|
ความคิดเห็นที่ 19 |
Daily Stock : PTTEP : บล.เกียรตินาคิน
11 ส.ค.--บล.เกียรตินาคิน
Distributor - Bisnews AFE
PTTEP (PTT Exploration and Production Public Company.) Sector : Energy
คำแนะนำ : ซื้อลงทุน Fair Value '53 (Bt) : 208.00 Closed Price (Bt) : 148.50 Up-side Gain : 40.07% Dividend Yield 53F : 3.84%
- แนวโน้มผลประกอบการ 3Q53 ยังแข็งแกร่ง และยังเชื่อว่ากำไรจะยังสูงกว่าระดับ 10,000 ล้านบาท - ยังมีปัจจัยบวกจากการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่อุปทานยังคงตึงตัวจากข้อจำกัดในการ ขยายกำลังกาผลิต - บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนเป้าหมายยอดขายปี 53 เราเชื่อว่าจะมีแนวโน้มเป็นบวก และมีความเป็นไปได้ที่ เราจะปรับประมาณการผลประกอบการปี 53 ในอนาคต - ยอดขายก๊าซฯ ใน 1H53 อยู่ที่ 260,368 บาร์เรลต่อวัน สูงกว่าเป้าหมายปี 53 ที่ระดับ 254,000 บาร์เรลต่อวัน - บริษัทยังคงเป้าหมายเดินเครื่องโครงการมอนทาราใน 2H54 เช่นเดิม - บริษัทระดมทุนเพิ่ม รองรับการขยายการลงทุน ระยะสั้น D/E Ratio เพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ - ยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อ PTTEP จากการเติบโตของยอดขายก๊าซฯ เฉลี่ย 5.6% ต่อปี (5 ปีข้างหน้า) ทำให้เรายังคงแนะนำ ซื้อลงทุน
ราคาน้ำมันยังอยู่ในช่วงขาขึ้น 2 - 3 ปีข้างหน้า จากภาพรวมรวมความต้องการใช้พลังงานยังมีการเติบโต ขณะที่อุปทานเริ่มมาสัญญาณการตึงตัวในอนาคต Outlook ของ Global Oil Demand แข็งแกร่ง แต่ Supply ยังอยู่ในระดับที่มี Spare Capacity ค่อนข้างสูงที่ 5.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2553 (อิงข้อมูล McKinsey Research - Oct 2552) ทั้งนี้ การเติบโตของ Demand ที่สูงกว่า Supply คาดว่าจะทำให้ภาพในระยะยาวตลาดน้ำมันจะ ค่อยๆ ตึงตัวเพิ่มขึ้น โดยบนสมมติฐาน Base Case อุปสงค์ และอุปทานน้ำมันจะอยู่ในระดับเท่ากันในปี 2556 ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นการไม่มี Spare Capacity คงเหลือน่าจะทำให้ตลาดน้ำมันตึงตัว เป็นอย่างมาก สำหรับในส่วนของแนวโน้ม Gas Demand ในประเทศไทย ปี 2553 ถือเป็นปีที่การเติบโตของ Gas Demand เติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาก (ประมาณ 5%-6%) โดยใน 6M53 เติบโตถึง 14%yoy ซึ่งเรา ประเมินว่ามาจาก
1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยซึ่งใน 6M53 มี GDP เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ (ตามการคาดการณ์ KKS) มากถึง 9% (ปกติการใช้ไฟฟ้ามักเติบโต 1.1 - 1.2 เท่า ของ GDP) ประกอบกับฐานปี 2552 ไม่มีการ เติบโตหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ในปลายปี 2551 และ 2) ในปี 2553 สภาวะอากาศร้อนกว่าปกติซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้า ทั้งนี้ ปี 2553 จึงเป็นปีที่ PTTEP มีปัจจัยหนุนจากทั้งด้านปริมาณ (ความต้องการใช้ก๊าซฯซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักสัด ส่วน 70% สูงขึ้น ขณะที่ PTTEP มีโครงการใหม่เพิ่มขึ้นรองรับเช่น อาทิตย์เหนือ และ MTJDA) และราคา ผลิตภัณฑ์ซึ่งมีการฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมา
บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแผนการผลิตปี 53 คาดจะสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ 254,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วง 1H53 PTTEP ผลิตปิโตรเลียมเฉลี่ยได้ที่ระดับ 260,368 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน สูงกว่า แผนการผลิตเฉลี่ยปี 2553 ที่ตั้งไว้ที่ระดับ 254,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ทั้งนี้ ในช่วง 2H53 แม้จะมีการเลิกการผลิตในแหล่ง Jabiru-Challis (กำลังการผลิตประมาณ 5,000 บาร์เรลต่อวัน) แต่ จะมีการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากแหล่ง MTJDA ที่จะเพิ่มขึ้นมาชดเชยได้เพียงพอ โดยแหล่งดังกล่าวมีแผนเพิ่มกำลัง การส่งก๊าซจากระดับ 252 MMSCFD (คิดเป็นประมาณ 42,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน) ใน 2Q53 เป็น 335 MMSCFD (คิดเป็นประมาณ 55,833 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน) ภายใน4Q53 (ณ 1 ส.ค. 53 เพิ่มได้ถึง 300 MMSCFD แล้ว) ส่งผลให้แนวโน้มการผลิตใน 2H53 น่าจะยังคงมีแนวโน้ม แข็งแกร่ง และปี 2553 การผลิตของ PTTEP น่าจะทำได้สูงกว่าแผน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคง Conservative โดยคงเป้าการผลิตไว้ในระดับเดิม
แนวโน้มกำไร 2H53 ดีกว่า 1H53 ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแผนยอดขายในปี 53 หากเพิ่มขึ้น เราจะ ปรับประมาณการอีกครั้ง เราคาดว่าแนวโน้มกำไรใน 2H53 จะเพิ่มขึ้นจาก 1H53 โดยปัจจัยหนุนด้านปริมาณการผลิตมาจาก การเพิ่มกำลังการส่งก๊าซฯ ของโครงการ MTJDA รวมถึงแหล่งอาทิตย์เหนือที่มีการหยุดซ่อมบำรุงใน 1H53 อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากปัจจัยช่วงฤดูกาลปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติในช่วง 4Q ของโรงไฟฟ้ามักจะ ลดลง ดังนั้นการเริ่มดำเนินการของโรงแยกก๊าซฯ 6 จะเป็นตัวแปรสำคัญหนึ่งต่อปริมาณการส่งก๊าซในช่วง 4Q53 โดยหากโรงแยกก๊าซ 6 ยังไม่ขึ้น เราคาดเป็นไปได้ที่ PTTEP จะปรับลดปริมาณส่งก๊าซจากแหล่งอื่น ที่รับเกิน DCQ (Daily Contract Quantity) อยู่ชดเชยกับแหล่งใหม่ที่จะเข้ามา ด้านแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยคาดว่า 3Q53 ยังคงมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง แต่ใน 4Q53 ซึ่งจะมีการ ปรับราคาก๊าซในแหล่งสำคัญๆ เช่น บงกช อาทิตย์ MTJDA เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาก๊าซเฉลี่ยจะชะลอตัว ลงจากการที่สูตรราคาก๊าซฯ อิงกับราคาน้ำมันเตาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาก๊าซฯ แหล่ง MTJDA คาดจะถูกปรับลงจาก 6.5 เหรียญ/MMSCFD เป็น 5.8 เหรียญ/MMSCFD นอกจากนี้ใน 2H53 