|
ความคิดเห็นที่ 49 |
การที่เราไม่เน้นคาดการณ์ไปในอนาคตมากนักก็เป็นเพราะประสบการณ์เราอาจจะยังน้อยและ อาจจะดาดการณ์ผิดได้ง่าย สำหรับคนที่ต้องการรู้ถึง พีอี ในอนาคต เลยให้แต่ละท่านที่คิดว่ามีความสามารถในตัวอยู่พอสมควร ซึ่งบางคนอาจจะลงทุนในหุ้นมามากกว่าเรา ไปคาดการณ์กันเอาเอง แต่สำหรับเราคิดว่าการคาดการณ์แค่ 1-4 ไตรมาส เป็นระยะเวลาที่เราพอคาดการณ์ได้แม่นยำและใกล้เคียงหน่อย คิดว่างั้น(ในตอนนี้) และ จากการที่เซียนท่านนึงเคยกล่าวเอาไว้เกี่ยวกับการหาค่า G ในการหาสูตร จาก PEG ว่า “ การเจริญเติบโตของกำไรนั้น เป็นค่าที่เกิดจากกการคาดการณ์อนาคตไปหลายปี เอาแน่มากไม่ได้ แต่ค่า พีอีเป็นค่าที่ใกล้เคียงความเป็นจริงกว่า โดยเฉพาะค่า P นั้นเป็นของจริงที่เราต้องควักกระเป๋าจ่าย” “ดังนั้นในหลาย ๆ กรณีผมจะให้ความสำคัญแก่ค่า พีอี มากกว่า” และ “ในการคำนวณว่า หุ้นตัวที่เราสนใจนั้นจะโตปีละกี่เปอร์เซ็นต์ บางทีผมขี้เกียจคำนวณ เพราะต้องหาข้อมูลย้อนหลังมาก นอกจากนั้นถึงจะได้ข้อมูลมาและคำนวณได้ว่าโตกี่เปอร์เซ็นต์ในอดีต ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าอนาคตจะโตกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะอนาคตไม่จำเป็นต้องเหมือนกับอดีต ถ้าอย่างนั้น ผมใช้อะไรวัด? ใช้กึ๋นครับ” เซียนท่านนั้นก็คือ ดร. นิเวศน์ ของเรานั่นเอง ส่วนนี้แหละที่เราคิดว่าแต่ละคนต้องไปใช้กันเอาเองในการคำนวณ หรือคาดการณ์อนาคต สำหรับเรื่องของ พีอีนั้น อาจจะมีเพื่อน ๆ ของเราหลายคนสับสน สังเกตว่าราคาหุ้นนั้นขึ้นมาเป็นเปอร์เซ็นต์ที่มากจากปีที่แล้วนั้นมาก ที่คำว่า ราคาสำหรับเราคือ การดู พีอีมากกว่า จะสังเกตว่าแม้ว่าราคาหุ้นจะขึ้นมาจาก 12 บาทกว่าตอนก่อนแตกพาร์ในปี 49 นั้น จนถึงปัจจุบันบันที่ 90 กว่าบาท แต่ eps เค้าก็ได้โตตามซึ่งทำให้ pe ก็ยังใกล้เคียงค่าเดิม ถ้าเค้ายังทำ eps ได้เท่านี้ ต่อไป ก็เท่ากับว่า ราคาที่คุณซื้อตอนนี้ ก็เท่ากับเมื่อคุณซื้อ เมื่อปีที่ 49 ไม่ได้เพิ่มขึ้น หรือแพงกว่าเดิม มากมายแต่ประการใด แถมถ้าคุณเก่งในการคาดการณ์ อาจจะมากกว่าเราในประสบการณ์(สำหรับเซียนตัวจริง) ก็จะรู้ว่ารายได้จาก ค่า eps ที่เพิ่มขึ้นอาจจะมากหรือน้อย ถ้ามากกว่านี้จากการร่วมทุน(ในมุมมองของเรา) ก็จะทำให้ พีอี ของเค้าลดลงได้อีก ในอนาคต เราถึงให้ไปคาดการณ์ตามแต่ละประสบการณ์ที่ของแต่ละคนมี เพราะเรามีข้อมูล และความสามารถในการประเมินมูลค่าบริษัท เท่านี้
