ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วย แค่ไปเปิดเอทีเอ็มกับบัญชีใหม่มันก็ให้เซ็นไรไม่รู้มารู้อีกทีตอนได้สมุดเล่มใหญ่ๆเลยถึงบางอ้อว่ามันยัดเยียดให้ซื้อประกัน สุดท้ายก็ต้องจ่าย 150 ไป เรื่องประกันมันไม่สมควรจะต้องบังคับกัน แล้วที่บอกว่าช่วยๆกันก็ช่วยๆยัดเงินเข้ากระเป๋าพวกมันทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวนี้พวกนี้หากินกันง่ายเนอะ ผมไม่โทษพนง.นะแต่โทษพวกออกนโยบายมากกว่าแบบนี้มันมัดมือชกกันชัดๆแบบนี้ต้องฟ้องกันบ้าง จากคุณ : ต้มยำกุ้ง...อร่อยจิงๆนะเธอ เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 11:12:47

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่ทราบนะครับว่า ธนาคารชาติ คิดอย่างไร แต่ถ้าธนาคารใหนเซ้าซี้ให้ผมซื้อประกัน ผมไม่ทำธุรกรรมด้วย จากคุณ : Replica เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 11:17:21

ความคิดเห็นที่ 3 ผมไม่ทำแน่นอนครับ  จบ จากคุณ : Dr.โอ เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 11:20:43

ความคิดเห็นที่ 4 ให้ทำประกันก็คือรายได้ของแบงค์....แถมลดความเสี่ยงให้แบงค์ในการปล่อยกู้อีกด้วยถ้าเกิดผู้กู้มีอันเป็นไป  หนี้ก็ไม่สูญ....มีแต่ข้อดีสำหรับแบงค์ครับ  ก็เป็นธรรมดาที่เค้าจะบีบให้เราทำประกันควบกับการกู้เงินเค้าครับ...แต่เราก็ปฏิเสธได้นะครับ  ทำไม่ทำอยู่ที่เรา.....แต่อย่าไปเชื่อประเภทที่ว่า  ถ้าไม่ทำจะกู้ไม่ผ่าน  อันนี้ไม่จริงครับ  ถ้ากู้ไม่ผ่านยังไงมันก็ไม่ผ่านครับถึงจะทำประกันมันก็ไม่ได้ช่วยให้กู้ผ่านหรอกครับ จากคุณ : satan@เต้ย เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 11:37:27

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่จำเป็นไม่ต้องกู้มันครับ เอาเปรียบที่สุดก็คือธนาคารนี่แหละ ดอกกู้แพง ดอกฝากถูกติดดิน.. จากคุณ : ต้องมีวินัย เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 11:40:11

ความคิดเห็นที่ 6 ธนาคารต้องการจะผลักภาระ ความรับผิดชอบหนี้ ความเสี่ยงไปให้บ.ประกัน ในข้อตกลงที่สามารถยอมรับได้ ถ้าคุณไม่ยินยอมพร้อมใจก็ปฏิเสธได้ จากคุณ : จริงๆ นะ (เด็กเกาะสมุย) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 11:47:25

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นทุกแบงค์คับ... จากคุณ : Cattyz3838 เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 12:10:47

ความคิดเห็นที่ 8 การที่ธนาคารต้องให้เราทำประกันฃีวิตก็เพื่อต้องการจะลดความเสี่ยงของธนาคาร ในกรณีที่เราไม่ทำ อาจจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมครับ ในอดีต แม้กระทั่งปัจจุบัน จำนวนหนี้เสียของธนาคารเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด และการที่สินเชื่อกลายเป็นสินเชื่อด้อยคุณภาพ ธนาคารต้องตั้งสำรองไว้ เงินที่ตั้งก็กันเอามาจากกำไรที่ยังไม่ได้จัดสรรน่ะครับ ถ้าตั้งมาก ๆ NPL มาก ๆ สุดท้ายก็จะมากระทบต่อฐานะการเงินของธนาคาร และ...ผู้ถือหุ้นในที่สุด ผมก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นธนาคารคนหนึ่งครับ จึงเห็นว่าน่าจะยุติธรรมแล้ว ส่วนถ้าเราไม่พอใจเราก็ไม่ต้องไปทำธุรกรรมกับเค้าครับ จากคุณ : เด็กลาดพร้าว (zombie99) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 12:35:33

ความคิดเห็นที่ 9 บังคับกันเกินไป จากคุณ : au_teer เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 12:48:18

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องดูว่าประกันชนิดไหนด้วยค่ะ ถ้าเป็นประกันสุขภาพก็ไม่น่าเกี่ยว  แต่ถ้าเป็นประกันธุรกิจ ส่วนใหญ่จะเกิดกับโครงการที่มีความเสี่ยงแล้วแบงค์ก็ลดความเสี่ยงให้ด้วยการให้ทำประกัน แต่การเพิ่มให้ครบตามเงื่อนไขคะ ถ้าไม่สะดวกใจก็ไม่เห็นต้องทำนี่คะ มันมีความต่างนะคะ ระหว่างต้องทำเพื่อให้หลักประกันพอจึงกู้ผ่าน  กับการที่กู้ผ่านเลยมาขอให้ทำพ่วง  แต่ส่วนใหญ่ จนท จะไม่บอกหรอกค่ะ จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 13:16:13

