|
ความคิดเห็นที่ 10 |
นักวิเคราะห์ เตือน อย่าไล่ซื้อSTAกำไรผ่านจุดสูงสุดแล้ว
นักวิเคราะห์เตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนใน หุ้นธุรกิจยางพาราหลังจากมีแรงไล่ซื้อหุ้นบริษัท ศรีตรังอินดัสทรี (STA) ขึ้นไปแตะ 23 บาท รับข่าวกำไรสุทธิไตรมาส2 ออกมาดีถึง 1,394.83 ล้านบาท และมีผลต่อเนื่องถึงหุ้นบริษัทไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอเรชั่น(ประเทศไทย)หรือ TRUBB บวก 0.50บาทซื้อขายที่ 9.50 บาท
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ฟินันเซียไซรัส ได้ปรับลดคำแนะนำการลงทุนในหุ้นSTAจากเดิม"ซื้อ"เป็น ขาย เพราะบริษัทได้ผ่านช่วงที่มีกำไรที่ดีที่สุดไปใน งวดไตรมาส 2 ปีนี้ แล้ว โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี บริษัทมีกำไรเฉลี่ยไตรมาสละ 1,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่ากำไรในครึ่งปีหลังจะลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว
เช้าวันนี้ หุ้น STA เป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดประจำวัน ท่ามกลางราคาหุ้นพุ่งแรงล่าสุดย่อมาซื้อขายบริเวณ 22.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท รับข่าวบริษัทมีกำไรสุทธิ 1,394.83 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 1.39 บาท เพิ่มขึ้น 305% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 344.53 ล้านบาท หรือ 0.34 บาท และรวมครึ่งแรกปีนี้ กำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,494.78 ล้านบาท เท่ากับ 2.49 บาท เทียบกับกำไรสุทธิ 559.24 ล้านบาทหรือกำไร 0.56 บาท
บริษัทศรีตรังฯ ชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้มีกำไรมาก ในไตรมาสที่ 2 ว่าบริษัทยังคงได้รับผลดีอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ราคายางในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นทำสถิติสูงสุดในช่วงเดือนเมษายน จากการฟื้นตัวที่ชัดเจนของเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียตลอดจนถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลกส่งผลถึงตัวเลขความต้องการในกลุ่มยานยนต์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส
ปัจจัยบวกอีกข้อหนึ่ง คือความกังวลของผู้บริโภคที่มีต่อปริมาณผลผลิตยางที่มีค่อนข้างจำกัดในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่วางแผนการจำหน่ายอย่างระมัดระวัง ทำให้ยอดจำหน่ายของบริษัทในไตรมาสนี้จึงปรับตัวสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 2ปี2552 ที่ยังอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยบริษัทมีปริมาณการขายรวม จำนวน 212,236 ตันเพิ่มขึ้น15% จากไตรมาส 2ปี2552 และเพิ่มขึ้น 1 %เมื่อเทียบกับไตรมาส 1ปี2553
บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวมเป็นเงิน 21,408 ล้านบาทเพิ่มขึ้น111%จากไตรมาส 2ปี2552 และเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาส 1ปี2553 และราคายางปรับตัวสูงขึ้นอีก13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1ปี2553 และปรับตัวสูงแบบก้าวกระโดดถึง 105 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2ปี2552 ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 1 ปี สำหรับ ภาพรวมครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม 40,580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114% หรือ 21,576 ล้านบาทมีปริมาณการขายรวม 423,365 ตันเพิ่มขึ้น21%หรือ 72,891 ตันเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก7.3% เป็น 7.8% บริษัทประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากในวงจรธุรกิจ นับจากการสรรหาวัตถุดิบ การบริหารต้นทุนการผลิตและระดับราคาจำหน่าย
จากคุณ |
:
polymerman
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ส.ค. 53 12:21:39
|
|
|
|
|