติว่ามี Bid (เสนอซื้อ) 3 ช่อง ถ้าผมอยากจะออกผมทิ้งช่อง Bid หมด 3 ช่องเลย ยกตัวอย่างหุ้น TPI (ปัจจุบัน คือ IRPC) ผมเคยขายทีเดียว 60-70 ล้านหุ้น จนคนในวงการบอกว่า ผมเล่นหนัก ทุกคนจะรู้ว่าถ้ามี Bid เยอะๆ แล้วผมไม่สบายใจ ผมออกไปเลย 3 ช่อง หลบกันแทบไม่ทัน
นอกจากนี้ เสี่ยยักษ์ ก็เคยโดนเจ้าของหุ้น หลอก มาแล้ว ประมาณว่า แง้มข่าวดี ให้เข้าไปซื้อ แต่ตัวเองแอบเทขายหุ้นออกมาให้ก็มี ซึ่งในวงการนี้จะมีการ ขี่กัน เล็กๆ น้อยๆ
เรื่องข่าวลือ หรือ ข่าวอินไซด์ ผมฟัง
แต่ไม่ได้เชื่อ คนที่อยู่ในวงการระดับ 10-20 ปี คิดว่าไม่มีใครเชื่อ ถ้ามีหุ้นตัวนั้นอยู่ จะขายออกไปด้วยซ้ำ เพราะคำว่า ข่าวลือ คุณต้องแอบพูดในที่ลับ ถ้ามากระจายให้มหาชนรับรู้
มาบอกนักข่าว แสดงว่า จบรอบ แล้ว
คุณต้องทิ้ง
เสี่ยยักษ์ สรุปหลักการ ขายหุ้น กรณีที่มี ข่าวลือ หลุดออกมาก่อนว่า เราต้อง Sell on Fact (ขายเมื่อมีข่าวจริง) หรือ Sell on Good News (ขายเมื่อมีข่าวดีกระจายไปทั่ว) กฎข้อนี้ยังใช้ได้ดีในตลาดหุ้น เพราะพวกที่ปล่อยข่าว กำหนดราคาเป้าหมายได้ พวกนี้ต้อง เสือ เท่านั้น ถึงจะทำได้
จากคุณ |
:
กองกำลังปั้นฝัน
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ส.ค. 53 09:20:38
|
|
|
| |