สำหรับพี่ ภูมิทัศน์เรานับถือให้เป็นเซียน เพราะเคยแนะนำเราในครั้งก่อน เกี่ยวกับ หุ้น stpi และการหาค่า EPS ในอนาคต ซึ่งคราวที่แล้วเราใช้ตามสูตรของ ดร. ในตีแตก คือ q1X4 แต่ในความเป็นจริง วีไอทั่วไป จะใช้ค่า q4-q1ปีที่แล้ว+ q1 ปีปัจจุบัน แต่สำหรับหุ้นบางประเภท เช่น รับเหมา หรือ วัฏจักร ค่าเหล่านี้ ก็จะมีความไม่แน่นอน หรือ หาค่าที่ใกล้เคียง และ แม่นยำได้น้อย ยกเว้น หุ้นที่เป็นรายได้จากค่าเช่าหรือรายได้ ที่มีความสม่ำเสมอ แล้วเราก็พยายามถามหุ้นกับท่านว่าตัวไหนที่ท่านคิดว่าดีกว่าตัวที่เรากล่าวอ้างมา เราก็ไม่เคยได้คำตอบจากท่านอาจเป็นเพราะ 1. หวงวิชา 2. ตรูก็ไม่รู้(อย่ามาถามตรู) แต่เรามีเหตุผลในการซื้อหุ้นทุกตัวเสมอ ไม่ว่าจะเป็น 1. Right for right reason – CPF ,GFPT, STPI, MCS, TASCO,STA 2. Right for wrong reason – SPALI ,AIT 3. Wrong for right reason – SVI 4. Wrong for wrong reason – ITD,YAUSA,IVL,KTP แต่ถือว่าประสบการณ์เรายังน้อยมาก เมื่อเทียบกับเซียนแต่ละท่าน เราเลยเสนอมุมมองของเราที่มีต่อหุ้นในแต่ละตัวแล้วให้เซียนวิจารณ์ แต่ส่วนมากจะเจอเซียนล่องจุ้นเหมือนกัน คือ ตรูไม่รู้แต่ตรูขอตอบแบบขอไปที ซะมากกว่า
อย่าง GFPT CPF STPI เราอ่าน Annual Report ประมาณรอบเดียว อาจจะยังเข้าใจ แต่น้อยกว่าเซียน ๆ(ตัวจริง) แต่ละท่านมาก ยกเว้นเซียนล่องจุ้น ที่ไม่รู้อะไรเลย และเราได้อ่านแค่ Annual Report ของปี 52 เท่านั้น ไม่อาจจะเทียบประสบการณ์กับเซียนตัวจริง ที่ช่ำชองในวงการนี้มามากมาย หุ้นที่เราซื้อแล้วหรือวิเคราะห์ให้ดูนั้น ในนี้ จะมีข้อมูลแค่คร่าว ๆ เพราะเราไม่สามารถ ให้ข้อมูลที่มีทั้งหมดได้ ถึงให้บางท่านไปติดตามเอาเองบ้าง อย่างการวิเคราะห์ งบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด(ยังไม่ค่อยเข้าใจ) เราก็มีแบบละเอียดที่เขียนเอาไว้ในสมุด ใช้สูตร ดร. ฉะนั้นเราจึงให้เซียน ๆ ตัวจริง ไปคาดการณ์กันเอง : - )
แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 07:43:51
แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 07:39:06
แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 07:38:19
จากคุณ |
:
boozy bird
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ส.ค. 53 07:34:41
|
|
|
|
|