ความคิดเห็นที่ 11 เราว่าแบงค์เค้าก็กลัว หนี้สูญเหมือนกันนะ บริหารไม่ดี แบงค์ ล้มๆๆ ไม่เหลือซักแบงค์ แล้ว ที่นี้ ก็ไม่มีที่ให้กู้กัน ก็ไม่ต้องซื้ออะไรกันพอดี ทำประกันดี กับ คนข้างหลังนะ ตัวคุณเป็นอะไรไป ก็เอา เงินประกัน ใช้หนี้กันไป ไม่ลำบากคนที่อยู่ข้างหลัง ไม่ใช่ผ่อนๆบ้านอยู่ เกิดตายขึ้นมา คนข้างหลังไม่ผ่อนต่อ บ้านโดนยึด หลายเรื่องเลย ใจเค้าใจเรา จากคุณ : jannypantip เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 14:09:12

ความคิดเห็นที่ 12 scb/ชลบุรี พนง.ชวนซื้อประกัน บอกมีแล้ว / บัตรเครดิต ไม่ทำสุดท้าย งัดน้ำพริกเผามาขาย บอกของหนูทำเองช่วยหน่อย เกรงใจเห็นชวนอยู่นาน เลยซื้อมาสองกระปุกยังอยู่ เลย เป็นเดือนละไม่ชอบกินครับ สุดยอดนักขายเลย เหอะะะะ จากคุณ : คนตระกูลซุน เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 15:06:51

ความคิดเห็นที่ 13 ปีนี้ บริษัทประกัน เลยกำไรพุ่งๆ จากคุณ : ethanority เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 18:16:46

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่า เราเลือกได้นะครับ ว่าจะทำประกันหรือไม่ทำ บางครั้งเขาก็จะจูงใจด้วยดอกเบี้ยพิเศษถ้าทำประกัน อันนี้ต้องแล้วแต่เรานะครับ ถ้าไม่สะดวก ปฏิเสธได้ครับ จากคุณ : tonytui เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 20:49:00

ความคิดเห็นที่ 15 ปกติจะขอกู้แบงค์ก็ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอยู่ซึ่งปกติแบงค์ก็ประเมินทรัพย์พวกนี้ในราคาติดดินอยูแล้ว  แถมแบงค์เองก็บังคับให้ทำประกันหลักประกันดังกล่าวเพื่อป้องกันการด้อยค่าด้วยเช่น ทำจำนองห้องแถวเพื่อขอสินเชื่อ ก็บังคับให้ทำประกันตัวทรัพย์เอาไว้เป็นต้น ผมเห็นว่าในเมื่อระเบียบจริงมีแค่นี้ก็ควรทำได้แค่นี้ ถ้าแบงค์แอบยัดเยียดประกันลักษณะอื่นที่ไม่เกี่ยวกันให้ผู้ขอกู้ ผมถือว่าไม่ถูกต้องครับ เพราะถ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงไม่ผิดหลักเกณฑ์ แบงค์คงสามารถเขียนเป็นข้อบังคับสำหรับผู้ขอกู้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว แต่ที่ไม่เขียนก็เพราะกำลังเล่นนอกกรอบกันอยู่จริงหรือไม่ ผมไม่ทราบต้องไปถามนายแบงค์เอง มาๆปิดๆบังๆ แอบบังคับตั้งเป้าให้พนักงานสินเชื่อให้มาบังคับผู้ขอกู้อีกต่อนึงแบบนี้ดูทุเรศและไร้จริยธรรม แถมทำให้เกิดช่องโหว่ให้พนักงานทุจริตเลือกปฏิบัติได้ อย่างนี้ต่างอะไรกับเจ้าหน้าที่รัฐที่บริการเราดีๆผิดมาตฐาน เพราะจะให้เราเป็น downline ขายตรงของเขา ที่แบงค์โดน NPL กันจนเดี้ยงสมัยก่อนโน้นจนแทบเจ๊งกันส่วนนึงคงต้องโทษตัวแบงค์และพนักงานที่หละหลวมและมีการทุจริตคิดค่าปากถุงเอาเงินใต้โต๊ะจากผู้ขอกู้ หลักทรัพย์ที่ค้ำประกันซึ่งปกติประเมินไว้ต่ำๆเพื่อออฟเซ็ตกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ก็กลายเป็นประเมินให้สูงเกินจริงสุดท้ายพอเป็น NPL จึงยังไม่พอครอบคลุมยอดหนี้ซึ่งรวมดอกเบี้ยทบต้นเข้าไปด้วย จะโทษคนขอกู้อย่างเดียวไม่ได้เพราะเขาก็ยังเจ๊งยังล้มละลายกันเลย มีใครเล่นกับไฟแล้วไฟไม่ไหม้มือเลยบ้าง น่าขำจะเอารวยอย่างเดียวโดยไม่เสียอะไรเลยคงไม่ได้ เป็นโจรก็ยังไม่ได้เลยถ้าคิดแบบนี้ จากคุณ : ปอป้อง เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 14:32:08

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องแยกก่อนนะครับว่าประกันแบบไหน ถ้าประกันทั่วไปก็ไม่จำเป็นหรือแล้วแต่คุณ แต่ถ้าประกันเงินกู้ ผมว่าก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะถึงแม้คุณจะบอกว่าก็เอาบ้านไปค้ำประกันไว้แล้ว คุณลองนึกดูว่าถ้าคุณเป็นอะไรไป แล้วคุณไม่ได้ทำประกันเงินกู้ไว้ ครอบครัวคุณส่งต่อไม่ไหว จะเป็นอย่างไร บ้านโดนยึดไม่มีที่อยุ่อีกเดือดร้อนไปกันใหญ่ แต่ถ้าคุณมีประกันชีวิตอยู่แล้ว ก็สามารถนำมาค้ำประกันแทนกันได้ จากคุณ : เต็กกอ2000 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 09:19:49