คาดยังมีการบันทึกรายการพิเศษในส่วนของ (1) การรับเงินชดเชยจากประกันภัย และ (2) ค่าใช้จ่ายในการถอด Top Side ที่ยังไม่บันทึกราว 1 พันล้านบาท ทั้งนี้ คาดแนวโน้มผลกำไร 2H53 ยังคงดีกว่า 1H53 แต่ไม่มากนัก นอกจากนี้หากบริษัทมีการปรับแผนการผลิตใหม่ในปี 2553 เราจะมีการ ปรับประมาณการปี 53 อีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันเราใช้สมมติฐาน Conservative ใช้ปริมาณขายต่ำกว่า เป้าหมายของบริษัท 5%
บริษัทยังคงเป้าหมายเดินเครื่องโครงการมอนทาราใน 2H54 เช่นเดิม โครงการมอนทารายังคงอยู่ระหว่างรอผลสรุปจากรัฐบาลออสเตรเลีย โดยในส่วนของการเริ่มผลิต ใหม่ยังคงกำหนดเดิมไว้ในช่วง 2H54 (ปัจจุบันคืบหน้าตามแผน) ทั้งนี้ความกังวลในประเด็นการฟ้องร้องค่า เสียหายจากรัฐบาลอินโดนีเซียดูเหมือน PTTEP จะไม่ได้กังวลมากนัก เนื่องจากผลการทำการศึกษาผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อมผลออกมาค่อนข้างเป็นไปในทางบวก โดยไม่พบผลกระทบที่มาก ทั้งนี้เรายังคงให้ น้ำหนักกับกรณีผลสรุปจากรัฐบาลออสเตรเลีย และค่าปรับที่อาจเกิดขึ้นมากกว่า เนื่องจากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า การดำเนินการพัฒนาแหล่งสำรวจในส่วนของมอนทารามีจุดบกพร่องอยู่บางส่วน แต่ PTTEP ได้มีการดำเนินมาตรการแก้ไข และตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามหลักการที่สมควรแล้ว ทั้งนี้ มอนทา รายังคงคาดจะเป็น Key Driver สำคัญของการเติบโตในปี 2554 โดยปัจจุบัน PTTEP ยังคงมีการแสวง หาโครงการใหม่จากการทำ M&A ซึ่งยังคงเน้น Producing Asset หรือที่ใกล้ผลิตได้
บริษัทระดมทุนเพิ่ม รองรับการขยายการลงทุน ระยะสั้น D/E Ratio เพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ PTTEP มีการขออนุมัติการออกหุ้นกู้สกุล US วงเงิน 700 ล้านเหรียญ ซึ่ง 500 ล้านเหรียญ ได้ออก ขายให้กับนักลงทุนในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยมี Coupon rate ที่ 4.152% ระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้ เพื่อเตรียมไว้สำหรับการลงทุนในอนาคต สำหรับวงเงินอีก 200 ล้านเหรียญ เผื่อไว้สำหรับการขายให้นัก ลงทุนในประเทศ ซึ่งเราคาดว่าน่าจะยังมีการชะลอการออกหากยังคงไม่มีโครงการลงทุนใหม่เข้ามาในช่วง 2H53 ทั้งนี้ D/E Ratio และ Total Debt/EBITDA ใน 3Q53 คาดจะเพิ่มขึ้นจาก 2Q53 ที่ 0.39 เท่า และ 0.60 เท่า แต่ถือว่ายังคงอยู่ในระดับต่ำและไม่เกินนโยบายที่ระดับ 1 เท่า
ยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อ PTTEP จากการเติบโตของยอดขายก๊าซฯ เฉลี่ย 5.6% ต่อปี (5 ปีข้างหน้า) ทำให้เรายังคงแนะนำ ซื้อลงทุน เรายังคงมอง PTTEP เป็นหุ้นเติบโตสูงในปี 2553 และคาดต่อเนื่องในปี 2554 ขณะที่ประเด็น กังวลต่างๆ ที่กดดันราคาหุ้นเชื่อว่าได้สะท้อนไปแล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้ คงคำแนะนำ ซื้อลงทุน PTTEP ที่ราคา เหมาะสม 208 บาท
จากคุณ |
:
LoknaR
|
เขียนเมื่อ |
:
วันแม่แห่งชาติ 53 18:53:32
|
|
|
|
|